Silver Overlord - ตอนที่ 66
66 – กลับบ้าน
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลครึ่งปี ในตอนที่เอี้ยนลี่เฉียงอยู่ที่ตระกูลลู่ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันและไม่คาดคิดเกิดขึ้นกับตระกูลเอี้ยนในเมืองหลิวเหอ
จากคำบรรยายสั้นๆของโจวเถี่ยจู เอี้ยนลี่เฉียงเข้าใจได้อย่างรวดเร็วว่าเกิดอะไรขึ้นที่บ้าน
ทุกอย่างเริ่มต้นด้วยเกือกม้า
เมื่อเช้าวานนี้มีคนมาที่ร้านช่างตีเหล็กเพื่อเอาเกือกม้ามาซ่อม ในตอนกลางคืนบุคคลนั้นกลับมาด้วยท่าทีที่หยาบคายและไร้เหตุผล
โดยอ้างว่าเกือกม้าที่พ่อของเขาซ่อมเมื่อเช้านั้นพังลงในตอนบ่ายของวันเดียวกันและทำให้ขาม้าของเขาหักไปข้างหนึ่งเขาจึงเรียกร้องว่าเอี้ยนเต๋อชางชดเชยให้เขา
แน่นอนว่าเอี้ยนเต๋อชางจะไม่ยอมทำตามเพราะเห็นได้ชัดว่าเขาแค่พยายามรีดไถเงินดังนั้นจึงเกิดข้อพิพาทขึ้นระหว่างพวกเขา
การโต้เถียงแทบจะไม่ทันได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อจู่ๆบุคคลนั้นก็ปลดกระบี่ออกและฟันเอี้ยนเต๋อชางลงนอนไปที่พื้น โจวเถี่ยจูที่เข้าไปช่วยก็ถูกคนๆนั้นใช้กระบี่ฟันจนมีบาดแผลที่ร่างกายของเขา
หลังจากทำร้ายพวกเขาแล้วคนๆนั้นก็หลบหนีออกไปภายใต้การปกคลุมของค่ำคืนอันมืดมิด
โจวเถี่ยจูนั่งเฝ้าทั้งคืนหลังจากที่เขาแน่ใจว่าเอี้ยนเต๋อชางอยู่ในอาการที่มั่นคงแล้วในที่สุดเขาก็จำได้ว่าเอี้ยนเต๋อชางแอบบอกเขาว่าเอี้ยนลี่เฉียงอยู่ที่ไหน
เขาจึงรีบขึ้นม้าและรีบมาที่เมืองหวงหลงเพื่อแจ้งให้เขาทราบ
เมื่อได้ยินข่าวพ่อของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสเอี้ยนลี่เฉียงก็โกรธทันที
เขาไม่รู้สึกอะไรนอกจากเลือดที่เดือดพล่านในร่างกายของเขาพุ่งตรงไปที่ศีรษะขณะที่ร่างกายของเขาสั่นสะท้าน
ความโกรธแค้นที่ไม่มีที่สิ้นสุดเพิ่มขึ้นและเผาไหม้ภายในร่างกายของเอี้ยนลี่เฉียง
“พี่เถี่ยจูคนคนนั้นมาจากตระกูลหงหรือไม่? “ดวงตาของเอี้ยนลี่เฉียงเปลี่ยนเป็นสีแดงในขณะที่เขาถามพร้อมกับขบฟันแน่น คล้ายกับต้องการฆ่าใครสักคน
“ ไม่ข้าไม่เคยเห็นคนแบบนั้นในเมืองหลิวเหอมาก่อน…” โจวเถี่ยจูส่ายหัว
“ พ่อเป็นยังไงบ้างใครดูแลเขาตอนนี้”
“ อาจารย์อยู่ที่บ้านข้าจ้างแพทย์มาแล้ว อย่างไรก็ตามอาการบาดเจ็บของอาจารย์นั้นร้ายแรงมากเขาหมดสติไปยังไม่ฟื้นขึ้นมาเลย…” น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของโจวเทียนจูขณะที่เขาอธิบายต่อ
“ เมื่อข้ามาที่นี่นอกเหนือจากแม่อู๋แล้ว ข้ายังให้ลูกพี่ลูกน้องเป็นคนเฝ้าอาจารย์รวมทั้งแพทย์อีกคนนึงด้วย… “
เอี้ยนลี่เฉียงหลับตาและกำหมัดแน่น ไม่กี่วินาทีต่อมาเขาลืมตาขึ้นและมองไปที่เฉียนซูสายตาของเขาดูมุ่งมั่นอย่างมาก
“ลุงเฉียนขอบคุณสำหรับการดูแลข้าตลอดเวลา แต่มีบางอย่างเกิดขึ้นที่บ้านดังนั้นข้าต้องกลับไปที่นั่นเดี๋ยวนี้ … “
เมื่อมองไปที่เอี้ยนลี่เฉียงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาเฉียนซูรู้ดีว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะโน้มน้าวให้เอี้ยนลี่เฉียงอยู่ในย่านโรงตีเหล็กอีกต่อไป
เขาถอนหายใจและพูดว่า “ไปเก็บของข้าจะให้คนเตรียมม้าให้!”
เอี้ยนลี่เฉียงหันไปรอบๆอย่างไร้คำพูดและเดินไปที่ลานของตัวเองด้วยฝีเท้าอันหนักอึ้ง
การแสดงออกบนใบหน้าของเฉียนซูมืดมนอย่างมากขณะที่เขากวักมือเรียกโจวหย่ง
“โจวหย่งไปสั่งคนสองคนให้เปลี่ยนเป็นชุดพลเรือนแล้วพาเอี้ยนลี่เฉียงไปที่เมืองหลิวเหอเจ้ารู้ใช่ไหมว่าควรต้องทำอย่างไร?”
ดวงตาของโจวหยงเป็นประกายในขณะที่เขากำหมัดเพื่อตอบสนอง
“อาจารย์ไม่ต้องห่วงข้ารู้ดีว่าต้องทำอย่างไร!”
…เอี้ยนลี่เฉียงกลับไปที่ลานเล็กๆของเขาและเก็บข้าวของด้วยความเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เขาสะพายกระเป๋าธนูที่มีคันธนูงูเหลือมเขาไว้ที่หลังแล้วออกจากอาคารเล็กๆ
เมื่อเขามาถึงตรงกลางของลานบ้านทันใดนั้นเขาก็นึกถึงบางสิ่งบางอย่างและหันกลับไปหยิบลูกธนูที่ซ่อนไว้ใต้หลังคาของลานและเพิ่มเข้าไปในข้าวของของเขา
เมื่อเขามาถึงทางเข้าย่านโรงตีเหล็กเฉียนซูก็รออยู่ที่นั่นพร้อมกับกระเป๋าและอานหนักที่ทำจากหนังวัว
สายตาของเฉียนซูกวาดผ่านคันธนูและลูกศรที่เอี้ยนลี่เฉียงถืออยู่โดยไม่ได้ตั้งใจจากนั้นเขาก็ส่งถุงอานในมือให้เอี้ยนลี่เฉียง
“นี่คือของของเจ้าบางทีเจ้าอาจจำเป็นต้องใช้!”
เอี้ยนลี่เฉียงยอมรับกระเป๋าสะพายมา เพียงแค่ชั่งน้ำหนักในมือของเขาเขาก็รู้ว่ามันเป็นทองคำที่เขาได้รับการยอมรับจากตระกูลลู่ มันหนักประมาณยี่สิบกิโลกรัมหรือมากกว่านั้น
ในเวลานี้โจวหย่งและทหารอีกสองคนจากย่านโรงตีเหล็กนำฝูงม้าแรดสี่ตัวเข้ามาหาพวกเขาโดยสวมชุดลำลองสะพายกระบี่และดาบมาด้วย
“ พี่โจวพวกท่านทุกคน…”
“ นายน้อยเอี้ยนถ้าเจ้าปฏิบัติต่อพวกเราเหมือนพี่น้องจริงๆก็อย่าพูดอะไรในเวลาแบบนี้!”
โจวหย่งกล่าวด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึมจากนั้นก็ผลักบังเหียนของม้าแรดใส่มือของเอี้ยนลี่เฉียง
เอี้ยนลี่เฉียงเก็บความประทับใจของเขาไว้ข้างใน เขาได้แต่ผงกศีรษะและไม่พูดอะไรอีก
โจวหย่งและคนอื่นๆเปลี่ยนชุดเหมือนคนปกติ ตามกฎหมายทหารของอาณาจักรฮั่นอันยิ่งใหญ่หากไม่มีคำสั่งโยกย้าย ทหารประจำกองทัพไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากค่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต
พวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ข้ามเขตการปกครองและมณฑลอย่างแน่นอน โจวหย่งและคนที่เหลือตามเขากลับไปที่มณฑลชิงเหอจะมีความผิดทางอาญาหากพวกเขาถูกตรวจพบ
เอี้ยนลี่เฉียงรู้จักอีกสองคนที่มาพร้อมกับโจวหย่งด้วย
คนที่มีร่างกายที่แข็งแกร่งมากคือหลี่กังในขณะที่อีกคนที่ดูค่อนข้างน่ากลัวคือจ้าวฉีเฟิง ในวันนั้นทั้งคู่ได้ประลองมวยปล้ำกับเขาทำให้รู้จักกันดี