CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

Snow Eagle Lord อินทรีหิมะเจ้าดินแดน - ภาคที่ 37 บนเส้นทาง ตอนที่ 59 ศัตรูมาเยือน

  1. Home
  2. Snow Eagle Lord อินทรีหิมะเจ้าดินแดน
  3. ภาคที่ 37 บนเส้นทาง ตอนที่ 59 ศัตรูมาเยือน
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

“ไม่ชอบหรือเจ้าคะ” อวี้เฟิงชิงอินผิดหวังอยู่บ้าง

“ก็ยังนับว่ารสชาติพอใช้ได้อยู่ เพียงแต่ว่ามิค่อยจะถูกกับรสนิยมของข้าสักเท่าใดนัก” ตงป๋อเสวี่ยอิงวางจอกสุราลงยิ้มๆ

“อ้อ” อวี้เฟิงชิงอินพลิกฝ่ามือแล้วก็มีไหสุราปรากฏขึ้นอีก “ข้ายังมีอีกนะเจ้าคะ ท่านปรมาจารย์ ลองชิมอันนี้ดูอีกสักหน่อยสิเจ้าคะ”

สุราชั้นเลิศไหแล้วไหเล่าที่ลูกศิษย์หญิงตั้งใจรวบรวมมาให้ท่านปรมาจารย์ลิ้มรส

ในที่สุดตงป๋อเสวี่ยอิงก็เลือกมาสามชนิดด้วยรอยยิ้มร่า อวี้เฟิงชิงอินส่งมาให้เป็นจำนวนมากด้วยความยินดี เพราะว่านางได้เตรียมสุราชั้นเลิศแต่ละชนิดเอาไว้เป็นจำนวนมากแล้ว

“อย่าพูดถึงสุราชั้นเลิศอีกเลย การบำเพ็ญของเจ้าเป็นอย่างไรบ้างแล้วเล่า เหตุใดจึงยังอยู่ที่ระดับจ้าวเทพช่วงสุดยอดอยู่อีก ประสบปัญหาอันใดเข้าหรือ ตลอดมาจึงยังมิได้บรรลุเสียที” ตงป๋อเสวี่ยอิงเอ่ยถาม

ทันใดนั้นอวี้เฟิงชิงอินก็เคอะเขินขึ้นมาบ้าง

ตอนนั้นหลังจากที่ตงป๋อเสวี่ยอิงกลับมาจากเมืองมังกรเหล็กแล้ว เพียงไม่นานก็มอบใบไม้โลกเฉานั้นให้กับลูกศิษย์หญิง ‘ใบไม้โลกเฉา’ นี้ก็คือสมบัติที่ช่วยส่งเสริมการบำเพ็ญสายโลหิตชิ้นหนึ่ง ล้ำเลิศเป็นที่สุด แม้กระทั่งคุณชายใหญ่จวนมังกรเหล็กก็ยังเจตนาถามหา หมายจะตระเตรียมเอาไว้ให้บุตรสาว หลังจากที่ตงป๋อเสวี่ยอิงมอบให้กับลูกศิษย์หญิงแล้ว ความเร็วในการบำเพ็ญของลูกศิษย์หญิงก็ย่อมพุ่งทะยาน บวกกับตงป๋อเสวี่ยอิงยังมอบสมบัติล้ำค่าชิ้นอื่นๆ จำนวนหนึ่งให้กับลูกศิษย์หญิงเป็นของกำนัลอยู่เป็นประจำอีกด้วย

ถึงอย่างไรเขาก็จัดการจักรพรรดิเทพเฮ่อต้งผู้นั้น จัดการจักรพรรดิเทพสามท่านใต้บังคับบัญชาของประมุขหอน้อยอวิ๋นหลิวไปแล้ว

แล้วยังปล้นชิงสมบัติล้ำค่าของประมุขหอน้อยอวิ๋นหลิวผู้นั้นจนหมด คุณชายใหญ่จวนมังกรเหล็กก็ถูกปล้นชิงเช่นกัน หรือแม้กระทั่งเจ้าเมืองมังกรเหล็กก็ยังส่งมอบสมบัติล้ำค่ามูลค่าหนึ่งแสนหยกแก้วคละถิ่นให้…อันที่จริงแล้วการบำเพ็ญความเร้นลับของกฎเกณฑ์ สมบัติล้ำค่าเหล่านั้นส่วนใหญ่ล้วนไม่มีประโยชน์ต่อเขาเลย บางส่วนที่สุดยอดก็มีจำนวนมากที่พอจะมีประโยชน์ต่อระดับจักรพรรดิเทพช่วงท้ายหรือแม้กระทั่งจักรพรรดิเทพขั้นสมบูรณ์อยู่บ้าง เขาก็ย่อมมิได้มอบให้กับลูกศิษย์หญิงอยู่แล้ว

ถึงอย่างไรลูกศิษย์หญิงก็เพิ่งจะเป็นเพียงแค่ระดับจ้าวเทพเท่านั้น! อีกทั้งสมบัติล้ำค่าที่มากมายเกินไป ก็เป็นกังวลว่าจะดึงดูดเรื่องเดือดร้อนเข้ามา

ใบไม้โลกเฉา นับได้ว่าเป็นชิ้นที่ล้ำค่าที่สุดที่มอบให้ สมบัติล้ำค่าชิ้นอื่นๆ จำนวนหนึ่งที่กระจัดกระจายกัน ทุกชิ้นไม่นับว่าแพง แต่มีอยู่เป็นจำนวนมาก รวมกันขึ้นมาแล้วก็มีราคาเกินกว่าหนึ่งหมื่นหยกแก้วคละถิ่นแล้ว จำนวนมากนั้นล้วนเป็นสมบัติล้ำค่าที่ช่วยส่งเสริมการบำเพ็ญของประมุขหอน้อยอวิ๋นหลิว

“ข้ารู้สึกว่าใกล้แล้ว ใกล้จะบรรลุแล้วเจ้าค่ะ” อวี้เฟิงชิงอินพูด

“เฮอะ หลังจากที่ข้าออกจากการปลีกวิเวกในครั้งนี้ เหตุใดจึงได้ยินว่าอวี้เฟิงเหลยพี่ชายเจ้าบรรลุไปถึงระดับจักรพรรดิเทพช่วงกลางแล้วเล่า” ตงป๋อเสวี่ยอิงเอ่ยถาม “เจ้ายกสมบัติล้ำค่าจำนวนหนึ่งให้กับพี่ชายเจ้าอย่างนั้นหรือ”

‘อวี้เฟิงเหลย’ แห่งสกุลอวี้เฟิงนั้นช่างมีพรสวรรค์สูงส่งอย่างแท้จริง

ก่อนหน้าที่ตงป๋อเสวี่ยอิงจะมาถึง อวี้เฟิงเหลยก็คือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาจ้าวเทพช่วงสุดยอด หลังจากที่สำเร็จเป็นจักรพรรดิเทพช่วงต้นแล้ว พลังยุทธ์ของเขาก็สามารถข่ม ‘อวี้เฟิงจวิ้นซาน’ บิดาของเขาได้เลยทีเดียว คราวนี้ตงป๋อเสวี่ยอิงออกจากการปลีกวิเวกก็ได้รับข่าวว่าอวี้เฟิงเหลยบรรลุไปถึงระดับจักรพรรดิเทพช่วงกลางเรียบร้อยแล้ว

“มิใช่ๆ”

อวี้เฟิงชิงอินเอ่ยอย่างตกใจ “ปรมาจารย์ ท่านดูสิ สมบัติล้ำค่ายังอยู่กับข้านี่แหละ” พูดแล้วบนข้อมือก็มีกำไลเก็บวัตถุวงหนึ่งปรากฏขึ้น

ตงป๋อเสวี่ยอิงกวาดสายตามองปราดหนึ่ง สติรับรู้แทรกผ่านกำไลเก็บวัตถุได้อย่างง่ายดาย ใบไม้โลกเฉายังอยู่! สมบัติล้ำค่าส่วนใหญ่ก็ยังอยู่ทั้งสิ้น

“สมบัติล้ำค่ามีไว้ใช้! หากไม่ใช้สมบัติล้ำค่าแล้วเจ้าจะบรรลุได้อย่างไรกัน” ตงป๋อเสวี่ยอิงขมวดคิ้ว “ต่อไปอีกร้อยล้านปีข้างหน้า เจ้าจะต้องสมบัติล้ำค่าเหล่านี้ให้หมดไปส่วนหนึ่ง! บรรลุไปถึงระดับจักรพรรดิเทพช่วงต้นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”

จักรพรรดิเทพช่วงต้น…

สำหรับประชากรโลกเทพที่บำเพ็ญพลังสายโลหิต ถ้าหากมีสมบัติล้ำค่ามากพอ เพียงแค่หยั่งรู้ก็ยังได้ หรือว่ายังสามารถบ่มเพาะมาจนถึงระดับนี้ได้

อย่างเช่นเจ้าเมืองมังกรเหล็กก็บ่มเพาะบุตรชายบุตรสาวที่มีอยู่ทั้งหมดของเขาไปจนถึงระดับขั้นจักรพรรดิเทพ

คนที่ไม่ชมชอบการบำเพ็ญอย่างประมุขหอน้อยอวิ๋นหลิว แต่ชมชอบการหาความสุขเป็นที่สุด ก็ยังถูกฝืนบ่มเพาะจนไปถึงระดับจักรพรรดิเทพช่วงกลาง

“เจ้าค่ะๆ” อวี้เฟิงชิงอินรับคำอย่างเชื่อฟัง ในใจลอบทอดถอนใจ

นางได้มอบสมบัติล้ำค่าที่มีผลอันน่าอัศจรรย์ต่อตัว ‘อวี้เฟิงเหลย’ ผู้เป็นพี่ชายให้เป็นของกำนัลกับเขาจริงๆ หลังจากที่พี่ชายได้ใช้ บวกกับการบำเพ็ญที่สั่งสมมาเกือบสามแสนล้านปี ก็มีความหวังที่จะบรรลุไปถึงระดับจักรพรรดิเทพช่วงกลางได้

ยามที่พี่ชายปลีกวิเวก อวี้เฟิงชิงอินก็ให้ยืม ‘ใบไม้โลกเฉา’ เป็นการชั่วคราว! ความสัมพันธ์ของพวกเขาพี่น้องสร้างขึ้นมาเป็นระยะเวลายาวนานแล้ว นางมีความมั่นใจในตัวพี่ชายนางเป็นอย่างยิ่ง

อวี้เฟิงเหลยผู้เป็นพี่ชาย…บรรลุไปถึงระดับจักรพรรดิเทพช่วงกลางแล้วจริงๆ หลังจากบรรลุแล้วก็เพียงแค่คืนใบไม้โลกเฉาให้กับน้องสาว เพราะว่าสมบัติล้ำค่าอย่างใบไม้โลกเฉานี้มีส่วนช่วยเหลือผู้อ่อนแอเป็นอย่างมาก ยิ่งพลังยุทธ์แข็งแกร่งก็ยิ่งมีส่วนช่วยเหลือน้อย ตามปกติเมื่อถึงระดับจักรพรรดิเทพช่วงกลางแล้วก็มีส่วนช่วยเหลือน้อยจนสามารถมองข้ามได้

“รอจนชิงอินบรรลุไปถึงระดับขั้นจักรพรรดิเทพ ข้าก็สามารถไปจากโลกใบนี้ได้แล้ว” ตงป๋อเสวี่ยอิงเอ่ยพึมพำ

เขาได้ซากสิ่งมีชีวิตคละถิ่นทางสายห้วงอากาศมาครองแล้ว โลกใบนี้ก็มีแรงดึงดูดต่อเขาน้อยเหลือเกินแล้ว อย่างมากก่อนหน้าที่จะจากไป ก็ไปประลองยุทธ์กับ ‘เจ้าเมืองหงส์เมฆา’ อันดับหนึ่งของโลกเทพสักคราหนึ่ง! ยังมีตำราการบำเพ็ญของผู้เหินทะยานที่แข็งแกร่งที่สุดของวิถีอากาศผู้นั้นอีก พอถึงเวลานั้นก็คิดหาวิธีไปทำข้อตกลงสักรอบหนึ่ง เมื่อเสร็จเรียบร้อยก็สามารถจากไปได้แล้ว

ที่โลกแห่งนี้…

สิ่งเดียวที่ตงป๋อเสวี่ยอิงให้ความสนใจก็คือลูกศิษย์หญิงผู้นี้ ถึงอย่างไรนางก็กราบตนเป็นอาจารย์ ก็ต้องพยายามจัดการทุกสิ่งทุกอย่างให้ดี เขาเองก็เดาได้ว่าลูกศิษย์หญิงน่าจะมอบสมบัติล้ำค่าให้ ‘อวี้เฟิงเหลย’ ผู้เป็นพี่ชายของนางใช้ เพราะว่าสมบัติล้ำค่าที่ตนมอบให้ในตอนนั้นก็มีบางส่วนที่มีประโยชน์ต่อจักรพรรดิเทพช่วงต้นเป็นอย่างมาก

“ก็ดีเหมือนกัน พี่ชายของนางแข็งแกร่งสักหน่อยก็เป็นผลดีต่อนางเอง” ตงป๋อเสวี่ยอิงเอ่ยพึมพำ

ในขณะที่ตงป๋อเสวี่ยอิงดื่มสุราไปพลาง ไถ่ถามถึงสถานการณ์การบำเพ็ญของลูกศิษย์หญิงไปพลางอยู่นั้นเอง ทันใดนั้น…

“ครืน…”

ทั่วทั้งผืนดินของเมืองจวิ้นซานก็กระเพื่อมคราหนึ่งราวกับคลื่นน้ำ

ในขณะนั้นทั่วทุกหนแห่งของเมืองจวิ้นซานก็ส่งเสียงดังโครมครามกึกก้อง อาคารที่สร้างขึ้นจำนวนหนึ่งก็พังทลายลงมาในทันใด

“เรื่องอันใดกัน”

“ระลอกคลื่นนี้…”

เมืองจวิ้นซานปั่นป่วนขึ้นมาอย่างสิ้นเชิง เหล่าประชากรโลกเทพจำนวนนับไม่ถ้วนแต่ละคนพากันเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ระลอกคลื่นอันน่าหวาดหวั่นเมื่อครู่นี้ทำให้ฟ้าดินทั่วอาณาบริเวณของเมืองจวิ้นซานสั่นสะท้านไปหมด! ราวกับว่าในชั่วพริบตาก็จะทำให้ทั่วอาณาบริเวณของเมืองจวิ้นซานแหลกสลายไปอย่างไรอย่างนั้น

“หืม” ตงป๋อเสวี่ยอิงขมวดคิ้วมุ่นแล้วยืนขึ้นในทันใด

“ปรมาจารย์ ข้างนอกเกิดอะไรขึ้นหรือเจ้าคะ” อวี้เฟิงชิงอินก็ตื่นตระหนกอยู่บ้าง

“อย่าได้กังวลใจไปเลย” ตงป๋อเสวี่ยอิงพูดแล้วนำทางศิษย์เดินออกไปจากห้อง เขายืนอยู่บนทางเดินพลางมองท้องฟ้าไกลออกไปอยู่ห่างๆ เพียงปราดเดียวก็มองเห็นว่ากลางผืนฟ้าไกลออกไปมีเงาร่างที่แผ่กลิ่นอายสีแดงโลหิตสายหนึ่งอยู่ เมื่อเห็นแล้วสีหน้าของตงป๋อเสวี่ยอิงก็แปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย

“เป็นเขาหรือ ประมุขพรรคเงามารผู้เป็นลำดับที่เก้าในบัญชีรายนามจักรพรรดิเทพอย่างนั้นหรือ เขามาทำอะไรที่เมืองจวิ้นซานกัน” ตงป๋อเสวี่ยอิงทั้งตกตะลึงทั้งสงสัย

ตนเองเป็นผู้มาจากภายนอกคนหนึ่งที่มาเยือนโลกแห่งนี้ ผู้ที่มีความแค้นต่อกันอย่างแท้จริงมีน้อยจนสามารถนับนิ้วได้

ประมุขพรรคเงามารผู้นี้กับตนจะต้องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกันจึงจะถูกต้อง!

เช่นนั้น…

เหตุใดประมุขพรรคเงามารจึงมายังเมืองจวิ้นซานกันเล่า อีกทั้งยังเห็นได้ชัดเจนว่ามิได้มาดี!

……

ในขณะนี้

ประมุขพรรคเงามารยืนอยู่กลางเวหาของเมืองจวิ้นซาน กลิ่นอายอันไร้รูปร่างที่แผ่ออกมาทำให้ทั่วทั้งฟ้าดินสั่นสะเทือนไปหมด ทั่วทุกหนแห่งของทั้งเมืองจวิ้นซานที่อยู่เบื้องล่างล้วนสั่นสะเทือนไปหมด สิ่งปลูกสร้างมากมายทั่วเมืองจวิ้นซานพังทลายลงอย่างต่อเนื่อง อาคารที่มีค่ายกลพยุงไว้อยู่ก็ยังสามารถต้านทานเอาไว้ได้ ประชากรโลกเทพจำนวนมากสีหน้าซีดขาว เพราะว่าความรู้สึกกดดันที่กลิ่นอายที่แผ่ออกมานั้นนำมา ทำให้ในใจของพวกเขาหวาดหวั่นเป็นอย่างยิ่ง

จักรพรรดิเทพขั้นสมบูรณ์! นี่หมายถึงสิ่งมีชีวิตระดับขั้นที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกเทพ ภายใต้ความนึกคิดเดียวของพวกเขาก็สามารถทำให้อาณาบริเวณล้านลี้กลายเป็นดินแดนที่พินาศย่อยยับได้แล้ว! บรรดาประชากรของเมืองจวิ้นซานคนไหนจะไม่หวั่นกลัวบ้างเล่า

“เป็นประมุขพรรคเงามาร”

“ประมุขพรรคเงามาร”

ผ้าคลุมกันลมสีแดงโลหิตผืนมหึมานั้น ผิวกายเคลือบคลุมด้วยสีแดงเข้มตลอดร่าง เขาเดี่ยวที่ดูคล้ายว่าจะทิ่มแทงทลายเวหา กับนัยน์ตาสีแดงโลหิตที่มองต่ำลงมายังเบื้องล่าง ภาพของประมุขพรรคเงามารนั้นเป็นเอกลักษณ์อย่างยิ่งแม้แต่ในบรรดาระดับจักรพรรดิเทพขั้นสมบูรณ์

ผู้แกร่งกล้ามากมายภายในเมืองจวิ้นซานล้วนจำตัวตนของผู้มาเยือนได้

เพราะว่าจำได้ จึงได้หวาดหวั่นไม่เป็นสุข!

ลำดับที่เก้าของบัญชีรายนามจักรพรรดิเทพอย่างนั้นหรือ

ผู้แกร่งกล้าระดับนี้…ไม่เคยมาเยือนเมืองจวิ้นซานมาก่อนเลยในประวัติศาสตร์

“เหตุใดเขาจึงมายังเมืองจวิ้นซานเล่า” ‘ประมุขหอสิง’ ของหอจิตฟ้าแห่งเมืองจวิ้นซานรายงานขึ้นไปด้วยจิตใจไม่เป็นสุข

พรึ่บ! พรึ่บ!

เงาร่างสองสายทะยานออกจากจวนตระกูลอวี้เฟิง ซึ่งก็คืออวี้เฟิงจวิ้นซานและร่างแปรของอวี้เฟิงเหลย พวกเขาสองคนต่างก็ไม่เป็นสุขเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าประมุขพรรคเงามารขึ้นชื่ออยู่ข้างนอก

โหดเหี้ยมข่มพวกเขาสองคน พวกเขามิกล้านำร่างจริงไปพบ ด้วยเกรงว่าประมุขพรรคเงามารพลิกฝ่ามือเพียงครั้งเดียวก็จะล้างผลาญร่างจริงของพวกเขาสองคนได้แล้ว

“ท่านประมุขพรรคเงามารมายังเมืองจวิ้นซานของข้า ช่างเป็นเกียรติแก่เมืองจวิ้นซานของข้ายิ่งนัก” อวี้เฟิงจวิ้นซานคารวะอย่างเคารพนบนอบ “ข้าน้อยเจ้าเมืองจวิ้นซาน มิทราบว่าท่านประมุขพรรคเงามารมายังเมืองจวิ้นซานของข้าด้วยเรื่องอันใดกันหรือขอรับ ขอเพียงแค่มีบัญชาต่อสกุลอวี้เฟิงของข้า สกุลอวี้เฟิงก็จะพยายามสุดความสามารถอย่างแน่นอนขอรับ”

“มาหาพวกเจ้าถึงที่นี่ก็ย่อมมีธุระแน่นอนอยู่แล้วสิ”

เขาเดี่ยวของประมุขพรรคเงามารชี้ขึ้นเล็กน้อย เขากวาดสายตามองทั่วทั้งเมืองจวิ้นซานรอบหนึ่ง จากนั้นก็หยุดลงบนทางเดินแห่งนั้นที่อยู่ในจวนหิมะเหินซึ่งอยู่ไกลออกไป บนร่างของชายหนุ่มอาภรณ์ขาวที่ยืนเคียงไหล่กับอวี้เฟิงชิงอิน

ในขณะนี้

ทั่วทั้งเมืองจวิ้นซานล้วนเต็มไปด้วยความเงียบสงัด ภายใต้ความกดดันของวิญญาณนั้น แม้กระทั่งบรรดาเด็กทารกเหล่านั้นก็ยังมิกล้าส่งเสียงร้อง ประชากรโลกเทพจำนวนนับไม่ถ้วนต่างก็เงยหน้ามอง ‘ประมุขพรรคเงามาร’ ผู้อยู่กลางอากาศที่แผ่กลิ่นอายสีแดงโลหิตล้นฟ้าออกมา

“จักรพรรดิเทพหิมะเหิน ออกมารับความตายแต่โดยดี!” ประมุขพรรคเงามารเอ่ยปากพูด เสียงของเขาดังสนั่นราวกับสายฟ้าฟาด ระเบิดไปทั่วทุกหนแห่งในปราการเมือง ประชากรโลกเทพที่พลังยุทธ์อ่อนแอสักหน่อยบางคนต่างอดที่จะอุดหูแล้วล้มลงบนพื้นอย่างไม่รู้ตัวมิได้ หรือแม้กระทั่งหลายคนที่มีโลหิตรินไหลออกมาจากหู

“จักรพรรดิเทพหิมะเหินหรือ” อวี้เฟิงจวิ้นซานและอวี้เฟิงเหลยที่รอฟังบัญชาอย่างเคารพนบนอบอยู่ข้างๆ ต่างก็สีหน้าแปรเปลี่ยน

…………………………

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ภาคที่ 37 บนเส้นทาง ตอนที่ 59 ศัตรูมาเยือน"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์