CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

Snow Eagle Lord อินทรีหิมะเจ้าดินแดน - ภาคที่ 36 ขั้นสุดยอด ตอนที่ 22 ก็แค่ทหารไม่กี่คนเท่านั้นเอง

  1. Home
  2. Snow Eagle Lord อินทรีหิมะเจ้าดินแดน
  3. ภาคที่ 36 ขั้นสุดยอด ตอนที่ 22 ก็แค่ทหารไม่กี่คนเท่านั้นเอง
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

“ประมุขแสงดาวคงจะรู้ว่าข้ามีร่างแยกจำนวนนับไม่ถ้วน แล้วข้าจะยังต้องกลัวถูกลากมาลำบากอันใดกันเล่า” ตงป๋อเสวี่ยอิงพูดยิ้มๆ

ประมุขแสงดาวได้ฟังแล้วก็ตะลึงงันในทันใด ก่อนจะหัวเราะฮ่าฮ่า “ใช่แล้ว จ้าวหิมะเหินมีร่างแยกจำนวนนับไม่ถ้วน ในเมื่อเจ้าอยากจะรู้ ข้าก็จะบอกเจ้าให้ละเอียดยิบเลยทีเดียว เจ้าคงจะรู้ว่าภายในหุบเขาเขี้ยวหัก กลุ่มชนพื้นเมืองดั้งเดิมของพวกเรามียอดเคารพอยู่สองท่าน”

ตงป๋อเสวี่ยอิงพยักหน้า

ยอดเคารพห้าท่าน สามท่านมาจากเผ่ามรณะทมิฬ ส่วนอีกสองท่านเป็นกลุ่มชนพื้นเมืองดั้งเดิม ว่ากันว่าพลังยุทธ์ของยอดเคารพห้าท่านต่างก็แข็งแกร่งเหนือธรรมดา จักรพรรดิเซี่ยและราชันย์อนธการอมตะเผชิญหน้ากับยอดเคารพก็ต้องเอาชีวิตไปทิ้ง

“ยอดเคารพสองท่าน กลุ่มชนพื้นเมืองดั้งเดิมทั่วทั้งหุบเขาเขี้ยวหักแบ่งอาณาบริเวณอันกว้างใหญ่ไพศาลออกเป็นสองส่วน แบ่งออกเป็นแดนใต้ปกครองของผู้บัญชาการยอดเคารพสองท่าน” ประมุขแสงดาวพูด “โลกแสงดาวของพวกเราก็อยู่ใต้ปกครองของผู้บัญชาการ ‘ยอดเคารพเฮ่ากู่’”

“เดิมทีใต้บังคับบัญชาของยอดเคารพเฮ่ากู่ก็มีจักรพรรดิทั้งห้าอยู่ พลังยุทธ์ของจักรพรรดิทั้งห้าต่างก็แข็งแกร่งเป็นที่สุด ต่างก็มีระดับที่ใกล้เคียงกันกับสิ่งมีชีวิตคละถิ่น ‘ผู้วิเศษแปดท่าน’

ถึงแม้ว่าจะไม่มีความสามารถในการรักษาชีวิตรอดอันล้ำเลิศเหมือนสิ่งมีชีวิตคละถิ่น แต่ก็มีพลังยุทธ์พอๆ กันกับพวกเขา อ่อนแอกว่ายอดเคารพเพียงแค่ขั้นเดียวเท่านั้น” ประมุขแสงดาวพูด

“ความสัมพันธ์ระหว่างยอดเคารพกับพวกเขาก็เบาบางเป็นอย่างยิ่ง”

ตงป๋อเสวี่ยอิงพยักหน้า

จักรพรรดิทั้งห้าและยอดเคารพเฮ่ากู่มีพลังยุทธ์แตกต่างกันเพียงแค่ขั้นเดียวเท่านั้น มิได้มีความแตกต่างกันมากพอ พลังคุกคามก็ย่อมมีขีดจำกัด

“ยอดเคารพเฮ่ากู่สูงส่งเหนือผู้ใด เป็นสิ่งมีชีวิตคละถิ่นที่แท้จริงที่มุ่งมั่นไขว่คว้าความสำเร็จเพียงอย่างเดียว คร้านจะไปวุ่นวายกับเรื่องหยุมหยิม ล้วนเป็นจักรพรรดิทั้งห้าที่จัดการดูแลทั้งสิ้น แต่ทว่าก่อนหน้านี้ไม่นานจักรพรรดิเฉินเย่าก็ตายไปเสียแล้ว!” ประมุขแสงดาวพูด “อาณาเขตที่จักรพรรดิเฉินเย่าปกครองในตอนนั้น ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ได้ยินว่าทำการประลองเดิมพันคราหนึ่ง ยังเป็นยอดเคารพเฮ่ากู่ที่จัดการ ในท้ายที่สุดจักรพรรดิสี่ท่าน จักรพรรดิเป่ยเหอก็เอาชนะท่านอื่นๆ อีกสามท่าน อาณาบริเวณของผู้บัญชาการจักรพรรดิเฉินเย่า ก็กลับไปอยู่ใต้การบัญชาการของเขาเสียแล้ว แต่โลกแสงดาวของพวกเรา ยังมีโลกเซวี่ยเหยียนก่อนหน้านี้ ทั้งยังมีโลกอีกมากมาย ต่างก็เป็นอาณาเขตแต่เดิมของผู้บัญชาการจักรพรรดิเฉินเย่า”

“ผู้บัญชาการจักรพรรดิเฉินเย่าเป็นอิสระอย่างยิ่ง พวกเราก็มีความสุขสบายกันดี”

“แต่จักรพรรดิเป่ยเหอกลับโหดเหี้ยมอำมหิต เพียงเพราะต้องการจะกดขี่พวกเราเป็นทาส เขาก็ให้พวกเราต่อสู้เพื่อเขา สละชีวิตเพื่อเขา” ประมุขแสงดาวยิ้มหยัน “พลังยุทธ์ของจักรพรรดิเป่ยเหอก็เป็นผู้นำของสี่จักรพรรดิในตอนนี้ แม้กระทั่งยอดเคารพเฮ่ากู่ก็ยังไม่ยุ่งกับเรื่องนี้เลย พวกเราก็ได้แต่ดิ้นรนกันเอาเองแล้ว คิดอยากจะผลาญเผ่าโลกแสงดาวของข้า ลูกน้องพวกเขาก็ต้องตายตกกันไปเป็นกลุ่มใหญ่”

“แต่พูดตามจริง ด้วยอุปนิสัยของจักรพรรดิเป่ยเหอแล้ว เกรงว่าก็คงจะมิได้ใส่ใจความเป็นความตายของลูกน้องกระมัง” ประมุขแสงดาวส่ายศีรษะเบาๆ

ผู้อาวุโสสองท่านที่อยู่ข้างๆ ภรรยาและบุตรสาวของเขาต่างก็เงียบงัน

พลังกดดันของจักรพรรดิเป่ยเหอแผ่ปกคลุมไปทั่วทั้งเผ่าโลกแสงดาว ใครๆ ต่างก็รู้กันดีว่าการจะให้จักรพรรดิเป่ยเหอล้มเลิกแผนการนั้นเป็นเรื่องที่ยากเย็นเพียงใด

“เข้าใจแล้ว” ตงป๋อเสวี่ยอิงพยักหน้าเบาๆ

ที่โลกกำเนิดบ้านเกิดของตน จอมเทพศักดิ์สิทธิ์สามารถควบคุมวิญญาณของสิ่งมีชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนได้ ส่วน ‘จักรพรรดิจวิน’ ฝูงมารผลาญทำลาย เพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่กฎเกณฑ์สูงสุดมอบให้ ก็ยิ่งต้องทำเรื่องการมหาทำลายล้าง

เพื่อวิถีของตนเอง ผู้แกร่งกล้าจำนวนมากก็ย่อมไม่สนใจชีวิตของผู้อื่นอยู่แล้ว แม้กระทั่งเผ่าพันธุ์เดียวกันก็ตาม!

เท่าที่ ‘ชนพื้นเมืองดั้งเดิม’ ดู บนดินแดนจิตโลกาก็เป็นเผ่าพันธุ์เดียวกัน… เผ่าพันธุ์ผู้บำเพ็ญ! เผ่าพันธุ์ผู้บำเพ็ญมิได้บุกสังหารอย่างบ้าคลั่งเช่นเดียวกัน ถึงขนาดที่ราชันย์อนธการอมตะก็ยังต้องสละชีวิตในสิบห้าประเทศไปครั้งหนึ่ง

“เพราะความเห็นแก่ตัว ก็ต้องทำให้สิ่งมีชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนเดือดร้อน ทั้งยังเป็นมารตนหนึ่งอีกด้วย!” ตงป๋อเสวี่ยอิงเอ่ยเสียงเบา นัยน์ตามีประกายหนาวเหน็บ

ประมุขแสงดาวที่อยู่ข้างๆ ฟังแล้วก็ตกใจจนสะดุ้งคราหนึ่ง

องค์หญิงผู้นั้นฟังแล้วสายตาก็ทอประกายวูบหนึ่ง

พวกเขาต่างก็รู้อุปนิสัยของตงป๋อเสวี่ยอิง เพื่อข่มขู่มาร ก็ต่อกรกับเหล่ามารทั้งหมดทั่วทั้งดินแดนจิตโลกาด้วยกำลังของตนเองเพียงคนเดียว

“น้องหิมะเหิน!” ประมุขแสงดาวกุมมือของตงป๋อเสวี่ยอิงเอาไว้ “เจ้าอย่าได้บุ่มบ่ามไปเลย”

“วางใจเถิด ข้าไม่บุ่มบ่ามหรอก จะทำอะไรก็ต้องทำตามกำลังอยู่แล้ว” ตงป๋อเสวี่ยอิงพูดยิ้มๆ

“ใช่แล้ว ทำตามกำลัง” ประมุขแสงดาวส่ายศีรษะ “แต่พวกเราต่อกรกับจักรพรรดิเป่ยเหอ ก็ออกจะไม่ประมาณตนเสียแล้ว พวกเราก็ได้แต่ถ่วงเวลาออกไปอย่างสุดกำลังเท่านั้น อาณาเขตของผู้บัญชาการจักรพรรดิเฉินเย่า มีโลกมากมายที่กำลังต่อต้านอยู่! เชื่อว่าเมื่อเวลาผ่านนานไปแล้วก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น”

……

งานเลี้ยงครั้งนี้เพิ่งผ่านไปเพียงครึ่งทางเท่านั้น

“ปัง!” มีระลอกคลื่นอันแรงกล้าปรากฏขึ้น

“จะโจมตีเข้ามาแล้วหรือ” ประมุขแสงดาวสีหน้าแปรเปลี่ยน “น้องหิมะเหิน เจ้าอยู่ที่นี่แหละ”

“พวกเราไปกัน!”

ประมุขแสงดาวนำทางผู้อาวุโสสองท่านผละจากไปอย่างรวดเร็วในทันที กะพริบวาบคราหนึ่งก็หายลับไปเสียแล้ว

ตงป๋อเสวี่ยอิงยืนขึ้นอย่างสงสัย จากนั้นก็เดินออกไป

ยอดฝีมือทั่วทั้งนครหลวงของเผ่าแสงดาวก็มิได้มากมายนัก เพราะว่าจำนวนของพวกเขาเมื่อเปรียบเทียบกับผู้บำเพ็ญแล้วก็น้อยกว่าอยู่มากมายนัก ตอนนี้ด้านนอกประตูของเมืองแห่งหนึ่ง เรือใหญ่ลำแล้วลำเล่าหยุดอยู่กลางอากาศ ผู้แกร่งกล้าจากเผ่าภายนอกยืนอยู่บนเรือใหญ่พลางมองลงมายังนครหลวงของยอดฝีมือเผ่าแสงดาว

“แสงดาว หนุ่มน้อยอาภรณ์ขาวที่มาเมื่อครู่ผู้นั้นเป็นใครกันหรือ” บนเรือใหญ่ลำหนึ่ง บุรุษอัปลักษณ์ ผิวกายสีแดงก่ำตลอดร่าง เส้นผมสีแดงสดคนหนึ่งตะเบ็งเสียง “ข้ารู้สึกได้ว่าศาสตร์การส่งถ่ายทลายโลกาขุมนั้นเข้าไปภายในนครหลวงของเจ้า ยอดฝีมือเผ่าแสงดาวของเจ้าถูกกักตัวเอาไว้เนิ่นนานถึงเพียงนี้ ยังจะมีผู้มาจากภายนอกกล้าเข้าไปอีก!”

“หัวหย่ง ใครจะเข้าไปในเผ่าแสงดาวของข้า แล้วเจ้า เผ่าหัวหย่งมีสิทธิ์ที่จะมายุ่งวุ่นวายด้วยหรือไร” ประมุขแสงดาวตะคอก ด้านหลังมีผู้อาวุโสติดตามมาด้วยถึงเก้าท่าน ทั้งยังมีสุดยอดผู้แกร่งกล้าคนอื่นๆ อีกกลุ่มหนึ่งตามมาด้านหลังอีกด้วย

“หึหึ จักรพรรดิได้ให้สัญญาเอาไว้แล้วว่าเมื่อใดที่โจมตีโลกแสงดาว โลกใบนี้ก็จะเป็นของข้า เผ่าหัวหย่ง ตอนนี้พวกเราต่างก็ยึดครองไปได้เกือบหมดแล้ว ข้าก็ย่อมมีสิทธิ์ยุ่งได้อยู่แล้วสิ” บุรุษอัปลักษณ์ผู้นี้โบกมือคราหนึ่ง “ในเมื่อเจ้าโง่เง่าถึงเพียงนี้ หึๆ ไป ตีนครแสงดาวให้ข้าเสีย”

“ขอรับ”

บริเวณโดยรอบมีเงาร่างสิบห้าสายพุ่งออกมาในทันใด

บ้างก็เป็นเงาร่างผิวหนังสีแดงเพลิง บ้างก็เป็นเงาร่างลำแสงสายฟ้า บ้างก็ร่างเป็นมนุษย์หางเป็นงู บ้างก็เป็นมนุษย์สามตา

ผู้แกร่งกล้าระดับสุดยอดของเผ่าพันธุ์ทั้งห้าร่วมมือกันสังหารออกมาอีกครั้ง

“ไป”

“เข้าไปอีก”

“ฆ่ามัน”

ผู้อาวุโสเก้าคนเป็นหัวหน้า นำทางเหล่าผู้แกร่งกล้ากลุ่มหนึ่งของโลกแสงดาวพุ่งตัวออกไปจากนครหลวงในทันใด ตั้งรับการต่อสู้อยู่นอกเมืองค่ายกลรบแห่งแล้วแห่งเล่าก่อตัวขึ้น ห้ำหั่นกันอย่างบ้าคลั่งขึ้นมา

“ปัง!” “ปัง!” “ปัง!”…

ฟ้าดินสั่นสะเทือน

พลังคุกคามโครมคราม การห้ำหั่นของยอดฝีมือทั้งสองฝ่ายส่งผลกระทบมากยิ่งกว่าบุคคลผู้ไร้เทียมทานเสียอีก

ประมุขแสงดาวมองอย่างเยียบเย็นดุจน้ำแข็ง เขาไม่กล้าสอดมือยุ่งเกี่ยว เพราะว่าผู้นำทั้งห้าของห้าเผ่าพันธุ์ฝ่ายตรงข้ามต่างก็มิได้ลงมือเลย! โชคดีที่อยู่ที่บ้านเกิด อาศัยพลังของเผ่าพันธุ์ พลังยุทธ์ของเขาก็แข็งแกร่งกว่าหัวหน้าทั้งห้าอยู่เล็กน้อย

“เข้าไปอีก” หญิงสาวหางงูร่างมนุษย์คนหนึ่งออกคำสั่ง

ทันใดนั้นคนกลุ่มหนึ่งก็บุกสังหารเข้าไป เพียงชั่วพริบตายอดฝีมือห้าเผ่าพันธุ์ก็ครองความได้เปรียบในทันที

“ปัง!”

ทันใดนั้นลำแสงทั่วทั้งนครแสงดาวก็ไปรวมตัวกันบนร่างของผู้อาวุโสทั้งเก้า และบนร่างของยอดฝีมือเผ่าแสงดาวทุกคน

“เป็นคนบ้าจริงๆ เสียด้วย” ประมุขแสงดาวได้เห็นเหตุการณ์แล้วก็เดือดดาล การโจมตีขนานใหญ่ทุกครั้งของห้าเผ่า ต่างก็ห้ำหั่นจนสูญเสียผู้แกร่งกล้าไปมากพอสมควรจึงได้ล่าถอยไป! เขาก็รู้ว่าใต้บังคับบัญชาของจักรพรรดิเป่ยเหอ… บรรดาผู้แกร่งกล้าเหล่านี้ต่างก็เคยชินกับการที่ ‘ผู้อ่อนแอตกเป็นเหยื่อของผู้แข็งแกร่ง’ เสียแล้ว บางทีการห้ำหั่นจนสูญเสียผู้แกร่งกล้าไปมากพอสมควรพรรค์นี้คงเป็นวิธีการขัดเกลาคัดกรองผู้แกร่งกล้าของพวกเขากระมัง

เพียงแต่ว่าเดิมทีโลกแสงดาวมีผู้อาวุโสสิบแปดท่าน ตอนนี้ก็เหลืออยู่เพียงครึ่งเดียวแล้ว

“ท่านแม่”

องค์หญิงผู้นั้นกับมารดามองดูอยู่ไกลๆ อย่างกระวนกระวาย

ไม่เพียงแต่พวกเขาเท่านั้น ยอดฝีมือทั้งเผ่าแสงดาวจำนวนมากมายต่างก็ดูอยู่อย่างกระวนกระวายและเป็นกังวล ที่กำลังต่อสู้อยู่นั้นก็คือยอดฝีมือทั้งเผ่าแสงดาวแล้ว เป็นบรรดาบุคคลที่ยืนอยู่ในระดับยอดสุด! ส่วนพวกเขาชาวเผ่าธรรมดาสามัญเหล่านี้ก็มีพลังยุทธ์อ่อนด้อยกว่ามากมายนัก เมื่อใดที่บรรดาผู้อาวุโสและเหล่าผู้นำทัพพากันต้านไม่อยู่ พวกเขาชนเผ่าที่อ่อนแอเหล่านี้ก็คงถูกผลาญสังหารกวาดล้างไปอย่างง่ายดายเสียแล้ว

“ใครกันที่มาช่วยเหลือพวกเขา”

“ที่แท้แล้วเมื่อใดกันแน่ที่วันเวลาเช่นนี้จะสิ้นสุดลงเสียที” บรรดาชาวเผ่าธรรมดาสามัญเหล่านี้หวาดหวั่นไม่เป็นสุข พวกเขาทำได้เพียงรอคอยคำพิพากษาของโชคชะตาเท่านั้น

……

“หืม”

ตงป๋อเสวี่ยอิงที่สังเกตการณ์อยู่ข้างๆ มาโดยตลอดสีหน้าเปลี่ยนแปรเล็กน้อย “ท่าไม่ดีแล้วสิ!”

ผู้อาวุโสในบรรดายอดฝีมือเผ่าแสงดาวคนหนึ่งยาดเจ็บสาหัส เห็นได้ว่าไม่ไหวแล้ว แต่ประมุขแสงดาวก็ยังคงยืนนิ่งไม่ยอมลงมืออยู่อย่างนั้น

“เขากลัวหัวหน้าห้าเผ่านั่น ไม่อยากก่อให้เกิดการต่อสู้พัวพันในท้ายที่สุดอย่างนั้นหรือ” ตงป๋อเสวี่ยอิงส่ายศีรษะเบาๆ ประมุขแสงดาวมีบุญคุณต่อตน ก้าวออกมาช่วยเหลือตนในช่วงเวลาวิกฤติ

“พรึ่บ”

ตงป๋อเสวี่ยอิงนึกคิดคราหนึ่ง

เขตลวงขนาดใหญ่มหึมาแผ่ปกคลุมออกไปในทันใด ปกคลุมเหล่ายอดฝีมือทั้งสองฝ่ายที่กำลังห้ำหั่นกันเอาไว้

พลั่ก พลั่ก พลั่ก…

เหล่ายอดฝีมือกลุ่มใหญ่ทั้งสองฝ่ายแววตาหม่นมัว ทุกคนหยุดมือแล้วทรุดตัวลงมา

“เป็นอะไรไปเสียแล้วเล่า” ประมุขโลกแสงดาว ภรรยาและบุตรสาวของเขา รวมถึงบรรดาชาวเผ่าโลกแสงดาวจำนวนหนึ่งต่างก็พากันตะลึงงันไปเสียแล้ว!

ยอดฝีมือห้าเผ่าพันธุ์ที่อยู่บนเรือใหญ่ไกลออกไปต่างก็ตะลึงงันไปแล้วเช่นกัน

“พรึ่บ” “พรึ่บ”

ตงป๋อเสวี่ยอิงนึกคิดคราหนึ่งก็เคลื่อนย้ายยอดฝีมือทั้งสองกลุ่มใหญ่ที่จ่อมจมอยู่ในเขตลวงเข้าไปในนครหลวงจนหมดสิ้น ในบรรดาคนเหล่านี้ ผู้อาวุโสเก้าคนของยอดฝีมือเผ่าแสงดาวและเหล่ายอดฝีมือจำนวนหนึ่งยังคงครองสติเอาไว้ได้ ส่วนบรรดายอดฝีมือห้าเผ่าพันธุ์กลับยังคงจ่อมจมอยู่ท่ามกลางเขตลวง

“ประมุขแสงดาว คุมตัวยอดฝีมือห้าเผ่าพันธุ์เอาไว้ชั่วคราวก่อนเถิด” ตงป๋อเสวี่ยอิงกลับเอ่ยปากว่า “แล้วก็ไม่จำเป็นต้องลงมือรุนแรงจนเกินไปนัก พวกเขาก็เพียงแค่รับคำสั่งมาให้ต่อสู้เท่านั้น ก็แค่ทหารไม่กี่คนเท่านั้นเอง”

ในขณะนี้เอง

บรรดาชาวเผ่าจำนวนมากมายของเผ่าโลกแสงดาว และเหล่ายอดฝีมือห้าเผ่าพันธุ์ที่อยู่บนเรือใหญ่ลำแล้วลำเล่าต่างก็มองไปทางหนุ่มน้อยอาภรณ์ขาวที่เอ่ยปากพูดอยู่อย่างไม่อยากจะเชื่อ

“น้องหิมะเหินช่างมีเมตตา ข้าก็จะไม่ลงมือรุนแรงแน่” ประมุขแสงดาวดวงตาเป็นประกายขึ้นมา

เขารู้สึกร้อนวูบวาบขึ้นมาตลอดทั่วทั้งร่างกาย หัวใจที่สิ้นหวังไร้เรี่ยวแรงมาโดยตลอดเต็มไปด้วยกำลังวังชา โลหิตก็เดือดพล่าน อีกทั้งน้ำเสียงของเขาก็สว่างไสวขึ้นมาเช่นกัน “จับพวกเขาไปขังให้หมด ฟังคำสั่งน้องหิมะเหินของข้า อย่าได้ทำร้ายพวกเขาจนถึงแก่ชีวิต พวกเขาเป็นเพียงแค่ทหารเท่านั้น”

…………………………………….

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ภาคที่ 36 ขั้นสุดยอด ตอนที่ 22 ก็แค่ทหารไม่กี่คนเท่านั้นเอง"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์