Silver Overlord - ตอนที่ 141
141 – วิกฤตอีกครั้ง
“เจ้ามาที่ภูเขาหลงหูเจ้าเป็นศิษย์ที่นี่เหรอ”
“ข้าตั้งใจจะมาสมัครเป็นศิษย์ของที่นี่เพียงแต่ว่าข้ามีภูมิหลังไม่ชัดเจนพวกเขาจึงปฏิ เสธตัวตนของข้าไป” เอียนเฉียงถอนหายใจ
“ถูกต้อง นิกายหลักทั้งหมดจะตรวจสอบภูมิหลังของลูกศิษย์ทุกคนของพวกเขา พวกเขามักจะระมัดระวังพวกเร่ร่อนและไม่มีภูมหลังอย่างเจ้าเพราะกลัวว่าอาจเป็นสายลับที่แทรกซึมเข้าไปในใจกลางของพวกเขา
นิกายเหล่านี้ก็จะมีศัตรูและคนที่อิจฉาความมั่งคั่งของพวกเขา เพื่อปกป้องความลับของพวกเขาแต่ละนิกายมักจะมีมาตรฐานที่สูงมาก
ซึ่งโดยปกติแล้วพวกเขาจะรับเฉพาะลูกศิษย์ที่มาจากตระกูลใหญ่ของอาณาจักรฮั่นเท่านั้น….”
เอี้ยนลี่เฉียงยังคงนิ่งเงียบ คําพูดของชายชราสะท้อนให้เห็นถึงความสิ้นหวังที่เขารู้สึก กฎเกณฑ์ที่กําหนดโดยนิกายใหญ่ๆ ทําให้เขาไม่สามารถเข้าร่วมได้ เส้นทางแห่งความแค้นของเขาต้องจบลงเพียงเท่านี้
ในขณะนั้นความคิดก็ผุดขึ้นในหัวของเอี้ยนลี่เฉียงในกรณีที่เลวร้ายที่สุด เขาสามารถกลับไปที่แคว้นผิงซีเขตปกครองพิเศษกาน และพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเข้าใกล้ตระกูลเย่เมื่อถึงเวลาเขา จะทําในสิ่งที่ต้องทํา
“ หนุ่มน้อย อย่าเพิ่งยอมแพ้! สวรรค์จะไม่ตัดทางของคนดีแม้ว่าเจ้าจะชนเข้ากับกําแพงที่นี้ก็ไม่ได้หมายความว่ามันเป็นจุดจบสําหรับเจ้า!”
เอี้ยนลี่เฉียงรับคําของชายชรา
“ขอบคุณท่าน ข้าจะไม่ยอมแพ้! ไม่จนกว่าจะสิ้นสุด
ขณะที่ทั้งสองสนทนากันเอี้ยนลี่เฉียงได้เดินมาถึงครึ่งทางแล้วและตอนนี้พวกเขาก็กําลังจะออกจากภูเขาหลงห์
“อา!” ชายชราก็ร้องออกมาทันที
“เป็นอะไรเหรอท่านผู้เฒ่า”
“ หนุ่มน้อยข้าลิ้มบางอย่างไป กุญแจบ้านของข้าลิ้มไว้บนภูเขาถ้าไม่มีมันเราจะเข้าบ้านไม่ได้” ชายชราพูดด้วยน้ําเสียงเป็นอาย ,
“ท่านผู้เฒ่าเกี่ยวกับเรื่องนั้นเราสามารถตัดแม่กุญแจแล้วซื้อใหม่ได้หรือไม่
ชายชราถอนหายใจ เขาพูดด้วยน้ําเสียงที่เต็มไปด้วยความเศร้าใจ
“ภรรยาที่ล่วงลับของข้าซื้อกุญแจนี้มา นางบอกว่าถ้ามีแม่กุญแจกับประตูแสดงว่ามีบ้าน และ ข้าก็ใช้มันมาหลายปีแล้ว มันมีความหมายกับข้ามาก และข้าไม่อาจทําใจที่มันหายไป…”
สําหรับใครก็ตาม การพาผู้เฒ่าลงจากภูเขาก็เป็นบุญกุศลแล้ว เก้าในสิบคนจะไม่เต็มใจช่วยชายชรากลับไปตามหากุญแจอย่างแน่นอน
แต่หลังจากฟังคําพูดของชายชราแล้วเอี้ยนลี่เฉียงก็พยักหน้า
” ตกลงท่านผู้เฒ่ารออยู่นี้เดี๋ยวข้าจะรีบกลับมา”
ด้วยเหตุนี้เอี้ยนลี่เฉียงจึงวางชายชราลงบนก้อนหินข้างต้นไม้หลังจากถามชายชรา
เกี่ยวกับรูปร่างและลักษณะอื่นๆของกุญแจแล้ว เขาก็ย้อนรอยไปตามถนนบนภูเขา
หลังจากวิ่งกลับไปบนเขาในที่สุดเอี้ยนลี่เฉียงก็มาถึงจุดที่เขาเจอกับชายชรา เขาพบกุญแจในพุ่มไม้ใกล้ๆจุดที่เขาพบชายชราคนนั้น
หลังจากคืนกุญแจให้ชายชราแล้ว เอี้ยนลี่เฉียงก็อุ้มเขาลงจากภูเขาต่อ
เมื่อพวกเขามาถึงเชิงเขา ชายคนหนึ่งที่มีรอยแผลเป็นบนหน้าผากได้ปรากฏตัวขึ้นและขวางทางของพวกเขาไว้
ชายคนนั้นโบกมือและกลุ่มชายอีกแปดคนก็ปรากฏขึ้นจากด้านข้างของเขา พวกเขาล้อมเอี้ยนลี่เฉียงและจ้องมองเขาด้วยสายตาที่เย็นชา
หัวใจของเอี้ยนลี่เฉียงเต้นแรงเมื่อคนกลุ่มนี้ปรากฏตัว แต่เขาสามารถรักษาความสงบ ในขณะที่อุ้มชายชราไว้บนหลัง
“พวกเจ้ากําลังพยายามจะปล้นข้าหรือ? นี่คืออาณาเขตของ นิกายหลงคู่พวกเจ้าไร้ยางอายเกินไปแล้ว”
“เลิกดิ้นรนได้แล้ว!” ชายที่มีแผลเป็นเยาะเย้ยอย่างเย็นชา “เจ้าทําให้พวกเราเหน็ดเหนื่อยเห ลือเกิน ”
เอี้ยนลี่เฉียงมองไปรอบๆ และพูตอย่างสงบ
” ข้าไม่เคยพบกับเจ้าไม่ทราบว่าเจ้าเข้าใจผิดหรือไม่”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ตาของข้าจะพลาดได้ยังไง!?” หลังจากเสียงหัวเราะดังลั่น มีคนอีกสามคนออกมาจากด้านหลังพุ่มไม้และยืนอยู่ข้างหลังพวกอันธพาลในชุดดํา
ผู้ที่ยืนอยู่ตรงกลางระหว่างสามคนที่เพิ่งออกมานั้นเป็นนายน้อยที่แต่งกายด้วยผ้าไหมโอ่อ่าเขามีแก้มและตาโปนซึ่งทําให้เขาดูเหมือนเขาได้รับความทุกข์ทรมานจากภาวะต่อมไทรอยด์ที่ทํา งานมันหนักเกินไป
“ข้าเห็นเจ้าที่ตลาดในวันนั้น นายน้อยคนนี้ไม่คิดว่าจะมีชายหนุ่มที่สวยงามเช่นเจ้าอยู่ในโลกนี้อีกแล้ว” นายน้อยส่งรอยยิ้มไปที่เอียนเฉียง
“เมื่ออู่เต้าและคนอื่นๆไล่ล่าเจ้าในวันนั้นพวกเขาก็ไม่ได้กลับมาข้าจึงรู้สึกเสียใจอย่างมากคิดว่าอาจไม่ได้พบเจ้าอีก
โชคดีจริงๆในตอนที่ข้ากําลังจะสมัครเข้าเป็นนักเรียนของนิกายภูเขาวิญญาณกลับได้พบเจ้าระหว่างทาง ดูเหมือนโชคชะตาจะนําพวกเรามาพบกัน
เอี้ยนลี่เฉียงหรีตามองชายที่น่าขยะแขยงคนนี้
“เจ้าเป็นใคร?” เอี้ยนลี่เฉียงถามอย่างเป็นชา
“ฮ่าฮ่าฮ่าฟูชื่อเสียงจากตระกูลฟู ไม่มีใครในเมืองหูที่ไม่รู้จักชื่อของข้า!” ชายคนนั้นกล่าวด้วยรอยยิ้มสดใสพร้อมกับเสริมอีกว่า
“กลุ่มการค้าพันสมบัติที่ใหญ่ที่สุดในมณฑลหูคือตระกูลฟู ปของข้าเป็นหนึ่งในปรมาจารย์สํา นักภูเขาวิญญาณ พ่อของข้าเป็นเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงในสํานักงานผู้ว่าการมณฑลหู ตระกูลฟูนั้นค่อนข้างมีอิทธิพล พวกเราเป็นตระกูลใหญ่ในมณฑลหูหากเจ้าติดตามข้ารับรอง ไดว่าเจ้าจะเสพสุขวาสนาไม่สิ้น ”
คนแบบนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่ากองหญ้าเอี้ยนลี่เฉียงรู้สึกรําคาญมากเขาจึงใส่ศีรษะแล้วกล่าวว่า
“ภูมิหลังของตระกูลของเจ้าไม่เกี่ยวอะไรกับข้า และข้าก็ไม่สนใจว่าเจ้าจะอยู่ในนิกายไหน ไสหัวไปให้พ้นทาง!”
“เจ้าหนู เจ้าคิดว่าเจ้ายังจะสามารถออกไปได้ในตอนนี้ว” ชายที่มีแผลเป็นระหว่างคิ้วกระโดดออกมาและจ้องเขม็งไปที่เอี้ยนลี่เฉียงอย่างดุเดือด
“คนที่ออกไปตามล่าเจ้าในคืนนั้นบอกข้ามาว่าเจ้าทําอะไรกับเขา?”
“ข้าไม่รู้ว่าเจ้าพูดถึงอะไร” เอี้ยนลี่เฉียงตอบด้วยสีหน้าเฉยเมย
ชายผู้มีรอยแผลเป็นตรงกลางคิ้วหัวเราะอย่างชั่วร้าย เขาหักนิ้วจนได้ยินเสียงกระดูกและกล่าวว่า
“ดูเหมือนว่าเจ้าต้องการให้ข้าหักกระดูกเจ้าก่อนถึงจะยอมพูด”
“จูอันอย่าทําร้ายเขามากเกินไปและอย่าทิ้งรอยแผลเป็นบนใบหน้าของเขา ยฟูเตือนเขาจากด้านข้างอย่างกังวล
” นายน้อย “
“วางใจเถอะคุณขายฟู พวกเราหอคอยพระจันทร์ทํางานอย่างพิถีพิถันทุกครั้ง”
“ พวกเจ้าไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้างเหรอ?”
“กฎหมาย?” ผู้คนที่อยู่รอบๆเอี้ยนลี่เลี้ยงต่างตกตะลึงเล็กน้อยก่อนจะคํารามด้วยเสียง
หัวเราะตัวยกันราวกับว่าพวกเขาเพิ่งได้ยินเรื่องตลกขบขันที่สุด
คนที่ชื่อจูอันหัวเราะหนักมากจนน้ําตาไหล
“กฎหมายมีผลกับชาวนาอย่างเจ้าเท่านั้น มันไม่มีอะไรเลยนอกจากคําพูดของพวกเรา“
ไป๊เอี้ยนลี่เฉียงหัวเราะเยาะเย้ยตัวเอง เขาทําทุกอย่างได้อย่างสมบูรณ์แบบและเขาคิดว่าการทําเช่นนั้นจะไม่มีหลักฐานสาวมาหาตัวเขาได้
แต่เขาลืมความจริงที่ว่าตรรกะและเหตุผลไม่มีประโยชน์สําหรับโลกนี้ มันเป็นโลกที่อุดมไปด้วยความรุนแรงเมื่ออีกฝ่ายระบุตัวเขาแล้ว พวกเขาไม่จําเป็นต้องมีหลักฐานหรือเหตุผลในการลง
เมื่อเห็นคู่ต่อสู้ของเขาพร้อมที่จะเริ่มต้นเอี้ยนลี่เฉียงก็สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วจ้องไปที่ฟูจ่อซิง
“ขายชราคนนี้ไม่รู้จักกันกับข้า ข้าเพียงพบเขาได้รับบาดเจ็บบนภูเขาเท่านั้นพวกเจ้ามีอะไรก็ลงมาที่ข้าคนเดียวอย่าได้ยุ่งเกี่ยวกับผู้บริสุทธิ์”
ฟูจ่อซิงถ่มน้ําลายแล้วพูดว่า “ใครจะสนตาแก่คนนั้น?”
เอี้ยนลี่เฉียงมองไปรอบๆบริเวณโดยรอบแล้วเดินไปที่ริมถนนเพื่อให้ชายชราพิงนั่งพิงไว้ที่นั่น
“ท่านผู้เฒ่าข้าจะส่งท่านได้เท่านี้ดูแลตัวเองควย!”
หลังจากวางขายชราลงเอี้ยนลี่เฉียงก็หันกลับมาและจ้องไปที่กลุ่มคนที่ล้อมรอบเขาสีหน้าของ เขาค่อยๆแข็งกระด้างก่อนจะถึงมีดสั้นอยู่ที่เอวออกมาพร้อมกับคําราม
“มา”
“เด็กเหลือขอที่ไม่ได้เป็นนักรบรู้จักต่อสู้เสี่ยงชีวิตด้วยหรือ?” !”
ขณะที่จูอันกําลังพูด ร่างของเขาก็สว่างวาบก่อนจะเหวี่ยงฝ่ามือเข้าใส่เอี้ยนลี่เฉียง