POWER AND WEALTH (พลังและความมั่งคั่ง) - ตอนที่ 245
EP 245 ฉันกำลังจะตายอย่างงั้นหรอ? EP 246 เขาโรงพยาบาลอีกครั้ง
By loop
“ หัวหน้าซูบิน!”
“ หัวหน้าซูบิน!”
“ระวัง!”
ทุกคนตะโกนไปที่ดงซูบินอย่างพร้อมหน้ากัน!
หลิวดาไห่เองเขาน้ำตาไหลออกมาทันที ถึงเขาอาจจะสนิทกับดงซูบินมาก แต่ ดงซูบินเองก็ถือว่าเป็นผู้บังคับบัญเขา โดยที่ดงซูบินเองถูกย้ายมาที่เมืองได้เกือบหกเดือน แม้ว่าพวกเขาจะสนิทกัน แต่ตัวเขาเองก็ไม่ใกล้พอที่จะเสียสละชีวิตให้กับดงซูบินเลย แต่กลับกันหลิวดาไห่ไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าดงซูบินซึ่งเป็นผู้นำของเขาจะใช้ร่างกายของเขาเองเพื่อสกัดกั้นหินที่ตกลงมาเพื่อเขา!
หลิวดาไห่ช่วย ดงซูบินลุกขึ้นมา “ หัวหน้าซูบิน! หัวหน้าซูบิน! คุณโอเคไหม?!”
ดงซูบินไอและรู้ได้ว่าในปากของเขาเต็มไปด้วยเลือด “ ฉันสบายดี…ไปต่อกันเถอะ!”
“ คุณได้รับบาดเจ็บ! ผมจะช่วยคุณเอง!” ตอนนี้ดินถล่มมาถึงระดับกลางของภูเขาแล้วและมันเป็นอันตรายอย่างยิ่ง
ดงซูบินผลักหลิวดาไห่ “ เราไม่สามารถออกไปได้ถ้าพี่มาพยุงฉันไว้อย่างนี้! พี่หลิวไม่จำเป็นมาสนใจฉันหรอก! เดินต่อไป!”
หลิวดาไห่ มองไปที่ ดงซูบินอย่างทำอะไรไม่ถูก “ หัวหน้าซูบิน!”
“เพียงแค่ไปต่อ!” ดงซูฐินหายใจแรงขณะที่เขาผลักหลิวดาไห่ไป
หลิวดาไห่ก้าวถอยหลังไปสองสามก้าวและมองไปที่ดงซูบินเขากัดฟันและเริ่มวิ่งไปข้างหน้า!
เหลียงเฉิงเผิงตะโกนเรียกดงซูบิน“ ซูบิน! ออกจากที่นั่นตรงนั้น! เร็วเข้า! ตอนนี้หินกำลังจะถล่มลงมาแล้ว! เร็วเข้า!”
ดงซูบินรู้สึกว่าร่างกายของเขากำลังจะแตกออกจากแรงกระแทกของหินก้อนนั้น เขาหายใจเข้าลึก ๆ สองสามครั้งแล้วเดินไปข้างหลัง หลิวดาไห่อย่างรวดเร็ว เขามองขึ้นไปที่ภูเขาและดินถล่มก็มาถึงระดับกลางภูเขาแล้ว ต้นไม้ถูกถอนรากถอนโคนและมันก็พังลงอย่างรวดเร็ว ภายในไม่กี่อึดใจมันอยู่ห่างจากจุดที่ดงซูบินยืนอยู่ประมาณหนึ่งร้อยเมตร!
วิ่ง! วิ่ง! วิ่ง!
นี่เป็นสิ่งเดียวในความคิดของดงซูบิน!
แต่ในขณะนี้คู่สามีภรรยาร้องไห้ออกมา
“ นิอูนิวอยู่ที่ไหน? ทำไมนิอูนิว ถึงไม่อยู่ที่นี่?! นิอูนิว!”
“ คุณเห็นเด็กผู้หญิงอายุประมาณหกขวบหรือเปล่า? เป็นลูกสาวของฉันและเธอก็ติดอยู่ในรถบัส!”
เจ้าหน้าที่พึงออกมาจากรถตอบกลับไปในทันที “ มันมืดมากภายในรถบัสและเราไม่ได้สังเกตเห็นเธอ! เมื่อตอนที่เราปีนออกไปเราไม่ได้ยินลูกสาวของคุณเลย เธออาจจะ…”
ชายคนนั้นคำราม “ เป็นไปไม่ได้! นิอูนิว ต้องยังมีชีวิตอยู่!”
ผู้หญิงคนนั้นร้องไห้ “ ลูกสาวของฉันยังอยู่ข้างใน! ช่วยเธอด้วย! ได้โปรดใครก็ได้ช่วยเธอที่เถอะ!”
เหลียงเฉิงเผิงตอบ “ ไม่มีเวลาแล้ว! เราจะไม่กลับไปที่รถบัส!”
ชายคนนั้นตะโกนออกมา “ นิอูนิว! ลูกอยู่ที่ไหน? ออกมา!”
บูม…ดินถล่มอยู่ใกล้…หนึ่งร้อยเมตร! แปดสิบเมตร! หกสิบเมตร! หลิวดาไห่กระโดดลงมาจากกองโคลนและเศษซากและหันไปช่วยดงซูบินลงมา แต่ก่อนที่ดงซูบินจะไปถึงขอบก็ได้ยินเสียงของเด็กผู้หญิงก็ร้องไห้ออกมาจากด้านหลัง!
“ นิอูนิว! นั้นคือเสียงของนิอูนิว!”
ดงซูบินหันกลับมา เขาคิดว่าไม่มีใครอยู่บนรถบัส แต่เด็กหญิงวัย 6 ขวบปีนออกจากรถบัสและยืนอยู่ข้างประตูรถบัส เธอคงเป็นลมจากการขาดออกซิเจนเมื่อดงซูบินกำลังช่วยพวกเขา นั่นเป็นเหตุผลที่ไม่มีใครรู้ว่าเธอถูกทิ้งไว้บนรถบัสนิอูนิว มองไปที่โคลนเศษหินและหินที่ร่วงหล่นลงมาจากภูเขาและร้องไห้!
เหลียงเฉิงเผิงและเจ้าหน้าที่สองสามคนจับตัวเด็กสาวทั้งคู่ทันทีเพื่อหยุดพวกเขาไว้ และมุ่งหน้าออกมา “ ไม่มีเวลาอีกแล้ว!”
ผู้หญิงคนนั้นร้องไห้ออกมา “ นิอูนิว! ไม่! ไม่!”
นิอูนิวเช็ดน้ำตาของเธอ “พ่อค่ะ! แม่ค่ะ! ช่วยหนูด้วย!”
“ นิอูนิว!”
ใช่. สายไปแล้ว.เด็กสาวคนนั้นยังเด็กเกินไปและเธอไม่สามารถออกมาจากจุดนั้นด้วยตัวเองได้ แม้ว่าเธอจะสามารถวิ่งออกมาได้ก็ตาม แต่เธอจะไม่ทำมันก่อนที่เศษดินและโคลนจะกลืนกินเธอนับประสาอะไรที่จะมีใครที่จะกล้าวิ่งไปหาเธอและพาเธอไปที่ปลอดภัย!
แม่ของ นิอูนิวร้องไห้ “ ได้โปรด…ฉันขอร้องทุกคน! ได้โปรดช่วยลูกสาวของฉันด้วย!”
พ่อของนิอูนิว พยายามดิ้นรน “ ปล่อยฉัน! ให้ฉันช่วยเธอ!”
หลิวดาไห่ตะโกน “ หัวหน้าซูบิน! ลงมา! เร็วเข้า!”
ทุกคนรู้ว่ามันสายเกินไปที่จะช่วยเด็กผู้หญิงคนนั้นและแม้แต่พ่อแม่ของนิอูนิว ก็ตระหนักถึงเรื่องนี้ พวกเขาทรุดตัวลงบนพื้นร้องไห้ ทุกคนถอนหายใจขณะมองไปที่พวกเขา แม้ว่าเทพหรือเทพเจ้าจะปรากฏขึ้นในตอนนี้ แต่ก็ยังสายเกินไปแล้ว
แต่วินาทีต่อมาก็เกิดเรื่องน่าตกใจขึ้น!
ดงซูบินไม่ได้กระโดดลงมาจากกองโคลน เขาหันหลังวิ่งกลับไปที่รถทัวร์!
เสี่ยวหลานถึงกับตะลึง!
เฉาซูเผิงเองก็ตะลึงเช่นกัน!
เหลียงเฉิงเผิงเองถึงกลับเบิกตากว้างกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า!
พ่อแม่ของนิอูนิวและทุกคนต้องตะลึง!
“ หัวหน้าซูบิน!”
“ หัวหน้าซูบิน! อย่าไป!”
“กลับมา! ไม่มีเวลาเหลืออีกแล้ว!”
เสี่ยวหลานถึงกับหน้าซีดและตะโกนด้วยความโกรธ “ ซูบิน! กลับมาเดียวนี้นะ!”
“ หัวหน้าซูบิน!”
ดินถล่มได้ปกคลุมครึ่งหนึ่งของภูเขาและกำลังจะถึงเชิงเขา! บริเวณที่เสี่ยวหลานและคนอื่น ๆ ยืนอยู่นั้นปลอดภัย แต่รถทัวร์กับสาวน้อยคนนั้นอยู่ในเส้นทางของดินถล่ม!
ห้าสิบเมตร!
สี่สิบเมตร!
สามสิบเมตร!
สายไปแล้ว!
“ หัวหน้าซูบิน! กลับมา!”
ดงซูบินไม่สนใจทุกคนและตะโกนเรียกสาวน้อย “ วิ่งมาเร็วเข้า สาวน้อย!”
นิอูนิวได้ยินดังนั้นจึงวิ่งไปที่ดงซูบิน!
ดงซูบินก้มตัวและอุ้มนิอูนิวขึ้นมา แต่ตอนที่เขากำลังจะวิ่งกลับเขาก็ตระหนักได้ว่าดินถล่มอยู่ห่างจากเขาเพียงประมาณยี่สิบเมตร!
แค่นั้นแหละ!
สายเกินไปที่จะทำอะไร!
“ หัวหน้าซูบิน!”
“ นิอูนิว!”
สิบเมตร…
แปดเมตร…
ดงซูบินหายใจเข้าลึก ๆ ในใจเขาสงสัยว่าเขาตัดสินใจถูกหรือเปล่า แต่มันสายเกินไปที่จะมาเสียใจ ดงซูบินใช้พละกำลังทั้งหมดที่มีอยู่ทุ่มให้นิอูนิวไปหาผู้นำของมณฑล “ จับเธอไว้!”
หกเมตร…
ห้าเมตร…
พัง!
เด็กหญิงตัวน้อยร่อนลงใกล้ขอบกองโคลนและหลิวดาไห่ ซึ่งอยู่ใกล้ที่สุดก็วิ่งไปอุ้มเธอไปที่ปลอดภัย!
“ หัวหน้าซูบิน!” เสียงของหลิวดาไห่นั้นแหบมากจากการตะโกนต่อเนื่อง
น้ำตาไหลของหลายคนไหลออกมา.
หลิวดาไห่, เฉินฟางผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บและแม้แต่ เหลียงเฉินเผิงก็ร้องไห้
ดงซูบินฝืนยิ้มอย่างน่าเกลียดและโบกมือให้พวกเขา มันสายเกินไปที่จะพูดอะไร
สามเมตร…
สองเมตร…
โคลนและเศษขยะมาถึงแล้ว!
ทุกอย่างถูกปกคลุมด้วยโคลนในทันที!
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
“ หัวหน้าซูบิน!”
“ หัวหน้าซูบิน!”
“ ซูบิน!”
โคลนและเศษเล็กเศษน้อยกระจายไปทั่วสถานที่นั้น …
แผ่นดินถล่มเป็นเหมือนคลื่นโคลนและเศษซากขนาดใหญ่กลืนกินทุกสิ่งที่ขวางทาง!
หลังจากนั้นสักครู่อากาศจะเงียบลงและฝนที่กระหน่ำกำลังจะคลายลง โคลนและกรวดหนาขึ้นสองเมตรและมาถึงจุดที่มีฝูงชนยืนอยู่ แต่ไม่มีใครสนใจมัน. เสี่ยวหลาน และ เฉาซูเผิงยังคงจ้องมองไปที่จุดที่ดงซูบินหายตัวไป เหลียงเฉิงเผิงถอดเสื้อกันฝนและโยนมันลงบนพื้นด้วยความหงุดหงิด เฉินฟางเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ และผู้โดยสารที่ได้รับการช่วยเหลือต่างร้องไห้และตะโกนเรียกชื่อของ ดงซูบินผู้โดยสารที่ติดอยู่ทั้งหมดได้รับการช่วยเหลือ แต่ ดงซูบินหายตัวไปแล้ว! ไม่มีอะไรปรากฏขึ้นมาบนโคลนหนา!
เจ้าหน้าที่สถานีหมู่บ้านฮุ่ยเทียนสองสามคนนั่งลงบนพื้นอย่างหมดหนทาง เขาไปแล้ว! หัวหน้าซูบินจากไปตลอดกาล!
หลิวดาไห่ยืนอยู่ที่นั่นเพื่อดูจุดที่ ดงซูบินหายไปสักพัก ทันใดนั้นเขามองไปรอบ ๆ และคว้าพลั่วก่อนจะวิ่งไปข้างหน้า! “ หัวหน้าหลิว! คุณกำลังทำอะไร?” เจ้าหน้าที่สองคนจับหลิวต้าไห่ หลิวดาไห่พยายามดิ้นรน “ ฉันต้องการช่วยเขา! หัวหน้าซูบินยังอยู่ใต้โคลน!” เจ้าหน้าที่กล่าว. “ คุณไปไม่ได้! ชั้นโคลนและเศษหินมันยังไหลอยู่! คุณอาจตาย!” หลิวดาไห่จ้องมองพวกเขา “ ปล่อยฉัน! หัวหน้าซูบินช่วยชีวิตฉันไว้และฉันติดหนี้บุญคุณเขา! จะกลัวอะไรอีก!” เจ้าหน้าที่อีกคนม้วนแขนเสื้อขึ้นและพยายามพุ่งไปข้างหน้า แต่เขาถูกหยุดโดยหน่วยกู้ภัยที่เหลือ
เหลียงเฉิงเผิงคำราม “ใจเย็น ๆก่อน!”
เสี่ยวหลานตะโกน “ ทำไมรถกู้ภัยถึงยังไม่มาที่นี่?! โทรหาพวกเขาที่สิ! โทรหาพวกเขาทันที!”
เจ้าหน้าที่จากสำนักรักษาความปลอดภัยสาธารณะเช็ดน้ำตาและหยิบโทรศัพท์ของเขาออกมาและโทรไปที่หน่วยบริการฉุกเฉิน “สวัสดี? คุณอยู่ที่ไหน? ฮะ? ตรงแยกใต้? สภาพถนนแย่ไหม” ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะพูดอะไร เฉาซูเผิงก็คว้าโทรศัพท์และคำราม “ นี่คือประสิทธิภาพของพวกนายอย่างงั้นหรอ? อา? หยุดหาข้อแก้ตัวได้แล้ว! หากพวกนายมาไม่ถึงที่เกิดเหตุได้ภายใน 5 นาทีพวกนายทุกคนจะถูกไล่ออก! ได้ยินฉันไหม?!”
หนึ่งนาที…
สองนาที…
เหลียงเฉิงเผิงก้าวขึ้นและลง “ ส่งผู้บาดเจ็บออกไปก่อน!”
เฉินฟางและเจ้าหน้าที่เดินเข้าไปหาผู้โดยสารอย่างไม่เต็มใจ
แต่ผู้โดยสารที่ได้รับการช่วยเหลือกลับร้องตะโกน “ เราจะไม่ออกไปจนกว่าหัวหน้าซูบินจะกลับมา!”
หญิงชราเช็ดน้ำตา “ ฉันเองก็จะไม่ไปไหนเช่นกัน! หัวหน้าซูบินเขายังอยู่! เขายังไม่เป็นอะไร!”
ผู้โดยสารที่ได้รับการช่วยเหลือและสมาชิกในครอบครัวทั้งหมดปฏิเสธที่จะออกไปและจ้องมองไปที่จุดที่ ดงซูบินยืนอยู่ก่อนที่เขาจะหายตัวไป พวกเขาทั้งหมดเห็นสิ่งที่ ดงซูบินทำเพื่อพวกเขา หากไม่มีดงซูบินพวกเขาทั้งหมดจะต้องตายบนรถทัวร์! แต่พวกเขาทุกคนรู้ว่าดงซูบินอาจจะไม่รอดก็ได้!
แต่พวกเขาเชื่อว่าดงซูบินยังมีชีวิตรอดอยู่?
ถึงแม้สิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าโอกาสอาจเรียกได้ว่าเป็นศูนย์ก็ตาม
ในช่วงเวลาสุดท้ายก่อนที่ดินถล่มจะมาถึง ดงซูบินเขาใช้กำลังทั้งหมดเพื่อเคลื่อนไปยังจุดที่เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ยืนอยู่ เป็นที่ตั้งของประตูรถทัวร์ โคลนและกรวดได้ไหลซึมเข้าไปในรถบัสและดงซูบินก็ดำดิ่งลงไปอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกับนักว่ายน้ำผ่านประตูรถบัส แต่ก่อนที่เขาจะขึ้นรถทัวร์ได้เกิดเหตุดินถล่มลงมาถึงตัวเขา ผลกระทบของหินเศษดินโคลน ฯลฯ ทำให้ขาทั้งสองข้างของเขาหักก่อนที่ ดงซูบินจะขึ้นรถไปได้
โคลนมีอยู่ทั่วไปรอบ ๆ ดงซูบินและมีโคลนจำนวนมากไหลผ่านประตูรถบัส พื้นที่ว่างสำหรับดงซูบินเริ่มน้อยลงเรื่อย ๆ
ดงซูบินต้องการที่จะยืนขึ้น แต่ขาของเขาหักและเขาทำได้เพียงแค่คลานไปที่ประตูรถบัสเท่านั้น เขาใช้เก้าอี้โดยสารกั้นประตูเพื่อชะลอปริมาณโคลนที่เข้ามาในรถบัส หลังจากนั้นเขาก็นอนที่นั่นในความมืดและถอนหายใจ เขาหลับตาลงช้าๆเพื่อรอความตายที่จะมาถึง
โคลนและกรวดเปียกมาถึงหน้าอกของ ดงซูบินและไม่มีอากาศเพียงพอบนรถทัวร์
10 นาที. ดงซูบินน่าจะเหลือเวลาเหลือเพียง 10 นาที! แม้ว่าจะมีอากาศอยู่บนรถบัสเขาก็จะจมโคลนตายอยู่ดี!
ดงซูบินเองพยายามเงยหน้าขึ้นและเสียใจกับการกระทำของเขาในทันใด เขายังเหลืออีกหลายสิ่งหลายอย่างที่อยากจะทำในชีวิต เขายังคงต้องการเลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าส่วน คุ้มไหมที่ต้องแลกชีวิตของเขาเพื่อชาวบ้านสองสามคน? ถ้านักข่าวมาสัมภาษณ์เขาตอนนี้เขาจะบอกว่ามันคุ้มค่า ใช่ตอนนี้ดงซูบินรู้สึกว่ามันไม่คุ้มค่าเพราะเขายังเด็กยังไม่ได้แต่งงานและยังมีหนทางอีกยาวไกล มันไม่คุ้มเลยที่จะเสียสละชีวิตเพื่อคนอื่น!
ดงซูบินรู้สึกว่าเขาหุนหันพลันแล่นและฝืนตัวเองเกินไป
แต่หากมีโอกาสดงซูบินจะยังคงเลือกที่จะช่วยชีวิตเด็กน้อย หลิวดาไห่และคนอื่นๆอยู่ดี
ดงซูบินไม่ใช่คนประเภทที่สามารถคิดอย่างมีเหตุมีผล เมื่อเขาตั้งใจจะทำแล้วก็จะไม่สนใจอะไร เมื่อเขาช่วยชีวิตผู้โดยสารเขาไม่ได้คิดถึงผลที่ตามมาและจะเสียใจในภายหลัง หากเขาเห็นผู้คนตกอยู่ในอันตรายเขาจะยังคงก้าวต่อไปหรือเขาจะยังเสียใจที่ไม่ได้ช่วยชีวิตคนอื่น!
ในระดับหนึ่งดงซูบินเป็นคนที่ขัดแย้งในตัวเองเสมอ
หนึ่งนาที…
สองนาที…
สามนาที…
ที่นั่งผู้โดยสารที่หักนั้นไม่สามารถหยุดโคลนและกรวดสองเมตรไม่ให้เข้าไปในรถบัสได้ โคลนบนรถบัสมาถึงคอของ ดงซูบินและเขาหายใจลำบาก ปอดของเขาแสบร้อนและพยายามยืนขึ้นโดยขาที่หักแม้จะเจ็บปวดก็ตาม
หกนาที…
แปดนาที…
สิบนาที…
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆและชีวิตของดงซูบินกำลังจะจบลงแล้ว
เมื่อมีคนกำลังจะตายพวกเขาจะเริ่มคิดถึงชีวิตของพวกเขา ดงซูบินคิดว่าหากได้รับโอกาสเขาจะเลือกที่จะเห็นแก่ตัวและมีความสุขกับชีวิตก่อนที่เขาจะตายไม่ได้หรือยังไง? เขาต้องเลื่อนตำแหน่งให้เร็วที่สุด! ความมั่งคั่ง? เขาต้องทำเงินให้ได้มากที่สุด! ภรรยา? เขาจะต้องมีภรรยาหลายคน…เอ่อ…เขาไม่สามารถมีภรรยามากเกินไปไม่งั้นชีวิตของเขาจะยุ่งเหยิง ใช่… เสี่ยวหลาน, ฉูหยวน และ หยูเหมยเซียว ภรรยาสามคนก็พอแล้ว ดงซูบินรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่ค่อนข้างมองโลกในแง่ดี เขากำลังจะตายและยังมีเวลาคิดเรื่องไร้สาระพวกนี้อีก!
สิบเอ็ดนาที…
สิบสองนาที…
โคลนมาถึงคอของดงซูบินอีกครั้งและเกือบท่วมรถบัส
ปีนออกทางประตูรถบัส? มีโคลนและกรวดหนาสองเมตรอยู่เหนือรถบัสและดงซูบินกำลังจะตายจริงๆแล้ว!
รอขอความช่วยเหลือ? ไม่มีอากาศเหลืออีกแล้วเขากำลังจะตาย!
ดงซูบินเริ่มหายใจเร็วขึ้นและหอบหายใจ เขาไม่รู้สึกว่ามีออกซิเจนเข้าไปในปอดและเริ่มรู้สึกหวิว ๆ เขากำลังเสียสติและในที่สุดเขาก็ดับวูบ ดงซูบินตกอยู่ในความมืดและเขาเคยสัมผัสกับความรู้สึกนี้ระหว่างอุบัติเหตุจราจรและถูกยิงที่ศีรษะ
ฉันตายแล้วเหรอ?
เฮ้อ…ฉันน่าจะตาย
ดงซูบินไม่รู้ว่านานแค่ไหนและทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงตะโกนข้างๆเขา
“ เขาตื่นแล้ว!”
“ ด่วน! ตามหมอ! ไปตามหมอมา!”
“ ซูบิน!”
ดงซูบินไม่มีเรี่ยวแรงที่จะลืมตาและรู้สึกเจ็บแปลบไปทั่วร่างกาย เมื่อได้ยินเสียงตะโกนและร้องไห้เขาก็ตะลึง เอ๊ะ? ฉันยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า? หลังจากนั้นไม่นาน ดงซูบินก็รวบรวมพละกำลังมากพอที่จะลืมตาได้ เขามองไปรอบ ๆ ตัวและเห็นว่าเขาอยู่ในโรงพยาบาล ข้างๆเขามีอุปกรณ์ทางการแพทย์และแม่ของเขาลวนเสี่ยวปิงกำลังร้องไห้อยู่ข้างๆเขา มีหมอและพยาบาลสองสามคนอยู่รอบ ๆ เตียงกำลังตรวจร่างกายของเขาอย่างเร่งรีบ
หลวนเสี่ยวปิงร้องไห้ “ ซูบินลูกได้ยินแม่ไหม”
ดงซูบินฝืนยิ้ม “ ผม…ผมไม่ได้หูหนวก” เหมือนตอนนี้กล้ามเนื้อของเขายังไม่พร้อมที่จะพูดออกมา
หลวนเสี่ยวปิงปิดปากและสะอื้น
ดงซูบินกล่าว “ แม่…ผมบอกไว้ก่อน…ผมโชคดีมาก…และผมยังยังไม่ตาย…ง่ายๆ…”
“ ลูกเกือบทำให้แม่ใจสลายแล้ว!”
หลังจากนั้นดงซูบินก็กลับไปนอนและยังคงมีความฝันอีกสองสามอย่าง พอตื่นมาอีกทีฟ้ามืดแล้ว เขาลืมตาขึ้นและรู้สึกดีขึ้นมาก ในเวลานี้หลวนเสี่ยวปิงเข้ามาในวอร์ดพร้อมกับผลไม้หลายอย่าง ดงซูบินถามอย่างอ่อนแรง “ แม่ครับนี่โรงพยาบาลอะไร? วอร์ดนี้ค่อนข้างกว้างขวาง โรงพยาบาลประชาชนของเมืองหยางไท่ ไม่มีหอผู้ป่วยที่ดีเช่นนี้”
ดวงตาของหลวนเสี่ยวปิงเปลี่ยนเป็นสีแดง “ นี่คือโรงพยาบาลปักกิ่งจินฉูเทียน”
ดงซูบินเองก็รู้สึกประหลาดใจ “ ผมมาอยู่ที่ปักกิ่งได้ยังไง”
“ลูกคิดว่าอย่างไร? ลูกอยู่ในอาการโคม่าที่โรงพยาบาลประชาชนของเมืองหยางไท่ และโรงพยาบาลได้ออกประกาศถึงภาวะวิกฤต แพทย์ที่โรงพยาบาลแนะนำให้ย้ายลูกมาที่โรงพยาบาลในปักกิ่งเพื่อรับการรักษา” หลวนเสี่ยวปิงสูดหายใจ เมื่อเธอลงนามในหนังสือแจ้งอาการวิกฤตเธอแทบจะพัง “ ลูกคิดว่ามันเกิดขึ้นเมื่อเช้านี้เหรอ? ลูกอยู่ในอาการโคม่าเป็นเวลาสามวันเลยนะ!”
ดงซูบินตกใจ “ทำไมมันนานขนาดนั้นเลย?”
ลวนเสี่ยวปิงตอบ “ หมอบอกว่าลูกโชคดีที่ยังมีชีวิตรอดอยู่ ถ้าเป็นคนอื่นพวกเขาอาจจะตายไปแล้วก็ได้”
ดงซูบินถาม “ โอ้ผมจะลงจากรถบัสได้อย่างไร”
ฝนหยุดตกหลังจากที่ดงซูบินติดอยู่ในรถบัสและเศษหินและเศษหินก็หยุดตกลงจากภูเขา รถกู้ภัยมาถึงและขุดทางขึ้นรถทัวร์ หน่วยกู้ภัยสามารถดึง ดงซูบินออกมาจากโคลนได้และหากพวกเขาช้ากว่านี้ภายในหนึ่งหรือสองนาทีดงซูบินก็อาจตายไปแล้ว!
ดงซูบินเองดีใจมาก!
“ ผมได้รับบาดเจ็บอะไรบ้าง? ทำไมผมขยับขาไม่ได้”
“ กระดูกหัก”
“ฮะ? ถ้าอย่างงั้นคงอีกสักพักผมก็คงกลับไปใช้ชีวิตปกติได้แล้วสินะครับ”
“ แม่ไม่คิดอย่างนั้น หมอบอกว่าคุณจะหายดีหลังจากพักผ่อนสองเดือน”
“ก็ยังดี.” ดงซูบินขยับแขนของเขาและพวกมันก็ยังปกติดีเหลือเพียงแค่ขาที่ไม่สามารถขยับได้
แหวน…แหวน…แหวน…โทรศัพท์ของ ดงซูบินยังคงดังอยู่
หลวนเสี่ยวปิงเคยชินกับมันและเธอก็ตอบ หลังจากบอกอีกฝ่ายเกี่ยวกับอาการของ ดงซูบินแล้วเธอก็วางสาย ในชั่วโมงถัดไปมีโทรศัพท์มากกว่าสิบสายกำลังถามเกี่ยวกับอาการของดงซูบินผู้คนในเทศมณฑลหยานไท่ควรได้รับข่าวว่าดงซูบินพ้นขีดอันตรายและกำลังต้องกรข้อมูลเพิ่มเติม
ดงซูบินไม่รับสายใด ๆ และขอให้แม่ของเขาขอบคุณสำหรับความกังวลสำหรับปลายสายทุกสาย
ดงซูบินเห็นหนังสือพิมพ์ประจำจังหวัดวางอยู่บนโต๊ะข้างๆเขาและพาดหัวข่าวเป็นบทความเกี่ยวกับเขา เขาเอื้อมมือไปหามันและเริ่มอ่านมัน รายงานดังกล่าวเปิดเผยรายละเอียดว่า ดงซูบิน ช่วยชีวิตผู้โดยสารที่ติดอยู่ด้วยพลั่วกลางดินที่ถล่มได้อย่างไร
ทันใดนั้นแม่ของดงซูบินก็มองมาที่เขา “ สายของหัวหน้าเหลียง”
“ ผมต้องรับสายนี้” ดงซูบินรับโทรศัพท์จากแม่ของเขาและรับสาย “ สวัสดีหัวหน้าเหลียง ผมเองซูบิน”
“ คุณ…ทำได้ดีมาก!”
ดงซูบินหัวเราะ “ ขอโทษที่ทำให้คุณต้องกังวล”
เหลียงเฉินเผิงรู้สึกโล่งใจที่ได้ยินเสียงของดงซูบิน“ มันเยี่ยมมากที่คุณฟื้นขึ้นมาได้แล้ว คุณทำได้ดีในครั้งนี้ เจ็ดชีวิตที่คุณช่วยชีวิตพวกเขาไว้ คุณรู้ไหมว่าสิ่งที่คุณทำมีการตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ประจำจังหวัดของเรา? แม้แต่สถานีโทรทัศน์ประจำจังหวัดก็รายงานเกี่ยวกับการกระทำของคุณ มันยังสร้างตอนพิเศษเกี่ยวกับคุณโดยให้รายละเอียดการมีส่วนร่วมของคุณในคดีตัวประกันและช่วยชีวิตชายที่กระโดดจากตึก”
ดงซูบินเองก็ดีใจมาก “ เยี่ยมมาก”
“ คุณสมควรได้รับเกียรตินี้ ดูแลตัวเองด้วยและฉันจะช่วยสนับสนุนคุณเรื่องผลงานต่างๆหลังจากที่คุณกลับมา!”
“ เอ่อ…เป็นผลงานชั้นสองหรือผลงงานชั้นหนึ่ง?”
“ คุณ…ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…รัฐบาลเมืองยกย่องคุณและเป็นรางวัลที่ได้รับผลงานระดับหนึ่ง!”
ในช่วงเวลาที่สงบสุขนี้เป็นเรื่องยากมากที่จะได้รับรางวัลผลงานชั้นหนึ่ง หลายคนที่มีผลงานสำคัญไม่สามารถรับรางวัลนี้ได้และข่าวนี้ทำให้ ดงซูบินอารมณ์ดี ความสำเร็จของเขาประกอบด้วยรางวัลผลงานชั้นหนึ่งบุญชั้นสองและผลงานชั้นสามและเขาก็ใกล้จะได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงเลื่อนตำแหน่งอีกขั้นหนึ่งแล้ว “ ขอบคุณหัวหน้าเหลียง ผมจะพยายามให้หายดีและกลับไปทำงานให้เร็วที่สุด!”
เหลียงเฉินเผิงพูดขัดดงซูบินอย่างรวดเร็ว “ พักก่อนเถอะ…รัฐบาลมณฑลให้เวลาคุณพักฟื้นสามเดือนและไม่ต้องคิดเลยว่าจะกลับมาในช่วงนี้!”
“ เอ่อ…ครับ ผมเข้าใจแล้ว.”
“ เอาล่ะ. ฉันจะไม่รบกวนการพักผ่อนของคุณ ฮ่าฮ่าฮ่า…คุณได้ทำหน้าที่ของเจ้านหน้าที่รักษาความปลอดภัยสาธารณะของเราแล้ว!”
หลังจากวางสายโทรศัพท์ของดงซูบินก็ดังขึ้นทันที เขาดูที่เบอร์ มันคือเบอร์ของหลิวดาไห่
ดงซูบินหัวเราะและตอบ “ พี่หลิวผมเอง”
หลิวดาไห่หยุดชั่ววินาทีและถามด้วยเสียงแหบ “เป็นอย่างไรบ้างตอนนี้?”
“ ฮ่าฮ่า…มันเป็นแค่การบาดเจ็บเล็กน้อย ร่างกายส่วนบนของฉันสบายดี มีเพียงขาที่หักเท่านั้น”
“ หัวหน้าซูบินผม…ผม…”
“ ไม่ต้องพูดอ้อมค้อมหรอกแล้วพูดในสิ่งที่คุณต้องการ ฉันกำลังรอที่จะวางสายและกินผลไม้ ฮ่าฮ่าฮ่า…”
หลิวดาไห่กัดฟันและกล่าว “ หัวหน้าซูบิน ผมเป็นหนี้ชีวิตคุณและถ้ามีเรื่องอะไรที่ต้องการให้ผมทำ ผมยินดีมากๆ!”
ดงซูบินหัวเราะ “ เอาล่ะ…หยุดพูดเรื่องนี้ ฉันอาจจะไม่สามารถกลับไปที่เมืองหยานไท่ได้ในสองสามเดือนนี้ คุณต้องทำงานหนักและอย่าทำให้เกิดเรื่องวุ่นๆละ!”
“ ไม่ต้องกังวล!”
หลังจากวางสายเฉินฟางรองหัวหน้าทีมเฟิง,ฉินหยง, ถังจิน, ญาติของดงซูบิน และเพื่อน ๆ โทรมา แต่ดงซูบินไม่รับสายทั้งหมดในขณะที่เขายังอ่อนแอมากเขาจึงขอให้แม่ของเขาช่วยรับสาย เขายังสงสัยว่าทำไมเสี่ยวหลาน ไม่โทรหาเขาและไม่ได้ถามเกี่ยวกับเขา
ในท้ายที่สุดดงซูบินตัดสินใจโทรหาเสี่ยวหลาน
ปลายสายรับสาย แต่อีกฝ่ายไม่พูดอะไรสักคำ
“สวัสดี? นายกเทศมนตรีเสี่ยว?”
“ ……”
“ เอ่อ…ผมเองซูบิน เอิ่มม…ผมโทรไปรายงานอาการของผมกับคุณ ตอนนี้ผมสบายดีแล้ว”
“ ……”
ดงซูบินรู้ว่าพี่สาวเสี่ยว โกรธเขาและรีบพูด “ ขอโทษ…ผมขอโทษ…ครั้งนี้…เอ่อ…คุณอยู่ในที่เกิดเหตุด้วยและถ้าผมไม่ไปช่วยพวกเขาพวกเขาทั้งหมดจะตาย ผม…ผมสัญญาว่าจะอยู่ห่าง ๆ ถ้าเจอสถานการณ์แบบนี้อีกโอเค?”
เสี่ยวหลานตอบกลับในที่สุด “ ตอนนี้คุณมีความสามารถมาก ทุกคนในมณฑลรู้ดีว่าหัวหน้าซูบินคือใคร”
“ พี่สาวเสี่ยว ผมขอโทษ ผมจะไม่ทำอีก”
“ คุณไม่ได้ผิด ฉันตั้งหากที่ผิด ฉันไม่ควรช่วยคุณในการโอนตำแหน่งมาที่นี่!”
“ อา…อย่าโกรธผมเลยได้โปรด…ตอนนี้ผมไม่เป็นไรแล้ว”
เสี่ยวหลานยิ้มและตอบกลับ “ใช่. คุณไม่เป็นไร คุณแค่ขาหักทั้งสองข้างมีรอยขีดข่วนทั่วร่างกายอยู่ในอาการโคม่าเป็นเวลาสามวันและเกือบเอาชีวิตไม่รอก ฮ่า ๆ คุณไม่เป็นไร…นี่เป็นอาการบาดเจ็บเล็กน้อยใช่มั้ย?”
ดงซูบินตอบอย่างเขินอาย “ ขอโทษที่ทำให้คุณเป็นห่วงผม”
“ ฮ่าฮ่าฉันไม่กังวลเรื่องนั้นหรอก คุณคือหัวหน้าซูบิน แม้แต่นักโทษติดอาวุธสิบคนก็ไม่สามารถเอาชนะคุณได้ กระสุนจะไม่โดนคุณก้อนหินไม่สามารถตีคุณได้และแม้แต่ดินถล่มก็ไม่สามารถทำอะไรคุณได้ ฮ่า ๆ ๆ …ทำไมฉันต้องเป็นห่วงคุณด้วยล่ะ? แม้ว่าวันนี้คุณจะถูกโยนลงไปในมหาสมุทรแปซิฟิกคุณจะยังมีชีวิตอยู่และเตะต่อหน้าฉันในวันพรุ่งนี้!”
ใบหน้าของดงซูบินเปลี่ยนเป็นสีแดง “ หยุดล้อเล่นเถอะครับ ครั้งนี้เป็นอุบัติเหตุ”
“ เอาล่ะ…ฉันต้องไปประชุม”
“ อย่าโกรธผมได้โปรด ผมจะไม่หลับถ้ารู้ว่าคุณโกรธผมอยู่”
“ฉันไม่ได้โกรธ.”
“ ถ้าคุณไม่โกรธคุณจะไม่พูดกับผมด้วยน้ำเสียงแบบนี้”
“คุณต้องการให้ฉันพูดอะไร? คุณต้องการให้ฉันบอกคุณไหมว่าฉันแทบไม่ได้กินอะไรเลยเพราะฉันเป็นห่วงคุณ? คุณคาดหวังให้ฉันบอกคุณไหมว่าฉันนอนน้อยกว่าสามชั่วโมงในช่วงสองวันที่ผ่านมาเพราะคุณ? คุณคาดหวังให้ฉันบอกคุณไหมว่าฉันโทรไปที่โรงพยาบาลหลายครั้งเพื่อถามเกี่ยวกับคุณ “
ดงซูบินเองก็รู้สึกประทับใจเมื่อรู้ว่าเสี่ยวหลานเป็นห่วงเขามาก
เสี่ยวหลานสงบลงเล็กน้อยและกล่าว “ ฉันต้องไปประชุม ดูแลตัวเองด้วย”
“ตกลง. คุณควรดูแลตัวเองด้วย ผมสบายดี.”
“ พักผ่อนให้มากๆ ฉันจะจัดการกับคุณเมื่อคุณกลับมาที่เมืองหยางไท่!”
“ หึ…คุณทำทุกอย่างกับผมได้ แต่โปรดอย่าถอดผมออกจากตำแหน่ง” เสี่ยวหลานเคยพูดถึงเรื่องนี้ก่อนหน้านี้
“ ฮิฮิ…ตอนนี้คุณยังกังวลเกี่ยวกับตำแหน่งของคุณอยู่หรือเปล่า!”
หลังจากวางสายแล้วดงซูบินก็นอนบนเตียงและมองไปที่เพดาน
ยังดีที่เรายังรอดมาได้สินะ!