Perfect Superstar - ตอนที่ 826 ไม่คายออกมาก็คงจะไม่มีความสุข
ตอนที่ 826 ไม่คายออกมาก็คงจะไม่มีความสุข
“เหยาเหยา คุณเสร็จหรือยัง”
สวีข่ายก้มลงไปดูโทรศัพท์มือถือในมือ เวลาที่แสดงบนหน้าจอที่เพิ่งสว่างขึ้นบอกเวลา 6:27 น. ความกังวลที่ไม่สามารถคุมได้ภายในใจ ทำให้เขาไปที่ห้องน้ำแล้วเอ่ยเร่งอีกครั้ง
เคอเหยาแฟนสาวของเขากำลังอาบน้ำแต่งตัวอยู่ในห้องน้ำ ใช้เวลานานกว่าครึ่งชั่วโมงแล้วก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะออกมา
แม้ว่าปกติเขาจะชินกับแฟนสาวที่แต่งตัวอยู่ในห้องน้ำเป็นเวลานานแล้วก็ตาม แต่คืนนี้เขารอไม่ไหวจริงๆ เพราะภาพยนตร์จะเริ่มฉายในอีกหนึ่งชั่วโมงข้างหน้านี้แล้ว
“คุณจะรีบอะไรนักหนาเนี่ย!”
เคอเหยาโผล่หัวออกมาจากห้องน้ำ ในมือยังถือลิปสติกค้างไว้พลางพูดอย่างโกรธเคืองว่า “ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาไม่ใช่เหรอ ฉันยังไม่ได้ทาลิปสติกเลย!”
สวีข่ายชี้ไปที่โทรศัพท์ด้วยรอยยิ้มแสนขมขื่นและพูดว่า “เหลืออีกแค่หนึ่งชั่วโมงเอง ตอนนี้ยังเป็นช่วงชั่วโมงเร่งด่วนรถติดยาวอีกด้วย ถ้ายังไม่ออกจากบ้านละก็จะต้องสายแน่ๆ!”
“สายก็สายไปสิ…”
เคอเหยาไม่ได้ใส่ใจ “หนังต่อสู้ฆ่าแกงแนวนี้มีอะไรน่าดูนักหนา ฉันอยากดูเรื่อง ‘ลิขิตรัก’ ที่เพิ่งเข้าฉายต่างหาก และก็ไม่ชอบหนังกำลังภายในอะไรพรรค์นี้เลยด้วย”
สวีข่ายยกมือยอมแพ้ “ก็ได้ ผมจะรอ”
สวีข่ายเป็นเด็กหนุ่มไอที หลังจากจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยก็ทำงานในเซินไห่มาเกือบสิบปี และการที่จีบแฟนที่ชอบคนนี้ติดได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เป็นเรื่องปกติที่จะยอมให้เคอเหยา เขาไม่อยากใช้ชีวิตโสดอีกต่อไปแล้วนะ
โชคดีที่เคอเหยาไม่ใช่คนไร้เหตุผลมากนัก ใช้เวลาแค่สิบนาทีก็จัดการปัญหาเสร็จ จากนั้นตามสวีข่ายที่กระสับกระส่ายออกไปจากบ้านเล็กๆ ของพวกเขา และขับรถไปยังโรงภาพยนตร์
เมื่อตอนที่สวีข่ายยังโสด งานที่ทำอยู่ประจำก็มักจะยุ่งเอามากๆ ดังนั้นจึงมีกิจกรรมบันเทิงน้อยมาก งานอดิเรกเดียวที่ยังคงอยู่มานานก็น่าจะเป็นการอ่านนิยายออนไลน์นี่แหละ เพราะการอ่านนิยายบนมือถือสามารถเอาเสี้ยวเวลาที่เหลือมาใช้ได้อย่างเต็มที่
เขายังชอบนิยายกำลังภายในแนวใหม่ที่เพิ่งออกมาเมื่อไม่กี่ปีนี้ด้วย นิยายกำลังภายในดึงดูดใจมากกว่านิยายออนไลน์ทั่วไป ไม่มีฉากเพ้อฝันมากนักและไม่โอเวอร์มากเกินไป เหมาะสำหรับหนอนหนังสือเก่าอย่างเขามากกว่า
บนชั้นในห้องหนังสือขนาดเล็กของสวีข่ายมีนิยายกำลังภายในอยู่ห้าหกชุด อย่างเช่น ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ‘มังกรหยก’ ‘เด็กหนุ่มท่องยุทธภพ’ ช่วงเวลาว่างๆ ได้เปิดอ่านมันสักหน่อยก็เป็นความสุขที่หาได้ยากแล้ว
ในบรรดานิยายกำลังภายในเหล่านี้ นิยายเรื่องโปรดของสวีข่ายคือ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ นิยายกำลังภายในเรื่องนี้ถือเป็นอันดับหนึ่งในดวงใจของเขา แม้ว่าตอนนี้ ‘เด็กหนุ่มท่องยุทธภพ’ จะโด่งดังกว่า ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ก็ไม่อาจสั่นคลอนได้
นิยายกำลังภายในพวกนี้สวีข่ายอ่านซ้ำมาหลายรอบแล้ว แต่อ่าน ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ซ้ำมาแล้วอย่างต่ำห้ารอบ และแอบหวังมานานแล้วว่าหนังสือเรื่องนี้จะถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์และละครโทรทัศน์
แต่จนใจที่เฉินเฟยมีเดียซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์นั้นไม่ได้ดั่งใจเขาเอาเสียเลย หนังฟอร์มยักษ์ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ถูกเลื่อนฉายออกไปอีกครั้ง เลื่อนจากฤดูร้อนไปที่วันชาติจีน ทำให้เขาที่อยากสนับสนุนกลับไม่สามารถทำได้
แต่เมื่อไม่นานมานี้การประชาสัมพันธ์ ‘เด็กหนุ่มท่องยุทธภพ’ เป็นไปอย่างล้นหลามเลยทีเดียว สวีข่ายที่เคยอ่านหนังสือต้นฉบับแล้วถึงกับอดใจไม่ไหวจองตั๋วออนไลน์เมื่อไม่กี่วันก่อน ทั้งยังเป็นเวอร์ชันจอยักษ์อีกต่างหาก
ตั๋วของ ‘เด็กหนุ่มท่องยุทธภพ’ เป็นที่นิยมมาก โดยเฉพาะเวอร์ชันจอยักษ์ แม้ว่าเซินไห่จะเป็นเมืองใหญ่ แต่โรงภาพยนตร์จอยักษ์กลับมีไม่มากนัก
ดังนั้นสวีข่ายที่โชคดีพอที่จะคว้าตั๋วมาได้ จึงไม่อยากเข้าโรงสาย หากพลาดช่วงต้นเรื่องไปคงจะน่าเสียดายอย่างมาก
ดวงของเขาถือว่าโชคดีมาก รถบนถนนไม่ติดมากจนเกินไป แต่การวนหาที่จอดรถในโรงภาพยนตร์ซินลี่กลับกินเวลาไปมากกว่าสิบนาที จนในที่สุดเขาก็มาถึงโรงฉายภาพยนตร์จอยักษ์จนได้ และห่างจากเวลาเริ่มฉายเพียงแค่ห้านาทีเท่านั้น
“ค่อยยังชั่ว…”
มือข้างหนึ่งถือป็อบคอร์น มือข้างหนึ่งจูงมือเคอเหยา สวีข่ายหย่อนก้นลงนั่งหลังจากหาที่นั่งสำหรับทั้งสองจนเจอ อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ดูเหมือนว่าเขายังมีความกลัวหลงเหลืออยู่
เคอเหยาสะบัดมือของเขาทิ้ง กลอกตาใส่เขาไปหนึ่งที “ดูนายสิรีบอย่างกับอะไร จริงๆ เลย!”
สวีข่ายยิ้มแหยๆ ยื่นขนมที่เพิ่งซื้อไปให้อย่างเอาอกเอาใจ
แต่เพียงไม่นานความสนใจของเขาก็ถูกดึงดูดไปยังสิ่งที่ปรากฏบนจอยักษ์อย่างรวดเร็ว ภาพยนตร์เริ่มฉายแล้ว!
โลโก้สะดุดตาของบริษัทผลิตภาพยนตร์วั่นหาวร่วมกับอักษรตัวใหญ่สีทองอร่ามสี่ตัวโดดเด่นตั้งแต่แรกเห็น หลังจากเปิดเรื่องไปได้ 30 วินาที ฉากยิ่งใหญ่ปรากฏบนหน้าจอยักษ์ ภูเขาสูงตระหง่าน ประตูเมืองที่สง่างาม และสิ่งก่อสร้างเรียงรายออกไปทั้งใกล้และไกล ทำให้สวีข่ายถึงกับต้องกลั้นหายใจ
เขาเคยเห็นตัวอย่างภาพยนตร์เรื่อง ‘เด็กหนุ่มท่องยุทธภพ’ มาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ฉากที่เขาเห็นในคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือต่างจากที่แสดงบนหน้าจอยักษ์อย่างสิ้นเชิง มันเป็นความแตกต่างระหว่างฟ้ากับเหวชัดๆ เลย
การผสมผสานระหว่างฉากของจริงกับซีจีที่ปรากฏอย่างชัดเจนบนหน้าจอยักษ์ซึ่งมีความละเอียดสูง มัดใจของสวีข่ายได้ในคราวเดียว ทำให้เขาคาดหวังตั้งหน้าตั้งตารอฉากต่อไปสุดๆ
แต่หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง ความรู้สึกคาดหวังนี้ลดลงฮวบฮาบ ความสนใจของสวีข่ายย้ายกลับไปที่แฟนสาวซึ่งอยู่ข้างๆ เขา
ขณะที่เขาหันไปก็เห็นเคอเหยาหาวหวอดๆ ด้วยความเบื่อหน่ายเข้าพอดี จากนั้นก็ยัดป็อปคอร์นสองชิ้นเข้าปากอย่างเกียจคร้านด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
ถึงแม้จะรู้ว่าแฟนสาวของเขาไม่ชอบภาพยนตร์แนวนี้ แต่เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของเคอเหยาแล้ว สวีข่ายก็จนปัญญาจริงๆ รู้อย่างนี้น่าจะไปดู ‘ลิขิตรัก’ เป็นเพื่อนเธอก่อน แล้วตัวเองค่อยมาดู ‘เด็กหนุ่มท่องยุทธภพ’ คนเดียวก็ดี
หนึ่งชั่วโมงให้หลัง สวีข่ายขยับบั้นท้าย รู้สึกว่าโรงฉายภาพยนตร์ค่อนข้างร้อนอบอ้าว เครื่องปรับอากาศก็ทำงานไม่เพียงพอ
หันกลับไปมองเคอเหยาอีกครั้ง เธอพิงไหล่เขาพร้อมกับผล็อยหลับไปแล้วเรียบร้อย
ความจนปัญญาของสวีข่ายแปรเปลี่ยนเป็นความขมขื่น คืนนี้นับว่าเป็นการสิ้นเปลืองเงินสองร้อยหยวนไปฟรีๆ เลย!
หลังจากทนดูต่อไปอีก 20 นาที ในที่สุดสวีข่ายก็นั่งไม่ติดแล้ว เขาสะกิดเคอเหยาที่ยังคงหลับอย่างนุ่มนวล
เคอเหยาสะดุ้งตื่น เธอขยี้ตาปรือด้วยความง่วง พลางเอ่ยถาม “จบแล้วเหรอ”
ยังน่ะสิ!
สวีข่ายยิ้มอย่างขมขื่น “ใกล้แล้วละ เราไปกันเถอะ เดี๋ยวสักพักคนเยอะแล้วจะเบียดกัน”
นิ่งไปครู่หนึ่ง เขาก็พูดเสริมขึ้น “ผมพาคุณไปเดินชอปปิงที่ห้างสรรพสินค้าจินซาข้างๆ ดีกว่า…”
เมื่อได้ยินว่าเดินห้างสรรพสินค้า อาการง่วงนอนของเคอเหยาก็หายเป็นปลิดทิ้ง “เอาสิ งั้นเรารีบไปกันเถอะ!”
เธอเบื่อจะตายอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะว่ามาดูเป็นเพื่อนแฟนหนุ่มละก็ เธอคร้านเกินกว่าจะมาทนทุกข์ที่นี่ และคงจะเต้นเร่าๆ ออกไปตั้งนานแล้ว
ทั้งสองเดินออกไปจากโรงฉายภาพยนตร์ด้วยกัน และมุ่งไปที่ห้างสรรพสินค้าแทน
กว่าจะกลับถึงบ้านก็ปาไปสี่ทุ่มกว่าแล้ว เคอเหยาลองเสื้อผ้าชุดใหม่ที่เพิ่งซื้อมาอยู่ในห้องนอนอย่างอารมณ์ดี ส่วนสวีข่ายนั่งอยู่ด้านหน้าคอมพิวเตอร์รู้สึกราวกับมีก้างปลาติดคอ รู้สึกหายใจไม่สะดวกอยู่ตลอดเวลา ไม่คายออกมาเห็นทีคงจะไม่ได้!
เขาเปิดคอมพิวเตอร์เข้าสู่ฟอรัมที่มักจะเข้าไปใช้งานอยู่บ่อยๆ อย่างคล่องแคล่ว และตั้งกระทู้ใหม่ในหมวดภาพยนตร์และโทรทัศน์ หัวข้อกระทู้คือ ‘เพิ่งกลับมาจากการชม ‘เด็กหนุ่มท่องยุทธภพ’ มาเล่าประสบการณ์การรับชมภาพยนตร์กันสักหน่อย!’
หลังจากพิมพ์บลงบนแป้นพิมพ์เป็นเวลาเจ็ดถึงแปดนาที พร้อมกับแก้ไขข้อความอีกสองสามนาที กระทู้รีวิวภาพยนตร์สั้นๆ ก็เขียนเสร็จสดๆ ร้อนๆ สวีข่ายมองไปยังเนื้อหาที่แก้ไขบนหน้าจอ เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกดปุ่มเอ็นเทอร์ยืนยันการส่ง
ปัง!
เสียงดังฟังชัด
.………………………………………………………..