Rise of the White Dragon การตื่นขึ้นของมังกรขาว - ตอนที่ 43
หลังจากทุกอย่างเกิดขึ้นลูเอน ได้ทำลายหลักฐานทั้งหมดของสิ่งที่เกิดขึ้น และทำให้ผู้ชายในชุดสูทสีดำลืมทุกสิ่งที่เห็น แน่นอนว่าเขาแค่จับแขนและควบคุมจิตใจของคนที่กำลังจะขับรถและชนรถตกหน้าผา เหตุผล? ลูเอนจะไม่ให้อภัยใครก็ตามที่พยายามทำร้ายครอบครัวของเขา
จะเป็นอย่างไร ถ้าพวกเขารอดชีวิต แม้จะตกหน้าผา? นั่นไม่ใช่สิ่งที่ ลูเอนกังวล เพราะไม่มีอะไรที่จะต้องทำในสถานที่นั้นอีกแล้ว ลูเอน แม่ของเขาและเด็กผู้หญิงทั้งหลายกลับไปที่คฤหาสน์
เนื่องจากความหวาดกลัวที่เธอได้รับ คาธารีน่าจึงมีแรงจูงใจที่จะเข้มแข็งมากขึ้น วันนี้เป็นวันที่เธอสามารถใช้ยาเสริมสร้างรากฐานได้ เธอไม่อยากเสียเวลา เธอจึงฝึกฝนโดยใช้เทคนิคการเคลื่อนไหว 9 ท่าเป็นเวลาเกือบ 3 ชั่วโมง จากนั้นเธอนั่งลงบนพื้นโดยไขว้ขาและกลืนยาพื้นฐาน
ไมร่าลงเอยด้วยการทำสิ่งเดียวกับลูกสาวของเธอและกลืนยาสร้างรากฐานและเริ่มใช้เทคนิคการทำสมาธิ พลังงงานค่อยๆกระจาย และเม็ดยาเริ่มเสริมสร้างทุกส่วนของร่างกาย ในขณะที่เธอฝึกฝน กล้ามเนื้อ กระดูก อวัยวะและผิวหนังทุกอย่างเริ่มแข็งแกร่งขึ้นในอัตราที่น่าตกใจ!
ก่อนที่เธอและคาธารีน่าจะรู้ตัว แม่และลูกสาวทั้งคู่ก็ได้ทำลายขีดจำกัดแล้ว และตอนนี้พวกเธอแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาถึง 5 เท่า
อิงกริดยังทำลายขีดจำกัดของเธอต่อไป ในตอนนี้เธอแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาถึง 21 เท่า คริสตินาได้ทำลายขีดจำกัดแล้วและแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาถึง 8 เท่า
แม้ว่าลูเอนจะเริ่มต้นได้แล้ว แต่เขาก็สามารถสร้างความแข็งแกร่งให้กับตัวเอง จนถึงจุดที่เขาอยู่ในตอนนี้ ได้อย่างไม่น่าเชื่อ โดยแข็งแกร่งกว่าคนธรรมดาถึง 35 เท่า นอกจากนี้เขายังมี พลังงาน Qi เชิงลบของเขาอีก ซึ่งถ้าเขาใช้มันร่วมกับความแข็งแกร่งของเขา เขาจะแข็งแกร่งขึ้นเกือบ 46 เท่า
ใกล้จะเที่ยงแล้ว เมื่อคาธารีน่าและไมร่าฝึกเสร็จและไปอาบน้ำ ลูเอน, อิงกริด และ คริสตินา ยังคงนั่งสมาธิ เพียงไม่กี่นาทีต่อมา คริสตินาก็นั่งสมาธิเสร็จและไมร่าก็มอบผ้าขนหนูและชุดเสื้อผ้าให้เธออาบน้ำ
*
ใกล้เวลา 18.00 น. แล้วลูเอน สวมเสื้อยืดสีดำและเสื้อเบลเซอร์ และกางเกงขายาวสไตล์อิตาลีสีเขียวเข้ม ที่ทำจากผ้าไหมสีดำและรองเท้าผ้าใบสีดำ ผมของเขากระเซิงเล็กน้อยโยนไปทางขวา
“อิงกริด ฉันจะไปเดินเล่น คุณอยากไปกับฉันไหม” ลูเอนชวนเธอ
ลูเอนในตอนนี้กำลังรอคำตอบของอิงกริดอย่างเงียบ ๆ
“ … ” อิงกริดรู้สึกเขินกับคำชวน
เหตุผลที่เธอขี้อายคือเธออยู่ต่อหน้า ไมร่า, คาธารีน่า และ คริสตินา เมื่อได้รับคำเชิญเช่นนี้ เธอก้มหน้าลงกลัวที่จะสบตาเขาและพูดอย่างอ่อนโยนว่า “ไปสิ”
ก่อนที่ลูเอนจะได้พูดอะไรตอบ อิงกริดก็วิ่งไปที่ชั้น 2 พร้อมกับพูดว่า “เดี๋ยวก่อนนะ ฉันขอเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน”
“โอ้ เขาถามเธอแบบนั้นไม่เลวเลย” คาธารีน่ายกนิ้วโป้งให้พี่ชาย
“ลูกชาย แม่รู้ว่าลูก็รู้ แต่ถ้าลูกจะทำบางอย่างเช่น … ” ไมร่าหันหน้าไปทางคริสตินา ซึ่งอยู่ที่นั่นด้วยและพยายามทำตัวให้บอบบางที่สุด “เล่นฟุตบอล….อย่าลืมใส่ ‘รองเท้าฟุตบอล’ ”
ลูเอนรู้ว่าแม่ของเขาคิดมากเกินไป อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้กังวลที่จะอธิบาย
คริสตินากระพริบตาที่ไร้เดียงสาของเธอ และสงสัยว่าลูเอนและอิงกริดจะไปเล่นฟุตบอลที่ไหน และพวกเขาจะสามารถเล่นกับใครได้ บางทีพวกเขาอาจจะเล่นบนชายหาด? เธอจำได้ว่า เธอเห็นจากระเบียงคฤหาสน์ว่าตอนนั้นมีคนเล่นฟุตบอลอยู่บ้าง … แต่ลูเอนทำไมต้องใส่รองเท้าบู๊ตบนชายหาด? เธอรู้สึกสับสน
แม้ว่าคาธารีน่าจะไม่เคยเดทมาก่อน แต่เธอก็ยังเข้าใจสิ่งที่แม่ของเธอพยายามบอกเป็นนัย เธอหน้าแดงเล็กน้อย ขณะนึกภาพและส่ายหัวกำจัดภาพเหล่านั้น
เกือบครึ่งชั่วโมงต่อมา อิงกริดก็ลงบันไดมา เธอมองไปในทิศทางของลูเอนพร้อมกับแก้มแดงเล็กน้อย เธอสวมชุดเดรสสีแดงสวย ที่เผยให้เห็นหน้าอกสีขาวที่สมบูรณ์แบบของเธอเล็กน้อยและยาวไปถึงหัวเข่าของเธอ รองเท้าส้นสูงที่เธอสวมทำให้รูปร่างของเธอสวยงามยิ่งขึ้น ดูเหมือนว่าเธอมีก้นที่ใหญ่กว่าปกติมาก
ลูเอนมองไปที่เธอ 2-3 วินาทีแล้วพูดว่า “คุณดูดีมากในชุดสีแดงนั่น…”
ทันใดนั้นอิงกริดก็ตระหนักได้ว่าทำไมผู้หญิงถึงชอบรับคำชมจากคนที่พวกเขารัก ราวกับว่าร่างกายของเธอมีความปรารถนาที่เป็นธรรมชาติและไม่อาจพรรณนาได้ ที่จะสังเกตเห็นและคำยกย่องจากคนที่เธอรัก
เป็นไปได้ไหมที่ร่างกายของเธอโหยหาความรักและความโปรดปรานจากคนที่เธอรัก? เมื่อนึกถึงเรื่องนี้การเต้นของหัวใจของอิงกริด ก็เริ่มเต้นเร็วขึ้น ความรู้สึกเขินอายผุดขึ้นมาในใจ เป็นการยากที่จะอธิบายความซับซ้อนของสิ่งที่ดูเหมือนความตื่นเต้น ความเสน่หาและความปรารถนา
อย่างไรก็ตามอิงกริดมั่นใจในสิ่งหนึ่งคือ เธอรู้สึกถึงความสุขอันแสนหวานที่เธอไม่สามารถบรรยายได้ในใจ เหมือนกับว่าเธอดื่มช็อคโกแลตร้อน เพื่อดับกระหายในฤดูร้อนอยู่ ความรู้สึกที่ไม่อาจพรรณนาได้นั้น สวยงามราวกับความรู้สึกเมื่อพบว่าเธอกำลังมีความรัก
อิงกริดตอบอย่างเขิน ๆ ว่า “ขอบคุณค่ะ”
ริมฝีปากของลูเอนโค้งด้วยรอยยิ้มที่หาได้ยาก
“พวกเรากำลังจะไปแล้ว ลาก่อน แม่ น้องสาวและน้องสาวคนเล็ก” ลูเอนลูบหัวของคริสตินาเบา ๆ และบอกลาพวกเขา
จากนั้น ลูเอน และ อิงกริด ก็ไปที่โรงรถ แล้วเขาก็เปิดประตูให้ อิงกริด เข้าไปใน รถแลมโบกินี่ สีเขียว
“ขอบคุณค่ะ” อิงกริดขอบคุณเขา ขณะที่เธอขึ้นรถ
ลูเอนเดินไปอีกด้านและนั่งประจำที่คนขับ
เมื่อรถสตาร์ท โรงรถก็เปิดและรถก็เริ่มเคลื่อนตัว ทันทีที่พวกเขากำลังจะออกจากโรงรถ อิงกริด อดไม่ได้ที่จะถามว่า “เราจะไปไหนกัน”
“ร้านอาหาร เจ บิสโทร เป็นร้านอาหารที่อยู่ไม่ไกลจากที่นี่” ลูเอนตอบ
“โอ้ … ” อิงกริดหายใจเข้าลึก ๆ และมองออกไปนอกหน้าต่าง พลางวางฝ่ามือบนคางของเธอ ขณะที่หลีกเลี่ยงการสบตากับลูเอน ‘นี่คือการเดทใช่มั้ย?’ ในใจของเธอ เหมือนกับว่ามีหญิงสาวในตัว เธอรู้สึกดีใจที่ได้เดทกับผู้ชายที่เธอรัก แต่เธอก็พยายามไม่แสดงออก
นาทีต่อมา ลูเอนขับรถเข้าไปในลานจอดรถของร้านอาหาร เจ บิสโทร
เขาช่วยอิงกริดออกจากรถ และเขายังคงจับมือเธอ ขณะที่พวกเขาเดินไปที่ทางเข้าร้านอาหาร
“ขอบคุณค่ะ” อิงกริด รู้สึกอ่อนหวานเป็นพิเศษและนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอรู้สึกเหมือนเป็นเจ้าหญิงในเทพนิยาย
“ด้วยความยินดี” ลูเอนกล่าว ดวงตาสีแดงโค้งของเขาดูสวยงามมาก พร้อมกับขนตายาวของเขากะพริบตามธรรมชาติ
ขณะที่อิงกริดและลูเอนเข้าไป พนักงานต้อนรับของร้าน เจย์ บิสโทร ก็ตกตะลึง เพราะความงามของ ลูเอน และ อิงกริด นั้นไม่ธรรมดา พวกเขาสมบูรณ์แบบ! สมบูรณ์แบบอย่างไม่น่าเชื่อ!
ระหว่างทางบางคนในร้านอาหารที่เห็นลูเอน และ อิงกริด ทุกคนนั้นหันไปมองตามทิศทางของพวกเขา
ก่อนที่พนักงานต้อนรับจะไปรับเมนูพวกเขา และผู้จัดการของร้าน ก็ปรากฏตัวขึ้นและถูมือเข้าด้วยกันพลางพูดด้วยรอยยิ้มกว้าง “ยินดีต้อนรับ คุณลูกค้าที่มีชื่อเสียง โปรดให้กระผมพาคุณไปที่โต๊ะที่คุณดีมาส ได้จองไว้”
หลายคนประหลาดใจในฉากนั้น แต่เมื่อได้ยินนามสกุลของลูกค้าที่จองโต๊ะ ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะแสดงความชื่นชมและปรารถนาที่จะรู้จักคนที่มีนามสกุลดีมาสให้มากขึ้น ตอนนี้เดาได้ง่ายว่าทำไมผู้จัดการของร้านถึงสุภาพมากขนาดนี้ หลายคนสามารถรับรู้ได้ทันที ว่าผมสีขาวและดวงตาสีแดง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นของทายาทบริษัทดีมาส
‘แต่เดิมเขาหล่อและสง่ามากขนาดนี้เลยเหรอ?’ หลายคนเริ่มสงสัย
ก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่าเขาเป็นแค่เพลย์บอยที่แค่อยากจะเล่นสนุก ๆ และไม่เคยจริงจังกับเรื่องนี้เลย ไม่น่าแปลกใจที่คนเหล่านี้ตกใจกับรูปลักษณ์ที่สง่างามของลูเอน ซึ่งถ่ายทอดออกมาท่ามกลางบรรยากาศที่ไม่แยแสนัก
“ได้” ลูเอนพยักหน้าตามความเป็นจริง
ในทางกลับกันอิงกริดไม่คุ้นเคยกับการได้รับการดูแลแบบนี้และรู้สึกประหม่าเล็กน้อย มือของเธอสั่นเล็กน้อยและนั่นคือตอนที่เธอจำได้ว่าเธอยังคงจับมือของลูเอนและก้มหัวลงด้วยท่าทางขี้อาย
สุดทางเดินมีบันไดทางขึ้น ผู้จัดการพาพวกเขาไปที่ชั้น 2 ซึ่งสงบและละเอียดอ่อนกว่า มีโต๊ะกลมพร้อมผ้าขนหนูสีขาวและเก้าอี้สีขาวและสีดำซึ่งดูสบายตามาก
โต๊ะที่ลูเอนจองไว้อยู่ที่ระเบียงชั้น 2 ใกล้หน้าต่างที่หันหน้าไปทางทะเล ในส่วนของระเบียงนั้นมีโคมไฟระย้าสองดวงส่องแสงไฟต่ำที่สร้างอารมณ์โรแมนติกและมีการเล่นดนตรีช้าๆเป็นพื้นหลัง แต่ไม่ดังเกินไปซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้รับประทานอาหารอย่างเพลิดเพลิน
ลูเอนดึงเก้าอี้ออกเพื่อให้อิงกริดนั่งลง
แม้จะรู้สึกเขินเล็กน้อย เมื่อเธอปล่อยมือของลูเอนแต่ อิงกริดก็รู้สึกราวกับอยู่ในความฝันเมื่อลูเอน ทำทั้งหมดนี้ ทุกอย่างรู้สึกดีสำหรับเธอ เธอเดินไปนั่งและลูเอนก็ดันเก้าอี้ไปข้างหน้าเล็กน้อย
ลูเอนนั่งอยู่อีกด้านหนึ่งของโต๊ะหันหน้าไปทางอิงกริด
“สั่งได้ตามใจชอบ บริกรอยู่ที่นี่เพื่อคุณ” ผู้จัดการกล่าวด้วยวิธีสุภาพและประจบสอพลอ เขาถูมืออีกครั้งก่อนจะโค้งคำนับและจากไป
หลังจากที่พนักงานเสิร์ฟส่งเมนู ลูเอนก็มองไปที่มันสั้น ๆ และเลือกสิ่งที่เขาต้องการแล้ว “โปรดนำกุ้งมังกรย่างกับลิงกูนี่โฮมเมดและไวน์ เชทัวเนฟ ดูเอล ปาปา 1989 ของ เชทัว โบคัสเทล มาให้ฉันด้วย”
“ฉันต้องการสิ่งเดียวกันค่ะ” อิงกริดลังเลใจในทางเลือกของเธอและจบลงด้วยการปิดเมนูและตัดสินใจที่จะคัดลอกจากลูเอน ในท้ายที่สุดเธอคิดว่าพนักงานเสิร์ฟอาจเข้าใจผิดเธอได้ เธอจึงเสริมว่า “ฉันหมายความว่าโปรดนำกุ้งมังกรย่างกับลิงกูนี่โฮมเมดมาให้ฉันด้วยค่ะ”
“กรุณารอซักครู่ครับ” บริกรทำท่าโค้งที่สมบูรณ์แบบ ขณะที่เขาโค้งเข้าหาพวกเราและจากไป
————————————————————–