Silver Overlord - ตอนที่ 142
142 – ดิ้นรนอยู่บนชีวิตและความตาย
จูอันเข้ามาใกล้เขา ฝ่ามือที่เขาเหวี่ยงเข้าหาเอี้ยนลี่เฉียงนั้นทรงพลัง รวดเร็วและรุนแรงมากเอี้ยนลี่เฉียงขยับร่างกายไปด้านข้างโดยไม่ต้องคิดและก้าวไปข้างหน้า
มีตในมือของเขาเพิ่งไปที่คอของจอันในลักษณะที่พร้อมจะแลกชีวิตตกตายไปด้วยกัน
เก้าในสิบคนธรรมดาจะเลือกที่จะปกป้องและหลบเลี่ยงหากต้องเผชิญกับการโจมตีของจูอัน ตรงกันข้ามเอี้ยนลี่เฉียงไม่ได้ปัดป้องหรือหลบเลี่ยงแต่เขาเลือกที่จะโจมตีออกไปแทน
ทันทีที่จอันโจมตีเอี้ยนลี่เฉียงก็เข้าใจแล้วว่าเขาไม่ใช่คู่มือของจูอันไม่ต้องสงสัยเลยว่าจูอันไม่ได้เป็นเพียงนักรบ แต่ยังเป็นผู้ที่ทรงพลังมากในหมู่พวกเขาด้วย
ความแข็งแกร่งของเขาเป็นความสามารถของเอี้ยนลี่เฉียงมาก ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ การเลือกวิธีการต่อสู้แบบธรรมดาก็ไม่มีความหมาย
ความแตกต่างระหว่างจุดแข็งของพวกเขานั้นชัดเจนเกินไป ถ้าเขาต้องการจะหนี้ เขาก็ทําได้เพียงต่อสู้เพื่อแย่งชิงโอกาสพวกนั้นมา
การโจมตีของเอี้ยนลี่เฉียงนั้นรุนแรงและมั่นใจอย่างยิ่งจูอันก็แอบตกใจเช่นกัน เขาตระหนักว่าเอี้ยนลี่เฉียงมีฝีเท้าที่ว่องไวและการตอบสนองที่เฉียบคม
พลังที่อยู่เบื้องหลังการแทงนั้นมีประสบการณ์ ค่อนข้างคล้ายกับของนักรบและไม่เหมี อนเด็กหนุ่มอายุสิบสี่หรือสิบห้าเสียงตบดังขึ้นจูอันได้เปลี่ยนวิธีการโจมตีของเขาในนาทีสุดท้ายเมื่อกริชของเอี้ยนเฉียงเข้ามาใกล้
เขาเหวี่ยงฝ่ามือออกและตบมีดของเอี้ยนลี่เฉียงโดยตรง จากนั้นเขาก็เตะเอี้ยนลี่เฉียงออกไป
เอี้ยนลี่เฉียงสัมผัสได้ถึงพลังอันมากมายมหาศาลที่พุ่งเข้ามาหาเขา มีตในมือของเขาสั่นและเกือบจะหลุดจากเงื้อมมือและแขนของเขาชาไปหมด
เมื่อเห็นการเตะของจอันพุ่งเข้ามาหาเขาเอี้ยนลี่เฉียงก็แสดง “เก้ากระบวนท่าเงาสายลม” เขาพลิกตัวไปหนึ่งก้าวและสามารถหลบเลี่ยงการเตะของจูอันได้ในทันที
“เจ้าเด็กนี่ค่อนข้างลําบาก การโจมตีของเขาโหดเหี้ยมและอํามหิต ตู้เค้าและอีกสองคนอาจจะตายในเงื้อมมือของเจ้าเด็กนี้ ทุกคนระวัง อย่าปล่อยให้เขาหนีไป..!” จูอันตะโกน
เมื่อพวกอันธพาลคนอื่นๆรอบๆได้ยินแต่ละคนก็ชักอาวุธออกมาล้อมรอบพวกเขาด้วยการสร้างวงกลมที่แน่นหนาและดักทั้งสองคนไว้ตรงกลาง
คราวนี้เอี้ยนลี่เฉียงเริ่มการโจมตีโดยไม่รอให้จอันเข้ามาหาเขา เอี้ยนลี่เฉียงเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วโจมตีซ้ายขวา
จุอันคํารามแล้วกระโจนใส่เอี้ยนลี่เฉียงราวกับเหยี่ยวจับกระต่าย
อย่างไรก็ตาม เขาไม่รู้ว่าเอี้ยนลี่เฉียงกําลังหลอกล่อเขาอยู่
เมื่อจูอันกระโดดเข้าหาเสี้ยนลี่เฉียงและพวกอันธพาลที่ล้อมรอบก็พุ่งเข้ามาในเวลาเดียวกันเอี้ยนลี่เฉียงลดตัวลงและกลิ้งบนพื้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็กระโดดขึ้นไปชนกับอันธพาลคนหนึ่งที่กําลังเข้ามาใกล้
เมื่อเห็นหยานหลี่เฉียงกระโจนเข้าหาเขา อันธพาลที่อยู่ข้างหน้าก็พุ่งเข้าหาเสี้ยน ลี่เฉียงด้วยดาบยาวในมืออาวุธของทั้งสองฝ่ายปะทะกันด้วยเสียงดังกึกก้องชัดเจน
แม้ว่าเอี้ยนลี่เฉียงจะถือกริชอยู่ในมือ แต่ความแข็งแกร่งที่เขามีนั้นเหนือกว่าของอันธพาลมากทันที่ที่ใบมีดของพวกเขาปะทะกัน เอี้ยนลี่เฉียงก็ถึงมีดอีกอันออกมาพร้อมกับแทงเข้าหน้าอกของอันธพาลคนนั้น
เอี้ยนลี่เฉียงไม่เพียงพกมีดติดตัวเขาเท่านั้น แต่ยังมีถึงสอง อันธพาลคนนั้นกรีดร้องออกมาก่อนจะทรุดตัวลงกับพื้นและแน่นิ่งไป
ไม่มีใครคาดคิดว่าเอี้ยนลี่เฉียงจะสามารถหลอกคนเหล่านี้ได้ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้และแม้กระทั่งฆ่าใครซักคนได้สําเร็จ
เมื่อเห็นเอี้ยนลี่เฉียงที่ราวกับเสื้อคลั่ง ผู้คุ้มกันสองคนที่ยืนอยู่ข้างนายน้อยฟูที่ก้าวไปข้างหน้าพร้อมกัน และปกป้องนายน้อยของพวกเขาอยู่ด้านหลัง
จูอันซึ่งอยู่ข้างหลังตอบสนองด้วยความเร็วที่เกินความคาดหมายของเอี้ยนลี่เฉียง เอี้ยนลี่เฉียงรู้สึกได้ว่ามีลมพัดมาจากด้านหลังของเขา ถ้าเขายังคงมุ่งไปที่ด้านหน้า เขาอาจจะสามารถแยกตัวออกจากวงกลมได้ อย่างไรก็ตามเขาจะต้องรับการโจมตีจากจูอันอย่างเต็มที่เมื่อเขาพุ่งไปด้านหน้า ท้ายที่สุดเขาจะไม่สามารถหลบหนี้ได้อย่างแน่นอน
ในขณะที่ความคิดของเขาเคลื่อนตัวไปราวกับสายฟ้า เอี้ยนลี่เฉียงได้ตัดสินใจไปแล้ว เขากัดฟันและเอนตัวไปด้านข้างก่อนจะก้มลงกับพื้นเพื่อหลบเลี่ยงการโจมตีของจูอัน
แม้ว่าการกลิ้งตัวจะดูไม่สง่างามนัก แต่บ่อยครั้งที่เป็นการเคลื่อนไหวที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการหลบเลี่ยงการโจมตีของศัตรู
จูอันไม่ไม่คิดว่าเอี้ยนลี่เฉียงจะไม่เพียงแต่สามารถฆ่าคนได้ภายใต้จมูกของเขาเท่านั้นแต่ยังหลบเลี่ยงการโจมตีได้สําเร็จถึงสองครั้งอีกด้วย
เมื่อมาถึงจุดนี้เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้นอย่างแท้จริง
“เด็กเหลือขอเจ้ากําลังรนหาที่ตาย!” จูอันตะโกนด้วยความโกรธ แสงสีแดงสองออกมาจากร่างกายของเขากลายเป็นภาพธรรมของงูสีแดงขนาดใหญ่
ทันทีที่ภาพธรรมของงูพิษปรากฏขึ้น ฝ่ามือของอันก็เปลี่ยนเป็นสีแดงในเวลาเดียวกัน เขายื่นมือออกไปด้านนอกและจะได้ยินเสียงฟูคล้ายงูพิษที่กําลังแผ่แม่เบี้ย
มือทั้งสองของจูอันเป็นเหมือนงูพิษสองตัว หนึ่งด้านซ้ายและหนึ่งด้านขวา พวกมันประสานเข้าด้วยกันและพุ่งเข้าหาเอี้ยนลี่เฉียง
เอี้ยนลีเฉียงกําลังจะกระโดดขึ้นจากพื้นแต่มือของจูอันอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว แต่เขา ไม่คิดจะหลบหลีกแม้แต่น้อยมีดสั้นในมือทั้งสองพุ่งเข้าหาลําคอของอันเล่มหนึ่งอีกเล่มแทงเข้าใส่หน้าอกของเขา
เมื่อมีดของเอี้ยนลี่เฉียงกําลังจะโจมตีถูกจูอัน เอี้ยนลี่เฉียงก็รู้สึกว่าสายตาของเขาสั่นคลอนมือของจูอันเปลี่ยนไป และแยกนิ้วออกจากกันเหมือนงูที่อ้าปากกว้าง มือทั้งสองของจูอันจับหลัง มีดของเอี้ยนลี่เฉียงทันที
“ปล่อย!”
เมื่อเสียงตะโกนของจูอันดังขึ้น เอี้ยนลี่เฉียงรู้สึกว่ามือของเขาสั่น คลื่นอันทรงพลังพุ่งออกมาทําให้เขาสูญเสียการยึดและมีดก็หลุดออกจากมือของเขา
เอี้ยนลี่เจียงคํารามและเหวี่ยงหมัดไปที่จูอันกลายเป็นเสียงของเสือคํารามอย่างกึกก้อง
จูอันยิ้มอย่างเย็นชาเมื่อเผชิญกับหมัดของเอี้ยนลี่เฉียง มือข้างหนึ่งของเขาเปลี่ยนไปอย่างประหลาดเหมือนงูพร้อมกับพุ่งเข้าหาหน้าอกของเอี้ยนลี่เฉียง
เอี้ยนลี่เฉียงรู้สึกเหมือนมีมีดทะลวงเข้าสู่หน้าอกของเขา ความเจ็บปวดแผ่ซ่านออกมาจากไขกระดูกก่อนที่ร่างกายของเขาครึ่งหนึ่งจะขาทันที เขากระเด็นกลับหลังพร้อมกับกระอัก เลือดออกมาคําใหญ่
เมื่อเห็นเอี้ยนลี่เฉียงถูกโจมตีได้รับบาดเจ็บอันธพาลคนหนึ่งที่อยู่ด้านข้างคิดว่าเอี้ยนลี่เฉียงสูญเสียความสามารถในการต่อสู้ไปแล้ว
เขาคิดว่าเขาสามารถใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้ได้ เขาจึงรีบวิ่งไปข้างหน้าโดยไม่คิดและพยายามจับตัวเอี้ยนลี่เฉียง
เมื่อเขากําลังจะยกขาขึ้นและเหยียบเบี้ยนลี่เฉียงขาของเขาถูกโอบด้วยแขนขายของเอี้ยนเฉียง
เอี้ยนลี่เฉียงออกแรงเพียงเล็กน้อยก็สามารถทุ่มอันธพาลคนนั้นลงไปที่ พื้นก่อนจะใช้หมัตอันแข็งแกร่งกระแทกเข้าใส่หน้าอกของอันธพาลคนนั้นจนแหลกเละ
หลังจากนั้นมือขวาของเอี้ยนลี่เฉียงก็อ้อมขึ้นมาบิดศีรษะของอันธพาลคนนั้นเสียงดังกรอบ
“บังอาจ!!” จูอันและพวกอันธพาลคนอื่นๆตะโกน
เอี้ยนลี่เฉียงยังคงมีความเยือกเย็นแม้ว่าเลือดจะยังไหลออกมาจากปากของเขาไม่หยุดสายตาของเขาเฉียบคมเหมือนดาบไม่ได้แสดงท่าที่โกรธเคืองอะไรแม้แต่น้อย
นี่เป็นคนที่สองที่เอี้ยนลี่เฉียงฆ่าในวันนี้เขาหยิบดาบของอันธพาลคนมันขึ้นมาพร้อมกับมองไปที่ทุกคนซึ่งกําลังล้อมเขาอยู่
เมื่อเอี้ยนลี่เฉียงกําลังจะยืนขึ้น เขาก็ตระหนักว่าเขาสูญเสียความรู้สึกไปทั่วทั้ งร่างกายด้านขวาอย่างสิ้นเชิง
บริเวณโดยรอบเงียบลงทันที อันธพาลส่วนใหญ่ที่เข้าใกล้เอี้ยนลี่เฉียงก่อนหน้านี้ได้ถอยหลังกลับไปโดยไม่รู้ตัว