POWER AND WEALTH (พลังและความมั่งคั่ง) - ตอนที่ 51
สภาพแวดล้อมของดงซูบินเริ่ม เปลี่ยนไป!
“ หัวหน้าโจว”
“ หัวหน้าโจว”
“ หัวหน้าโจว”
โจวจางจูที่ดูหน้าตาซีดเซียวเดินเข้ามาที่สำนักงานอีกครั้ง เขาได้ยินคำทักทายที่ด้วยเสียที่คุ้ยเคยอีกครั้ง นอกจากจ้วงจื่อทุกคนยังคงนั่งอยู่ในที่นั่งของพวกเขา ทุกคนไม่ได้ให้ความเคารพและหวาดกลัวต่อโจวฉางจูอีกต่อไป
ตอนนี้โจวฉางจูกำลังรู้สึกโมโหมากๆขณะที่เขามองไปที่ผู้ช่วยที่ไว้วางใจในอดีตของเขาอย่างเกาแพนเหว่ย “ แพนเหว่ยเข้าห้องมากับฉันสักเดียวสิ”
เกาแพนเหว่ยชี้ไปที่เอกสารในมือของเขา:“ ผมขอโทษด้วยครับหัวหน้าโจว ผมต้องส่งเอกสารด่วนวันนี้”
ฉางจี้ ดูถูกโจวฉางจูอยู่ภายในใจของเขา ‘ใครจะไปเชื่อฟังคำสั่งคนที่หมดประโยชน์ไปแล้วอย่างคุณ?’
สมัยตอนที่ต้าหลินเหม่ยเข้าทำงานใหม่ๆเองก็เคยถูกโจวฉางจูดุอยู่บางเป็นครั้งคร่าวแต่เธอก็มักจะร่าเริงแจ่มใสอยูในสำนักงานเสมอมา แต่มาในวันนี้เธอกับทำตัวเหมือนฉางจ้วง และ พี่หยางเธอพยายามไม่สนใจโจวฉางจูและตั้งหน้าตั้งตาทำงานของเธอไปเหมือนกับเขาไม่มีตัวตน อย่างไรก็ตามโจวฉางจูก็ไม่สามารถออกคำสั่งกับใครในสำนักงานได้อีกแล้วมันจึงไม่ใช่เรื่องหน้าแปลที่ใครจะมาสนใจเขาเพราะโจวฉางจูอาจเป็นคนที่มีความผิดเกี่ยวกับการคอรับชั่นก็ได้ ใครก็ตามที่เข้าใกล้เขาในตอนนี้ก็อาจจะถูกว่าโง่มาก!
โจวฉางจูมองไปรอบ ๆ และเข้าใจว่าทำไมอดีตลูกน้องของเขาจึงปฏิบัติต่อเขาเช่นนี้ เขาหัวเราะอย่างเยือกเย็น “ สบายดี……ดี……ดี……!” เขาเคยทำงานในหน่วยงานราชการมาหลายปีแล้วและเขารู้ว่าทุกคนกำลังคิดอะไรอยู่ตอนนี้ ‘ก็ถูกแล้วสินะ. ใครอยากใกล้ชิดกับฉันในตอนนี้กัน คงไม่มีใครจริงๆแหละ! นี่คือความเยือกเย็นของระบบราชการสินะ! การตัดความสัมพันธ์กับใครบางคนเมื่อพวกเขามีปัญหา’
ในวินาทีต่อมาทุกคนในสำนักงานกิจการทั่วไปรวมถึงโจวฉางจูเองก็ตกใจขึ้นมา
“ หัวหน้าโจวผมว่างครับ หัวหน้ากำลังจะย้ายของออกจากสำนักงานใช่ไหมครับ? ให้ผมช่วยหัวหน้านะครับ” ดงซูบินยิ้มและเดินไปหาโจวฉางจูเพื่อช่วยเขา “ หัวหน้าเพิ่งออกจากโรงพยาบาล หัวต้องระมัดระวังการเดินการนั่งหรือยกของหนักด้วยนะครับ. ผมจะช่วยหัวหน้ายกของพวกนั้นเอง เดียวผมช่วยพยุงครับ!”
โจวฉางจูได้แต่ตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น “ ……ไม่จำเป็นต้องช่วยฉันก็ได้ ฉันเดินเองได้”
ดงซูบินกล่าวทันที “ผมขอโทษครับ. ผมไม่รู้มาก่อนว่าหัวหน้าจะออกจากโรงพยาบาลในวันนี้และตอนนี้น้ำในตู้กดน้ำของสำนักงานก็หมด มันเป็นความผิดของผมเอง เดียวผมจะเปลี่ยนถังน้ำให้หัวหน้าทันที”
โจวฉางจูรู้สึกดีขึ้นและใบหน้าของเขาก็ไม่มืดมนอีกต่อไป “ ไม่จำเป็นต้องลำบากหรอก เดียวฉันเก็บของเสร็จเดียวฉันก็จะไปแล้ว”
ดงซูบินไม่สนใจคำพูดของเขาและออกไปแบกถังน้ำเข้าไปในห้องของโจวฉางจูหลังจากที่เขาเติมตู้น้ำเขาเทน้ำหนึ่งแก้วให้กับโจวฉางจู ดงซูบินยังไม่หยุดแค่นั้น เขายังช่วยแพ๊คของใช้ต่างๆของโจวฉางจูทั้งหมดในห้องนั้น เช่นถาดอาหารแก้วน้ำชาและอื่น ๆ ให้เรียบร้อย
ทุกคนในสำนักงานรู้สึกตกใจกับการกระทำของดงซูบินรวมถึงมึนงงว่าดงซูบินกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่?
ฉางจี้ส่ายหัวไปที่ดงซูบิน ‘การกระทำของหมอนั้นมันโง่มาก! ทำไมเขายังคงประจบหัวหน้าที่ลงจากตำแหน่งไปแล้วกัน?
เกาแพนเหว่ยก็หัวเราะอยู่ภายในใจเช่นกัน ‘ซูบินนายนี้มันซื่อบื่อจริงๆ หากโจวฉางจูกำลังถูกสอบสวนเรื่องการคอร์รัปชั่นหรือปัญหาอื่น ๆ จริงๆเขาอาจถูกขอให้’“ เกษียณเพื่อรักษาหน้าตาของเขาไว้โดยใช้ข้ออ้างจากอาการป่วยของเขาแทน” ซึ่งซูบินเองก็ต้องโดนหางเลห์ไปด้วย’
ต้าหลินเหม่ยเองก็พยายามจะส่งสัญญาณไปให้ดงซูบินรู้ แต่ดงซูบินก็ไม่สนใจเธอ มันทำให้เธอโมโหเขามาก เธอเพิ่งบอกดงซูบินเกี่ยวกับความหมายที่ไม่ควรใกล้ชิดกับโจวฉางจูไปตะกี้เอง! ‘นายกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่!’
ในห้องทำงานเล็ก ๆของโจวฉางจู
โจวฉางชุนรู้สึกประทับใจเมื่อเขาเห็นเหงื่อที่หยดลงมาจากตัวของดงซูบินที่เข้ามาช่วยเขา “ ซูบินนายพักสักเดียวแล้วนั่งลงก่อนสิ”
“ไม่เป็นไรครับ. ผมยังไม่เหนื่อยเลย” ดงซูบินตอบ “ ยังมีอะไรที่จะให้ผมช่วยเก็บอีกไมครับ?”
“ฉันมีบางเรื่องที่อยากจะคุยด้วยนะ. นั่งลงและคุยกันก่อน “ดงซูบินนั่งลงบนเก้าอี้โดยมีก้นเพียงครึ่งเดียวที่แตะเก้าอี้ เหมือนเมื่อก่อน ท่านั่งที่ถูกต้องเมื่อนั่งต่อหน้าหัวหน้า โจวฉางจูเริ่มถอนหายใจเมื่อเขาเห็นสิ่งนี้ เขาตบไหล่ของดงซูบิน:“ ในเวลาเช่นนี้มันจะทำให้นายเห็นธาตุแท้ของใครบางคน ซูบินนายเยี่ยมยอดมาก. ฉันคิดไม่ผิดเกี่ยวกับนายจริงๆ!”
ดงซูบิน ตอบอย่างจริงใจ:“ นี่คือหน้าที่ของผมครับหัวหน้า”
โจวฉางจูถอนหายใจอีกครั้งและบีบไหล่ของดงซูบิน“ ในที่สุดฉันก็เห็นมัน! ฉันควรจะรู้เรื่องนี้มาก่อน! นายเป็นคนเดียวในสำนักงานแห่งนี้ที่มีค่าที่สุด ดูแลตัวเองด้วยเอกสารคำสั่งทั้งหมดสำหรับการเกษียณอายุของฉันเสร็จสมบูรณ์แล้วและฉันไม่สามารถดูแลนายต่อไปได้แล้ว”
ดงซูบิน ตอบทันที:“ หัวหน้านำทางและดูแลผมมาตั้งแต่ผมเข้ามาในสำนักงานกิจการทั่วไป ขอบคุณสำหรับคำแนะนำของหัวหน้าจริงนะครับ ขอบคุณครับหัวหน้าโจว”
โจวฉางจูหยุดไปชั่วครู่และดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นเขาโบกมือของเขาขึ้นมาและดูเหมือนว่าเขาพึงจะตัดสินใจบางอย่างได้ “ ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับนายแล้ว แต่นายรอสักครู่ ฉันจะขอโทรศัพท์ก่อน”
ดงซูบินหยุดยั้งความตื่นเต้นของเขาและแสร้งทำเป็นสงบ “ ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวออกไปก่อนนะครับ”
“ไม่จำเป็น. นั่งที่นี้แหละ” โจวฉางจูหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาที่โต๊ะแล้วหมุนหมายเลขในตอนแรกโจวฉางจูต้องการเสนอชื่อเกาแพนเหว่ยแต่ท่าทางของเกาแพนเหว่ยมันทำให้เขาผิดหวังเป็นอย่างมาก ในทางตรงกันข้ามดงซูบินยังคงปฏิบัติต่อเขาด้วยความเคารพเหมือนเมื่อก่อน โจวฉางจูค่อยๆเขยิบตัวจากการพยุงของดงซูบิน
สายผ่าน “ สวัสดีหัวหน้าหยานอยู่รึเปล่า? ฉันคือโจวฉางจู……ใช่ ผมได้ตัดสินใจแล้วว่าจะแนะนำใคร…… ขอขอบคุณสำหรับความไว้วางใจของหัวหน้านะครับ……. ใช่……ผมคิดว่าตำแหน่งรองหัวหน้าสำนักงานกิจการทั่วไป……” โจวฉางจูหยุดและมองไปที่ดงซูบิน “ ……ควรเป็นทดงซูบินเขาเป็นผู้สมัครที่เหมาะสมที่สุดที่จะทำหน้าที่นี้……หัสหน้าก็รู้จักเขา……ใช่ เขาเป็นชายหนุ่มที่วิ่งเข้าไปในกองไฟเพื่อเข้าไปเอาเอกสารที่ติดอยู่ในนั้น ……. ใช่. เขาเพิ่งทำงานในปีนี้และเขาก็ทำได้ดีเป็นพิเศษ……. ใช่ปีนี้……. แม้ว่าเขาจะไม่มีประสบการณ์ แต่นอกเหนือจากนี้เขาก็สมบูรณ์แบบ เขาโตเต็มที่แล้วพิถีพิถันและกล้าหาญ……ใช่ ผมแค่เสนอชื่อเขา……”
ดงซูบินกำกำปั้นของเขา หัวใจของเขาเกือบจะทะลุออกมาจากอก
หัวหน้าสำนักหยานดูเหมือนเขาจะมีปัญหาบางอย่าง เขาพูดถึง “ประสบการณ์” หลายครั้งในการสนทนา การแล่นเรือใบของเขาจะไม่ราบรื่นเมื่อเสี่ยวเกาจากฝ่ายการเมืองได้รับการเสนอชื่อเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าดงซูบินยังอ่อนประสบการณ์เกินไป
แต่เมื่อดงซูบินกำลังจะหมดหวังเขาได้ยินโจวฉางจูกล่าวในทันใด “ถูกต้อง? หัวหน้าหลี่อยู่ที่สำนักงานของหัวหน้าหรือป่าวครับ หัวหน้าสามารถถามหัวหน้าหลี่เกี่ยวกับซูบินได้…….” หลังจากคำพูดนั้นโจวจางจูถือมือถืออยู่และเงียบไป ประมาณ 3 ถึง 4 นาทีต่อมาโจวฉางจูก็ยิ้ม “ หัวหน้าหลี่ยังได้รับการเสนอชื่อดงซูบินให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานกิจการ? ใช่……ใช่……หัวหน้าคิดว่าอย่างไรบางครับ……ตกลง……ขอบคุณครับหัวหน้าหยานมากๆเลยนะครับ” โจวฉางจูยิ้มหลังจากวางสาย “ ซูบินนายโชคดีมากเลยนะ ฉันและหัวหน้าหลี่เสนอชื่อของนายเป็นหนึ่งในผู้สมัคร ถึงหัวหน้าสำนักจะไม่อนุมัติ แต่หัวหน้าหลี่ชิงได้เสนอชื่อคุณคนเดียว นั่นหมายความว่าสำนักงานกิจการทั่วไปของเรามีมุมมองที่เหมือนกัน หัวหน้าหยาน ไม่ได้พูดอะไรและนายจะได้รับการพิจารณาว่ามีคุณสมบัติเป็นหนึ่งในผู้สมัคร
‘นี้เป็นเรื่องจริงหรอเนี่ย?’
‘ฉันกำลังได้รับการเสนอชื่อจริงๆเหรอ!’
ดงซูบิน พูดอย่างสุดซึ้ง:“ หัวหน้าโจวคุณ……ผมพูดอะไรไม่ออกเลย? ผมยังไม่มีคุณสมบัติเพียงพอเลย……ผม……”
โจวฉางจูขัดจังหวะเขา:“ ฮ่าฮ่ามันเป็นเพียงการเสนอชื่อ ฉันจะบอกความจริงกับนาย ตำแหน่งนี้อาจยังไม่เหมาะสำหรับนาย แม้ว่าสำนักงานกิจการทั่วไปไม่ได้เสนอชื่อ ฉางจี้และเกาแพนเหว่ย แต่ชื่อของพวกเขาก็จะปรากฏในการประชุมผ่านแผนกอื่น ๆ ทั้งคู่มีภูมิหลังและเส้นสาย แทบเป็นไปไม่ได้ที่นายจะชนะพวกเขา” เนื่องจากโจวฉางจูเกษียณแล้ว เขาจึงไม่ปิดปังดงซูบินอีกต่อไป “ เราเสนอชื่อนายเพื่อให้ชื่อของนายปรากฏต่อหน้าหัวหน้าแต่ล่ะฝ่ายและสร้างความประทับใจให้นาย นี่จะเป็นการเพิ่มโอกาสในการที่นายจะได้เลื่อนตำแหน่งในครั้งต่อไป นายเข้าใจใช่ไหม?”
“ครับหัวหน้า. ขอบคุณหัวหน้าโจว ขอบคุณครับ!”
ตราบใดที่เขาได้รับการเสนอชื่อเขาก็ยังมีโอกาสอยู่เสมอ!
ดงซูบินรู้สึกว่าเขาโชคดีเกินไป เขาไม่ได้ทำอะไรผิดตั้งแต่วันที่เขาเข้าสำนักงานกิจการทั่วไป เขาช่วยให้โจวฉางจูซื้อขายหุ้นและพุ่งไปที่สำนักงานที่เกิดไฟไหมเพื่อเข้าไปเอาเอกสารที่ติดอยู่ในนั้น และสุดท้ายเขาก็ได้เห็นผลตอบแทนจากความพยายามทั้งหมดที่เขาทำ
ดงซูบินจะไม่ยอมแพ้ในโอกาสนี้สำหรับการเลื่อนขั้นของเขาอย่างแน่นอน!