POWER AND WEALTH (พลังและความมั่งคั่ง) - ตอนที่ 325
EP 325 คําจารึกของผู้อาวุโสเสี่ยว
By loop
แสงแดดอุ่นๆส่องเข้ามาทางหน้าต่าง
ดงซูบินนั้นยืนหาวขณะลืมตาและมองไปรอบๆตัว ฮะ? ฉันอยู่ที่ไหนกันเนี่ย? สถานที่นี้ดูเหมือนคฤหาสน์. โอ้พี่สาวเสี่ยว และฉันจึงไปที่คฤหาสน์ของผู้อาวุโสเสี่ยวเพื่อทานอาหารเย็น เมื่อเย็นที่ผ่านมานี้ สถานที่นี้ควรจะเป็นคฤหาสน์ของผู้อาวุโสเสี่ยวสินะ ฉันค้างคืนที่นี่อย่างงั้นหรอ ทันใดนั้นดงซูบินก็รู้สึกถึงอาการเมาค้างอย่างรุนแรงและเช็ดตัวเพื่อบรรเทาอาการปวดหัว เมื่อคืนฉันดื่มไปหนักขนาดไหนกันเนี่ย! ฉันจําได้ว่าฉันดื่มไปเยอะเลยในช่วงอาหารเย็น แต่ฉันมาอยู่ในห้องนี้ได้อย่างไร? ทําไมฉันถึงจําอะไรไม่ได้เลย?
เคาะ…เคาะ…เคาะ…มีคนเคาะประตู”
“ซูบินตื่นเถอะ” นั้นคือเสียงของเสี่ยวหลาน
ดงซูบินรีบลุกขึ้น “ พี่สาวเสี่ยว คุณเข้ามาได้ยังไงกัน?”
ประตูเปิดออกและ เสี่ยวหลานก็เข้ามาด้วยรอยยิ้ม “ เกิดอะไรขึ้น? คุณกําลังขอให้ฉันช่วยแต่งตัวหรือไม่?” ดงซูบินตระหนักว่าเขาสวมเพียงกางเกงขาสั้นอยู่เท่านั้น เสื้อโค้ทและกางเกงของเขาถูกพับอย่างเรียบร้อยบนเก้าอี้ข้างเตียง เขารู้ว่าเมื่อคืนมีคนถอดเสื้อผ้าเขาเพราะเขาไม่มีนิสัยชอบพับเสื้อผ้า “ เอ่อ…เมื่อคืนผมเมาเหรอ? ทําไมผมถึงมานอนที่นี่” เสี่ยวหลานมองไปที่ดงซูบิน” คุณยังกล้าพูดถึงเมื่อวานนี้อีกเหรอ” ดงซูบินหน้าแดง “ เอ่อ… เสื้อผ้าของผม….คุณช่วยถอดเสื้อผ้าของผมไหม” “ ถ้าไม่ใช่ ใครกันที่เป็นคนทําเช่นนี้” เสี่ยวหลานมองไปที่ดงซูบิน” ฉันแทบจะหลังหักเลยกับการพยายามถอดเสื้อผ้าให้คุณ”
ดงซูบินตอบกลับอย่างขอโทษ ” ขอโทษที่กวนคุณ”
“ ไปอาบน้ําเดี๋ยวนี้ ถึงเวลาอาหารเช้าแล้ว” “ตกลง.”
ดงซูบินรีบสวมเสื้อผ้ากลับและถาม “ โอ้เมื่อคืนผมอายจริง? มผอาเจียนหรือเปล่า” นี่คือสิ่งที่ดงซูบินกังวล
เสี่ยวหลานมองไปที่ ดงซูบิน” ฉันไม่รู้จะพูดอะไรเกี่ยวกับคุณ คุณแกล้งทําเป็นไม่รู้หรือเปล่า”
ดงซูบินตัวแข็งไป “ ผมอ้วกเหรอ? ที่ไหน” เสี่ยวหลานยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ “ มันก็ดีที่คุณไม่ได้อ้วกไปทั่วบ้าน และพูดเรื่องไร้สาระมากมายเท่านั้น”
“อา? ฉันพูดอะไร”
“ คุณเล่นหมากรุกกับปูของฉันในห้องและผู้แพ้ต้องดื่มเมาไท่หนึ่งแก้ว คุณดื่มไปสามถึงสี่แก้วแล้วก็เมา หลังจากนั้นคุณเรียกปูของฉันว่า พี่เสี่ยวและเอาแขนของคุณไปพาดไหล่ของเขา ” เสี่ยวหลานไม่สามารถกลั้นเสียงหัวเราะและหัวเราะออกมาได้ “ เสี่ยวปิง ฉันไม่รู้ว่าในอดีตคุณกล้าหาญขนาดนี้ คุณไม่ได้กล่าวถึงปูของฉันในฐานะพี่เสี่ยวเท่านั้น แต่ยังวิพากษ์วิจารณ์เขาในสิ่งที่เขาทํา หลังจากนั้นคุณก็เริ่มร้องเพลงชาติ”
ดงซูบินหยุดชั่วคราวสองสามวินาที “ เป็นไปไม่ได้!”
“…” เสี่ยวหลานดูไม่ได้ตกใจกลับเหตุการณ์นี้เลย
“มันเป็นไปไม่ได้!” ดงซูบินพูดต่อ “ พี่สาวเสี่ยวเลิกล้อเล่นได้แล้ว” เสี่ยวหลานตอบ “ คุณเสียงดังมากและฉันได้ยินคุณจากชั้นล่าง เกือบทุกคนในคฤหาสน์ได้ยินเสียงคุณ ทําไมฉันต้องโกหกคุณ” ใบหน้าของดงซูบินเปลี่ยนเป็นสีเขียว
” คุณคิดอย่างไร?”
“ ผมไม่ค่อยพูดเรื่องไร้สาระเวลาเมา” ดงซูบินกล่าว เมื่อดงซูบินเมามากเขาจะไม่พูดเรื่องไร้สาระ แต่เขาไม่เคยเมามากขนาดนี้มาก่อน จากปฏิกิริยาของพี่สาวเสี่ยว เธอไม่ควรโกหกเขาและผมบนหลังของ ดงซูบินก็ลุกขึ้นยืน
“ ผมทําให้ผู้อาวุโสเสี่ยว ไม่พอหรือเปล่า? ผมควรทําอย่างไรดี? ตอนนี้เขาต้องรู้สึกว่าผมแย่แน่ๆ ” เสี่ยวหลานยิ้ม “ ปู่ของฉันไม่ได้พูดอะไรเลย”
“ คุณหมายถึงอะไร”
เขาไม่ดุคุณและคุยกับคุณได้ดี ทั้งสองท่านร้องเพลงชาติร่วมกัน ฮ่าฮ่าฮ่า …. เป็นเวลานานแล้วที่ฉันได้ยินเสียงปู่ของฉันหัวเราะดังมาก” เสี่ยวหลานสายหัว “ ฉันสงสัยว่ามันตลกมากเหรอ? ฮ่าฮ่าฮ่า…”
ดงซูบินกระพริบตาและถาม “ คุณกําลังบอกว่าผู้อาวุโสเสี่ยวไม่โกรธเหรอ?”
“ ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าเขากําลังคิดอะไรอยู่”
* อ่า…” ดงซูบินจับผมของเขาในขณะที่เขาค่อยๆจําสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนได้ เขาตบหน้าผากสองสามครั้งเพื่อเคลียร์ใจ ฉันเรียกเขาว่าพี่เสี่ยวและเขายังร้องเพลงชาติกับฉันอีกเหรอ? นั่นหมายความว่าเขาไม่ได้โกรธ โอ้…ผู้อาวุโสเสี่ยวใจกว้างมากๆ…ความประทับใจของดงซูบินที่มีต่อผู้อาวุโสเสี่ยวเปลี่ยนไป แต่เขาก็ยังคงประหม่าอยู่ เมื่อคืนเขารู้สึกอายตัวเองและสงสัยว่าเขาจะเผชิญหน้ากับทุกคนได้อย่างไร
ประมาณสิบนาทีต่อมา ดงซูบินและ เสี่ยวหลานลงไปชั้นล่าง
ตามทางเดินพวกเขาพบเสี่ยวจินซึ่งกําลังถือกระดาษอยู่กองหนึ่ง เธอมองไปที่ดงซูบินอย่างแปลกประหลาดและทักทายเขา “พี่ซูบินตื่นแล้วเหรอ”
“ อ่า…ผมเพิ่งตื่น คุณยุ่งอยู่หรือเปล่า?” ดงซูบินถาม
เสี่ยวจินยักหน้า “ คุณปู่กําลังเขียนพู่กันอยู่และฉันเอากระดาษมาให้ท่าน”
เสี่ยวจินนั้นค้างคืนที่คฤหาสน์เมื่อคืนนี้ เมื่อคืนเธออยากกลับมาก แต่เกิดความวุ่นวายขึ้นเสียงดังไปทั่วบ้าน ดงซูบินวิพากษ์วิจารณ์ผู้อาวุโสเสี่ยวและร้องเพลงชาติร่วมกับผู้อาวุโสเสี่ยว มันเป็นความโกลาหลและไม่มีใครหยุดพวกเขาได้ ความปั่นปวนดําเนินไปจนถึงเกือบ 23.00 น. และสายเกินไปที่เธอจะกลับบ้าน
ระหว่างทางลงไปชั้นล่าง ดงซูบินและเสี่ยวหลานผ่านผู้ช่วยสองสามคน
พวกเขาทั้งหมดมองไปที่ ดงซูบินอย่างประหลาด
ทําไมทุกคนถึงมองฉันแบบนี้ ดงซูบินเขินอาย
ดงซูบินเห็นหลังของผู้อาวุโสเสี่ยว เมื่อเขามาถึงชั้นหนึ่งและร่างกายของเขาก็สั่นเสี่ยวหาว และเสี่ยวรันยืนอยู่ข้างโต๊ะส่วน เสี่ยวจิน วางกระดาษไว้บนโต๊ะ แปรงและหมึกบนโต๊ะถูกจัดวางอย่างเรียบร้อยและผู้อาวุโสเสี่ยวก็บดแท่งหมึกด้วยตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็หยิบแปรงขึ้นมาแล้วหลับตาสักสองสามวินาที ก่อนที่เขาจะเริ่มเขียนคําสองสามคํา การเคลื่อนไหวของเขาไร้ที่ติและมีทักษะในการประดิษฐ์ตัวอักษรมาก
เสี่ยวหลานไม่รบกวนผู้อาวุโสเสี่ยวและเดินขึ้นไปหาเขาอย่างเงียบๆ
ดงซูบินเดินไปข้างหน้าอย่างเขินอายและเห็นสิ่งที่ผู้อาวุโสเสี่ยวเขียน “ เที่ยงธรรมและชอบธรรม”
เสี่ยวหาวสังเกตเห็น ดงซูบินและเริ่มส่งสัญญาณตาด้วยรอยยิ้ม
ดงซูบินกลับมาพร้อมกับจ้องมอง เขารู้ว่าคนพาลคนนี้จะทําให้เขาสนุก!
“ ปู่…ชาของคุณ” ความสนใจของ เสี่ยวรันยังคงยืนมองดูภาพอักษร “ทุกครั้งที่ผมดูประโยคของปูผมรู้สึกได้ถึงความเข้มแข็งในคําพูดนั้น
ผู้อาวุโสเสี่ยวหัวเราะและส่ายหัว “อย่ามายอปู่เลย!”
เสี่ยวรันตอบ “ นี่คือความรู้สึกเมื่อดูงานเขียนของปู่ คุณปู่ผมของงานที่ปูเขียนไปได้ไหมครับ? ผมจะนํามันไปใส่กรอบและนํากลับไป”
ผู้อาวุโสเสี่ยวพยักหน้า
เสี่ยวรันมีความสุขมากในขณะที่เขาเก็บกระดาษอย่างระมัดระวัง
ดงซูบินรู้สึกว่า เสี่ยวรันต้องเสแสร้งทําและเขาไม่เห็นอะไรพิเศษเกี่ยวกับคําพูดเหล่านั้น โดยส่วนใหญ่แล้วประโยคนั้นถือว่าดูสวยดีแต่ก็ไม่มีอะไรพิเศษอื่น
เสี่ยวหาวตะโกน “ ปู่ ผมต้องการด้วย”
” หลานด้วย?” ผู้อาวุโสเสี่ยวมองไปที่เสี่ยวหาว “ ฮึ่ม! หลานสอบภาษาจีนของโรงเรียนมัธยมต้นไม่ผ่านด้วยซ้ํา หลานสามารถอ่านสิ่งที่ปูเขียนออกด้วยหรอ”
“ อ่า…แค่เขียนอะไรให้ผมหน่อย อะไรก็ได้”
ผู้อาวุโส เสี่ยวดูอารมณ์ดีในวันนี้และตกลงตามคําขอของ เสี่ยวหาวเขาคิดสักพักแล้วจุ่มพู่กันลงในหมึกก่อนจะเขียนคําบางคําลงบนกระดาษ แต่เมื่อเสี่ยวหาวเดินไปข้างหน้าเพื่อรับแผ่นกระดาษ ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป “ เรียนหนักทุกวัน” อักษรทั้งแปดนี้ดูเหมือนจะล้อเลียนเสี่ยวหาว และเขาก็เก็บกระดาษไว้โดยไม่เต็มใจ
เสี่ยวจินหัวเราะและกล่าวว่า “ คุณปู่ต้องยุติธรรมกับพวกเราทุกคน ฉันเองก็ต้องการงานเขียนของปู่ด้วย”
ผู้อาวุโสเสี่ยวหัวเราะ “ หลานต้องการคําอะไร”
“ ฉันเป็นคนผิวหนา ฉันต้องการคําว่า “ สวยงามเหมือนดอกไม้และดวงจันทร์” เสี่ยวจินตอบพร้อมกับหัวเราะ
เสี่ยวหาวแซวพี่สาวคนที่สองของเขาทันที และเสี่ยวรันก็หัวเราะเยาะน้องสาวของเขา
ผู้อาวุโสเสี่ยวหัวเราะและสายหัว เขานิ่งไปครู่หนึ่งและหยิบพู่กันขึ้นมาอีกครั้งเพื่อเขียนว่า “สวยงามราวกับดอกไม้และดวงจันทร์” บนกระดาษตรงหน้าเขา หลังจากทําเสร็จแล้วเขาก็เปลี่ยนกระดาษแผ่นใหม่และเขียนว่า “สวยงามตระการตา” ลงไป
เสี่ยวหาวบ่น “ ปู่ลําเอียง เหตุใดท่านจึงให้งานเขียนพี่สาวตั้งสองแผ่น”
ผู้อาวุโสเสี่ยว ไม่ตอบกลับ
เสี่ยวจินเข้าใจว่าผู้อาวุโสเสี่ยวกําลังคิดอะไรอยู่ “ งานเขียนชุดนี้ไม่ได้มีไว้สําหรับฉัน นอกจากพี่สาวคนโตของหลานแล้วมีใครบ้างที่สามารถอ้างเรื่องนี้ได้” สวยงามอย่างน่าทึ่ง” ฮิฮิ…คุณปู่ นี้เป็นของพี่สาวใหญ่หรือ?” ผู้อาวุโสเสี่ยวตอบว่า “ฮึ่ม!” นี่คือวิธีที่เขาพูดกับเสี่ยวหลาย
เสี่ยวจินรู้ว่าเธอเดาถูกและส่งคําที่ “สวยงามตระการตา” ไปให้เสี่ยวหลาน “ ปู่เป็นคนลําเอียง “ สวยงามตระการตา” ดีกว่า “ สวยงามราวกับดอกไม้และดวงจันทร์”
เสี่ยวหลานยิ้มและกล่าว “ ขอบคุณที่ให้คําพูดเหล่านี้แก่หนู”
ทุกคนมีงานเขียนของผู้อาวุโสเสี่ยว ยกเว้นดงซูบิน
ดงซูบินครุ่นคิดสักพักและรู้สึกว่านี่เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่เขาจะขอโทษ “ ผู้อาวุโสเสี่ยว ผมขอโทษสําหรับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวาน…ผมเมาเกินไปและผม…” ผู้อาวุโสเสี่ยวได้ยินสิ่งที่ดงซูบินพูด และหัวเราะ
ทุกคนรู้ดีว่าดงซูบินเขินตัวเองเมื่อคืนและเริ่มหัวเราะคิกคัก
ผู้อาวุโสเสี่ยวไม่ได้พูดอะไรและหยิบแปรงขึ้นมาอีกครั้ง เขาจุ่มพู่กันลงในหมึกและหลับตาลงเกือบสามนาที ทันใดนั้นเขาก็ลืมตาขึ้นและเขียนอักขระสี่ตัวด้วยจังหวะอันทรงพลังมีจิตสํานึกชัดเจน!
ผู้อาวุโสเสี่ยวเขียนว่า “มีจิตสํานึกที่ชัดเจน!”
เมื่อผู้อาวุโสเสี่ยวพูดจบเขาก็เขียนชื่อของเขาลงไป “ ซูบิน นี่สําหรับนาย”
ทุกคนที่นั่นตะลึง!
ผู้อาวุโสเสี่ยวเขียนชื่อของเขาลงบนกระดาษแผ่นนั้นด้วย