POWER AND WEALTH (พลังและความมั่งคั่ง) - ตอนที่ 220
EP 220 การมาของเสี่ยวหลานแฟนสาวของดงซูบิน
By loop
สองวันต่อมา.
ในที่สุดฝนก็หยุดตกในตอนเช้าและมีสายรุ้งปรากฏขึ้นท่ามกลางกลุ่มเมฆ
ดงซูบินเดินทางกลับไปที่เขตที่พักของสำนักงาน เมื่อวานนี้ เครื่องใช้ในบ้านบางชิ้นที่เขาสั่งซื้อยังไม่ได้ส่งมาและ หยูเซียวเซียวเองกำลังเตรียมตัวสำหรับการสอบปลายภาคของเธอ ดังนั้นเขาจึงไม่ขอให้หยูเหมยเซียว มาทำอาหารให้เขา เขาทำให้เธออยู่ที่ ฮัวเหมยสองสามวันเพื่อรับการส่งมอบและการแก้ไขของหยูเซียวเซียว ผู้บังคับบัญชา ตอนเที่ยงแล้ว ดงซูบินไปที่ตู้เย็นเพื่อดูว่ามีอะไรบ้างที่อยู่ในตู่ เขาแค่อยากจะหาของว่างแล้วนั่งดูทีวีบนโซฟา
บี๊บ …บี๊บ …เป็นการแจ้งเตือนทาง SMS
ดงซูบินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและรู้สึกประหลาดใจ เป็น SMS จากเสี่ยวหลาน พี่เสี่ยวมักจะโทรมาหาเขาเลยและไม่เคยส่ง SMS ถึงเขาเลย เขาอ่านเนื้อหาและตะลึง ‘เทพเจ้าแห่งความโชคร้ายซูบิน ฉายานี้เจ๋งมากเลย! ‘
ดงซูบินรู้ว่าเสี่ยวหลสยไม่ได้เป็นคนส่ง SMS นี้และเขาก็ตอบกลับ “ เสี่ยวห่าว?” อีกฝ่ายตอบกลับทันที “ เหอ…พี่เขยพี่รู้ได้ยังไงว่าเป็นผม” ดงซูบินพิมพ์กลับไป “ ฉันเองไม่เคยเห็นพี่สาวของนายพิมพ์มาอย่างนี้เลย? นายไปได้ยินฉายานี้มาจากที่ไหน” เสี่ยวหาว:“ เหอเหอเหอ แน่นอนต้องจากพี่สาวของผมสิ พี่สาวของผมบอกผมว่าพี่ไปแก้ไขปัญหามากมายในมณฑลของพี่” ดงซูบินตบหน้าผากของเขา เวรล่ะ! ข่าวพวกนี้แพร่กระจายเร็วขึ้น แม้แต่พี่สาวเสี่ยว และ เสี่ยวหาว ก็รู้เรื่องนี้ “ พี่สาวของนายอยู่ที่ไหนกัน”
เสี่ยวหาวตอบทันที่:“ เธออยู่ชั้นบน โอ้เธอบอกผมว่าจะแจ้งให้พี่ทราบว่าเธอจะไปมณฑลของพี่อีกสองวัน”
ดงซูบิน:“ ห๊ะ? เธอมาที่นี่เพื่อพักผ่อนหรือเปล่า? ที่นี่ไม่มีอะไรเลยนะ มีใครมากับเธอบ้าง”
เสี่ยวหาว:“ แค่พี่สาวของผม คนเดียว”
ดงซูบิน:“ เธอมาทำงานเหรอ?”
เสี่ยวหาว:“ ความลับ ฮิฮิ. พี่จะรู้ว่าเมื่อพี่สาวของผมไปที่นั่น” เขาจบ SMS ด้วยใบหน้าที่ยิ้ม 
เสี่ยวหลานกำลังจะมา? ดงซูบินดีใจที่เขาซื้ออพาร์ทเมนต์ใหม่ หากพี่สาวเสี่ยว มาและเห็นแม่และลูกสาวที่สวยงาม ดงซูบินไม่สามารถจินตนาการได้ว่าเธอจะมีปฏิกิริยาอย่างไร ตอนนี้หยูเหมยเซียว และ หยูเซียวเซียวได้ย้ายออกไปแล้วและเขาก็ไม่มีอะไรต้องกังวล วันหยุด? งาน? ไม่เป็นไร. ขณะนี้เขาอยู่ระหว่างการลางานและสามารถไปกับเธอได้
เมื่อ ดงซูบินคิดถึงเสี่ยวหลสย เขาจำได้ว่าเขาทำอะไรกับถุงน่องของเธอ
ทันใดนั้นโทรศัพท์ของดงซูบินก็ดังขึ้น เป็นเลขาของฉูหยวน เสี่ยวเต่า
“ สวัสดีพี่ดง รถของคุณมาถึงแล้ว”
“ อ่า…เร็วไป ขอโทษที่มากวนคุณ. ขอบคุณ.”
“ มันไม่ลำบาก ตอนนี้ผมอยู่ที่ทางแยกถนนการค้า ผมควรจะไปที่ไหนดี?”
“ เอาล่ะ. รอฉันอยู่ที่นั่น ฉันจะไปตอนนี้”
ดงซูบินคว้ากระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์ของเขาแล้วนั่งแท็กซี่ไปที่ถนนการค้า
เสี่ยวเต่ารับโทรศัพท์เมื่อดงซูบินไปถึง เธอเห็นดงซูบินและส่งกุญแจและเอกสารบางอย่างให้เขาก่อนจะออกเดินทางไปยังจังหวัด เธอกำลังจะไปทำงานที่นั่นและต้องรีบกลับปักกิ่งในตอนกลางคืน ดงซูบินรู้ว่าการประมูลฤดูใบไม้ผลิของบ้านประมูลยังเต๋อ กำลังจะเริ่มในไม่ช้าและนี่เป็นช่วงที่คึกคักที่สุดและไม่ได้หยุดเธอ หลังจากเสี่ยวเต่าจากไปดงซูบินั้นก็มองรถที่เขาซื้อมาด้วยความชื่นชมรถเบนซ์ R500L สีขาวเงิน
การออกแบบตัวรถมีความโฉบเฉี่ยวและหรูหรา
หลังจากนั้นไม่นานผู้คนจำนวนมากก็สังเกตเห็นรถคันนี้และเริ่มรวมตัวกันเพื่อชื่นชมมัน
ดงซูบินรู้ว่ามีรถดีๆไม่มากในเมืองหยางไท่ และการขับรถเบนซ์คันนี้จะโดดเด่น เขาเข้าไปในรถจับพวงมาลัยและชื่นชมอุปกรณ์ภายใน หลังจากนั้นไม่นานเขาก็สตาร์ทเครื่องยนต์และขับรถไปที่ชานเมืองของเมือง ไม่มีรถจำนวนมากรอบ ๆ และ ดงซูบิน ความเร็วตามถนน เขารู้สึกว่าประสิทธิภาพของเบนซ์เอ็มพีวี นี้ทัดเทียมกับคลาส S ของป้าซวนและดีกว่า เอ็มพีวีอื่น ๆ มาก
ความรู้สึกที่ดี!
ดงซูบินขับรถไปที่สำนักงานการจัดการยานยนต์ของมณฑลเพื่อลงทะเบียนป้ายทะเบียนท้องถิ่น
ดงซูบินยังรับราชการและไม่มีปัญหากับแอปพลิเคชัน แม้แต่หัวหน้าแผนกก็ออกมารับเขาเป็นการส่วนตัวดงซูบินไม่มีอะไรทำและคุยกับเขาสักพัก พวกเขาพูดคุยเกี่ยวกับการสับเปลี่ยนผู้นำของรัฐบาลมณฑล หลังจากที่เลขาธิการพรรคของเทศมณฑลถูกย้ายออกไปหัวหน้าแผนกประชาสัมพันธ์ก็จากไปทุกคนต่างคาดเดาว่าใครจะมารับตำแหน่งเหล่านี้ รัฐบาลเมืองมีการประชุมคณะกรรมการพรรคเพื่อหารือเรื่องนี้
การโอนและการนัดหมายเหล่านี้มีความละเอียดอ่อนเนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อผู้คนจำนวนมากรวมถึงดงซูบิน
ระหว่างทางกลับบ้านดงซูบินนึกถึงวันที่เขาอยู่ในเมืองหยางไท่ ตั้งแต่วันที่เขาถูกย้ายมาที่นี่งานของเขาก็ไม่ราบรื่น แม้ว่าในตอนท้ายจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเขาและเขายังลากหัวหน้าแผนกประชาสัมพันธ์และเลขาธิการพรรคของมณฑลออกจากที่นั่ง แต่ ดงซูบินก็รู้ดีถึงความสำคัญของการได้รับการสนับสนุนที่แข็งแกร่ง หากไม่มีการสนับสนุนที่แข็งแกร่งเขาจะถูก จำกัด ในหลายสิ่งหลายอย่าง
สำรอง? เขาควรจะหาการสนับสนุนที่เขาต้องการได้ที่ไหน?
ดงซูบินใกล้ชิดกับเหลียงเฉินเผิง เมื่อเร็ว ๆ นี้ แต่เหลียงเฉินเผิง ไม่ได้อยู่ในคณะกรรมการพรรคของมณฑล เขาไม่มีพลังมากพอที่จะเป็นผู้หนุนหลัง
โอ้ผู้สนับสนุนของหัวหน้าเหลียงคือเซียงดาวฟานายกเทศมนตรีของมณฑล ตอนนี้เขาควรได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นเลขาธิการพรรคของมณฑล การเลื่อนตำแหน่งของเขาเป็นเพราะเครดิตของดงซูบินหากไม่มีดงซูบิน สืบสวนจินดีแมนชั่น และได้รับรูปถ่ายและหลักฐานอื่น ๆ ฉางเหล่ยจะไม่ถูกบังคับให้ก้าวลงจากตำแหน่ง เซียงดาวควรจะขอบคุณเขาและด้วยความช่วยเหลือของเขาโอกาสของดงซูบิน ในมณฑลน่าจะดีขึ้น
ดงซูบินรู้สึกว่าภูมิปัญญาทางการเมืองของเขาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย นี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับเขา!
ดงซูบินจอดรถริมถนนและโทรหาเหลียงเฉิงเผิง
“ หัวหน้าเหลียงผมเองซูบิน”
“ โอ้ซูบิน”
“ เอ่อ…คุณจะว่างเมื่อไหร่? ถ้าคุณว่างผมจะไปพบนายกเทศมนตรีเพื่อรายงานความคืบหน้าของงานของผมได้ไหม”
เหลียงเฉิงเผิงคือใคร? เขาเข้าใจทันทีว่าดงซูบินต้องการอะไร นี่คือการพยายามใช้เส้นสายกับพวกตำแหน่งระดับสูง “ ฮ่าฮ่า” เหลียงเฉิงเผิงมีความประทับใจที่ดีต่อดงซูบินมากเมื่อแม่ของเขาเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลปักกิ่งดงซูบินเป็นคนที่คอยช่วยเหลือเขา แม้ว่า ดงซูบินจะไม่ได้แจ้งเรื่องนี้ แต่เหลียงเฉิงเผิงก็อยากจะแนะนำ ดงซูบินให้กับนายกเทศมนตรีของเมือง ที่ผ่านมาเขาไม่มีข้ออ้างอื่นๆเลย แต่ตอนนี้หลังจากที่เลขาธิการพรรคของมณฑลถูกย้ายออกไปแล้วมันจะง่ายขึ้น
หลังจากวางสายแล้ว ดงซูบินก็รออย่างประหม่า หากนายกเทศมนตรีเซียงเต็มใจที่จะพบเขาเขาจะแสดงความตั้งใจที่จะเข้าร่วมกลุ่มของเขา
ในเวลาเดียวกันเหลียงเฉิงเผิงกำลังคุยกับเซียงดาวฟาทางโทรศัพท์
เหลียงเฉิงเผิงพูดตรงๆ “ นายกเทศมนตรีเซียง หัวหน้าซูบิน ของสำนักของเรามีส่วนสำคัญในเคส จินดีแมนชั่นเขาเกือบจะบุกเข้าไปในคาสิโนที่นั่นด้วยตัวคนเดียวและได้หลักฐานทั้งหมด ฉันได้ยินมาว่ารัฐบาลของเมืองมีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับเคสนี้และรู้สึกว่าซูบิน ควรรายงานรายละเอียดของเคสนี้ให้คุณทราบเป็นการส่วนตัว”เหลียงเฉินเผิง ไม่ได้พูดถึงว่า ดงซูบินแสดงความสนใจที่จะเข้าร่วมกับฝ่ายของนายกเทศมนตรี เขากำลังสร้างโอกาสให้ทั้งสองได้พบกันเท่านั้นดงซูบินจะฝากความประทับใจไว้กับนายกเทศมนตรี
เซียงดาวฟาขมวดคิ้ว “ ซูบิน? เขาเป็นคนเริ่มการสอบสวนเหรอ”
เหลียงเฉิงเผิงตอบ “ใช่. เขาเป็นคนที่มีหลักฐานทั้งหมด”
เซียงดาวส่ายหัว “ ฉันได้ยินมาว่าเขาเป็นคนที่แก้ไขคดีที่เว็บไซต์ของรัฐบาลของเราถูกแฮ็กด้วย”
เซียงดาวคิดสักพักแล้วพูด “ คดีจินดีแมนชั่นจบลงแล้ว เขาไม่จำเป็นต้องรายงานอะไรให้ฉัน”
เหลียงเฉิงเผิงตะลึง “ นั่นซูบิน…คุณ…”
เซียงดาวขัดจังหวะเหลียงเฉิงเผิง “ ตอนนี้ฉันไม่ได้พบเขา อาจจะมีโอกาสที่เราจะได้พบกันในอนาคต”
เหลียงเฉิงเผิงสามารถบอกได้ว่าแม้ว่า ดงซูบินจะช่วยทำให้เลขาธิการพรรคล่มสลาย แต่เซียงดาว ก็ไม่ได้รู้สึกดีกับเขา เหลียงเฉิงเผิงไม่ได้สนทนาต่อและโทรหาดงซูบินหลังจากวางสาย “ ซูบินนายกเทศมนตรี เซียงเพิ่งมีงานยุ่งและไม่มีเวลาให้คุณ”
ดงซูบินยังคงรอข่าวดีของเหลียงเฉินเผิงอย่างใจจดใจจ่อ แต่หลังจากได้ยินสิ่งที่เขาพูดเขาก็ถอนหายใจ “ผมเข้าใจ.”
เหลียงเฉินเผิง กลัวว่าดงซูบินอาจมีความคิดอื่นและพูดว่า “ นี่เป็นช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับผู้ที่มีตำแหน่งสูงขึ้นเนื่องจากมีการแต่งตั้งกำลังพล ฉันจะพยายามจัดการประชุมให้คุณในอนาคต”
ดงซูบินตอบอย่างไร้อารมณ์ “ ขอบคุณหัวหน้าเหลียง ไม่จำเป็น.”
เหลียงเฉินเผิงรู้อารมณ์ของ ดงซูบินและถอนหายใจ เขารู้สึกว่าเซียงดาวจัดการเรื่องนี้ได้ไม่ดี เขาจะปฏิเสธคนที่เต็มใจเข้าร่วมกลุ่มของเขาได้อย่างไร? สิ่งนี้จะทำให้วิญญาณของดงซูบินลดลง บางทีนายกเทศมนตรีเซียงคิดว่าเขาจะเป็นหมายเลขหนึ่งของมณฑลและไม่ต้องการผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างดงซูบิน แต่เหลียงเฉิงเผิงรู้ดีว่าหัวหน้าซูบินไม่ใช่ผู้ใต้บังคับบัญชาธรรมดา เขามีความสามารถและมีเส้นสายในปักกิ่ง ฉายาเทพเจ้าแห่งความโชคร้ายมาจากไหน
หลังจากเก็บโทรศัพท์ใบหน้าของดงซูบินก็เปลี่ยนเป็นสีดำ เซียงดาดูถูกฉันเหรอ? ดงซูบินรู้ว่าเขายังเด็กและหุนหันพลันแล่น แต่เขาได้ช่วยเซียงดาวด้วยการบังคับให้เลขาธิการพรรคของมณฑลออกจากรัฐบาลท้องถิ่น ถ้าไม่เช่นนั้นเซียงดาวอาจต้องรอ 5 ถึง 6 ปีก่อนที่เขาจะมีโอกาสเป็นเบอร์หนึ่งของมณฑล! เอาล่ะ! ตอนนี้คุณไม่รู้สึกขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของฉันและคุณไม่ต้องการพบฉันด้วยซ้ำ? คุณเป็นคนแบบไหน?!
ดงซูบินเป็นคนที่ให้ความเคารพต่อผู้คนที่เคารพเขา เนื่องจากเซียงดาวแสดงท่าทีเช่นนี้ดงซูบิน จะไม่พยายามเข้าใกล้เขาอีกในอนาคต นิสัยขี้งกของเขาไม่ยอมก้มหัวให้ดงซูบิน เป็นคนที่มีความแค้น เขาจะเพิกเฉยต่อเซียงดาวหากคนหลังต้องการพบเขาหรือดึงเขามาอยู่เคียงข้างเขาในอนาคต ไม่มีทิฐิใคร แม้ว่าคุณจะไม่ได้รับการปกป้องฉันก็จะไม่ตาย คุณคิดว่าคุณเป็นใคร?!
หลังจากขับรถกลับไปที่เขตที่พักของสำนักงาน ดงซูบินก็คิดหนักว่าจะหาที่นั่งสำรองที่เหมาะสมได้จากที่ใด
แต่ดงซูบินไม่รู้จักใครในคณะกรรมการพรรคของมณฑลและยังไม่มีโอกาสรู้จักพวกเขาด้วย เขาไม่สามารถเลือกข้างสุ่มสี่สุ่มห้าได้เพราะเขาอาจมีปัญหา
สำรอง…ฉันควรมองหาใคร?
“ โอ้หัวหน้าซูบิน?” ฉินหยงและภรรยาของเขาเดินผ่านไป
ดงซูบินยิ้มและลงจากรถ “ หัวหน้าฉินพี่สะใภ้คุณทำงานเสร็จแล้วหรือ?”
ฉินหยงมองไปที่เบนซ์เอ็มพีวีด้วยความตกใจ “ วันนี้ฉันไม่ได้ไปทำงาน ฮะคุณซื้อรถใหม่เหรอ?”
ภรรยาของฉินหยง ก็ตกใจกับรถของดงซูบินแม้ว่าเธอจะไม่รู้เรื่องรถยนต์มากนัก แต่เธอก็รู้ว่ารถคันนี้มีราคาอย่างน้อย 1 ล้านหยวนเนื่องจากแบรนด์ ภรรยาของฉินหยงรู้สึกประหลาดใจ สามีของเธอมีรายได้น้อยกว่า 5,000 หยวนต่อเดือนเท่านั้นและพวกเขาต้องประหยัดเงินเพื่อซื้อรถเบนซ์คันนี้นานแค่ไหน?
ดงซูบินตอบ “ มันเป็นรถของเพื่อนผม ผมยืมมันมานะ”
ฉินหยงถึงกับอ้าปากค้าง “ นี่คือรถที่สวยมาก มีค่าใช้จ่าย 1 ล้านหรือไม่”
ดงซูบินยิ้ม “ มันควรจะเป็นราคาประมาณนั้น ฉันไม่แน่ใจมากนัก”
ฉินหยงมองไปที่ ดงซูบินและประเมินการตัดสินของเขาในใจ เขาไม่รู้ว่า ดงซูบินจับรถคันนี้ได้อย่างไร แต่เขาประทับใจในความกล้าของดงซูบินแม้ว่า ฉินหยงจะสามารถซื้อเบนซ์คันนี้ได้ แต่เขาก็ไม่กล้าซื้อ นี่มันเด่น มองดูเจ้าหน้าที่ทุกคนที่กลับจากทำงาน ทุกคนจ้องมองไปที่รถคันนี้อย่างอยากรู้อยากเห็น
ฉินหยงพบว่าตัวเองชอบบุคคลิกที่กล้าหาญของดงซูบินเขาจับดงซูบินด้วยแขน “ หัวหน้าซูบินวันนี้คุณไม่สามารถหนีไปไหนได้ ฮ่าฮ่าฮ่า…มาที่บ้านฉันแล้วลองทานอาหารของพี่สะใภ้ดูสิ ฉันไม่ได้เพิ่ม แม้แต่เชฟในภัตตาคารระดับห้าดาวก็ยังทำอาหารได้ดีกว่าเธอไม่ได้”
ภรรยาของฉินหยงยิ้มอย่างเขินอาย “ มันไม่ถึงขนาดนั้น”
ดงซูบินไม่สามารถปฏิเสธคำเชิญของฉินหยง ได้ “ ถ้าอย่างนั้นผมจะทำให้คุณทั้งคู่เดือดร้อน ผมขอกลับไปเอาเหล้าเมาไท่หนึ่งขวดก่อน ผมยังคงต้องขอบคุณพี่ฉินสำหรับความช่วยเหลือเมื่อวานนี้” ไม่มีใครอยู่รอบ ๆ และดงซูบินไม่ได้กลั้นคำพูดของเขา ถ้าไม่เขาต้องดูคำพูดของเขา ท้ายที่สุดพวกเขารับราชการและไม่ควรพูดถึงเรื่องละเอียดอ่อนเหล่านี้ที่บ้าน
ฉินหยงรู้ว่าดงซูบินอ้างถึงการช่วยหลิวหลี่ให้ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ “ ฮะ…มันเป็นเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น”
อพาร์ตเมนต์ของฉินหยง
ภรรยาของฉินหยงไปที่ห้องครัวเพื่อเตรียมอาหารเย็นฉินหยง และ ดงซูบินกำลังนั่งสูบบุหรี่อยู่ในห้องนั่งเล่น
“ คุณเคยได้ยินข่าวไหม” ฉินหยงลดเสียงลงและพูด “ รัฐบาลเมืองได้จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการพรรค ได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าแผนกประชาสัมพันธ์ของมณฑล รองนายกเทศมนตรีที่ไม่ใช่คณะกรรมการพรรคจะเข้ารับตำแหน่งนั้น เขาได้รับประสบการณ์นี้และไม่น่าแปลกใจเลย” ฉินหยงถูกย้ายจากหน่วยรักษาความปลอดภัยสาธารณะประจำจังหวัดและรู้จักผู้คนมากมายในรัฐบาลเมือง ข้อมูลของเขารวดเร็วและแม่นยำกว่าคนอื่น ๆ
ดงซูบินคิดสักพักแล้วถาม “ แล้วเลขาธิการพรรคล่ะ”
แม้ว่าจะไม่มีใครอยู่ แต่ก็เป็นข้อห้ามที่จะพูดคุยเกี่ยวกับหัวข้อที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ นั่นเป็นเหตุผลที่ฉินหยงลดเสียงลงและพูด “ นายกเทศมนตรีเซียงจะเข้ารับตำแหน่ง”
ดงซูบินเองรู้สึกหงุดหงิด เอาล่ะ. ไอ้แก่นี้ยังคงกลายเป็นเบอร์หนึ่งของเมือง!
ฉินหยงมองไปที่ดงซูบิน “ น้องซูบินเป็นยังไงบ้าง”
“ ไม่มีอะไร” ดงซูบินรู้สึกอายเกินกว่าที่จะบอกฉินหยงเกี่ยวกับการที่เขาปฏิเสธโดยเซียงดาว
ฉินหยงสะบัดขี้เถ้าบุหรี่ของเขาและพูดต่อ “ จะมีปฏิกิริยาลูกโซ่และหลายคนยืนหยัดที่จะได้รับจากมัน ฮ่าฮ่าฮ่า…พวกเขาทุกคนควรขอบคุณสิ่งที่เกิดขึ้น” การบุกจู่โจมจินดีแมนชั่นของหัวหน้าซูบินทำให้เฉียนเชิงล่มสลายและกำจัดฉางเล่ย นี่ถือเป็นสร้างตำนานเลย
ดงซูบินรู้สึกด่าในใจ ขอบคุณฉัน? มันจะถือเป็นคำชมถ้าเซียงดาวฟาไม่เกลียดฉัน
ดงซูบินถาม “ แล้วนายกเทศมนตรีล่ะ”
ใบหน้าของฉินหยงเปลี่ยนไป “ การนัดหมายสองสามครั้งก่อนหน้านี้ถือเป็นเรื่องปกติ แต่การแต่งตั้งนายกเทศมนตรีประจำมณฑลของเรานั้นแปลกมาก”
ดงซูบินกำลังคิดที่จะได้รับการสนับสนุน เนื่องจากเลขาธิการพรรคของมณฑลไม่สนใจเขาดังนั้นนายกเทศมนตรีคนใหม่จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของเขา นี่คือเหตุผลที่ดงซูบินอยากรู้ว่าใครจะเป็นนายกเทศมนตรีคนต่อไป “แปลก? ทำไมมันแปลก ๆ นายกเทศมนตรีคนใหม่ไม่ได้มาจากรัฐบาลมณฑลของเราใช่หรือไม่”
ฉินหยงพยักหน้า “ พวกชนชั้นสูงขึ้นอาจไม่พอใจกับมณฑลของเราและคราวนี้พวกเขาจัดให้มีคนย้ายมาเป็นนายกเทศมนตรีคนใหม่ของเรา”
ดงซูบินมองไปที่ฉินหยงอย่างงงงวย มีอะไรแปลกเกี่ยวกับการโอนคนเข้ามายังเมือง? เมื่อดงซูบินอยู่กับความมั่นคงแห่งรัฐหัวหน้าสำนักเซินก็ถูกย้ายเข้ามาจากที่อื่นเช่นกัน
ฉินหยงอธิบาย “ นายกเทศมนตรีคนใหม่ไม่ได้ถูกย้ายจากรัฐบาลเมืองและไม่ได้มาจากรัฐบาลส่วนภูมิภาค มันมาจาก…ระดับที่สูงขึ้น”
ดงซูบินตกใจ “ รัฐบาลกลาง?”
ฉินหยงยิ้มและพยักหน้า
“ แผนกไหน”
“ ฉันยังไม่ทราบรายละเอียด”
ดงซูบินรู้สึกกังวล ประชาชนจากรัฐบาลกลางมีความภาคภูมิใจ นายกเทศมนตรีคนใหม่จะยอมรับเขาหรือไม่หากเขาเสนอที่จะยืนเคียงข้างเขา ดงซูบินคิดเรื่องนี้แล้วส่ายหัว การเคียงข้างต้องการโอกาสและกลยุทธ์ แม้ว่านายกเทศมนตรีคนใหม่จะยอมรับเขา แต่เขาก็จะไม่นึกถึงดงซูบินสิ่งที่ดงซูบินต้องการคือการสนับสนุนที่แข็งแกร่งที่จะปกป้องเขาแม้ว่าเขาจะทำผิดพลาดก็ตาม อืม … นี่น่าจะเป็นไปไม่ได้ ทำไมนายกเทศมนตรีคนใหม่ถึงช่วยเขา? แม้แต่เซียงดาวที่ดงซูบินเคยช่วยเหลือก็ยังเพิกเฉยต่อเขา
ดงซูบินถอนหายใจในใจ เขาค่อนข้างจะเลิกมองหาการสนับสนุนหากการสนับสนุนของเขาไม่สนับสนุนเขาด้วยใจจริง
แหวน…แหวน…แหวน…โทรศัพท์ของฉินหยงดังขึ้น
“ พี่ดงซูบินทานชาก่อน ฉันต้องการรับสาย” ฉินหยงเข้าไปในห้องของเขาเพื่อรับสาย
ประมาณ 10 นาทีต่อมาฉินหยง ก็กลับมา ภรรยาของเขาทำอาหารเสร็จแล้วและอาหารทั้งหมดก็วางบนโต๊ะอาหาร พวกเขาเริ่มดื่มเมาไท่ ของดงซูบินและทานอาหารเย็น
“ พี่สะใภ้ทำอาหารได้ดีกว่าผม 100 เท่า” ดงซูบินยกย่อง
ภรรยาของฉินหยงหัวเราะ “ ขอบคุณสำหรับคำชม อาหารเหล่านี้เป็นเพียงอาหารธรรมดาที่บ้าน”
ฉินหยงถาม “ หัวหน้าซูบินคุณรู้วิธีทำอาหารไหม”
ดงซูบินหัวเราะ “ ผมนั้นชอบทำอาหารด้วยตัวเองที่ปักกิ่งทุกวัน มันกินได้ แต่ไม่อร่อย ฮ่าฮ่า…ผมต้องเรียนรู้จากพี่สะใภ้”
ภรรยาของฉินหยงหัวเราะ “ ฉันรู้วิธีทำอาหารและทำงานบ้านเท่านั้น ในฐานะผู้หญิงฉันจะทำอะไรได้อีก “
ฉินยองส่ายหัว “คุณผิด. เกิดอะไรขึ้นกับการเป็นผู้หญิง? ผู้หญิงบางคนมีความสามารถมาก”
ดงซูบินพยักหน้าเห็นด้วย
ฉินยงดื่มเมาไท่สองสามคำและเริ่มสนทนา “ พี่ดงซูบินมีคนโทรหาฉันก่อนหน้านี้และบอกผมว่านายกเทศมนตรีคนใหม่ของเราเป็นผู้หญิง”
“ โอ้?”ดงซูบินรู้สึกประหลาดใจ เป็นเรื่องยากสำหรับผู้หญิงที่จะไต่เต้าไปสู่ตำแหน่งหัวหน้ากองพล
ฉินหยงยิ้ม “ ทุกคนเดาได้ไหมว่านายกเทศมนตรีคนใหม่ของเราอายุเท่าไหร่”
ภรรยาของฉินหยงเดา “ 50?”
ฉินหยงส่ายหัว
ดงซูบินเดา “ 40?”
“ ให้ฉันเปิดเผยคำตอบ” ฉินหย่งชูสามนิ้ว “ เธออายุแค่ 30 ปีฉันตกใจมากเมื่อได้ยินเรื่องนี้ อายุ 30 ปีดำรงตำแหน่งหัวหน้ากองพลและเธอยังคงเป็นผู้หญิง…ฮ่าฮ่าฮ่า…ผมไม่กล้าพูดเดาหรอก แต่ทั้งจังหวัดเธอต้องเป็นนายทหารระดับหัวหน้ากองพลที่อายุน้อยที่สุด เธอจะไม่เป็นหัวหน้าหน่วยงานในรัฐบาลจังหวัดหรือรัฐบาลเมือง เธอกำลังจะเป็นนายกเทศมนตรีของมณฑลในระดับรากหญ้า ผมสงสัยว่าคนที่ตำแหน่งสูงกว่ากำลังคิดอะไรอยู่”
ดงซูบินรู้สึกประหลาดใจ นายกเทศมนตรีเขตอาย 30 ปี? นี่เป็นเรื่องเหลวไหลทีเดียว
ภรรยาของฉินหยงหยุดชะงัก “ ฉันคิดว่าซูบินสามารถขึ้นสู่ตำแหน่งหัวหน้ากองพลได้เมื่อเขาอายุ 30 ปี”
ดงซูบินโบกมือ “ พี่สะใภ้อย่ามาประจบผมเลย ตำแหน่งของผมเป็นเพียงรองหัวหน้าสำนักยังไม่มั่นคงและเกือบจะถูกลดตำแหน่งด้วยซ้ำก่อนหน้านี้ พี่ฉินคุณรู้ไหมว่าฝ่ายรัฐบาลกลางคนใหม่ของเรามาจากไหน”
ฉินหยงตอบ “ ฉันคิดว่าเธอมาจากแผนกประชาสัมพันธ์ส่วนกลาง”
“อา?” ดงซูบินรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ “ คุณรู้จักชื่อของเธอไหม”
ฉินหย่งคิดชั่วขณะ “ ฉันลืมชื่อ – นามสกุลของเธอ ฉันจำได้ว่านามสกุลของเธอคือ… เสี่ยว …อะไรสักอย่าง… หลาน”
ดงซูบินอ้าปากค้าง “ เสี่ยวหลาน?”
ฉินหยงตกใจและกระโดด “ ใช่…นี่คือชื่อของเธอ คุณรู้จักเธอหรอ?”
ดงซูบินเกือบจะร้องลั้นออกมา แน่นอนเขารู้จักเธอ นั่นก็คือแฟนของเขาเอง แต่ดงซูบินไม่ได้เมาและรู้ว่าบางอย่างไม่สามารถเปิดเผยได้ อาจมีผลประโยชน์ทับซ้อนแม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในฝ่ายการเงินหรือคณะกรรมการตรวจสอบวินัยก็ตาม ถ้าคนอื่นรู้ว่า เสี่ยวหลสยเป็นแฟนของเขา เขาอาจถูกย้ายก็ได้
ดงซูบินกล่าวอย่างรวดเร็ว “ ผมไม่รู้จักเธอหรอก ผมเคยได้ยินเกี่ยวกับเธอมาก่อน”
ฉินหยงอุทาน “ อ่า…ฉันลืมไปแล้วว่าคุณมาจากปักกิ่ง นายกเทศมนตรีเสี่ยว มีชื่อเสียงมากในปักกิ่งใช่ไหม”
“ จะพูดอย่างนั้นก็ได้…” ดงซูบินอยากจะบอกฉินหยงว่าเสี่ยวหลานมีชื่อเสียงมาก พ่อของเธอเป็นสมาชิกคณะกรรมการโปลิตบูโรและปู่ของเธอเป็นอดีตหัวหน้าเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ ก่อนที่เธอายุจะสามสิบ เธอดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าแผนกประชาสัมพันธ์กลาง เธอจะไม่โด่งดังได้อย่างไร แต่พี่สาวเซียวมีความเป็นส่วนตัวและไม่ค่อยมีใครรู้ว่าเธอมาจากตระกูลเซียว
หลังอาหารค่ำ ดงซูบินเดินกลับบ้านอย่างรวดเร็ว เขานอนบนเตียงและจ้องมองไปที่เพดาน
เวรล่ะ!
เหตุใดพี่สาวเสี่ยว ถูกย้ายมาที่เมืองหยางไท่ในฐานะนายกเทศมนตรี? นี่มันกะทันหันเกินไป!
ดงซูบินตระหนักว่าเสี่ยวห่าวหมายถึงอะไรใน SMS ของเขาเสี่ยวหลานจะมาที่เมืองหยางไท่ ในอีกสองวันนี้ เธอไม่ได้มาที่นี่เพื่อพักผ่อนในช่วงวันหยุดหรือเที่ยวแน่นอน เธอได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนายกเทศมนตรี! ดงซูบินยังคงเสียใจที่ให้หลักฐานเซียงดาว ทรยศต่ออดีตเลขาธิการพรรคของมณฑล แต่ตอนนี้เสี่ยวหลาน จะถูกย้ายมาที่นี่แล้วและมันทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้น
แฟนสาวของดงซูบินกำลังจะเป็นนายกเทศมนตรีของมณฑลและเขาไม่จำเป็นต้องมองหาการสนับสนุนใดๆแล้ว!
เสี่ยวหลานจะเป็นผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา!