Rebuild World - ตอนที่ 5 ประโยชน์ของสิ่งที่ได้มา
อากิระยืนอยู่นอกศูนย์แลกเปลี่ยน จ้องมองไปที่ 300 ออรัมในมือของเขา แม้ว่าเขาจะได้รับคำอธิบายที่ค่อนข้างเข้าใจได้ ว่าทำไมเขาถึงได้รับค่าตอบแทนน้อย แต่เขาก็ยังไม่สามารถยอมรับได้อย่างเต็มที่
เขาถอนหายใจราวกับว่าเขากำลังขับไล่ความไม่เต็มใจออกจากใจของเขา และใส่ 300 ออรัม ซึ่งเป็นเงินที่เขาได้จากการเสี่ยงชีวิตในซากปรักหักพังลงในกระเป๋าหน้าอกของเขา
อัลฟ่ายิ้มราวกับว่าเธอกำลังพยายามให้กำลังใจเขา
“เอาน่า นายจะได้รับส่วนที่เหลือทีหลัง ดังนั้นเพียงแค่อดทนรออีกนิดหน่อยเอง จริงไหม?”
อากิระตั้งสติและสีหน้าของเขาสงบลงในขณะที่เขาพยักหน้าให้อัลฟ่า
“…ถูกของเธอ ฉันไม่ควรเอามันมาคิดมากตอนนี้”
เขาข่มใจตัวเองให้สงบลงได้ และใช้มันเป็นแรงผลักดันเพื่อเริ่มคิดแผนต่อไป
“อัลฟ่า ฉันวางแผนที่จะไปที่ซากปรักหักพังอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ เธอคิดว่ายังไง?”
“เยี่ยมเลย แต่ว่าวันนี้นายต้องพักก่อน ฉันแน่ใจว่านายต้องเหนื่อยมาก”
“ใช่ ฉันเหนื่อยจริงๆ สำหรับวันนี้ก็คงต้องพักก่อนจริงๆนั่นแหละ”
อากิระเลื่อนสายตาไปยังสิ่งที่อยู่ในถุงกระดาษที่เขาถืออยู่ มันเต็มไปด้วยมีด ยารักษาโรค และสิ่งของอื่นๆ อีกมากมายที่เขาไม่ขาย สำหรับอากิระในปัจจุบัน สิ่งเหล่านี้มีค่ามาก
“ก่อนอื่นเราต้องซ่อนสิ่งเหล่านี้ให้ดี เราไปที่ตรอกหลังกันก่อนดีกว่า”
ขณะที่เขากำลังมุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่เขานอนเมื่อวานนี้ จู่ๆ อัลฟ่าก็ส่งสัญญาณให้อากิระหยุด
“มีอะไร?”
“อากิระ เตรีมตัวให้ดี”
ตามทิศทางที่อัลฟ่าชี้ เด็ก 3 คนปรากฏตัวขึ้นจาตรอกเล็กๆ เมื่ออากิระเห็นเด็กเหล่านั้นจากการเตือน ก็มีเด็กอีก 2 คนปรากฏตัวขึ้นข้างหลังเขา เด็กเหล่านี้มาจากสลัมเช่นเดียวกับอากิระ และอายุของพวกเขาก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่
หัวหน้าของเด็กเหล่านี้คือเด็กชายชื่อดาร์บี้ ซึ่งยืนประชันหน้าอากิระ เขาหัวเราะและเริ่มข่มขู่อากิระ
“เอาเงินของแกออกมาซะ ฉันรู้นะว่าแกมีติดตัวอยู่”
เป็นไปอย่างที่คิด หลังจากได้ยินคำขู่ สีหน้าของอากิระก็แข็งเกร็ง แต่เขาตัดสินใจที่จะไม่ปะทะด้วย
“ฉันไม่มีเงินติดตัว แค่มองสภาพฉันดูก็น่าจะรู้แล้วนี่… หากนายกำลังจะปล้นใครสักคน ไปมองหาคนที่มีเงินเถอะ”
หากมองสภาพของเขา คำพูดของอากิระนั้นก็จริงมาก หากเด็กเหล่านี้มาหาเขาเพียงเพื่อเงิน อย่างน้อยก็น่าจะเพียงพอที่จะทำให้พวกเขาหมดกำลังใจ
แต่ ดาร์บี้หัวเราะอย่างน่ารังเกียจและเอียงศีรษะราวกับว่าเขากำลังเย้ยหยันอากิระ
“อย่ามาตอแหล อย่าคิดว่าฉันไม่เห็นนะโว้ย! แกเพิ่งออกมาจากศูนย์แลกเปลี่ยนไม่ใช่เรอะ? เมื่อวานแกไปที่ซากปรักหักพังแต่แกไม่ได้ไปที่ศูนย์แลกเปลี่ยน แต่วันนี้แกดันไป แกต้องไปเจออะไรมาบ้างแล้วล่ะสิ อย่าพูดมาก เอาเงินที่ได้ออกมาซะ”
ดาร์บี้ และพรรคพวกของเขาได้เห็นอากิระกลับออกมาจากซากปรักหักพัง จึงตัดสินใจที่จะเฝ้าอยู่รอบๆศูนย์แลกเปลี่ยน เมื่อเทียบกับการเข้าไปในซากปรักหักพังเพื่อค้นหาวัตถุโบราณ การปล้นคนที่กลับมาจากซากปรักหักพังนั้นปลอดภัยกว่า มีหลายคนที่ทำตามแนวคิดนี้
สำหรับเด็กๆเหล่านี้ ไม่มีทางที่พวกเขาจะปล้นนักล่าที่เป็นผู้ใหญ่ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากปล้นเด็กคนอื่น ๆ แบบอากิระ นี่เป็นอีกหนึ่งในสาเหตุที่จำนวนนักล่าที่เป็นเด็กลดลงเรื่อยๆ
อากิระถอนหายใจแล้วตอบตามตรง
“เฮ้พวก… ฉันมีแค่300ออรัมเนี่ย”
“ฮะ? อย่ามาเล่นตลกกับฉันนะเว้ย”
“ฉันจะเล่นตลกอะไรล่ะ พวกเขาให้ฉันแค่300ออรัม สำหรับทุกสิ่งที่ฉันเอามา ฉันไม่ได้โกหกนะพวก พวกเขาบอกว่ามันเป็นกฎ… ปล้นฉันไม่คุ้มกับแรงที่พวกนายห้าคนจะเสียหรอก ไปหาคนอื่นซะเถอะ“
ดาร์บี้มองอากิระด้วยความสงสัย อากิระเองก็ดูไม่เหมือนคนที่โกหก นอกจากนี้ เขาเหมือนจะเคยได้ยินจากใครซักคน ว่าการจ่ายเงินครั้งแรกสำหรับนักล่ามือใหม่นั้นไม่เกิน 300 ออรัม เพราะแบบนั้นเขาจึงเดาะลิ้นด้วยความหงุดหงิด
“ห่าเอ้ย! ฉันคิดว่าจะได้เงินจำนวนมากหลังจากแลกเปลี่ยนซะอีก ไอ้พวกห่านั่นแม่งนักต้มตุ๋นชัดๆ!”
“โอ้…แย่จังเลยนะที่เป็นแบบนั้น แล้วนี่ฉันไปได้หรือยัง?”
ดูเหมือนว่าเด็กคนอื่น ๆ จะสูญเสียความตั้งใจของพวกเขาไปแล้ว แต่นั่นไม่ใช่กับดาร์บี้ เขายังคงพร้อมที่จะสั่งให้เด็กคนอื่นโจมตีอากิระ
ดาร์บี้มองอากิระตั้งแต่หัวจรดเท้าเพื่อหาของที่ดูแพง แต่อากิระสวมเพียงชุดมอมแมมซึ่งไม่คุ้มที่จะปล้น ยิ่งไปกว่านั้น ถุงกระดาษที่เขาถืออยู่นั้นก็สกปรกจนดูไม่มีค่าอะไรเลย ปกติแล้วนั่นจะเพียงพอที่จะทำให้เขายอมแพ้ แต่ถ้าเขาถอยตอนนี้เขาจะเสียหน้าต่อเพื่อนๆของเขา มันทำให้เขาหงุดหงิด
ในที่สุดความหงุดหงิดของเขาก็ถึงขีดจำกัด เขาปล่อยให้อารมณ์ครอบงำร่างกายของเขาและชักปืนออกมา
“เหี้ยเอ้ย!! กูไม่สนห่าอะไรแล้ว!! เอา 300 ออรัมมาให้กูซะถ้ามึงไม่อยากตาย!”
อากิระที่เกร็งอยู่แล้วกลับตัวแข็งทื่อยิ่งกว่าเดิม
“…นายจะไม่ได้อะไรจากการพยายามยิงฉัน รู้ใช่ไหม? ฉันจะต่อสู้กลับอย่างแน่นอน นายจะทำแบบนี้กับเงินแค่ 300ออรัมงั้นเหรอ? อย่าทำแบบนั้นเลยน่า…”
“หุบปาก!! แค่เอาเงินมา!!”
การต่อสู้กันจนตัวตายมีแต่จะทำให้พวกเขาหมดเงินไปกับกระสุน ยิ่งกว่านั้น การต่อสู้กับคู่ต่อสู้ที่จนมุมอาจทำให้พวกเขาบาดเจ็บสาหัสได้ ตัวดาร์บี้เองก็เข้าใจเรื่องนั้น แต่เขาต้องหาที่ระบายความคับข้องใจและยิ่งไปกว่านั้นฝ่ายเขาเองกำลังได้เปรียบ มันคือ 5 ต่อ 1 และเขาชักปืนออกมาก่อนแล้ว เพราะแบบนั้นดาร์บี้จึงมั่นใจกว่าปกติ
อากิระมีสีหน้าเคร่งเครียด มันเป็นเพียง 300 ออรัม มันไม่คุ้มที่จะเสี่ยงชีวิตของเขาเพื่อเก็บมันไว้เลยซักนิด แต่ในขณะเดียวกัน มันก็เป็นเงินที่เขาได้รับหลังจากเสี่ยงชีวิต และมันเป็นค่าตอบแทนแรกที่เขาได้รับในฐานะนักล่า พูดง่ายๆก็คือ เงินก้อนนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาจะยอมแพ้ได้ง่ายๆ มันทำให้อากิระตัดสินใจได้อย่างยากลำบาก
ทันใดนั้น อัลฟ่ามายืนตรงหน้าอากิระและมองเขาด้วยรอยยิ้มที่ผ่อนคลาย
“อากิระ…ตอบฉันเบาๆ ไม่ต้องกังวล ฉันได้ยินคุณไม่ว่าเสียงของคุณจะเบาแค่ไหน ทำได้ไหม?”
“…อา”
“ถึงเวลาต้องเลือกแล้ว… ฉันจะช่วยเหลือนาย อยู่ที่ว่านายจะทำอะไร… จ่ายเงิน? หนี? หรือจะฆ่าพวกเขา?”
ถ้าเขายอมทิ้งเงินที่ได้มาหลังจากเสี่ยงชีวิต มันอาจจะทำให้เขามีชีวิตรอด แต่ก็หมายความว่าหากมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกเขาก็ต้องเลือกยอมอีกครั้งเพื่ออยู่รอด
หากเขาเลือกหนีไปให้ไกลที่สุด มันก็หมายความว่าเขาจะต้องหนีอีกครั้งในครั้งต่อไป
และทางเลือกสุดท้ายคือการฆ่าพวกมันทั้งหมด…แต่เขาเองก็มีโอกาสที่จะตายเช่นกัน
อากิระตัดสินใจโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย
“…ฉันจะฆ่าพวกมัน”
อัลฟ่ายิ้มโดยไม่แสดงอารมใดๆ
“รับทราบ ฉันจะช่วยนายเอง ก่อนอื่น เราจะฝ่าวงล้อม นายต้องพุ่งผ่านช่องว่างระหว่างเด็ก 2 คนข้างหลังคุณให้ได้ พวกนั้นลดการป้องกันลงไปมากและยืนห่างจากกันเล็กน้อย
จำไว้ ว่านายต้องหันหลังกลับ และวิ่งไปข้างหน้า 2 ก้าว แล้วเอนตัวไปข้างหน้าราวกับว่านายสะดุดและวิ่งผ่านช่องว่างระหว่างเด็ก 2 คนนั้น หลังจากนั้นก็ให้กระโดดเข้าไปในตรอกเล็กๆ ทางขวาทันที …แล้วเราจะเริ่มสู้กลับจากตรงนั้น เข้าใจไหม?”
“…ฉันเข้าใจ แล้วจะให้ทำตอนไหน…”
“ตอนนี้ล่ะ!!”
อากิระหันหลังกลับทันที
ในก้าวแรกของเขา เด็กคนอื่นๆ ตัวแข็งทื่อเพราะประหลาดใจเมื่อจู่ๆ อากิระก็หันกลับมา
จากนั้นในก้าวที่สองของเขา เด็กๆยื่นมือออกไปเพื่อจับอากิระ แต่มือของพวกเขานั้นคว้าไม่ถูกเพราะอากิระเอนไปข้างหน้าราวกับว่าเขาสะดุด หลังจากนั้นดาร์บี้ ก็เหนี่ยวไก แต่เป้าหมายของเขาไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว กระสุนพุ่งข้ามตัวอากิระที่กำลังเอนตัวไปข้างหน้า
เด็กคนอื่น ๆ รู้สึกตกใจกับกระสุนปืนของดาร์บี้ ทำให้ทั้งหมดยืนตะลึงอยู่ชั่วขณะ อากิระใช้ช่วงเวลานั้นหลบเข้าซอยทางขวาและวิ่งต่อไป เมื่อเด็กคนอื่น ๆ กลับมาเป็นปกติพวกเขารีบตรวจสอบตรอกอากิระก็หายเข้าไป
เด็กชายที่เกือบโดนกระสุนของดาร์บี้พุ่งไปหาเขาตะโกนลั่น
“เฮ้ย!! มันอันตรายนะเว้ย ไอ้บ้านี่!!”
“หุบปาก! มันเป็นความผิดของไอ้เด็กเวรนั่นต่างหากเล่า!! ไอ้ห่าเอ้ย ฉันจะฆ่ามัน!! เฮ้!! พวกมึงยืนนิ่งทำห่าอะไร? ไล่ตามมันซิวะ!!”
เด็กอีกคนตอบกลับด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
“พอเถอะน่า เราไม่ได้อะไรจากการปล้นเด็กยากจนหรอกน่า จริงไหม? ยิ่งไปกว่านั้นมันก็หนีไปแล้ว ถ้านายอยากจะจัดการหมอนั่นจริงๆ ก็รอจนกว่ามันจะกลับมาที่ศูนย์แลกเปลี่ยนอีกครั้งก็แล้วกัน เมื่อถึงตอนนั้นมันก็น่าจะมีเงินมากว่าตอนนี้แล้วล่ะ”
ดาร์บี้เดาะลิ้นด้วยความรำคาญใส่เพื่อนของเขาที่สูญเสียแรงจูงใจและเลิกไล่ตามอากิระ พวกเขาแยกย้ายกันไปและเริ่มเดินไปตามทางของตัวเอง แต่หลังจากเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ดาร์บี้ซึ่งยังไม่ยอมแพ้ มองกลับไปที่ตรอกที่อากิระหายไป
ในพริบตาต่อมา สีหน้าของดาร์บี้ กลายเป็นเกร็งแข็ง อากิระกระโดดออกมาจากตรอกทันทีพร้อมกับเล็งปืนมาที่เขา ดาร์บี้สามารถหลบกระสุนของอากิระได้เพราะเขาบังเอิญเห็นอากิระพอดี แต่เด็กคนอื่น ๆ ต่างโดนกระสุนและล้มลงร้องด้วยความเจ็บปวด
“เหี้ยเอ้ย!”
ดาร์บี้ กำลังจะโจมตีกลับด้วยการเล็งปืนไปยังอากิระ แต่เมื่อเขาทำเช่นนั้นอากิระก็จากไปแล้ว ความประหลาดใจและความสับสนที่เกิดขึ้นเนื่องจากศัตรูที่โผล่ออกมาอย่างกระทันหันจางหายไป ในทางกลับกัน ความโกรธพลันพลุ่งพล่านภายในตัวเขาแทนที่ความกลัวตาย มือของเขาเริ่มสั่นในขณะที่ถือปืนเล็งไปยังความว่างเปล่า
“ไอ้ห่านั่น กล้าดียังไงมาเล่นงานฉัน!!”
เสียงคำรามด้วยความโกรธของเขาดังก้องไปทั่ว
ในขณะเดียวกัน อากิระกำลังวิ่งไปที่ตรอกด้านหลังด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เนื่องจากเขาวิ่งกลับเข้าไปในตรอกทันทีโดยไม่ได้อยู่ยืนยันว่ายิงโดนหรือไม่ ทำให้เขาหลบหนีจากดาร์บี้และพรรคพวกได้
“อัลฟ่า! เป็นยังไงบ้าง!”
“โดน 3 …มี 2คนที่หมดสภาพต่อสู้ แต่พวกมันทั้งหมดยังมีชีวิตอยู่”
“ดี… มันดีกว่าที่ฉันคาดไว้”
อากิระไม่ใช่คนที่มีความชำนาญในการใช้ปืน โดยปกติแล้ว มันคงเป็นไปไม่ได้สำหรับเขาที่จะกระโดดออกจากตรอกแล้วยิง 3 นัด ส่วนมากมือสมัครเล่นจะกระโดดออกจากตรอกและใช้เวลาในการเล็งก่อนที่จะเหนี่ยวไก
จากนั้นจะยืนอยู่ที่กับที่เพื่อยืนยันว่ากระสุนที่ยิงไปโดนหรือไม่ แต่ถ้าอากิระทำแบบนั้น เขาจะต้องโดนยิงสวนแน่นอน
คนที่ทำให้การยิงครั้งนี้มันเป็นไปได้คืออัลฟ่า อัลฟ่านั้นออกไปจากตรอกก่อนอากิระและตั้งท่ายิงที่มีมั่นคงที่สุดในขณะที่ชี้นิ้วไปทางดาร์บี้และพรรคพวกของเขา อากิระเพียงแค่ทำตามท่าทางของอัลฟ่า
เขากระโดดออกจากตรอกไปยังตำแหน่งที่อัลฟ่ายืนอยู่และเล็งปืนไปยังทิศทางที่ถูกชี้โดยอัลฟ่า จากนั้นเขาก็ยิงกระสุนจำนวนหนึ่งที่วางแผนไว้ในทิศทางเหล่านั้นให้เร็วที่สุดก่อนจะวิ่งกลับไปที่ตรอก .
นี่เป็นเพราะอากิระทำตามคำสั่งของอัลฟ่าอย่างแม่นยำ ทำให้เขาสามารถโจมตีอีกฝ่ายได้สำเร็จ
แต่ศัตรูของเขายังไม่ยอมแพ้ การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป
“เราต้องย้ายไปยังตำแหน่งถัดไป ทางนี้!”
“ได้”
อากิระวิ่งตามหลังอัลฟ่าไปเรื่อยๆ
ดาร์บี้เล็งปืนสำรวจตรอกที่อากิระหายตัวไป แต่เขาไม่เห็นอากิระ เขาคิดว่าอากิระอาจจะซุ่มอยู่ที่ไหนสักแห่งใกล้ๆ จึงพาเพื่อนผู้โชคดีที่ไม่โดนยิงเดินลึกเข้าไปในตรอกอย่างระมัดระวัง
เด็กคนหนึ่งตะโกนใส่ดาบี้ด้วยท่าทางไม่สบายใจขณะที่ดาร์บี้ กำลังเดินลึกเข้าไปในตรอก
“ฮะ..เฮ้!! เราจะทำยังไงกับพวกเขาดี! เราจะปล่อยไว้แบบนี้เหรอ!”
ดาร์บี้ตอบด้วยสีหน้าเคร่งขรึมราวกับว่าเขากำลังโกรธจัด
“เราจะฆ่าเด็กนั่นก่อน!! ไม่อย่างนั้นเราจะย้ายไอ้พวกนั้นไปยังที่ปลอดภัยกว่านี้ไม่ได้!! แกจะทำยังไงถ้าไอ้เด็กนั่นเริ่มยิงใส่เราในขณะที่เรากำลังอุ้มพวกเขาไปหาหมอ!!”
“อ่า…ใช่ นายพูดถูก… ไม่ใช่ว่า…นายกำลังวางแผนที่จะทิ้งพวกเขาใช่ไหม?”
“ถ้าฉันวางแผนจะทิ้งพวกมัน ฉันคงหนีไปแล้ว”
“อะ…อืม…นั่นสินะ”
ดาร์บี้รู้สึกรำคาญพวกเพื่อนของเขาอย่างมาก เขาคิดว่าถ้าคนพวกนี้ไม่หยุดเขา พวกเขาก็คงไม่อยู่ในสถานการณ์แบบนี้
—
อากิระใช้ทางอ้อมเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับดาร์บี้และพรรคพวกของเขา จนเขาวนกลับมายังที่ที่พวกนั้นอยู่ เขาเล็งไปที่หัวของเด็กชายคนหนึ่งอย่างระมัดระวัง ในขณะที่คอยดูเด็กที่ได้รับบาดเจ็บคนอื่นไปด้วย
เด็กทั้งหมดถูกยิง มีเด็กที่เป็นลม และเด็กที่กระซิบกันหลังจากปะทะกับอากิระ พวกเขาทั้งหมดเงียบลงเมื่ออากิระเหนี่ยวไกปืน
มีเสียงปืนดังขึ้น 3 นัด ตามมาด้วย 3 ศพที่หัวเป็นรูกลิ้งไปกับพื้น
“…เสร็จไป 3 เหลืออีก 2 ”
“กลับไปซ่อนเดี๋ยวนี้”
“รับทราบ”
อากิระถอยออกไปอีกตรอกหนึ่งและซ่อนตัว ขณะที่อากิระเอนหลังพิงผนังเพื่อปรับลมหายใจ อัลฟ่าก็ออกคำสั่งเพิ่มเติม
“อากิระ หยิบยาที่คุณไม่ได้ขายออกมาแล้วกินมันซะ”
“แต่ฉันไม่บาดเจ็บอะไรนี่”
“กินยาซะ… 10 เม็ดไปเลย”
อากิระรู้สึกงง แต่เขาหยิบกล่องยาออกมาจากถุงกระดาษทันทีและเปิดมันออกตามคำสั่ง เขาหยิบยาออกมาบางส่วนใส่มือ
[…นี่เป็นวัตถุโบราณของโลกเก่า มันน่าจะเป็นยาของโลกเก่าใช่ไหม? นี่อาจเป็นยาที่มีประสิทธิภาพมาก รู้สึกเหมือนเสียเปล่านะเนี่ยที่ต้องใช้มันโดยที่ฉันไม่ได้รับบาดเจ็บ… แต่อัลฟ่าบอกให้ฉันกิน… ดังนั้น…]
เนื่องจากเป็นคำสั่งของอัลฟ่า จึงต้องมีเหตุผลบางอย่างอยู่เบื้องหลังแน่ เมื่ออากิระคิดแบบนั้น เขาก็กลืนยาลงไป
—
เมื่อได้ยินเสียงปืน ดาร์บี้และเพื่อน ก็รีบวิ่งกลับไปหาเพื่อนที่ได้รับบาดเจ็บ ใบหน้าของดาร์บี้กระตุกด้วยความโกรธเมื่อมองไปที่ศพของพวกเขา
“ไอ้เหี้ยเอ้ย มันตุ๊ยหลังเรา!!”
เพื่อนของดาร์บี้เดินมาสมทบ ใบหน้าของเขาซีดเซียวเมื่อเห็นศพเพื่อนๆ เขาถอยห่างจากดาร์บี้ สองสามก้าวก่อนจะตะโกนใส่เขาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“นะ…นี่มันเป็นความผิดของคุณ!! ทั้งหมดเป็นความผิดของคุณ!! มันเป็นเพราะคุณยิงเด็กนั่น!!!”
หลังจากตะโกน เขาก็วิ่งอย่างเร็วที่สุดโดยทิ้งดาร์บีไว้ข้างหลัง ขณะที่เขาวิ่ง เสียงปืนอีกนัดก็ดังขึ้น เป็นอากิระที่ยิงออกไป แต่มันพลาด เด็กชายยังคงวิ่งลึกเข้าไปในสลัมพร้อมกับกรีดร้องและหายตัวไป
ดาร์บี้กำลังคิดที่จะวิ่งหนีเช่นกัน แต่เขาทำไม่ได้ ความเกลียดชังที่เห็นเพื่อนๆของเขาถูกฆ่าและความรังเกียจต่อเพื่อนที่วิ่งหนีเขาไป ผลักดันให้เขาก้าวไปข้างหน้า เขายืนอยู่ที่นั่นโดยไม่วิ่งหนีและตะโกน
“ไอ้เด็กเหี้ย!! ออกมาเจอกับกูสิวะ!!”
มีตรอกเดียวที่อากิระสามารถยิงไปที่เด็กชายที่กำลังวิ่งอยู่ได้ ดาร์บี้สลัดความกลัวที่จะถูกฆ่าออกไปและวิ่งไปที่ตรอกนั้น
สำหรับอากิระ เขากำลังเตรียมตัวเองให้พร้อมสำหรับการดวลกับดาร์บี้ เขาซ่อนตัวอยู่ในตรอกในขณะที่อัลฟ่ายืนอยู่ข้างหน้าเขาและบอกตำแหน่งของดาร์บี้
อากิระวางแผนที่จะยิงหัวของดาร์บี้ทันทีที่เขาเข้ามาในตรอก และเพื่อจุดประสงค์นั้น อากิระจึงถือปืนด้วยมือทั้งสองข้างรอให้ถึงเวลา
แต่สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น อากิระคิดว่าดาร์บี้จะค่อยๆเข้ามาในตรอกอย่างระมัดระวัง แต่ดาร์บี้กลับทำตรงกันข้าม เขาตะโกนพร้อมกับพุ่งเข้ามาในตรอก
ดาร์บี้คิดว่าอากิระน่าจะวิ่งหนีลึกเข้าไปในตรอก นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เขารีบเร่งความเร็วเต็มที่และพุ่งเข้าไป
แต่เขากลับพบว่าอากิระยืนอยู่ใกล้ๆเขา ตัวเขาคาดไม่ถึงกับสถานการณ์นี้
ทั้งสองต่างประหลาดใจ พวกเขาอยู่ใกล้กันจนแทบจะประชิด พวกเขารีบเล็งปืนใส่กันและเหนี่ยวไกทันที
ทั้งคู่ล้มลงกับพื้น กระสุนโดนแขนของกันและกัน ทั้งสองคนได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ขณะที่พวกเขานอนดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวด พวกเขานึกถึงสิ่งเดียวกัน ‘อีกฝ่ายยังมีชีวิตอยู่!’
และกระสุนนัดนั้นไม่เพียงพอที่จะฆ่าศัตรูได้ ดังนั้นทั้งคู่จึงต้องสานต่อให้จบ พวกเขาเล็งปืนใส่กันอีกครั้งโดยไม่สนใจความเจ็บปวด
เมื่อดาร์บี้กำลังจะเล็งปืน เขากลับพบว่าปลายกระบอกปืนของอากิระอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว อากิระเหนี่ยวไก กระสุนพุ่งออกจากปืนของเขาและพุ่งเข้าใส่ดาร์บี้ในระยะเผาขน มันไม่ใช่การยิงเข้าจุดตาย
แต่มันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ดาร์บี้หมดสภาพ… ดาร์บี้ทิ้งปืนของเขาและล้มลงในแอ่งเลือดของตัวเอง ชีวิตของเขาจบลงตรงนั้น
หลังจากฆ่าดาร์บี้ อากิระมองดูอาการบาดเจ็บของเขาทันที มีรูที่ชุดของเขาและมีเลือดไหลออกมาค่อนข้างมาก มันเป็นบาดแผลฉกรรจ์ แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น เขากลับไม่รู้สึกว่าการเคลื่อนไหวของเขาทื่อ และไม่รู้สึกเจ็บปวดแม้แต่น้อย
ขณะที่เขากำลังสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น จู่ๆ อัลฟ่าก็ตะโกนใส่เขาด้วยสีหน้าจริงจัง
“อากิระ รีบพันแผลซะ”
“อัลฟ่า คือว่า…ไม่รู้ทำไม แต่ฉันไม่รู้สึกเจ็บปวดเท่าไหร่…”
“มันเป็นผลจากยาแก้ปวด ยาที่นายกินก่อนหน้านี้ แต่มันไม่ได้รักษาบาดแผลหรอกนะ”
“อา…ฉันเข้าใจล่ะ นั่นคือเหตุผลที่เธอบอกให้ฉันทานยาก่อนใช่ไหม”
ต้องขอบคุณยาแก้ปวดที่ทำให้เขายังเคลื่อนไหวได้ ยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากเขาถูกยิงทันทีหลังจากกินยา เขาจึงสามารถมีสมาธิกับการดูแลบาดแผลได้ทันที แม้ว่าฤทธิ์ยาจะยังไม่แสดงผลเต็มที่ แต่ก็ช่วยให้อากิระรอดชีวิตมาได้
“ก่อนอื่น กินยาแบบเมื่อกี้ไปอีก 10 เม็ด จากนั้นเปิดยาอีก 10 เม็ดแล้วโรยตัวยาลงบนแผลของนายซะ สุดท้าย ทำแผลด้วยเทปสมานแผล… เร็วเข้า ถ้านายเป็นลมโดยที่ยังไม่ปฐมพยาบาลให้เรียบร้อย นายจะตาย”
อากิระสามารถขยับร่างกายที่ได้ฤทธิ์ยากดความเจ็บปวดไว้ได้ เขาหยิบถุงกระดาษที่ทำหล่นไม่ไกลจากตัวเขาและกลืนยา 10 เม็ด จากนั้นเขาก็เปิดยา 10 เม็ดด้วยมือที่ยังสั่นเทาและโปรยเข้าไปในบาดแผลโดยตรง
ความเจ็บปวดเช่นเดียวกับตอนที่เขาถูกตี จู่โจมเขาขณะที่เขาโปรยยาแก้ปวดลงบนบาดแผล เขากัดฟันและทนความเจ็บปวดไว้ และเมื่อเขาทำเสร็จ เขาก็หันไปหาอัลฟ่าด้วยใบหน้าเป็นกังวล
“เออ…อัลฟ่า แค่นี้พอหรือยัง?”
“การใช้ยาแก้ปวดโดยตรงกับแผลจะลดประสิทธิภาพของยาแก้ปวด แต่ในทางกลับกัน นั่นจะทำให้เครื่องนาโนในยาทำงานโดยตรงกับแผลของนาย เพียงแค่อดทนกับมันเพิ่มนิดหน่อย”
และอย่างสุดท้าย อากิระดึงวัตถุที่ดูเหมือนผ้าพันแผลออกมาจากถุงกระดาษและพันที่แผลของเขา
“นั่นน่าจะเพียงพอแล้ว รีบย้ายออกไปจากที่นี่กันเถอะ มันอันตรายถ้าเราอยู่ที่นี่นานๆ”
“ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันจะเคลื่อนที่ได้แค่ไหน… แต่ฉันต้องออกไปจากที่นี่ให้ได้”
อากิระรู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งเมื่อเขาลุกขึ้นยืนและเริ่มเดิน ทุกครั้งที่เขาก้าว เขารู้สึกเจ็บปวดไปทั้งตัว แต่เขาก็สามารถเดินต่อไปได้ เมื่อเห็นว่าบาดแผลของเขาแย่มาก มันเป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่เขาสามารถเคลื่อนไหวไปมาได้แบบนี้
มันแสดงให้เห็นว่ายาจากโลกเก่านั้นน่าอัศจรรย์ขนาดไหน เพียงเวลาสั้นๆมันสามารถช่วยรักษาเขาได้มากขนาดนี้
แต่อากิระก็รู้สึกเจ็บปวดมากเสียจนไม่มีเวลาว่างให้คิดถึงเรื่องนั้นเลย ใบหน้าของเขากระตุกด้วยความเจ็บปวดขณะที่เขาเดินต่อไป
อัลฟ่ามองไปยังอากิระที่ดูเหมือนเขาใกล้จะเป็นลม เพื่อให้เขามีสติ เธอให้กำลังใจเขาด้วยใบหน้าที่จริงจัง
“นายทำได้น่า!”
“อ่า”
อากิระสามารถไปยังที่นอนที่อื่นนอกจากเมื่อวานได้สำเร็จ เขาพยายามทำให้ตัวเองไม่สลบไปก่อนในขณะที่เขากำลังเตรียมที่นอนของเขา
เขาส่ายสายตาดูสภาพแวดล้อมของเขาและระมัดระวังมากกว่าปกติ เขาคิดว่าเขาจะต้องถูกฆ่าอย่างแน่นอนหากมีใครเข้ามาใกล้เขาในตอนนี้ เพราะแบบนั้นเขาจึงซ่อนตัวอยู่ในตรอกหลังเพื่อไม่ให้ใครพบเขา หลังจากจัดเตรียมเรียบร้อยแล้วเขาก็ล้มตัวนอนทันที
“…อัลฟ่า ฉันถึงขีดจำกัดแล้ว ฉันจะนอนแล้ว ราตรีสวัสดิ์”
อัลฟ่าตอบกลับด้วยเสียงแผ่วเบาในขณะที่ดูกังวล
“ราตรีสวัสดิ์ พักผ่อนให้สบาย”
เมื่ออากิระหลับตาลงทั้งที่ยังกลั้นความเจ็บปวดอยู่ สติของเขาก็หลุดลอยไปในทันที
[…ฉันหวังว่าฉันจะยังสามารถลืมตาได้อีกครั้งในเช้าวันพรุ่งนี้]
แม้ว่าเขาจะอธิฐานในใจแบบนั้น แต่เขาก็ไม่รู้ว่าเขาเองอธิฐานต่ออะไร
…
น่าแปลกที่อากิระตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่อย่างสดชื่น ขณะที่เขารู้สึกประหลาดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขารู้สึกแปลกใจอย่างมากเมื่อพบว่าตัวเองยังมีชีวิตอยู่
“…ฉันยังมีชีวิตอยู่เหรอ? หืม… หืม?”
เมื่อเขาตรวจสอบแขนของเขาที่รู้สึกแปลก ๆ เขาก็พบว่ามีอะไรบางอย่างบนจุดที่เขาถูกยิงเมื่อวานนี้ หลังจากมองเข้าไปใกล้ๆ เขาก็เห็นว่ามีบางอย่างติดอยู่ระหว่างผิวหนังของเขากับเทปบำบัด
เขาจึงลอกเทปอย่างระมัดระวังและพบกระสุนปืนที่บิดเบี้ยวอยู่ตรงนั้น ดูเหมือนว่ากระสุนจะ’เคย’ฝังอยู่ในร่างกายของเขา แต่ร่างกายของเขาก็ขับกระสุนออกมา
“…นี่กระสุนจากเมื่อวานเรอะ? มันติดอยู่ในเนื้อฉันหรือเนี่ย?”
“น่าจะเป็นอย่างนั้น ดูเหมือนว่าเครื่องนาโนแมชชีนพยายามจะดึงกระสุนออกจากร่างกายของนาย แต่ถูกเทปขวางไว้ การถอดเทปออกตอนนี้เลยน่าจะดีกว่า”
อากิระรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่พบอัลฟ่าอยู่ข้างๆ …แต่เขาก็ไม่แปลกใจเหมือนเมื่อวาน นี่หมายความว่าอากิระเริ่มชินกับการมีอัลฟ่าอยู่ข้างๆ
หลังจากที่เขาดึงกระสุนที่ปักบนผิวหนังออกอย่างแรง เขาก็ติดเทปกลับที่บาดแผลแต่ไม่รู้สึกเจ็บอีกต่อไป
อัลฟ่ายิ้มอีกครั้ง
“อากิระ สวัสดีตอนเช้า! เมื่อวานก็แค่วันแย่ๆวันหนึ่ง …แต่เป็นไงบ้าง นอนหลับสบายดีไหม?”
“อืม ฉันหลับสบายมากเลย… ฉันนอนเกินเวลานิดหน่อยด้วยซ้ำ”
พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว มันเลยเวลาตื่นตามปกติของอากิระไปมาก ท้องของเขาร้อง เขาไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เมื่อคืน และถ้านับตอนนี้ด้วย เขาก็พลาดมื้อเช้าไปแล้ว…
“เอ้ย!! แจกอาหารยังไม่จบใช่มั้ย!”
อากิระรีบไปที่จุดจำหน่ายอาหารแทบไม่ทัน
เดิมทีเขาวางแผนที่จะไปที่ซากปรักหักพังของเมืองคุสุสุฮาระ แต่เขายกเลิกไปเพราะคำสั่งของอัลฟ่า ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจพักผ่อนทั้งวันเพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกายให้สมบูรณ์
เป็นเรื่องแปลกจริงๆ ที่เขาต้องการพักผ่อนเพียงวันเดียวเท่านั้นหลังจากถูกยิง อากิระเองก็คิดว่ามันเป็นเรื่องแปลก แต่ความเจ็บปวดหายไปทั้งหมดและอาการชาส่วนใหญ่ก็หายไปแล้ว
ในที่สุดอากิระก็ตระหนักว่าทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณยาจากโลกเก่า เขารู้สึกสั่นเทิ้มขึ้นมาในขณะที่เขากำลังพักผ่อนอยู่ในตรอก
[ทั้งยาและเทปทำขึ้นโดยอารยธรรมของโลกเก่า ดังนั้นพวกมันจึงเป็นโบราณวัตถุจากโลกเก่า พวกมันน่าจะทำเงินได้ค่อนข้างมากหากเขาขายพวกมัน
…อย่างที่คิดเลย การใช้มันแบบนี้ช่างเปล่าประโยชน์จริงๆ… แต่ ถ้าไม่ทำอย่างนั้น ฉันคงตายไปแล้ว]
มีของจำนวนมากที่สร้างขึ้นจากเทคโนโลยีขั้นสูงของโลกยุคเก่าที่ไม่สามารถทำซ้ำได้ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน และไม่ได้จำกัดแค่ยาเท่านั้น
ตัวอย่างเช่น ครั้งหนึ่งมีการพบวัตถุโบราณเป็นมีดขนาดเล็กในซากปรักหักพัง มันสามารถตัดอะไรก็ได้อย่างง่ายดายโดยใช้แรงนิดเดียว ลืมของอย่างพวกเนื้อปลาหรือเนื้อสัตว์ไปได้เลย มันสามารถตัดเหล็กและคอนกรีตได้ด้วยซ้ำ
ในขณะเดียวกัน มันกลับไม่สามารถเฉือนเนื้อมนุษย์ได้ ไม่ว่าจะพยายามมากแค่ไหนก็ตาม เมื่อดูภาพรวมแล้ว ฟังก์ชันที่มีทั้งสองแบบนี้ดูเหมือนจะขัดแย้งกัน ยิ่งไปกว่านั้น มันจะไม่ทื่อลงแม้ว่าจะใช้มันเพื่อแยกเหล็กออกเป็นสองส่วน มันจะไม่เกิดสนิมแม้ว่าคุณจะทำให้มันเปียก
และจะไม่สึกกร่อนแม้ว่าคุณจะจุ่มมันลงในสารทำละลาย เมื่อนักวิจัยจากบริษัทต่าง ๆ ปิดระบบความปลอดภัยของมีด มันก็ตัดรถถังทั้งคันออกเป็นสองส่วนก่อนที่จะสลายเป็นความว่างเปล่า
มากกว่าครึ่งของความรู้ทางการคำนวนในปัจจุบันได้รับการพัฒนาโดยการถอดรหัสความรู้จากโลกยุคเก่า แต่สำหรับนักวิจัยที่ใช้เวลาศึกษามาทั้งชีวิต ก็ยังมีวัตถุโบราณจำนวนมากที่พวกเขาใช้โดยขาดความรู้เกี่ยวกับการใช้งานของมัน
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้คนถึงจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อซื้อวัตถุโบราณเหล่านี้ นอกจากนี้ ความสุขที่แท้จริงของการเป็นฮันเตอร์คือการใช้วัตถุโบราณเหล่านี้ด้วยตัวคุณเองแทนที่จะขายมัน
ที่เขายังมีชีวิตอยู่นี้ต้องขอบคุณยาที่มีประสิทธิภาพสูงของโลกเก่า ดังนั้นแม้แต่อากิระที่ไม่ค่อยมีความรู้ ก็ยังรู้ว่ายาสามารถทำเงินให้เขาได้มากมายหากเขาขายมัน
…แต่เขายังไม่ตระหนักว่ามีบางอย่างที่น่าอัศจรรย์ยิ่งกว่ายาอยู่เคียงข้างเขา
———————
Avolenn : ไวฟุ ยังไงล่ะ ไอ้ลูกชาย
———————
สนับสนุนผู้แปลได้ที่นี่นะครับ กสิกร 475-2-65694-8 เมือง บ.