POWER AND WEALTH (พลังและความมั่งคั่ง) - ตอนที่ 85
บทที่ 85 กล่องไม้ปริศนา!
ผู้แปล loop
ตอนนี้เวลาใกล้ถึงช่วงพักเที่ยวแล้ว หลี่ชิงขอให้ดงซูบินไปนั้งที่โรงอาหารกับเขา “ ซูบินนายมีแฟนไหม”
‘ฮะ? คำถามนี้อีกแล้วหรอ?’ ตั้งแต่วันที่ดงซูบินเข้ามาในสำนักงานใหม่เขาถูกถามคำถามนี้ไปแล้วไม่น้อยกว่า 4 คนที่ได้ถามคำถามเรื่องแฟนของเขาจริงแล้วเขาไม่ต้องการตอบคำถามนี้สักเท่าไรเป็นเพราะเขาไม่เคยออกเดทกับใครมาก่อนในชีวิตของเขาเลย……และนี่ไม่ใช่สิ่งที่น่าภาคภูมิใจเลยเช่นกัน แต่เขาต้องตอบทุกสิ่งที่หัวหน้าของเขาถาม ดงซูบินยิ้มค่อยๆยิ้มช้าและตอบว่า:“ ยังไม่มีเลยครับ ผมต้องให้ความสำคัญกับงานของผมก่อน เรื่องแฟนผมสามารถรอได้ ผมไม่รีบครับ” นี่ต้องเป็นเรื่องโกหกแน่ ๆเลย !
ขณะที่ทั้งคู่เดินออกจากอาคารสีเทาหลี่ชิงหัวเราะ:“ ฉันเกือบตำหนินายเพราะเรื่องนี้แล้วนะ”
ดงซูบินหัวเราะ
“ งานเป็นงานและผมไม่สามารถใช้มันเป็นข้ออ้างที่จะไม่มองหาคู่ชีวิตได้นะครับ” หลี่ชิงรู้สึกผิดเล็กน้อยต่อความเข้าใจผิดของดงซูบิน ก่อนหน้านี้และหลี่ชิงได้แนะนำดงในเรื่องการดำรงตำแหน่งหัวหน้าให้กับดงซูบินเช่นกัน “ ตอนนี้นายยังเด็กมากและได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้ดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าสำนักงานกิจการทั่วไป ผู้คนจะพยายามพูดลับหลังถึงเรื่องของนายและไม่พอใจกับการที่ในได้รับตำแหน่งในครั้งนี้ ฉันรู้ว่านายนะเป็นคนมีความสามารถ แต่อายุของนายก็ยังคงเป็นปัญหาสำหรับเรื่องนี้อยู่ดี นั่นเป็นสาเหตุที่นายควรจะมีแฟนแล้วรีบๆแต่งงาน อย่ารอให้มันช้าไปกว่านี้ เพราะการแต่งงานจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับนายได้”
“…… แต่งงานหรอครับ?”
ตอนนี้พวกเขาสองคนเดินไปถึงโรงอาหารและหลี่ชิงก็ตบหลังของดงซูบิน “นายก็ลองกลับไปคิดดูล่ะกันนะ”
หากหลี่ชิงไม่ได้แนะนำกับดงซูบินเรื่องแต่งงาน ดงซูบินคงจะไม่คิดถึงเรื่องนี้แน่ๆแต่แน่นอนถ้าเขาแต่งงานแล้วมีครอบครัวเขาจะดูน่าเชื่อถือมากกว่าตอนนี้แถมมันจะช่วยดงซูบินดูมีวุฒิภาวะมากขึ้น รวมถึงมันจะเป็นผลดีต่อตัวเขาเองด้วย แต่อย่างไรก็ดีถึงแม้ดงซูบินจะได้รับคำแนะนำเช่นนี้เขาก็ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เพราะเขาจะไปหาคนที่จะแต่งงานกับเขาได้ง่ายๆจากที่ไหนกันอีกทั้งเขาควรแต่งงานกับใคร แต่เมื่อเขาคิดเกี่ยวกับเรื่องของภรรยาในอนาคตของเขาก็มีผู้หญิงสองคนปรากฏขึ้นมาในใจของเขา หนึ่งในนั้นคือฉูหยวนและอีกคนหนึ่งก็คือ……ผู้หญิงที่เขาใช้พลังย้อนกลับของเขาเพื่อช่วยให้เธอจับโจรล้วงกระเป๋าได้ ผู้หญิงที่บอกว่าเธอเคยที่จะชวนเขาให้ไปทานมื้อค่ำกับเธอด้วยและผู้หญิงคนยังดูงดงามและเซ็กซี่มากๆ!
‘ทำไมฉันถึงคิดถึงเธอกัน’
ดงซูบินพยายามส่ายหัวเพื่อสลัดภาพของผู้หญิงคนนั้นให้ออกจากความคิดของเขา เธอเองก็ไม่ติดต่อดงซูบินกลับมานานแล้วและเธอก็น่าจะลืมดงซูบินไปแล้ว ดงซูบินคงไม่มีโอกาสที่จะได้พบเธออีกในอนาคต และตอนนี้ทางเลือกเดียวของเขาก็เหลือฉูหยวน หากเขาสามารถออกเดทกับฉูหยวนได้เรื่องทุกอย่างในชีวิตของเขาก็คงจะจบลงอย่างมีความสุข ‘เฮ้อ… .. ตอนนี้ฉูหยวนเธอกำลังคิดอะไรอยู่? เวรล่ะนี่ไม่ใช่เวลาที่จะคิดเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้’ ดงซูบินมีเป้าหมายที่จะต้องเก็บเงินให้ได้ 1 ล้านหยวนเพื่อจัดตั้งบริษัทให้กับฉูหยวนให้ได้เสียก่อน ในขณะเดียวกันเขาต้องคิดหาวิธีที่จะพิชิตใจเธอให้ และทั้งสองเรื่องที่เขาคิดอยู่ดงซูบิน ให้คำมั่นว่าจะเอามาให้ฉูหยวนให้ได้ภายในสองเดือน!
‘ถูกแล้ว! หาเงินก่อน! แม้ว่าจะไม่ใช่เพื่อฉูหยวนแต่ทว่าซูบินนายก็ต้องการเงินจำนวนมหาศาลอยู่ดี!’
‘เพื่อรถยนต์ บ้าน ฯลฯ ทุกอย่างต้องใช้เงินทั้งนั้น’
‘ภารกิจที่สำคัญที่สุดสองเรื่องในตอนนี้คือการสร้างหาเงินและพิชิตใจของฉูหยวนให้ได้’
……
ณ เช้าวันรุ่งขึ้น
อากาศวันนี้ดูแห้งๆและมีลมเย็นพัดผ่าน ใบไม้แห้งอยู่ทั่วทางเดิน
ดงซูบินในเสื้อแจ็คเก็ตลงจากรถบัส เขาเดินไปที่สำนักงานของเขาก่อน และในเวลา 10 โมงเช้าเขาเดินออกมาจากห้องทำงานของเสี่ยวหยานพร้อมกับเอกสารและกล้องดิจิทัล และเขาก็ไปที่ห้องทำงานของหลี่ชิงเพื่อรายงานภารกิจและกลับไปที่สำนักงานกิจการทั่วไป เขาแนะนำกับลูกน้องของเขาเกี่ยวกับงานแล้วเดินออกจากสำนักงานไปเพื่อไปหาแท็กซี่ในการเดินทางไปที่หยวนเมน
‘เกสต์เฮาส์‘ ของสำนักงานเขตตะวันตกตั้งอยู่ที่หยวนเมน มันเต็มไปด้วยบ้านหลังเล็กอยู่รอบๆและอาคารหลายหลัง ‘เกสต์เฮาส์‘ ซึ่งเคยได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ข่าวกรองนั้นตั้งอยู่ตรงกลางของสถานที่นั้น ‘เกสต์เฮาส์‘ นี้ต้องได้รับการปรับปรุง โดยคณะกรรมการพรรคได้หารือและตัดสินใจให้หัวหน้าเสี่ยวเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้ พวกเขาต้องการข้อเสนอแนะและรูปถ่ายของตำแหน่งปัจจุบันที่ถูกต้องเพื่อนำไปให้กับสำนักเมือง หากสำนักเมืองอนุมัติข้อเสนอนี้สำนักงานสาขาสามารถก็จะเริ่มปรับปรุง ‘เกสต์เฮาส์‘ ได้ ซึ่งงานวันนี้ของดงูซิบนคือการให้เขียนรายงานเกี่ยวกับเรื่องนี้
หลังจากเดินไปตามแม่น้ำของเมืองไปทางทิศตะวันตกดงซูบินมาถึงปลายทาง
‘ปังปังปังดิงดิงดิงดงดง’……ฝุ่นลอยฟุ้งไปทุกหนทุกแห่ง ชั่วระยะเวลาหนึ่งตอนนี้คนงานก่อสร้างกำลังรื้อบ้านเรือนอยู่
ดงซูบินปิดปากขณะที่ไอออกมาเนื่องจากฝุ่นที่ลอยอยู่ทั่ว เขาเดินไปทางด้านหลังของบ้าน และดงซูบินก็มองไปรอบ ๆ และเริ่มจดบันทึกสภาพแวดล้อม เขาหยิบกล้องออกมาถ่ายรูปสองสามภาพ แต่มีคนบางส่วนไม่ยินยอมที่จะย้ายออกไปมีชายชรา 3 คนและหญิงชราหนึ่งคน พวกเขากำลังนั่งอยู่ในลานพูดคุยถึงเรื่องนี้ เมื่อพวกเขาเห็นดงซูบินการถ่ายภาพอยู่ พวกเขาก็เดินมาล้อมดงซูบินไว้ทันที
“ พ่อหนุ่ม พ่อหนุ่มเป็นนักข่าวหรือเปล่า?” หญิงชรามองดูกล้องของดงซูบิน
ชายชราคนหนึ่งพูดอย่างตื่นเต้นขึ้นมาว่า:“ พ่อหนุ่มนักข่าว พ่อหนุ่มต้องเปิดเผยเรื่องพวกนี้นพ พวกเขาเป็นพวกผู้มีอิทธิพล พวกเขาชอบโยนก้อนอิฐมาที่บ้านของเราตอนดึก มันทำให้ทั้งหน้าต่างและประตูบ้านของเราเสียหายอีกทั้งพวกเขายังขู่พวกเราว่าถ้าเรายังไม่ย้ายออกพวกเขาจะไม่ปล่อยเราไว้แน่ๆ นี่……นี่มันผิดกฎหมายนะ”
ดงซูบินปิดสมุดบันทึกของเขา “ ผมขอโทษด้วยนะครับ คุณตาแต่ผมไม่ใช่นักข่าว”
ชายชราถามด้วยความอยากรู้:“ ถ้าอย่างนั้นทำไมพ่อหนุ่มทำไมถึงมาถ่ายรูปพวกนี้ไว้ล่ะ”
ดงซูบินอธิบายว่า:“ ผมเป็นนักเรียนที่เรียนศิลปะอยู่ ภาพเหล่านี้ผมที่จะนำกลับไปเป็นข้อมูลอ้างอิง”
ชายชราและหญิงชราได้ยินอย่างงั้นพวกเขาก็เดินกลับไปด้วยท่าทางที่ผิดหวัง
ดงซูบินแค่ยิ้มแล้วก็เดินต่อไปเรื่อย ๆ เขาจดโน๊ตแบบย่อๆโดยใช้ข้อความสำคัญแทนการโน๊ตแบบยาวๆตอนนี้เขาต้องการทำงานให้เสร็จและไปแวะเที่ยวตลาดโบรา เขาต้องการดูว่าวันนี้เขาจะได้พบกับผู้โชคดีไหม ตอนนี้การเงินโดยรวมของดงซูบินนั้น เขามีแค่ 100,000 หยวนเท่านั้น และมันมันยังห่างไกลจากเป้าหมาย 1 ล้านหยวนของเขาอยู่มาก
ในตอนเที่ยงดงซูบินไปที่ร้านอาหารเล็ก ๆ ตรงข้ามเพื่อทานอาหารกลางวัน
เขาคิดว่าเขาน่าจะหาผู้เชียวชาญด้านของโบราณสักคนและเดินตามคนๆนั้นไป เพราะเขาสามารถใช้ “ย้อนกลับ” หนึ่งนาทีเพื่อซื้อของตัดหน้าผู้เชียวชาญด้านของโบราณคนนั้นได้ ‘เฮ้อ …… แต่มีผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของโบราณนั้นมีอยู่ไม่มาก นอกจากนี้สินค้าที่เลือกโดยผู้เชี่ยวชาญอาจไม่ได้เป็นของแท้ก็ได้’ เขาควรทำอย่างไร เล่นพนันวอลนัทอีกครั้งหรอ? แต่เขาคงจะไม่โชคดีทุกครั้งไปหรอก หากเขาเพียง แต่รอให้ใครบางคนแกะผลวอลนัทออกมาและใช้ “ย้อนกลับ” เพื่อแย่งผลวอลนัทนั้นมามันก็จะเป็นการสิ้นเปลืองพลังพิเศษของเขาเปล่า ต่อให้เขาจะสามารถใช้ “ย้อนกลับ”ได้สองครั้งและแย่งวอลนัทหัวสิงโตขนาด 45 มม. มาได้แต่เขาก็สามารถขายมันได้เพียงไม่กี่พันหยวนเท่านั้น และเขาจะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ถึงจะได้ 1 ล้าน นอกจากนี้ไม่น่าจะมีผลวอลนัทมากขนาดนั้นในฤดูกาลนี้ ซึ่งถ้าเขาต้องทำเล่นพนันจริงเป้าหมายของเขาก็คงต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งปีในการบรรลุผล!
ตอนนี้ดงซูบินเริ่มปวดหัว ถึงแม้เขาจะมีพลังแต่มันกลับมันก็ยากมาที่จะหาเงินได้!
ดงซูบินกลับไปที่ย่านที่อยู่อาศัยและดูอาคารทำกำลังถูกรื้อ ดงซูบินกำลังคิดหาวิธีการสร้างรายได้และเขาก็ถ่ายภาพในเวลาพร้อมกัน เขาควรไปหาเงินจากที่ไหนได้? เขาคงไม่ได้หวังว่าจะได้พบแจกันลายครามของราชวงศ์หยวนหรือราชวงศ์ต้าชิง c9jเขาต้องการเพียงสิ่งที่จะทำให้เขามีหาเงินได้ 100,000 หยวน! ‘เฮ้อ……ฉันจะหาสมบัติพวกนั้นได้ที่ไหนกัน’
ในตอนนี้ดงซูบินเหมือนกับเขาอยู่ในฝันกลางวันอยู้ ดงซูบินก็ได้ยินเสียงคนตะโกนมาหาเขาจากด้านหลัง
“ เฮ้เฮ้! นายนะกำลังทำอะไรอยู่?” ดงซูบินหันมามองชายวัยกลางคนๆนั้น
ดงซูบินที่กำลังถ่ายภาพอยู่ก็ขมวดคิ้วขึ้นมา:“ มีอะไรอย่างงั้นหรอ!”
“นายคิดจะทำอะไรเนี่ย? หยุดถ่ายภาพพวกนั้นส่ะ!”
“ทำไมผมถ่ายภาพอยู่แล้วไปรบกวนพวกคุณอย่างงั้นหรอ”
มีคนงานบางคนแบกอิฐไว้ข้างหลังชายวัยกลางคน จากท่าทางของเขาอเขาน่าจะเป็นหัวหน้าคนงาน ชายวัยกลางคนก้าวไปข้างหน้าและพยายามคว้ากล้องของดงซูบินมา “ นี้อยู่ในเขตการทำงานของเรา นายได้ขออนุญาตเข้ามาถ่ายภาพรึยัง? “ชายคนนั้นคิดว่าดงซูบินนั้นเป็นนักข่าว เขาได้รับคำสั่งจากคนที่เบื้องบนของเขา ไม่ให้นักข่าวได้รายงานข่าวจากไซต์งานของพวกเขาและเพราะอาจจะกลายเป็นข่าวเชิงลบ นี่คือสาเหตุที่ชายคนนี้พยายามแย่งกล้องของดงซูบินไป
ดงซูบินหลบเขาและถามด้วยใบหน้าที่ไม่พอใจ “ พื้นที่เป็นของรัฐบาล มันไปเป็นที่ของคุณตั้งแต่เมื่อไรกัน?”
ชายคนนั้นจ้องไปที่ดงซูบินอย่างดุเดือด “หุบปาก! เอากล้องนั่นมาให้ฉัน!”
“ อย่างงั้นผมขอชี้แจ้งชัดเจน ผมไม่ใช่นักข่าว ผมกำลังถ่ายภาพนี้เพื่อนำไปเป็นแผน” ดงซูบินถกเถียงกับและเก็บกล้องไว้อย่างรวดเร็ว ดงซูบินมองชายคนนั้นในสายตาที่ดุดัน “ ทำไมคุณถึงพยายามแย่งของของผมโดยไม่ถามก่อน? คุณเป็นขโมยหรือป่าวเนี่ย อย่างงั้นผมจะไม่รบกวนคุณแล้วก็ได้! ใครเป็นคนรับผิดชอบที่นี้ ไปตามคนๆนั้นมาสิ!” ดงซูบินเองคุ้นเคยกับการสั่งคนของเขาเมื่อสองวันก่อนและเขาก็ไม่มีปัญหาใดๆในการพูดคำเหล่านั้นออกมา
ชายวัยกลางคนหัวเราะ “โอ้? นายแน่ใจแล้วหรอที่จะมาวางท่าทางใหญ่โตที่นี้ นายต้องการเจอหัวหน้าของเรายังงั้นหรอ ฉันนี้แหละเป็นหัวหน้าของที่นี่!” เขาพูดและเดินหน้าต่อไปเพื่อพยายามคว้ากระเป๋าของดงซูบินมา “ เอากล้องมาให้ฉันสิ!”
“หยุดนะ!”
ในขณะนี้คนงานสองสามคนที่ทำงานอยู่ข้างกำแพงที่กำลังพังทลายลง พวกเขาก็ก็ตะโกนขึ้นมาโดยมีหนึ่งในคนงงานนั้นโยนจอบและคุกเข่าลงบนไปกับพื้นเพื่อใช้มือของเขาขุดดินแทน เขาขุดฝากล่องไม้ที่ดูเหมือนจะพังออกมา
หัวหน้าคนงานวัยกลางคนถามว่า“ มีอะไรผิดปกติ”
คนงานที่เน้นสำเนียงตะวันออกเฉียงเหนือตะโกนว่า“ มันเหมือนกับกล่องอะไรสักอย่าง ตอนที่ผมขุดแผ่นกระเบื้องออกมาแล้วซึ่งมันอยู่ข้างใต้แผ่นกระเบื้องนี้ ผมคิดว่าน่าจะมีสมบัติอยู่ในนนั้นนะ!”
หัวหน้าคนงานก็รู้สึกประหลาดใจ “สมบัติ?!”
ตอนนี้ดงซูบินยังคงตกตะลึง เขาพยายามเหยียดคอเพื่อดูว่าสมบัติว่าสมบัตินั้นคือสมบิตอะไร แต่เขาก็เห็นไม่ชัด
คนงานที่พูกสำเนียงตะวันออกเฉียงเหนืออีกคนที่คุกเข่าพูด “ มีหีบโลหะขนาดใหญ่อยู่ในกล่อง ผมไม่แน่ใจว่ามันมีอะไรอยู่ในนั้น!”
กล่อง? หน้าโลหะ?
ชายวัยกลางคนดูตื่นเต้นมากๆ เขาอยู่ในสายงานนี้มานานหลายปีและเขารู้ว่าบางครั้งคนงานจะพบสมบัติที่ฝังอยู่ใต้ดิน นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกในงานของเขา เมื่อปีที่แล้วตอนที่เขาอยู่ที่ทำงานในถนนฉางชุนเขาก็พบจี้หยกสองก้อนฝังอยู่ใต้บ้าน เขาขายจี้พวกนั้นแล้วมันมีมูลค่าสูง ชายวัยกลางคนดูมีความสุขมาก ‘ฮ่า ๆ ๆ ๆ วันนี้เป็นวันโชคดีของฉัน’ เขาหันหลังกลับและจ้องไปที่ดงซูบิน เขาไม่สนใจที่จะแย่งกล้องของดงซูบินอีกต่อไป เขาผลักดงซูบินกลับไป:“ โอเคโอเค! ออกไปได้แล้ยนายนะ!”
‘หมอนี้คิดว่าจะไล่ฉันออกไปได้ง่ายๆหรอ?’
‘โชคก้อนใหญ่ตกลงมาหาฉันแล้ว!’
หลังจากดงซูบินเห็นกล่องไม้นั้นดวงตาของเขาก็เปร่งประกายขึ้นมาทันที “ย้อนกลับ!!!”