Rebuild World - ตอนที่ 8 ความเชื่อใจ
บทที่ 8 ความเชื่อใจ
หลังจากกลับมาถึงเมืองอย่างปลอดภัย อากิระก็ตรงไปที่จุดแลกเปลี่ยนและต่อแถวที่หน้าเคาน์เตอร์ และเช่นเดียวกับครั้งที่แล้ว ชายที่ยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์คนนั้นคือโนจิมะ
โนจิมะจำอากิระได้ แต่เขาไม่ได้ทักทายอากิระทันที เขาทำราวกับว่าอากิระเป็นเพียงคนแปลกหน้าสำหรับเขา
“เอา ID นักล่าของนายให้ฉันถ้านายมี… ดูนายเปลี่ยนไปนะ”
โนจิมะค่อนข้างแปลกใจที่อากิระเปลี่ยนไปมาก ครั้งสุดท้ายที่เขาเจออากิระ เขาคิดว่าอากิระเป็นเพียงเด็กเหลือขอจากสลัม แต่อากิระดูเปลี่ยนไปมากในตอนนี้ เขาดูเหมือนนักล่าจริง ๆ
ด้วยอุปกรณ์ที่เขาปล้นมาจากคาฮิโมะและเฮย์ยะ แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมด ความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดคือออร่าจางๆ ที่เขาปล่อยออกมา มันเป็นออร่าของคนที่ผ่านการต่อสู้จริงในซากปรักหักพัง
เพียงแค่ลงทะเบียนเป็นนักล่ามันไม่ได้หมายความว่าคุณจะเป็นนักล่าตัวจริง แต่คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าโนจิมะนั้นเป็นนักล่าตัวจริง… แม้จะเป็นมือใหม่ก็ตาม
เมื่อมองไปที่อากิระ โนจิมะหัวเราะเล็กน้อยขณะที่เขาคิดว่าคนแบบอากิระคงจะไม่ตายในเร็วๆนี้ จากนั้นเขาก็สงบสติอารมณ์และเริ่มดำเนินการตามขั้นตอนของพนักงาน
“แล้วครั้งนี้นายมีอะไรบ้างล่ะ… มีอย่างเดียวเหรอ? แปลว่าครั้งก่อนนายโชคดีล้วนๆเลยสินะ”
แม้ว่ามันจะไม่ได้ดูแพงอะไร แต่มันคือสิ่งของที่เขานำกลับมาหลังจากเอาชีวิตตัวเองเป็นเดิมพัน ดังนั้น อากิระจึงรู้สึกรำคาญเล็กน้อยเมื่อโนจิมะพูดจาดูถูกสิ่งของที่เขาเอามา
“โทษทีแล้วกัน ที่มันมาสภาพนี้ แต่ถึงแบบนั้นมันก็เป็นของที่วัตถุโบราณจากโลกเก่าที่ฉันนำกลับมาจากซากปรักหักพังจริงๆ ตามกฎ ฉันควรจะได้เงินที่เหลือจากโบราณวัตถุก่อนหน้านี้ด้วย… และอีกอย่าง…มันไม่ใช่โชค”
อากิระทำหน้าบิดเบี้ยว ซึ่งโนจิมะก็หัวเราะออกมาเบาๆ
“เดี๋ยวก็รู้”
โนจิมะหยิบถาดแบบเดียวกับที่อากิระเคยใช้จากชั้นวางด้านหลัง และใช้มืออีกข้างเพื่อควบคุมเครื่อง หลังจากนั้นก็มีธนบัตรออกมาจากเครื่องข้างๆ โนจิมะเอาเงินนั้นใส่ซองก่อนจะยื่นให้อากิระพลางหัวเราะ
“เราตรวจสอบโบราณวัตถุที่นายนำมาก่อนหน้านี้เสร็จแล้ว สำหรับครั้งนี้ เงินทั้งหมดที่นายจะได้คือ 200,000 ออรัม”
จิตใจของอากิระว่างเปล่าไปชั่วขณะเมื่อได้ยินตัวเลขนั้น จากนั้นเขาก็ค่อยๆ เอื้อมมือไปหยิบซองและหยิบเงินออกมา หลังจากสัมผัสและเห็นเงินต่อหน้าเขาก็ตกตะลึงทันที
เมื่อวานนี้เขายังสู้ตายเพียงเพราะ 300 ออรัมอยู่เลย แต่ว่าวันนี้เขามีเงินอยู่ 200,000 ออรัม นี้มัน….ช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ
โนจิมะพอใจกับปฏิกิริยาของอากิระและหัวเราะ
“มีเด็กไม่กี่คนที่ได้เงินมากมายจากที่นี่รู้ไหม? ใช้มันอย่างชาญฉลาด โอเค๊? เอาล่ะ…รีบไปซะก่อนที่จะเริ่มดึงดูดความสนใจคนอื่นไปมากกว่านี้”
เมื่ออากิระสงบสติอารมณ์ลงได้ เขาก็เก็บซองนั้นใส่กระเป๋าอกทันทีด้วยความตื่นตระหนกและออกจากจุดแลกเปลี่ยนอย่างร้อนรน เมื่อมองดูอากิระที่ท่าทีเปลี่ยนจากนักล่ามือใหม่กลับไปเป็นเด็กชายตัวเล็กๆจากสลัม โนจิมะก็หัวเราะแห้งๆ
แม้จะออกจากจุดแลกเปลี่ยนแล้ว อากิระก็ยังคงเคลื่อนไหวอย่างร้อนรน เขาไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้เลย เมื่อเห็นอย่างนั้นอัลฟ่าก็พูดกับเขาด้วยน้ำเสียงที่ผ่อนคลาย
“อากิระ ใจเย็นๆ ถ้านายปล่อยให้ตัวเองหวั่นไหวกับเงินจำนวนแค่นี้ อนาคตมีแต่จะแย่ลงรู้ไหม?”
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ อากิระซึ่งพูดไม่ออกหลังจากได้รับเงินจำนวนที่เขาไม่เคยคิดมาก่อนก็เปิดปากโดยไม่ได้ตั้งใจ
“ฮะ! เงินจำนวนแค่นี้งั้นเรอะ!? เธอพูดเชี่ยอะไร!? มันคือ 200,000 ออรัม นะเห้ย!? มันเป็นเงินจำนวน โ ค ต ร เ ย อ ะ สำหรับฉัน”
อัลฟ่าจับจ้องไปที่อากิระขณะที่เธอพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ไม่… มันเป็นเพียงจำนวนเล็กน้อยเท่านั้นแหละ ไม่มีอะไรเทียบได้กับจำนวนเงินที่นายจะได้จากการช่วยเหลือของฉัน จำเอาไว้ซะ”
“ก็-ก็ถึงเธอจะบอกอย่างนั้น…”
“ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้นายดูเหมือนเด็กปัญญาอ่อนที่กำลังพูดกับตัวเอง ระวังเอาไว้ด้วย”
อากิระปิดปากด้วยความตื่นตระหนก เนื่องจากเงินจำนวนมากที่เขาเพิ่งได้รับ อากิระกลายเป็นเป้าหมายที่ดูอ่อนแอและน่าอร่อยเป็นอย่างยิ่ง
ยิ่งไปกว่านั้น เขายิ่งทำตัวผิดสังเกตุเข้าไปอีกเนื่องจากทำตัวร้อนรน
“วันนี้พักผ่อนกันเถอะ ฉันแน่ใจว่านายค่อนข้างเหนื่อยหลังจากกลับมาจากซากปรักหักพัง ยิ่งกว่านั้น นายจะกลายเป็นจุดสนใจมากกว่าเดิมถ้านายยังยืนอยู่ตรงนี้”
“เธอพูดถูก”
อากิระสงบพอที่จะตอบอัลฟ่าด้วยเสียงกระซิบ แต่เขายังคงดูกระสับกระส่ายระหว่างทางไปยังที่นอนของเขา แต่จู่ๆ อัลฟ่าก็หยุดเขาด้วยสีหน้าจริงจัง
“ไปอีทางหนึ่ง”
“เอ๊ะ? แต่ที่นอนของฉันอยู่ทางนั้นนะ”
“ไม่ วันนี้นายจะนอนในโรงแรม ตอนนี้นายมีเงินสำหรับเรื่องอะไรแบบนั้นแล้วนี่”
“อะ…เอ่อเธอก็พูดถูก แต่ว่า…”
เพราะเขาเพิ่งได้รับเงินจำนวนมากชนิดที่เขาไม่เคยคิดฝัน อากิระจึงรู้สึกหนักใจที่ต้องพรากจากเงินก้อนนี้ แต่แล้วอัลฟ่าก็ยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยนราวกับว่าเธอกำลังตำหนิเด็กเล็กๆ
“ถ้านายรู้สึกหนักใจที่ต้องใช้จ่ายเงินจำนวนแค่นี้ มันจะรั้งการใช้ชีวิตของนายนะรู้ไหม และไม่ใช่ว่าเราจะใช้มันโดยเปล่าประโยชน์ เนื่องจากนายได้มันมาอย่างถูกต้อง นายจึงควรใช้มันอย่างเหมาะสมด้วย
ฉันจะช่วยเหลือนายในด้านการใช้จ่ายเงินอย่างมีประสิทธิภาพด้วย… ดังนั้นนายวางใจในการช่วยเหลือของฉันได้เลย”
อากิระไม่สามารถปฏิเสธได้หลังจากถูกบอกเช่นนั้น ทั้งคู่สัญญาว่าจะสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าอย่างหนักแน่นในขณะที่พยายามสงบสติอารมณ์
“…ตกลง.”
“ขอบคุณ ถ้างั้นเราไปโรงแรมกันเลยดีไหม? ยังไงก็ตาม จะโอเคไหมถ้าฉันเป็นฝ่ายเลือกโรงแรมเอง”
“เอาสิ ฝากด้วยนะ”
“มาทางนี้”
อัลฟ่าหัวเราะคิกคักขณะที่เธอเดินนำหน้าอากิระเพื่อนำทางเขา ขณะที่เขาติดตามอัลฟ่าจากด้านหลัง เขาอดไม่ได้ที่จะกังวลว่าจะต้องใช้เงินเท่าไหร่สำหรับการเข้าพักที่โรงแรม
เป็นเรื่องปกติที่โรงแรมจะอนุญาตให้ลูกค้าพกอาวุธได้ แต่จะยกเว้นอาวุธที่พลังทำลายล้างสูง มันจะทำให้อีกฝ่ายเสียชีวิตไม่พอ มันยังสร้างความเสียหายอย่างมากให้กับโรงแรม หากพวกเขาใช้อาวุธเหล่านั้นเพื่อก่อความวุ่นวาย
ด้วยเหตุนี้ ทางโรงแรมหวังใจเป็นอย่างยิ่งว่าลูกค้าทุกคนจะประพฤติตัวดี เป็นกฎพื้นฐานที่ลูกค้าทุกคนควรปฏิบัติตาม อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคุณจะทำให้ใครบางคนเสียชีวิตหรือทรัพย์สินเสียหายที่โรงแรม คุณก็ยังถือว่าเป็นลูกค้าที่ประพฤติตัวดี หากคุณจ่ายค่าชดเชยให้โรงแรมอย่างเหมาะสม
แต่เนื่องจากอัลฟ่าเลือกโรงแรมราคาถูกใกล้กับสลัม กฎของที่นี่จึงไม่เข้มงวดมากนัก โรงแรมยินดีรับเด็กที่พกอาวุธจากสลัม ตราบใดที่เด็กคนนั้นจ่ายเงินให้ ดังนั้น อากิระจึงสามารถเข้าพักได้โดยไม่มีปัญหาใดๆ
อากิระได้ห้องราคากลางๆ ห้องค่อนข้างใหญ่และเนื่องจากเป็นโรงแรมที่ออกแบบมาสำหรับนักล่า จึงมีพื้นที่ว่างขนาดใหญ่สำหรับนักล่าในการบำรุงรักษาอุปกรณ์หรือเก็บวัตถุโบราณ ในห้องมีอ่างอาบน้ำและเตียงนอนด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น ภายในตู้เย็นยังมีอาหารอีกมากมาย นอนที่นี่ปลอดภัยกว่านอนข้างนอกอย่างแน่นอน มีความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงเมื่อเปรียบเทียบกับที่นอนของอากิระที่อยู่ในตรอกนั่น
“คืนละ 20,000 ออรัม เรอะ… นี่มันปล้นกันชัดๆ…”
อากิระเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าทำไมเขาต้องจ่ายเงินมากมายสำหรับค่าห้อง แต่อากิระก็ไม่มีความสุขเลย แม้ว่าเขาจะได้นอนในที่หรูหราซึ่งดีกว่าที่นอนของเขาในตรอกสลัมก็ตาม เขาทำหน้าค่อนข้างซับซ้อนแทน
การที่เขาเข้าใจว่าทำไมเขาจึงควรจ่ายเงินจำนวนมากนั้นไม่เหมือนกับการจ่ายจริง มือของอากิระสั่นในขณะที่เขากำลังจ่ายค่าห้อง อัลฟ่าเป็นคนที่เลือกห้อง ถ้าอากิระเลือกเองเขาจะเลือกห้องที่ถูกกว่า
อากิระถอนหายใจ เห็นได้ชัดว่าเขาค่อนข้างใจหายเพราะต้องเสียเงินไปกับค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นทั้งๆที่เขาไม่เห็นด้วย เมื่อรู้เช่นนั้น อัลฟ่าก็หัวเราะ
“ฉันแน่ใจว่านายมีอะไรในใจอยากจะพูด แต่ตอนนี้นายควรพักผ่อนก่อน เช่นการอาบน้ำ?”
“…อาบน้ำ? อ่างอาบน้ำ?! ใช่ๆ ฉันจะไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้”
อากิระยิ้มอย่างมีความสุขทันทีที่ได้ยินคำว่าอาบน้ำ
มีอาคารที่มีห้องอาบน้ำในเมืองสลัมเช่นกัน แต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถเพลิดเพลินกับสิ่งอำนวยความสะดวกดังกล่าวได้ เว้นแต่ว่าจะเป็นเจ้าของโรงอาบน้ำหรือผู้ที่มีเงินมากพอที่จะจ่ายค่าอาบน้ำ
สำหรับเด็กน้อยที่อาศัยอยู่ในมุมหนึ่งของตรอกหลังเช่นอากิระ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีโอกาสได้เพลิดเพลินกับสิ่งนั้น สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือใช้ผ้าเช็ดตัวโดยใช้น้ำที่ไม่ใช่น้ำดื่ม
อากิระจำได้เพียงลางๆว่าการอาบน้ำเป็นอย่างไร เขาเดินไปที่อ่างอาบน้ำอย่างมีความสุข
อากิระล้างตัวระหว่างรอน้ำร้อนเติมอ่างอาบน้ำ เขาล้างทุกซอกทุกมุมของร่างกายด้วยสบู่ที่โรงแรมเตรียมไว้ และมีความสุขกับการใช้น้ำจำนวนมาก มันไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถทำได้มาก่อน
เขากำลังเพลิดเพลินกับความหรูหราที่เกินเอื้อมเมื่อเขาอาศัยอยู่ในตรอกสลัม ใช้เวลาพักหนึ่งก่อนที่เขาจะล้างโคลนและคราบเปื้อนออกจากร่างกายและเริ่มทำฟองจากสบู่
เมื่อเขาล้างร่างกายเสร็จแล้ว เขาก็ตรวจอุณหภูมิน้ำในอ่างอาบน้ำ จากนั้นเขาก็จุ่มตัวลงในอ่างน้ำร้อนทันทีจนน้ำอยู่ระดับไหล่ เขาผ่อนคลายในขณะที่เขาปล่อยเสียงครวญครางแปลก ๆ
จากนั้นเขาก็ปล่อยให้น้ำเข้าครอบงำร่างกายของเขาราวกับว่าน้ำร้อนช่วยชะล้างความเหนื่อยล้าทั้งหมดของเขา เมื่อใบหน้าของเขาเริ่มผ่อนคลายลง สติของเขาก็ละลายลงไปในน้ำร้อน และเขาอดไม่ได้ที่จะพึมพำอย่างสบายใจ
“น้ำเป็นยังไงบ้าง?”
อากิระหันไปทางต้นเสียงทันที เขาเห็นอัลฟ่ากำลังจุ่มตัวเองอยู่ในอ่างอาบน้ำพร้อมกับอากิระ เธอนั่งในท่าทางยั่วยวนข้างอากิระ แต่หมอกทำให้อากิระไม่สามารถมองเห็นรูปร่างของเธอได้ชัดเจน
หยดน้ำก่อตัวขึ้นบนผิวของเธอและไหลลงไปในหุบเขากลางหน้าอกของเธอ สิ่งเดียวที่ซ่อนเรือนร่างมหัศจรรย์นั้นไว้คือหมอกที่เกิดจากน้ำร้อน
(Avolenn: หมอกศีลธรรม! ศัตรูของมนุษยชาติชัดๆ!)
แน่นอน เนื่องจากอัลฟ่าไม่มีร่างเนื้อ เธอจึงไม่ได้จุ่มตัวเองลงไปในน้ำจริงๆ เธอเพียงแสดงภาพดังกล่าวขึ้นมา แต่เนื่องจากเป็นภาพที่เกิดจากการคำนวณระดับสูง ภาพนั้นจึงดูเหมือนจริงมาก
มันเป็นภาพที่เกิดจากการคำนวณการหักเหของแสงที่โดนกระทบจากไอของน้ำร้อน ตราบใดที่อากิระไม่เอื้อมมือไปหาเธอ เธอก็เหมือนอยู่ตรงนั้นจริงๆ สิ่งเดียวที่แสดงให้เห็นว่าร่างที่สวยงามของเธอนั้นไม่ใช่ของจริงคือไอน้ำร้อนที่ไหลผ่านร่างกายของเธอ
จิตใจของอากิระยังคงมึนงงจากความสุขในขณะที่เขาตอบกลับ
“…นี่มันสวรรค์… ทำไมเธอถึงเปลือยกายอีกแล้วล่ะ?”
อัลฟ่าหัวเราะคิกคักอย่างซุกซน
“เป็นนายจะใส่เสื้อผ้าเวลาอาบน้ำเหรอ?”
“…ก็จริง”
เขาเข้าใจในคำตอบของอัลฟ่าและพยักหน้าเล็กน้อยโดยไม่แสดงปฏิกิริยามากนักเมื่อเห็นเธอเปลือยเปล่า เขาเอนหลังและเพลิดเพลินกับการอาบน้ำต่อไป
อัลฟ่ายังคงจ้องมองอากิระและหัวเราะคิกคัก เธอทักเรื่องปฎิกิริยาของอากิระ
“อากิระ นายไม่มีอะไรจะพูดหลังจากที่เห็นร่างกายของฉันแล้วเหรอ?”
อากิระดูค่อนข้างงงขณะที่เขาเอียงศีรษะ เขาพยายามใช้สมองของเขา แต่สติส่วนใหญ่ของเขาละลายไปในน้ำร้อนแล้ว ดังนั้นเขาจึงตอบกลับได้เพียงคำพูดขาดๆหายๆ
“…? …ก็… เธอพูดถึง…อะไรแบบว่า… บางอย่างเกี่ยวกับ… คอมพิวเตอร์กราฟิกหรืออะไรทำนองนั้น… เกี่ยวกับ…มันเป็น…ของปลอม… ใช่ไหม?”
“ก็ใช่ นายพูดถูกเรื่องนั้น แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นนี่ นายมีความเห็น ความประทับใจ หรืออะไรหลังจากได้เห็นเรือนร่างที่สวยงามของฉันหรือเปล่า?”
อากิระเอียงศีรษะอีกครั้งในขณะที่ดูงุนงง หลังจากพยายามดึงสติของเขาที่ตอนนี้หยุดทำงาน ในที่สุดเขาก็เปิดปากพูด
“…เธอ… หน้าอกใหญ่…?”
อัลฟ่าหัวเราะคิกคัก
“ก็ใช่ แต่ฉันกำลังขอความคิดเห็นของนายเกี่ยวกับรูปร่างของฉัน เช่นความชอบและสเปคของนาย แต่… คำตอบของนายตอนนี้มันดูจืดไปหน่อย”
แม้ว่าอากิระจะเป็นเพียงเด็กชายตัวเล็ก ๆ แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนความจริงที่ว่าเขากำลังอาบน้ำร่วมกับสาวสวย แต่ปฏิกิริยาของอากิระนั้นน้อยมาก ราวกับว่าเขาไม่มีความสนใจในหน้าอกที่เต่งตึง ผิวที่เนียนนุ่ม หรือแผ่นหลังที่เรียบเนียนของเธอ
สำหรับอากิระที่ปล่อยให้น้ำร้อนครอบงำเขาแล้ว สายตาของเขากำลังบอกว่าเขาไม่สนใจร่างกายที่เปลือยเปล่าของอัลฟ่าเลยแม้แต่น้อย
ก่อนที่น้ำร้อนจะกล่อมอากิระให้หลับ อัลฟ่าก็เตือนเขาพร้อมกับหัวเราะคิกคัก
“นายจะจมน้ำตายถ้าคุณนอนที่นี่ รู้ไหม”
“…ไม่ เซ่… ฉันจะปล่อยให้…ตัวเองตายที่นี่… ได้ยัง…ไง?”
“ลุกจากอ่าง เช็ดตัวให้แห้ง เข้านอน”
“…โอเค”
อากิระลุกขึ้นพร้อมกับเดินโซเซไปมา แล้วค่อยๆ ลากตัวเองออกจากอ่างอาบน้ำ จากนั้นเขาก็เช็ดตัวเปลี่ยนเป็นชุดนอนแล้วกระโดดลงบนเตียง จากนั้นเขาก็โจมตีจากความง่วง
“ราตรีสวัสดิ์.”
“ราตรีสวัสดิ์…”
ราตรีสวัสดิ์ที่อัลฟ่ามักจะพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลและไพเราะ อากิระทำได้เพียงตอบกลับไปอย่างคลุมเครือด้วยความง่วง จากนั้นเขาก็ตรงไปยังดินแดนแห่งความฝัน
*******************************************
วันรุ่งขึ้น หลังจากพระอาทิตย์ขึ้นได้ไม่นานนักอากิระก็ตื่น เมื่อเทียบกับตารางปกติของเขา เขาตื่นสายกว่าปกติมาก ความเหนื่อยล้าทั้งหมดที่ก่อตัวขึ้นและเตียงที่ดีกว่าปกติของเขาที่ใช้ในตรอกสลัมทำให้เขาตื่นสาย
และแม้ว่าเขาจะลืมตาขึ้นแล้ว อากิระก็ยังรู้สึกสับสน เตียงนอนแสนสบายทำให้สมองของเขามึนงง แต่แล้วอัลฟ่าก็พูดกับเขาพร้อมกับยิ้ม
“อรุณสวัสดิ์อากิระ นายหลับสบายดีไหม?”
“…อรุณสวัสดิ์ อัลฟ่า…? เดี๋ยวนะ?! ฉันอยู่ที่ไหนเนี่ย!?”
เมื่ออัลฟ่าพูดกับเขา สติของเขาก็กลับคืนมา แต่แล้วอากิระก็สะดุ้งตัวขึ้นทันทีเมื่อเขาพบว่าเขาตื่นขึ้นมาในที่ที่ไม่รู้จัก จากนั้นเขาก็มองไปรอบ ๆ ด้วยความตื่นตระหนก ถ้าเขาอยู่ในตรอกสลัมและไม่ระวังสิ่งรอบข้าง มันจะเป็นความผิดพลาดร้ายแรงและตอนนี้เขาคงตายไปแล้ว ใบหน้าของเขาซีดในขณะที่เขากำลังตื่นตระหนก
อัลฟ่าตอบคำถามของอากิระด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเพื่อให้อากิระสงบลง
“นี่คือห้องในโรงแรมที่นายพักอยู่ จำได้ไหม?”
ในที่สุดอากิระก็นึกขึ้นได้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อวานนี้ในขณะที่เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“…ใช่สิ เมื่อวานฉันนอนในโรงแรมนี่นา”
อัลฟ่าชี้นิ้วของเธอด้วยท่าทางสงบไปที่ถาดอาหาร
“ตอนนี้นายจะกินอาหารเช้าก่อนไหมล่ะ? วันนี้นายไม่จำเป็นต้องไปที่ศูนย์แจกอาหาร เพราะงั้นไม่ต้องรีบก็ได้”
อาหารรวมอยู่ในค่าเช่าแล้ว และจะไม่มีการคืนเงินใดๆ หากเขาไม่กินอาหาร อากิระเริ่มมีความสุขกับอาหารที่ปกติเขาไม่เคยมีโอกาสได้กิน
อาหารนั้นอุ่นและน้ำดื่มก็เย็นชื่นใจ เท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้อาหารจานนี้พิเศษกว่าอาหารที่มีจำหน่ายทั่วไป ไม่ต้องพูดถึงว่าเขาสามารถลิ้มรสอาหารดังกล่าวในที่ส่วนตัวซึ่งไม่มีใครจ้องจะแย่งชิงอาหารจากเขา อากิระอดไม่ได้ที่จะผ่อนคลายในขณะที่เขากำลังเพลิดเพลินกับอาหารที่เขานึกไม่ถึงว่าจะเพลิดเพลินได้
[นี่คือผลจาก 200,000 ออรัม ที่ฉันได้รับมาเมื่อวานนี้สินะ]
อัลฟ่ายิ้มให้อากิระอย่างมีความหมายราวกับว่าเธอรู้ว่าอากิระคิดกำลังอะไรอยู่
“ดีรึเปล่าที่ได้ค้างคืนในโรงแรมแบบนี้?”
“ใช่ มันค่อนข้างดีเลย”
ความเสียดายเงินในจิตใจของอากิระรู้สึกจั๊กจี้ในขณะที่เขาตอบอย่างตรงไปตรงมา แต่เขาก็ไม่สามารถหาข้อโต้แย้งมาหักล้างได้ เขารู้สึกดีที่ได้ทำแบบนี้ นั่นคือเหตุผลที่เขาตัดสินใจตอบเธออย่างตรงไปตรงมา อัลฟ่าหัวเราะอย่างพอใจและสนทนากันต่อ
“ฉันจะบอกแผนของฉันสำหรับอนาคตให้นายฟังขณะที่นายทานอาหาร ก่อนอื่น เราจะไปที่ซากปรักหักพังเพื่อค้นหาวัตถุโบราณสัปดาห์ละครั้งเท่านั้น เราจะใช้เวลาที่เหลือของสัปดาห์ในการฝึกฝนและศึกษา นายจะไม่ได้รับอนุญาตให้บ่น แม้ว่านายต้องการออกไปค้นหาวัตถุโบราณมากกว่า ตกลงไหม?”
“ตกลง”
“อุ๊ยต๊าย! วันนี้นายเชื่อฟังมากเลยนะเนี่ย”
อัลฟ่าค่อนข้างประหลาดใจกับคำตอบที่เชื่อฟังของเด็กชาย อากิระก็ทำหน้าจริงจังตามที่เขาพูด
“อะไรล่ะ? ฉันเองตัดสินใจแล้วว่าจะเชื่อใจเธอ”
‘เชื่อใจ’ อากิระพูดคำนั้นแผ่วเบา แต่สำหรับอัลฟ่า คำพูดนั้นสำคัญมาก
“อืม เมื่อนายทำธุระเสร็จแล้ว เราจะเริ่มทันที ดังนั้นตอนนี้นายก็เพลิดเพลินไปกับอาหารมื้อนี้ไปก่อนแล้วกัน”
อากิระพยักหน้าเบา ๆ และทานอาหารต่อในขณะที่อัลฟ่าเอาแต่จ้องมาที่เขา
เมื่ออากิระทานอาหารเสร็จ อัลฟ่าก็ลอยมาตรงหน้าเขาและทำหน้าจริงจัง
“อากิระ ฉันจะบอกนายบางสิ่งที่สำคัญมาก ตั้งใจฟังให้ดี ตกลงไหม?”
อากิระพยักหน้าด้วยสีหน้าจริงจัง ครั้งสุดท้ายที่เขาได้เห็นใบหน้าจริงจังเช่นนี้จากอัลฟ่าคือตอนที่เขาตกอยู่ในอันตรายถึงตาย อากิระจำความรู้สึกในตอนนั้นได้ ทำให้ใบหน้าของเขาก็แข็งทื่อโดยธรรมชาติ
อัลฟ่าพยักหน้าเข้าใจ หลังจากนั้นท่าทางของเธอก็เป็นทางการขึ้นราวกับว่าเธอเป็นพนักงานออฟฟิศ การเปลี่ยนแปลงทำให้อากิระประหลาดใจเล็กน้อย
“อัลฟ่า…?”
อัลฟ่าสีหน้าไม่เปลี่ยนเมื่อชื่อของเธอถูกเรียก จากนั้นเธอก็เริ่มอธิบายด้วยน้ำเสียงที่เป็นทางการซึ่งเข้ากับท่าทางที่เป็นทางการของเธอ
“ขณะนี้ระบบจะดำเนินการสนับสนุนระดับสูงแก่อาสาสมัครชื่อ อากิระ คำเตือน! อาสาสมัคร อากิระ คุณแน่ใจหรือไม่ว่าต้องการทำงานทุกประเภทเพื่อตอบรับการสนับสนุนนี้ คำขอรอการอนุมัติ การดำเนินการนี้จะรวมถึงการวิเคราะห์จำแนกและใช้ข้อมูลส่วนตัวระดับ 5 ขอแนะนำให้ขอคำอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อมูลที่จะถูกดึงออกมา”
อากิระงงว่าอัลฟ่าพูดอะไรและทำไมเธอถึงพูดแบบนั้น
“หมายถึงอะไรเนี่ย?”
“จากการประมาณการเบื้องต้น ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 120 ปีในการอธิบายด้วยปากเปล่าเพื่อให้ผู้ทดลองเข้าใจข้อมูลที่ร้องขออย่างถ่องแท้ ไม่สามารถคำนวณเวลาโดยประมาณที่แม่นยำยิ่งขึ้นได้ในขณะนี้ จำเป็นต้องย้อนกลับไปยังกฎการคำนวณลำดับความสำคัญ… ค้นพบวิธีการเลี่ยงกฎกระบวนการรับรู้ A887 ตามการประมวลผล เวลาที่ต้องใช้ในการอธิบายให้ผู้ทดสอบเข้าใจประเด็นทั้งหมดจึงมีระยะเวลา…”
“…เอ่อ ฉันไม่เข้าใจอะไรเท่าไหร่ แต่ฉันแค่ต้องพูดว่า ‘ตกลง’ ใช่ไหม?”
“ถือว่าอาสาสมัครเห็นด้วยกับรายการทั้งหมดในข้อตกลง ซึ่งรวมถึงการแทรกแซงและการรบกวนเจตจำนงเสรีในวงกว้าง …เกี่ยวกับการรักษาชีวิตของอาสาสมัคร ระบบจะปฏิบัติตามกฏการรักษาชีวิตมาตรา 213873 ซึ่งจะรวมถึงพื้นที่นอกเหนือจากพื้นที่พิเศษด้วย และในขณะเดียวกัน…”
อากิระไม่เข้าใจอะไรเลย แต่เขาก็ยังพยายามฟังคำอธิบายอย่างตั้งใจ แต่มันจบลงด้วยการที่เขาสับสนมากกว่าเดิม แม้ว่าเขาจะพยายามถามคำถามบางอย่างกับอัลฟ่า อัลฟ่าก็จะเพิกเฉยต่อคำถามนั้นในขณะที่เธอยังคงให้คำอธิบายที่ยาวและซับซ้อนต่อไป ในท้ายที่สุด อากิระก็เลิกพยายามทำความเข้าใจกับบทพูดคนเดียวของเธอ
อากิระไม่เข้าใจรายละเอียดอย่างถ่องแท้ แต่เขารู้ว่าอัลฟ่ากำลังขอการอนุมัติบางอย่าง และการฝ่าฝืนคำสั่งของเธอจะนำมาซึ่งอันตรายอย่างใหญ่หลวง อากิระเคยสัญญากับอัลฟ่าแล้วว่าจะสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างพวกเขา เพราะแบบนั้น ตั้งแต่ที่เขาได้ตัดสินใจไปในตอนนั้น บวกกับประสบการณ์ความเป็นความตายที่ผ่านมา และความตั้งใจของเขาเอง ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจเด็ดขาดหลังจากที่เขาลังเลอยู่ซักพัก เขาตอบกลับด้วยสีหน้าจริงจัง
“คำตอบของฉันคือ ‘ตกลง’ ‘”
“ยืนยัน ระบบจะดำเนินการให้การสนับสนุนระดับสูงแก่อาสาสมัครอากิระ คำเตือน! อาสาสมัครอากิระคุณแน่ใจหรือไม่ว่าระบบสามาารถทำงานทุกประเภทได้โดยไม่ต้องร้องขอการอนุมัติในครั้งต่อไป”
“ใช่!”
เมื่ออากิระตอบอย่างมั่นใจ พฤติกรรมของอัลฟ่าก็กลับมาเป็นปกติ จากนั้นเธอก็ยิ้มให้อากิระอย่างมีความสุข
“ขอบคุณมาก ไม่ต้องกังวลไป ฉันจะไม่ทำอะไรแย่ๆหรอก ดังนั้นนายไม่ต้องกังวล”
อากิระโล่งใจเมื่อเห็นอัลฟ่ากลับมาเป็นปกติ แต่แล้วอากิระก็แสดงความไม่พอใจเล็กน้อย
“พูดแบบนี้ตั้งแต่แรกก็ได้”
“ไม่ได้หรอก มีขั้นตอนบางอย่างที่น่ารำคาญที่ต้องทำตามน่ะ ฉันต้องพูดทั้งหมดเพื่อระบุว่าฉันจะไม่ทำอะไรที่ไม่ดีกับนาย นายต้องทำสิ่งที่น่ารำคาญเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งที่น่ารำคาญยื่งกว่า มันเป็นเรื่องธรรมดาในโลกนี้ …อากิระ เรื่องที่เราคุยกันเมื่อวาน จริงๆแล้วนายคิดว่าน่าอกฉันเป็นไงบ้าง?”
อัลฟ่าถามคำถามนั้นพร้อมกับยิ้มอย่างมีความหมาย แต่แล้วอากิระก็ตอบกลับด้วยความตื่นตระหนก
“เฮ้ย มาถามอะไรกันแบบนี้ฟะ”
“ก็เมื่อวาน ตอนที่ฉันถามความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างกายที่เปลือยเปล่าของฉัน นายบอกว่าหน้าอกของฉันใหญ่มาก…”
“…นี่ฉันพูดงั้นจริงดิ?”
“ใช่… แม้ว่านายจะตอบส่งๆก็เถอะ แต่นายก็พูดแบบนั้นจริงๆ …อย่างที่ฉันคิด ถ้านายสนใจเรื่องหน้าอกของผู้หญิงจริงๆล่ะก็ อยากลองสัมผัสดูไหม?”
อัลฟ่าหัวเราะคิกคักอย่างซุกซนขณะที่เธอแกล้งอากิระ ตอนนั้นเขารำคาญเล็กน้อย ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ตั้งใจที่จะตอบอย่างจริงจัง แต่เขาจำได้ว่าเขาเคยสัญญาว่าจะสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจกับอัลฟ่า เขาจึงไม่อยากโกหก เพราะแบบนั้นเขาจึงไม่เลือกทางเลือกเช่นใช่หรือไม่
“…แต่ มันก็ทำอย่างนั้นไม่ได้ใช่ไหมล่ะ?”
“นั่นเป็นเพียงตอนนี้เท่านั้น แต่นายรู้ไหมอากิระ ถ้านายอยากทำแบบนั้นล่ะก็ นายต้องสำรวจซากปรักหักพังที่ฉันขอให้นายสำรวจเมื่อเราพบกันครั้งแรกซะก่อน คิดว่าไงล่ะ? สนใจขึ้นบ้างรึยัง? อยากลองแล้วรึเปล่า?”
“ทำไมฉันถึงสัมผัสมันได้ก็ต่อเมื่อฉันสำรวจซากปรักหักพังนั่นแล้ว”
“มันค่อนข้างซับซ้อนที่จะอธิบาย แต่นายอยากลองไหมล่ะ?”
อากิระรู้สึกหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัดกับอัลฟ่าที่กวนเขา
“…นี่เธอกำลังพยายามจะพูดอะไรกันแน่?”
อัลฟ่าเพียงแค่หัวเราะคิกคักอย่างซุกซน
“ฉันแค่เสนอรางวัลที่เป็นรูปธรรมเพื่อกระตุ้นนาย”
“สรุปง่ายๆ นี่คือเหยื่อล่อสินะ?”
“ใช่ นายจะพูดแบบนั้นก็ได้ เพราะว่าการให้รางวัลแก่นายด้วยการมองเรือนร่างอันยอดเยี่ยมนั้นไม่ได้ผล ดังนั้นฉันจึงสงสัยว่าจะให้รางวัลนายด้วยสิ่งที่นายสัมผัสได้มากกว่า …การที่นายแค่หน้าแดงนิดหน่อยทั้งที่มองร่างกายของฉันประชิดขนาดนี้ เป็นอาการที่ค่อนข้างร้ายแรงเลยนะ”
เมื่อได้ยินคำตอบโง่ๆ สำหรับคำถามของเขา อากิระก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ไว้ค่อยทำอย่างนั้นตอนที่ฉันโตแล้วกัน… พอโตขึ้นและสัมผัสมันเยอะๆ เธอคงไม่ว่าอะไรใช่ไหมล่ะ”
“ก็ใช่ เพราะไม่ว่ายังไง ฉันก็วางแผนที่จะอยู่กับนายไปอีกนาน ดังนั้นฉันจะสนุกกับมันเมื่อถึงเวลา”
อัลฟ่าตอบกลับด้วยความมั่นใจ แล้วบทสนทนาของพวกเขาก็หยุดลง อากิระไม่ต้องการที่จะเจาะลึกลงไปในเรื่องนี้ ด้วยเหตุนี้ คำถามทั้งหมดที่เขามีเกี่ยวกับตอนที่อัลฟ่าให้คำอธิบายบางอย่างแก่เขาในลักษณะที่เป็นทางการจึงหายไป
เช็คเอาต์จากโรงแรมตอนสิบโมง อากิระมีเวลาไม่มากนัก เพราะเขาตื่นค่อนข้างสาย แต่อัลฟ่าแนะนำให้เขาค้างที่นี่อีกคืน อากิระรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่ออัลฟ่าบอกเขาว่าจะฝึกกันที่นี่ อากิระเลยติดต่อเจ้าหน้าที่และพักต่ออีกคืน
“ดีจะตาย นายจะได้อาบน้ำอีกครั้งด้วยนะ”
นี่หมายความว่าเขาใช้เงิน 40,000ออรัม จาก 200,000 ออรัมที่เขาได้มา อากิระถอนหายใจพยายามปกปิดความเสียใจ แต่เขาก็ไม่สามารถซ่อนมันได้ เขาทำได้เพียงหัวเราะแห้งๆ
อัลฟ่าหัวเราะเบา ๆ และทำหน้าจริงจัง
“ถ้าอย่างนั้นเรามาเริ่มการฝึกกันเลย นายพร้อมรึยัง?”
อากิระเปลี่ยนอารมณ์ทันทีและตอบกลับด้วยการพยักหน้าอย่างจริงจัง
“ฉันพร้อมแล้ว”
อัลฟ่าพยักหน้าอย่างพอใจ
“ก่อนอื่น ฉันต้องการให้นายเรียนรู้ที่จะสื่อสารทางโทรจิต”
“สื่อสารทางโทรจิต?”
“สำหรับตอนนี้ ฉันจะให้นายเรียนรู้ที่จะพูดโดยไม่ส่งเสียง …มาเริ่มการฝึกกันเถอะ การแลกเปลี่ยนข้อมูลที่แม่นยำและรวดเร็วเป็นสิ่งสำคัญมากในระหว่างการต่อสู้ ยิ่งไปกว่านั้น มันจะหยุดทำให้นายดูเหมือนคนปัญญาอ่อนที่คุยกับตัวเอง”
อากิระวางแผนที่จะฝึกฝนทุกรูปแบบโดยไม่ปริปากบ่นใดๆ แต่เขาค่อนข้างจะงงกับคำสั่งแปลกๆ แบบนี้
“แม้ว่าเธอจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ แล้วฉันจะเริ่มยังไง?”
“ก็ยากที่จะอธิบายด้วยปากเปล่าว่านายควรทำอะไร เพราะแต่ละคนมีความเข้าใจแตกต่างกัน ในตอนนี้ แทนที่จะฟังด้วยหูแล้วพูดด้วยปาก ให้คิดซะว่านายกำลังฟังและพูดด้วยใจ ฉันไม่สามารถช่วยนายได้ ดังนั้นไม่มีทางอื่นนอกจากให้นายเรียนรู้ที่จะทำมันด้วยตัวเอง …สำหรับการทดลองครั้งแรก ลองออกคำสั่งฉันโดยใช้กระแสจิตดูสิ นายอาจคิดคำอะไรขึ้นมาก็ได้ นายสามารถส่งคำง่ายๆ เช่น ‘มองไปทางขวา’ หรืออะไรก็ได้ ฉันจะตอบสนองต่อสิ่งที่นายคิด จะได้รู้ว่าการสื่อสารถูกต้องหรือไม่ เอาล่ะ…เริ่มได้เลย”
แม้ว่าเขาจะค่อนข้างสับสน แต่อากิระก็ยังคงเริ่มการฝึกเหมือนที่เขาได้รับคำสั่ง
ตอนนี้ อัลฟ่ากล่าวว่าการฝึกอย่างอื่นก่อนจะไม่มีความหมาย หากเขายังกระซิบเพื่อสื่อสารกับเธอแบบนี้ ดังนั้น อากิระจึงพยายามพูดผ่านความคิดของเขา เขาตั้งสมาธิอย่างเคร่งเครียด เขาจ้องไปที่อัลฟ่าในขณะที่ปรารถนาอย่างมากให้ข้อความของเขาส่งถึงเธอ จากนั้นเขาก็หลับตาพยายามสื่อสารในใจ เขายังคงฝึกฝนอย่างจริงจัง แม้ว่าจะไม่มีปฏิกิริยาใดๆ จากอัลฟ่า แต่อากิระก็ยังคงทุ่มเทอย่างเต็มที่ในการฝึกฝนโดยอ้างอิงจากคำพูดที่คลุมเครือของอัลฟ่า
หลังจากผ่านไป 1 ชั่วโมงโดยไม่มีผลลัพธ์ แม้ว่าอากิระจะพยายามบอกอัลฟ่าให้มองไปทางขวาของเธออย่างสิ้นหวัง แต่จู่ๆ อัลฟ่าก็หันหน้าไปทางขวา อากิระรู้สึกประหลาดใจในขณะที่อัลฟ่าหัวเราะคิกคัก
“ใช่ ใช่ แค่นั้นแหละ มาฝึกต่อกันเถอะ”
“อะ…อา”
อากิระตอบกลับโดยไม่ตั้งใจโดยใช้การสื่อสารทางโทรจิต จากนั้นเขาก็ฝึกฝนต่อไปเช่นนั้น เนื่องจากเขาสามารถทำได้แล้วหนึ่งครั้ง จึงสามารถทำซ้ำได้ง่ายขึ้น จากนั้นเขาก็แลกเปลี่ยนคำพูดกับอัลฟ่าผ่านการสื่อสารทางกระแสจิตเพื่อเพิ่มความชำนาญ
“ดีมาก ด้วยสิ่งนี้ นายจะสามารถสื่อสารกับฉันได้อย่างชัดเจนไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหน …ถ้าฉันพูดด้วยเสียงของฉันเหมือนเมื่อก่อน เสียงรบกวนจากภายนอกจะทำให้นายได้ยินฉันยากขึ้น เช่น เสียงการต่อสู้และเสียงปืน มันจะรบกวนเสียงของฉัน แต่ด้วยการทำแบบนี้ เราก็ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นแล้ว”
“โอ้ ฉันเข้าใจล่ะ นั่นเป็นสิ่งที่ดีจริงๆ”
“ใช่ไหมล่ะ?”
“แต่เราสามารถทำได้แม้กระทั่งนอกโรงแรมด้วย ไม่จำเป็นต้องอยู่ในที่แบบนี้ใช่ไหม?”
“ใช่สิ หรือนายอยากจะพูดกับความว่างเปล่าไปตลอดกันล่ะ?”
“…ก็นะ”
แม้ว่าอัลฟ่าจะตอบกลับด้วยเสียงหัวเราะ แต่อากิระก็ตอบกลับไปพร้อมกับยิ้มเขินๆ หลังจากนั้นไม่นาน อากิระก็สามารถพูดคุยกับอัลฟ่าผ่านทางกระแสจิตได้โดยไม่มีปัญหาใดๆ ดังนั้นอัลฟ่าจึงเปลี่ยนการฝึกกระแสจิตไปสู่ขั้นต่อไป
“นั่นน่าจะเพียงพอสำหรับการสื่อสารตามปกติ ต่อไปคือการส่งรูปภาพ ฉันจะให้นายเรียนรู้วิธีส่งรูปภาพแม้ว่าจะเป็นเพียงรูปภาพที่คลุมเครือก็ตาม เพราะรูปภาพหนึ่งภาพสามารถแทนคำพูดได้นับพันคำ ถ้านายมีสิ่งที่นายไม่สามารถอธิบายด้วยคำพูดได้การส่งรูปภาพจะมีประสิทธิภาพกว่ามาก เราจะสามารถสื่อสารกันได้อย่างง่ายดายในระหว่างการต่อสู้ ในขั้นแรกของการฝึก ลองส่งรูปเสื้อผ้าที่นายอยากเห็นมาให้ฉันดู ฉันจะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เป็นตัวที่นายเลือก ถ้ารูปลักษณ์ของฉันตรงกับรูปที่ส่งมาแสดงว่าประสบความสำเร็จ เอาล่ะ เริ่มเลย”
เช่นเคยกับครั้งที่แล้ว อากิระจินตนาการถึงชุดของอัลฟ่าและพยายามส่งผ่านกระแสจิต การแต่งตัวของอัลฟ่าเปลี่ยนไปทันที แต่ชุดที่เธอเปลี่ยนมันเป็นชุดที่แย่มาก ดูเหมือนเศษผ้าขนาดไม่เท่ากัน เมื่อเห็นแบบนั้น ใบหน้าของอากิระกระตุกเล็กน้อย จากนั้นชุดของอัลฟ่าก็หายไปทันที
อากิระตื่นตระหนกเล็กน้อย แต่อัลฟ่าที่เปลือยเปล่าในตอนนั้นกลับหัวเราะคิกคักอย่างซุกซน
“นั่นคือความล้มเหลว ถ่ายโอนภาพได้ไม่สมบูรณ์ หรือว่านายอยากเห็นฉันโป๊?”
“เฮ้ย…มันไม่ใช่แบบนั้น!! ใส่อะไรก็ได้ไปก่อนเซ่!!”
“ไม่ นี่เป็นการฝึก ถ้านายต้องการให้ฉันใส่ชุดอะไร นายควรตั้งใจและส่งรูปให้ฉันอย่างครบถ้วน”
อากิระพยายามสื่อสารด้วยรูปภาพอีกครั้งด้วยความตื่นตระหนก และอีกครั้งที่ชุดของอัลฟ่าไม่เรียบร้อย แต่เนื่องจากอากิระตื่นตระหนก ความแม่นยำของรูปของเขาจึงแย่สุดๆ เมื่อเป็นเช่นนั้น ชุดของอัลฟ่าก็หายไปอีกครั้ง
การลองผิดลองถูกของอากิระยังคงดำเนินต่อไป ชุดแปลก ๆ ทุกชนิดมารวมตัวกันที่ Alpha ก่อนที่จะหายไปครั้งแล้วครั้งเล่า จริง ๆ แล้วมันสามารถป้องกันไม่ให้อัลฟ่าเปลือยกายได้โดยการจินตนาการถึงชุดชั้นในของเธอ แต่อากิระตื่นตระหนกมากจนเขาไม่ได้คิดวิธีนั้นด้วยซ้ำ …ส่วนอัลฟ่านั้นรู้ …แต่มีรึที่เธอจะบอก?
หลังจากนั้น อากิระก็ยังคงล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า
จนในที่สุดเขาก็สามารถทำให้อัลฟ่าสวมชุดวันพีชสีขาวที่ไม่มีการตกแต่งใดๆได้สำเร็จ
เวลาล่วงเลยมาจนถึงตอนเย็น
“การฝึกของวันนี้จบลงแล้ว ฉันคิดว่านายทำได้ดีทีเดียวสำหรับวันแรก”
“…ทั้งที่ฉันไม่ได้ก้าวออกจากห้องนี้เลย แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกเหนื่อยมาก…”
“ถ้าอย่างนั้นนายควรไปอาบน้ำและนอนซะ”
“เธอพูดถูก ฉันไปล่ะ…”
แม้ว่าเขาจะเหนื่อย แต่ก็ไม่เหนื่อยเหมือนเมื่อวาน อากิระอาบน้ำนานพอสมควรแล้วเข้านอน เขาปล่อยให้ร่างกายของเขาถูกครอบงำด้วยความง่วงสู่ดินแดนแห่งความฝัน สำหรับอัลฟ่า มีสิ่งหนึ่งที่ไม่เหมือนเมื่อวาน เธอได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการจากอากิระให้อยู่ข้างๆ เขาและคอยจ้องมองเขา
วันนี้อัลฟ่าขออนุญาตอากิระ แต่อากิระที่ไว้ใจอัลฟ่ากลับตอบตกลงโดยที่เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอขออนุญาตอะไรบ้าง
อัลฟ่านั้นไม่ได้โกหกอากิระ การฝึกอบรมของอากิระนั้นได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มความสามารถพื้นฐานและอัตราการรอดชีวิตของเขา เพื่อให้สามารถสำรวจซากปรักหักพังตามที่อัลฟ่าขอได้อย่างเต็มที่ การสนับสนุนระดับสูงนั้นจำเป็นสำหรับอากิระ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งเดียวที่เขาต้องการ
อากิระนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอัลฟ่าได้รับอนุญาตให้ทำอะไรกับเขาได้บ้าง เป็นสิ่งที่เขาจะไม่ได้รับรู้
——————————-
Avolenn : อีนี่มันเหลี่ยม หลอกเด็ก – -*
สนับสนุนผู้แปลได้ที่นี่นะครับ กสิกร 475-2-65694-8 เมือง บ.