Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - ตอนที่ 542
- Home
- Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์
- Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - ตอนที่ 542
ตำหนักสวนตำหนักวิญญาณ ผู้ที่มีอำนาจสูงสุดซึ่งเปิดเผยต่อด้านนอกมาตลอดคือ ระดับท่านอาวุโส
ท่านอาวุโสทั้งเจ็ด เป็นตัวแทนของตำแหน่งสูงสุดของตำหนักวิญญาณทั้งเจ็ด บุคคลระดับท่านอาวุโสนี้ นับว่าเป็นตำแหน่งที่เข้าใกล้กับหลีหงบัลลังก์เทียนเซี่ยมากที่สุดแล้ว อีกทั้ง ท่านอาวุโสหลายคนในตำหนักวิญญาณมีชื่อเสียงอย่างมาก คนที่จะครองบัลลังก์อาจเป็นรุ่นหลังของคนระดับอาวุโสก็ได้
ดังนั้น ต่อให้เป็นผู้ครองบัลลังก์สิบปี จำต้องเคารพต่อคนชราระดับท่านอาวุโสอย่างมาก
ขณะเดียวกัน ตำแหน่งของท่านอาวุโสวังมารนิรยก็เช่นกัน หลายครั้ง ท่านอาวุโสจะโทษราชันปีศาจวังมารนิรย ราชันปีศาจก็ทำได้แค่ก้มหัวรับคำสอนเท่านั้น
ไม่ว่าจะเป็นท่านอาวุโสวังมารนิรยหรือท่านอาวุโสตำหนักวิญญาณ พวกเขาเป็นตัวแทนความสามารถของโลกนี้ มีชื่อเสียง อำนาจสูงสุด ผู้แข็งแกร่งระดับท่านอาวุโสอย่างเฒ่าหยวนแม้จะห่างแค่ขั้นเดียว แต่กลับมีความหมายที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ส่วนตำแหน่งท่านหญิงอันพิเศษของตำหนักวิญญาณ มองดูเหมือนมีระดับเทียบเท่ากับท่านอาวุโส แต่ความจริงผู้แข็งแกร่งระดับท่านนี้นับว่าเป็นบุคคลที่ถูกท่านอาวุโสทั้งเจ็ดตำหนัก ผู้อาวุโสทั้งสิบสี่ และเจ้าตำหนักวิญญาณทั้งยี่สิบเอ็ดเชิดชูยกย่องอย่างมาก พวกเขาไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของตำหนักวิญญาณ ไม่เคยเข้าร่วมการตัดสินใจของตำหนักวิญญาณ แต่ว่าการมีอยู่ของท่านหญิงและท่านชายในตำหนักวิญญาณลึกลับที่สุดมาตลอด เป็นการมีอยู่ที่สูงส่งยิ่ง
แม้แต่ราชันปีศาจยังไม่กล้าไปยุ่งเกี่ยวกับท่านหญิงท่านชาย นี่ไม่เพียงแต่เป็นระดับชั้นสูงสุดของวังมารนิรย แต่เป็นชั้นสูงของอำนาจอื่นด้วย !
“เจ้าชู่เฉิงนี่ หรือว่าจะเป็นบัตรของท่าน…” เสียงของท่านอาวุโสเย้เทาไม่แข็งกระด้างเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว
เย้เทาเป็นหนึ่งในสี่ที่นั่ง ตำแหน่งสูงกว่าผู้อาวุโสทั่วไปเล็กน้อย แต่เมื่อพูดถึงตำแหน่งท่านหญิงท่านชายแล้ว สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป
“เรื่องนี้เจ้าอย่าถามเยอะ แม้จะไม่เปิดเผยตัวตนของเขา แต่ถูกตำหนักวิญญาณปกป้องอยู่ ถ้าพวกเจ้าแน่จริงก็ให้ผู้แข็งแกร่งวัยหนุ่มขั้นสองของวังมารนิรยพวกเจ้าเอาชนะชู่เฉิงให้ได้ ถ้าคิดจะใช้วิธีพิเศษละก็ ทำให้ใครบางคนโกรธขึ้นมา ท่านอาวุโสทั้งเจ็ดอย่างพวกข้าต้องปวดหัวอย่างมาก พวกเจ้าที่นั่งทั้งสี่ก็ต้องทนรับผลกรรมไปด้วย” นักวิญญาณเฒ่าเต๋อพูดพร้อมลูบหนวดของตัวเอง
ตำหนักวิญญาณกับวังมารนิรยไม่ถูกกันตั้งนานแล้ว แต่ตอนที่ระดับท่านอาวุโสเผชิญกับผู้อาวุโส ยังต้องเคารพนับถือกัน อย่างไรก็ตาม ผู้แข็งแกร่งยังคงเป็นผู้แข็งแกร่ง ปัญหาเรื่องอำนาจ ดวงวิญญาณหลักตัวใดของพวกเขาก็ขยี้ผู้อาวุโสอย่างพวกเขาตายได้ ส่วนในตำหนักวิญญาณยังมีท่านหญิงและท่านชายที่ถูกท่านอาวุโสตำหนักทั้งเจ็ดเชิดชูเกินไป…
เย้เทาถอนหายใจยาว ถ้าบอกว่า ฝ่ายตรงข้ามเป็นบุตรชายของท่านหญิง แทบไม่สามารถเอามารนิรยขาวคืนมาได้
เย้เทาระดับผู้อาวุโสไม่มีสิทธิ์ไปขอคืน ต้องดูว่าเหล่าท่านอาวุโสวังมารนิรยมีเจตนานี้หรือไม่ แต่ท่านอาวุโสทั้งสี่ไม่ได้ครองทั้งเมืองเทียนเซี่ยสักหน่อย…
ด้วยความเฉยเมย เย้เทาทำได้แค่จากไปด้วยสีหน้าหมองคล้ำ
…
“จัดการเสร็จแล้ว บอกแล้ว เรื่องเล็กน้อย…ทว่า เจ้าเด็กนี่ทำไมไม่บอกข้าก่อนว่า มารนิรยขาวของเจ้ามีความสามารถกลืนกินกลุ่มเดียวกัน” นักวิญญาณเฒ่าเต๋อเดินไปข้างชู่มู่พร้อมเสียงหัวเราะ แล้วพูดกับชู่มู่
“ข้าคิดว่า เรื่องนี้ไม่สำคัญมากเท่าไร” ชู่มู่ยิ้มด้วยความเขิน
ท่าทาง ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ว่า ตัวเองมีมารนิรยขาว แต่เป็นความสามารถกลืนกินกลุ่มเดียวกันของมารนิรยขาว
“เรื่องนี้สำคัญอย่างมาก มารนิรยขาวที่กลืนกินกลุ่มเดียวกันได้จะถูกวังมารนิรยเรียกว่า ‘มารนิรยขาวระดับราชวงศ์’ ตำแหน่งราชวงศ์ของพวกมันทำให้พวกมันอยู่เหนือสิ่งมีชีวิตกลุ่มเดียวกัน แล้วจะกินพวกมันเหมือนเป็นอาหารของตัวเอง” นักวิญญาณเฒ่าเต๋อพูดอย่างจริงจัง
“เรื่องนี้…เรื่องนี้ข้าก็ไม่รู้ ท่านอธิบายก่อนว่า อะไรคือมารนิรยขาวกลุ่มราชวงศ์” ชู่มู่แอบแปลกใจ ทำไมมารนิรยขาวของตัวเองได้กลายเป็นมารนิรยขาวกลุ่มราชวงศ์ไปได้
“มารนิรยขาวกลุ่มราชวงศ์เป็นสิ่งที่พบได้ยากยิ่งในบรรดามารนิรยขาว สิ่งที่แสดงออกมาอย่างรวมความแค้น กลืนกินพลังวิญญาณ ผลึกไฟปีศาจ กลืนกินกลุ่มเดียวกันเหล่านี้จะโดดเด่นกว่ามารนิรยขาวทั่วไป”
การรวมความแค้นหมายถึง เมื่อมารนิรยขาวกลุ่มราชวงศ์นี้เจอกับศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าตัวเอง จะเพิ่มความสามารถด้วยการรวมความแค้น ความเร็วในการเพิ่มความสามารถของพวกมันจะไวกว่ามารนิรยขาวหลายเท่า…” นักวิญญาณเฒ่าเต๋อบอก
พูดถึงตรงนี้ ชู่มู่นึกถึงมารนิรยขาวของเจียงอี้เถิงทันที ความเร็วในการรวมความแค้นของเขาเป็นสามเท่าของมารนิรยขาวทั่วไป เป็นมารนิรยขาวกลุ่มราชวงศ์เช่นกัน !!!
“มารนิรยขาวกลุ่มราชวงศ์จะกลืนกินพลังวิญญาณ พวกมันจะกินพลังวิญญาณในปริมาณมหาศาล เป็นหนึ่งในมารนิรยขาวที่เลี้ยงยากที่สุด ความพิเศษของมันอยู่ที่ กินเยอะ เติบโตได้ไว”
กินมารนิรยขาวของคนอื่น ต่อให้ต่อสู้มาตลอด ก็ต้องใช้เวลาหกถึงเจ็ดปีถึงจะอยู่ในลักษณะสิบได้ ส่วนมารนิรขาวแบบนี้กลับใช้เวลาแค่สามถึงสี่ปีเท่านั้น ความโดดเด่นของราชวงศ์เป็นที่ชัดเจนอย่างมาก !
“ผลึกไฟปีศาจของมารนิรยขาวกลุ่มราชวงศ์ อันนี้จะเก่งมาก เดิมพลังผลึกก็แข็งแกร่งกว่ามารนิรยขาวทั่วไปขั้นหนึ่งแล้ว เท่ากับว่าพลังต่อสู้ติดตัวแต่เกิดของพวกมันคือจักรพรรดิขั้นสูงอยู่แล้ว !”
ระดับของมารนิรยขาวอยู่ที่จักรพรรดิขั้นกลาง ส่วนพลังต่อสู้ที่เป็นจักรพรรดิขั้นสูงตั้งแค่เกิดนี้…ไม่ต้องอธิบายมากแล้ว
“สุดท้ายคือการกลืนกินกลุ่มเดียวกัน มารนิรยขาวที่กลืนกินกลุ่มเดียวกันนี้เป็นมารนิรยขาวที่อันตรายที่สุดแล้ว !มารนิรยขาวแบบนี้มีจำนวนน้อยมาก ปกติจะถูกวังมารนิรยเลี้ยงดูอย่างดี ไม่ให้นำมาทำสัญญาวิญญาณกับคน…” นักวิญญาณเฒ่าเต๋อบอก
ชู่มู่อึ้งเล็กน้อย ในโลกนี้ยังมีดวงวิญญาณแข็งแกร่งที่ไม่นำมาทำสัญญาวิญญาณกับคนด้วยงั้นหรือ
“ไม่ทำสัญญาวิญญาณ แล้วจะนำมาทำอะไรได้” ชู่มู่ถามอย่างประหลาดใจ
“เรื่องนี้ข้าก็ไม่รู้แล้ว สรุปแล้ว ถ้าทำสัญญาวิญญาณกับมัน ผู้แข็งแกร่งที่มีชีวิตรอดมาได้น้อยยิ่งกว่าน้อย ในนั้นยังมีผู้แข็งแกร่งวังมารนิรยที่มีความสามารถแข็งแกร่งยิ่งอย่างราชันปีศาจไป๋หยู่ ที่ผ่านมาคนของวังมารนิรยต่างคิดว่า ไป๋หยู่ได้ควบคุมมารนิรยขาวกลุ่มราชวงศ์ที่กลืนกินกลุ่มเดียวกันได้ แต่หลังจากนั้น…เรื่องนี้ก่อให้เกิดกระแสอย่างมาก แม้แต่ตำหนักวิญญาณของพวกเรายังกระทบด้วย…เห้อ เจ้าในอายุเท่านี้ไม่จำต้องรู้ก็ได้” นักวิญญาณเฒ่าเต๋อบอก
นักวิญญาณเฒ่าเต๋อรู้สึกหวาดกลัวเรื่องในตอนนั้น ทำท่าทีไม่อยากจะนึกขึ้น
ผ่านไปเนิ่นนานนักวิญญาณเฒ่าเต๋อถึงได้สติกลับมา มองไปยังชู่มู่แล้วพูดขึ้นว่า “มารนิรยขาวที่กลืนกินได้อันตรายอย่างมาก เจ้าควรปรึกษาเรื่องนี้กับท่านแม่ของเจ้า ว่าจะเลิกสัญญาวิญญาณไหม มิฉะนั้น หลังจากนี้จะมีปัญหาตามมา อย่าคิดว่าตอนนี้เจ้าควบคุมได้ เจ้าจะเป็นเจ้าของมันได้…”
“ไม่มีทางเลิกสัญญาวิญญาณได้ ข้าจะควบคุมตัวเองให้ดี เฒ่าเต๋อไม่ต้องห่วง” ชู่มู่บอก
คาดว่านักวิญญาณเฒ่าเต๋อรู้ว่ามารนิรยขาวของชู่มู่เป็นรุ่นหลังของมารนิรยขาวท่านไป๋หยู่ละก็ ไม่ว่าจะพูดอะไรก็จะบังคับให้ชู่มู่เลิกสัญญาวิญญาณ !
“เห้อ เจ้าปรึกษากับท่านแม่เจ้าเองเถอะ” นักวิญญาณเฒ่าเต๋อไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว
“ว่าแต่ เย้เทาก็เป็นถึงผู้อาวุโสของวังมารนิรย ทำไมถึงกลัวตำแหน่งของข้า ตำแหน่งท่านตำหนักสูงขนาดนั้นเลยเหรอ” ชู่มู่ถามขึ้น
“เรื่องนี้ต้องพูดถึงต้นกำเนิดวังมารนิรยกับตำหนักวิญญาณของพวกเราแล้ว ความจริง ในตอนแรกสุด ตำหนักวิญญาณมีดวงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ทั้งแปด ให้เจ้าทายว่าอันที่แปดคืออะไร…” นักวิญญาณเฒ่าเต๋อถามขึ้น
ชู่มู่ส่ายหัว แม้แต่ดวงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ลายเส้นทั้งเจ็ดชู่มู่ยังเพิ่งรู้ตอนถึงเมืองเทียนเซี่ย แล้วจะรู้ว่าดวงวิญญาณลายเเส้นที่แปดคืออะไรได้อย่างไร
“นายท่าน ลายเส้นที่แปดคือมารนิรยขาว !” เสียงของผู้เฒ่าหลีดังขึ้นช้า ๆ
“มารนิรยขาว !!!” ชู่มู่ตกใจทันที ลายเส้นที่แปดของตำหนักวิญญาณกลับเป็นมารนิรยขาว !!!
ดวงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ลายเส้นทั้งเจ็ดเป็นปรปักษ์กับกลุ่มมารนิรยไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงกลายเป็นครอบครัวเดียวกันได้ !
“ในตอนแรก วังมารนิรยกับตำหนักวิญญาณมีต้นกำเนิดเดียวกัน ดวงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์รวมถึงมารนิรยขาว เนื่องจากสิ่งมีชีวิตอย่างมารนิรยชั่วร้ายเกินไป มักฆ่าเจ้าของตัวเอง ชั้นสูงจึงตัดสินว่า ให้มารนิรยขาวนี้ออกจากดวงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ลายเส้นทั้งแปด…”
“ในตอนแรกสุด เจ้าตำหนักตำหนักมารนิรย ท่านอาวุโส ผู้อาวุโส คือผู้ก่อตั้งวังมารนิรย หลังจากพวกเขาแยกออกมาตั้งตัวแล้ว ได้กลายเป็นพรรคเดียวกัน ผ่านมาหลายพันปี ด้านหนึ่งเป็นเพราะการถดถอยของตำหนักวิญญาณพวกเรา อีกด้านหนึ่งเป็นเพราะกลุ่มมารนิรยขาวแข็งแกร่งอย่างมากจริง ๆ โดยเฉพาะในตอนนี้ได้มีมานิรยฟ้ากับมารนิรยเขียวสองกลุ่มนี้ อีกทั้งยังควบคุมได้ง่ายกว่า ตำแหน่งของวังมารนิรยเพิ่มขึ้นอีกขั้น ในตอนนี้นับว่าอยู่ในระดับเดียวกับตำหนักวิญญาณพวกเราแล้ว”
ชู่มู่อึ้งจนพูดไม่ออกแล้ว เขาไม่คิดว่า วังมารนิรยกับตำหนักวิญญาณจะมีความเป็นมาแบบนี้ !
“ตำแหน่งท่านอาวุโสของตำหนักวิญญาณพวกเราเทียบเท่าตำแหน่งท่านอาวุโสวังมารนิรย แต่วังมารนิรยไม่มีตำแหน่งท่านหญิงท่านชาย มีสาเหตุอยู่ เพราะตำแหน่งท่านสืบทอดจากตอนที่มีดวงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ลายเส้นทั้งเจ็ดตอนแรกสุด เท่ากับว่า ความจริงตำแหน่งท่านนี้เป็นตัวแทนของการสืบทอดอำนาจสูงสุดของอำนาจทั้งสองของตำหนักวิญญาณและวังมารนิรย คนของวังมารนิรยจะไม่เคารพคนของตำหนักศักดิ์สิทธิ์ลายเส้นทั้งเจ็ดได้ แต่พวกเขาไม่กล้าล่วงเกินตำแหน่งท่าน รวมถึงราชันปีศาจก็ไม่กล้า” นักวิญญาณเฒ่าเต๋อบอก
“นักวิญญาณเฒ่าเต๋อไม่พูด ข้ายังคิดไม่ถึงจริง ๆ” ชู่มู่พูดขึ้น
“การสืบทอดของตำแหน่งท่านซับซ้อนอย่างมาก ส่วนใหญ่ถูกกำหนดตั้งแต่เกิดแล้ว…นอกจากนี้ ระดับท่านมีกฎระเบียบที่แน่ชัด ห้ามมีการแต่งงาน…” นักวิญญาณเฒ่าเต๋อพูดอย่างจริงจังมาก
“…” ห้ามแต่งงาน ชู่มู่หมดคำพูดแล้ว
ถ้าบอกว่าตำแหน่งท่านห้ามมีการแต่งงาน แล้วตัวเองมากจากที่ใด ท่านพ่อของตัวเองคือใคร หรือว่าท่านแม่ของตัวเองเป็นเรื่องโกหก
เมื่อเห็นสีหน้าตกใจของชู่มู่ นักวิญญาณเฒ่าเต๋อได้หัวเราะออกมา แล้วพูดกับชู่มู่ว่า “เจ้าเป็นบุตรชายคนเดียวของระดับท่าน ในนี้ยังมีเรื่องที่สนุกมาก เรื่องเล่าที่ทำให้เหล่าท่านอาวุโสทั้งหมดหมดคำพูด”
ชู่มู่อดใจคอยไม่ไหวแล้ว เห็นได้ชัดว่า นักวิญญาณเฒ่าเต๋อกำลังจะพูดเรื่องเกี่ยวกับท่านพ่อและท่านแม่ของตัวเองออกมา !
“ตำหนักวิญญาณของพวกเรามีกฎระเบียบดึกดำบรรพ์ ตำแหน่งท่านห้ามแต่งงาน ดังนั้น ตำแหน่งท่านจำต้องคงความโสดบริสุทธิ์ไว้ ท่านแม่ของเจ้าถูกตั้งเป็นตำแหน่งท่านตั้งแต่เด็กแล้ว มีความสามารถควบคุมดวงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ลายเส้นทั้งเจ็ดตั้งแต่เด็กแล้ว นอกจากมีดวงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ลายเส้นทั้งเจ็ดที่แข็งแกร่งแล้ว ยังเป็นหญิงสาวที่ไม่ยุ่งเรื่องโลกอีก…” นักวิญญาณเฒ่าเต๋อบอก
ชู่มู่นึกถึงแม่ของตัวเองทันที เหมือนจะไม่ต้องนึกถึงท่าทีปิดกั้นโลกภายนอกนั้น ก็พอจะรู้ว่า เธอไม่ยุ่งกับเรื่องทางโลกจริง ๆ …
“หลังจากนั้น ได้เจอกับท่านพ่อของเจ้า ส่วนเกิดอะไรขึ้นข้าไม่รู้…อย่างไรแล้ว ท่านหญิงตั้งท้อง นี่เป็นการละเมิดกฎพันปีของตำหนักวิญญาณ วังมารนิรย ท่านอาวุโสทั้งหมดสิบเอ็ดท่านแสดงความเห็นจะให้เธอสละตำแหน่งท่านหญิง ไม่อย่างนั้นก็ไม่เอาลูกของเธอ”
สีหน้าของชู่มู่ตึงเล็กน้อย ถ้าอย่างนั้น ในตอนนั้นตัวเขาจะต้องถูกเอาออกงั้นหรือ นี่เป็นกฎระเบียบที่ชั่วร้ายเพียงใด !
“การเลี้ยงดูท่านหญิงคนหนึ่ง ต้องใช้เวลานับสิบปี จะเจอกับผู้สืบทอดคนหนึ่ง เป็นเรื่องที่ยากมาก ดังนั้น ตำแหน่งของท่านหญิงเปลี่ยนไม่ได้…”
“ถ้าอย่างนั้นก็เก็บข้าไว้ไม่ได้ แต่ทำไมในตอนหลังถึงมีข้าได้” ชู่มู่ถามขึ้น
“ฮะฮะ ตรงนี้เป็นจุดที่สนุกที่สุด” นักวิญญาณเฒ่าเต๋อหัวเราะออกมา
“…” ชู่มู่ยิ่งเหงื่อตก เป็นเรื่องตลกตรงไหน
“ท่านพ่อของเจ้าเป็นคนที่ตลกคนหนึ่ง เขาเผชิญหน้ากับตำหนักวิญญาณและวังมารนิรย รวมถึงท่านอาวุโสทั้งหมดสิบเอ็ดท่าน ท่านพ่อของเจ้าพูดอย่างไม่แยแสว่า ‘กฎระเบียบโบราณของตำหนักวิญญาณ กำหนดว่าท่านหญิงห้ามแต่งงาน แต่ไม่ได้กำหนดว่าห้ามตั้งครรภ์ !’ นักวิญญาณเฒ่าเต๋อหัวเราะจนใบหน้าเต็มไปด้วยรอยย่น
ห้ามแต่งงาน แต่ไม่ได้บอกว่าห้ามตั้งครรภ์ !!!
แม้แต่ชู่มู่เองก็ต้องนับถือความสามารถหาเรื่องของชายแก่คนนี้ !!!