Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - ตอนที่ 556
- Home
- Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์
- Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - ตอนที่ 556
ไฟปีศาจเก้าวิญญาณลุกโชนขึ้นบนตัวชู่มู่ ห่อหุ้มร่างของชู่มู่เอาไว้
เงาปีศาจลับ !
เงาของชู่มู่กระพริบ หลังจากเหลือเพียงเงาไฟสะดุดตาอยู่กับที่ ได้หายไปจากที่เดิมทันที เหลือเพียงเงาของไฟปีศาจเก้าวิญญาณที่ไถลไปตามบันได มุ่งหน้าเข้าใกล้สิ่งมีชีวิตผู้เฝ้าตัวนั้นอย่างรวดเร็ว !
“ชู่มู่ !” เย้ชิงจือจะไว้ใจให้ชู่มู่ไปฆ่าสิ่งมีชีวิตผู้เฝ้าตัวนั้นลำพังได้อย่างไร ในตอนนี้เขาได้ก้าวออกจากใจกลางของลายเส้นผนึก
“อย่าไป เชื่อเขา !” เย้หวันเชิงดึงเย้ชิงจือเอาไว้
ต่อให้เย้ชิงจือออกไปก็ไร้ความหมายใด ๆ พวกเขาในตอนนี้ทำได้แค่เชื่อใจว่า ชู่มู่จะจัดการสิ่งมีชีวิตผู้เฝ้าในเวลาอันสั้นแล้วกลับมาได้ทันเวลา
ชู่มู่ในตอนนี้เป็นเจ้าวิญญาณเจ็ดร่าย ยิ่งร่ายวิญญาณสูงเท่าไร ผลทักษะมารนิรยขาวที่เขาปล่อยออกมายิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น อาศัยความสามารถรับรู้อันเฉียดแหลมนั้น ร่างลึกลับของชู่มู่ทะลุผ่านระหว่างผู้เฝ้าหิน !
“บึ้ง !!! บึ้ง !!!”
ดาบหินน้ำหนักมหาศาลในมือของผู้เฝ้าหินกระแทกลงอย่างแรง การฟาดลงแต่ละครั้งมีน้ำหนักมากถึงพันกิโลกรัม ทิ้งรอยลึกไว้บนบันไดของแท่นบูชา
แท่นบูชานี้ได้สร้างขึ้นจากโครงสร้างชั้นหินพิเศษ ทำให้มันเกิดเป็นรอยได้ด้วยการกระแทกเพียงครั้งเดียวเท่ากับว่าพลังทั้งหมดนี้เกินกว่าขั้นเก้าแล้ว ถ้าสิ่งนี้กระแทกลงบนตัวศัตรูโดยตรง กระดูกจะแตกสลายเป็นเศษแน่นอน !
ชู่มู่หลบการโจมตีของผู้เฝ้าหินนี้อย่างเฉียดฉิว ลอบไปยังด้านหลังของสิ่งมีชีวิตผู้เฝ้านี้อย่างลึกลับ !
มือที่ยังมีไฟปีศาจเก้าวิญญาณลุกโชนของชู่มู่คว้าไหล่ของผู้เฝ้าหินไว้แน่น นิ้วมือแทบจะเข้าไปในร่างของผู้เฝ้าหินสีฟ้านี้
ผู้เฝ้าหินสีฟ้านี้ถูกซือเทียนทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้ว ชู่มู่ควบคุมมันได้อย่างง่ายดายมาก
แน่นอนว่า ชู่มู่รู้ว่า ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปจะฆ่าผู้เฝ้าหินสีฟ้านี้ไม่ได้แน่นอน ในตอนนี้ชู่มู่ได้ยื่นมือไฟปีศาจเก้าวิญญาณเข้าไปด้านหลังบริเวณหัวใจของผู้เฝ้าหินสีฟ้า !
ดับดวงใจ !!!
ทักษะเดียวของชู่มู่ในภาวะแบบนี้ที่จะได้ผล !
ถ้าไม่สำเร็จละก็ ผนึกจะเปิดออกไม่ได้ ผู้เฝ้าหินที่ถล่มขึ้นมายังแท่นบูชาอสูรเลือดนี้จะฆ่าคนทั้งหมด !
“ท่าทีแบบนี้ของชู่มู่…เหมือนจะเคยเห็นที่ไหนมาก่อน…” เย้หวันเชิงจับจ้องไปยังชู่มู่ที่เต็มไปด้วยไฟปีศาจเก้าวิญญาณทั้งตัว
เขารู้สึกว่า พลังลึกลับนี้ของชู่มู่ให้ความรู้สึกคล้ายกับครึ่งมารที่สะเทือนทั้งเมืองหลีนี้อยู่บ้าง
แน่นอนว่า ชู่มู่ในตอนนี้ยังคงภาวะร่างมนุษย์ไว้อยู่ แต่กำลังใช้พลังวิญญาณในการปล่อยทักษะของมารนิรยขาว ความสามารถในการต่อสู้ พลัง แรงกายของเขาไม่อาจเทียบเท่าภาวะครึ่งมารได้
ผู้เฝ้าหินสีฟ้าได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้ว ทักษะนี้ของชู่มู่เกิดผลได้อย่างดี ในไม่ช้า ได้ควักผลึกหินเครื่องในของมันออกมาได้แล้ว !
“ชู่มู่ กลับมาเร็ว ผนึกกำลังทำงาน !!!” องค์หญิงจิ่งโหลวรีบใช้ร่ายวิญญาณพูดกับชู่มู่
หลังจากที่ผลึกเครื่องในออกจากร่างของสิ่งมีชีวิตผู้เฝ้า พลังชีวิตของมันลดลงทันที ผนึกจะเปิดออกในเสี้ยววินาที!
“อู อู อู !!!” มั่วเย้ก็ส่งเสียงร้องไปยังชู่มู่ กลัวว่าจะถูกขังไว้ในนี้
ในมือชู่มู่ยังกำเครื่องในของสิ่งมีชีวิตอยู่ เดิมเขาคิดว่า ต้องขยี้เครื่องในของสิ่งมีชีวิตนี้ถึงจะนับว่าได้ฆ่าสิ่งมีชีวิตนี้แล้ว ผนึกถึงจะเปิดออก
และเขาเองก็อาศัยเวลาหนึ่งวินาทีนี้ได้ แต่ไม่คิดว่า ทันทีที่พลังชีวิตของสิ่งมีชีวิตผู้เฝ้าลดลง ผนึกจะทำงานทันที เท่ากับว่าเขาในตอนนี้มีเวลาแค่วินาทีเดียว
“พวกเจ้ายืนอยู่ตรงนั้นอย่าขยับ !” ชู่มู่ใช้ร่ายวิญญาณพูดกับทุกคน
ไม่ว่าตัวเขาจะกลับไปได้ในหนึ่งวินาทีหรือไม่ ชู่มู่ก็ไม่หวังว่า จะมีใครก้าวออกจากลายเส้นผนึกแม้แต่ก้าวเดียว อย่างไรก็ตาม ผู้เฝ้าหินได้เข้ามาในพื้นที่โจมตีแล้ว มีผู้เฝ้าหินไม่น้อยได้ยกดาบเล่มใหญ่ในมือขึ้นแล้ว พร้อมโจมตีได้ทุกเมื่อ
คนที่ออกจากลายเส้นผนึกก็ช่วยตัวเองไม่ได้ ถ้าตัวเขาไม่สำเร็จ คนที่ออกมามีแต่จะตายพร้อมกับตัวเองเท่านั้น !
ไฟปีศาจเก้าวิญญาณลุกโชนขึ้นบนตัว ร่างกายของชู่มู่กลายเป็นเถ้าถ่านท่ามกลางไฟปีศาจสีขาวนี้
เงาปีศาจสลับตำแหน่ง !
เงาปีศาจสลับตำแหน่งของชู่มู่สามารถเคลื่อนที่ในระยะหนึ่งร้อยเมตรในเสี้ยววินาทีได้ และในเวลาแทบจะศูนย์วินาทีนี้ ยังมีระยะอีกหนึ่งร้อยเมตร ชู่มู่แค่ใช้เงาปีศาจสลับตำแหน่งของทะลุผ่านไปได้แล้ว
ถ้าในระยะห่างนี้ไม่มีสิ่งกีดขวางใดๆ เวลาเพียงครึ่งวินาทีก็เพียงพอสำหรับการเคลื่อนไหวในระยะหนึ่งร้อยเมตรแล้ว
และแล้ว ในตอนที่ชู่มู่ปรากฏตัวบริเวณลายเส้นผนึกหนึ่งร้อยเมตร ผู้เฝ้าหินตัวหนึ่งที่มีขนาดตัวใหญ่กว่าตัวอื่นซึ่งอาจอยู่ในระดับจักรพรรดิขั้นสูง ได้จับเส้นทางเคลื่อนที่ของชู่มู่ ดาบหินในมือฟาดไปยังชู่มู่อย่างแรง !
ผู้เฝ้าหินจักรพรรดิขั้นสูง !!!
ชู่มู่ยังไม่ทันได้ใช้เงาปีศาจสลับตำแหน่ง ดาบกินนี้ได้พัดพาพลังหมวดหิน หมวดอสูรมุ่งมาทางชู่มู่ !
ชู่มู่ในตอนนี้อยู่ในภาวะมนุษย์ ในภาวะที่ไม่ได้ใช้เงาปีศาจสลับตำแหน่งยากที่จะหลบการโจมตีของจักรพรรดิขั้นสูงอย่างมาก
“โซ !!!”
ดาบนี้ฟาดลงอย่างแรง ระเบิดออกในขั้นบันไดแท่นบูชา พลังมหาศาลเหวี่ยงชู่มู่ขึ้นโดยตรง จนปลิวออกไป
ทั้งสามคนเห็นชู่มู่ถูกโจมตี สีหน้าเปลี่ยนไปทันที
ท่ามกลางฝูงผู้เฝ้าหินนับไม่ถ้วน ผู้คนไม่ทันรู้ว่า จะมีผู้เฝ้าหินจักรพรรดิขั้นสูงอยู่ด้วย !!!
และในตอนนี้ ลายเส้นสีแดงเข้มได้พุ่งขึ้นจากลายเส้นใต้เท้าของพวกเขา !
ลายเส้นสีแดงเข้มนี้สลับทับซ้อนตรงหน้าทั้งสามคนและดวงวิญญาณของพวกเขา วาดเป็นลายเส้นผนึกสีแดงกลางอากาศ !
ลายเส้นเหล่านี้ห่อหุ้มพวกเขาไว้อย่างรวดเร็ว คล้ายกับเป็นมิติพิเศษอย่างหนึ่ง กันพวกเขาออกจากโลกภายนอก ต่อให้พวกเขาห่างจากแท่นบูชาเลือดอสูรแค่ก้าวเดียว แต่กลับก้าวออกไปไม่ได้ตลอดกาล !
นี่เป็นการผนึก ทำให้สิ่งมีชีวิตทุกอย่างถูกกันไว้ในมิติที่ไม่เชื่อมกับโลกภายนอก ไม่ฆ่าพวกมัน แต่กลับทำให้พวกมันไม่เห็นตะวันใด ๆ !
ชั่ววินาทีที่ถูกผนึก ทั้งสามคนต่างนิ่งอึ้ง สายตาที่มองผ่านลายเส้นผนึกสีแดง พวกเขามองเห็นได้ว่า ชู่มู่ที่มีไฟปีศาจเก้าวิญญาณกระแทกลงท่ามกลางผู้เฝ้าหินที่ถล่มเข้ามาราวกับน้ำ !
สายตาของผู้เฝ้าหินที่เพ่งเล็งไปยังผู้คนทั้งหมดได้เปลี่ยนไป ทันทีที่ผนึกปรากฏขึ้น พวกเขาเหมือนได้หายไปจากแท่นบูชาอสูรเลือดแห่งนี้ สายตาของผู้เฝ้าหินทั้งหมดหันไปยังผู้บุกรุกเพียงคนเดียว ชู่มู่ !
“ชู่มู่ !!!”
เย้ชิงจือเริ่มจะก้าวเท้าออก จะพุ่งออกไปนอกผนึก ให้เธอมองดูชู่มู่ถูกฉีกเลือดเนื้อท่ามกลางผู้เฝ้าหินแบบนั้น เธอทำไม่ได้
และแล้วพลังของผนึกไม่สามารถทำลายได้ ไม่ว่าเย้ชิงจือจะพุ่งออกไปอย่างไร รวมถึงเหล่าการโจมตีของดวงวิญญาณ ก็ไม่อาจทำให้ผนึกนี้สะเทือนแม้แต่น้อย เธอถูกกันออกจากโลกภายนอกแล้ว ผ่านไปอีกหนึ่งวินาทีพวกเธอทั้งหมดจะถูกผนึกไว้ในแท่นบูชาเลือดอสูรแห่งนี้
เย้หวันเชิงกับองค์หญิงจิ่งโหลวก็นิ่งอึ้ง พวกเขาเลือกที่จะเชื่อชู่มู่ เชื่อว่าเขาจะกลับมาได้ทันเวลา แต่พวกเขาไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
ผู้เฝ้าหินนับร้อยพัน กองทัพจักรพรรดิมหาศาล !!!
ทั้งสนามเต็มไปด้วยพลังอาฆาตของผู้เฝ้าหินที่ราวกับพายุ ชู่มู่ที่ไร้ซึ่งดวงวิญญาณใด ๆ ได้ตกอยู่ในนั้น จุดจบเป็นที่คาดเดาได้ง่ายมาก !
ส่วนพวกเขาที่ถูกผนึกเอาไว้ในตอนนี้ไม่สามารถทำอะไรได้ ทำได้แค่มองดูชู่มู่ถูกผู้เฝ้าหินล้อมเอาไว้…
ลายเส้นผนึกสีแดงเข้มขึ้นเรื่อย ๆ ปิดกั้นสายตาของพวกเขา วินาทีต่อมา พวกเขาได้หายไปจากแท่นบูชาเลือดอสูรแห่งนี้ เข้าไปยังมิติส่วนใน…
“เนี๊ย !!!” ไฟปีศาจเก้าวิญญาณบนตัวปีศาจขาวลุกโชนอย่างดุเดือด
มันใช้เงาปีศาจสลับตำแหน่งอย่างต่อเนื่อง พยายามที่จะเคลื่อนที่ออกไปนอกพื้นที่ผนึก ทว่า ไม่ว่าปีศาจขาวจะปล่อยออกมาอย่างไร ก็ไม่อาจทำลายการปิดกั้นของพื้นที่แห่งนี้ได้
“โฮร่ !!!”
กรงเล็บของจั้นเย้โจมตีอย่างบ้าคลั่ง คิดจะทำลายพลังพิเศษที่กีดขวางตัวเอง
แต่ผลยังคงเหมือนเดิม การโจมตีของจั้นเย้ไม่อาจทำลายพลังผนึกนี้ได้…
เมื่อเทียบกับจั้นเย้และปีศาจขาว มั่วเย้กลับใจเย็นอย่างมาก…
ร่างกายของมันจมลงเล็กน้อย ดวงตาสีเงินคู่นั้นจับจ้องไปยังผนึกสีแดงเข้ม ผนึกพระจันทร์สีเงินบนหน้าผากที่ถูกมงกุฎเพลิงซ่อนไว้ปรากฏขึ้นอย่างช้า ๆ
“มั่วเย้ อย่าออกมา ต่อให้เจ้าแปรเปลี่ยนตระกูลก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผู้เฝ้าหินมากมายขนาดนี้ !”
ตอนที่ชู่มู่ตกอยู่ในฝูงผู้เฝ้าหินนี้ สัมผัสได้ถึงท่าทีของมั่วเย้
ในลานกว้างมีผู้เฝ้าหินจักรพรรดิขั้นต่ำแปดร้อยกว่าตัว ในบรรดาผู้เฝ้าหินเหล่านี้ยังมีจักรพรรดิขั้นกลางร้อยกว่าตัว ในนั้นยังมีจักรพรรดิขั้นสูงด้วย ต่อให้มั่วเย้แปรเปลี่ยนเป็นระดับเทียบเท่าจักรพรรดิ ก็ไม่อาจเป็นศัตรูของกองทัพผู้เฝ้าหินมากมายขนาดนี้ได้ อย่างไรก็ตาม ชู่มู่ยังไม่ถึงลักษณะสิบ !
เทียบเท่าระดับราชัน ลักษณะเก้าขั้นกลาง ความสามารถที่แท้จริงของมั่วเย้เทียบเท่าจักรพรรดิชั้นยอดลักษณะสิบ บวกกับผลของแสงจันทร์อาจเพิ่มขึ้นขั้นหนึ่งได้บ้าง
ความสามารถแบบนี้ถ้าเผชิญกับผู้เฝ้าหินหนึ่งร้อยตัว อาจทำลายการล้อมได้อย่างง่ายดายบ้าง แต่ในลานกว้างนี้มีผู้เฝ้าหินพันตัว ต่อให้เป็นระดับเทียบเท่าราชันก็อาจล่วงได้ !
การตายของชู่มู่คือ สัญญาวิญญาณที่ตัดขาด มั่วเย้ยังมีชีวิตอยู่ได้ ยังแปรเปลี่ยนตระกูลได้ ขึ้นไปยังชั้นยอดสุดของดวงวิญญาณได้ แทบไม่ต้องให้ตัวเองออกมาฝึกให้…
“อู อู อู อู !!!”
ทันใดนั้น มั่วเย้ส่งเสียงร้องแหลมขึ้น !
สายตาของมั่วเย้แน่วแน่อย่างมาก ประกายแสงจันทร์สีเงินบนตัวมันปล่อยออกมาอย่างบ้าคลั่ง พลังคลายผนึกของจิ้งจอกดวงจันทร์สีเงินนี้ได้กลายเป็นดาบแสง รวมอยู่บนกรงเล็บของมัน
คลายผนึก !!!
ในที่สุด มั่วเย้ยังคงออกโจมตี กรงเล็บได้กลายเป็นดาบแหลม ฉีกผนึกสีแดงเข้มที่อยู่ตรงหน้าของมั่วเย้ กลายเป็นช่องว่างมิติพิเศษแห่งนี้!
“อู อู อู อู !!!”
ขนสีเงินพลิ้วไหว ร่างอันเต็มไปด้วยพลังงดงามของมั่วเย้กลายเป็นประกายสีเงิน พุ่งออกจากช่องว่างนี้อย่างรวดเร็ว !
และในวินาทีนี้ ผนึกทั้งหมดได้สำเร็จลงแล้ว !
เย้ชิงจือ เย้หวันเชิง องค์หญิงจิ่งโหลว จั้นเย้ ปีศาจขาวและดวงวิญญาณของพวกเขาทั้งสามคนได้หายไปในลายเส้นสีแดงเข้มนี้ในเสี้ยววินาที หายไปจากลานกว้างแห่งนี้
และสิ่งสุดท้ายที่พวกเขาเห็นคือ เงาสีเงินที่พุ่งออกของมั่วเย้ จมอยู่ในกองทัพผู้เฝ้าหิน…
จากแผ่นหลังสีเงินของมั่วเย้ พวกเขาได้เห็นความแนวแน่ เป็นความแน่วแน่ที่ไม่มีเหตุผลใด ๆ