Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - ตอนที่ 502
ดวงวิญญาณที่ไช่จี้ใช้ในการลอบโจมตีเป็นตัวมิ้งเงา ผู้นำชั้นยอดลักษณะสิบ !
ผู้นำชั้นยอดนี้มีพลังความมืดอยู่ สามารถซ่อนตัวท่ามกลางเงาได้ ดังนั้น ในตอนที่มิ้งเงาตัวนี้เคลื่อนที่ไปตามหน้าผาแทบไม่สามารถมองเห็นเงาของมันได้
มิ้งเงากำลังเข้าใกล้อย่างช้า ๆ ห่างจากชู่มู่กับเย้ชิงจือไม่ถึงสามสิบเมตร ในระยะห่างแบบนี้ ถ้าไม่ทำการป้องกันไว้แล้วถูกโจมตีละก็ ผู้คุมดวงวิญญาณจะเสียชีวิตทันที
“กริดเงา ! ” ไช่จี้ฉีกยิ้มได้ใจออกมา ออกคำสั่งโจมตีไปยังมิ้งเงาผู้นำชั้นยอดของตัวเอง
ร่างกายของมิ้งเงาเคลื่อนไหวเล็กน้อย ลำตัวสีดำปรากฏด้านล่างหน้าผาอย่างช้า ๆ แต่มันไม่ได้โจมตีทันที กลับเคลื่อนที่ขึ้นไปด้านบนอีกเล็กน้อย
“กริดเงา !!! ” ไช่จี้ออกคำสั่งโจมตีอีกครั้ง !
ดวงวิญญาณรองยังคงเป็นดวงวิญญาณรองอยู่ดี แม้แต่ไหวพริบยังเชื่องช้าแบบนี้ ถ้าเป็นดวงวิญญาณหลักของเขาละก็ วินาทีที่เขาออกคำสั่งดวงวิญญาณหลักก็จะออกโจมตีทันที ในตอนนี้ ในใจของไช่จี้เกิดความไม่พอใจต่อมิ้งเงาตัวนี้บ้างแล้ว
และแล้ว ในตอนที่เขาออกคำสั่งต่อดวงวิญญาณในครั้งที่สอง มิ้งเงาผู้นำชั้นยอดยังคงไม่ออกโจมตี กลับปีนขึ้นไปตามหน้าผาต่อไป จนอยู่ในระยะที่ห่างจากชู่มู่กับเย้ชิงจือยี่สิบเมตรแล้ว !
ไช่จี้กัดฟันด้วยความโกรธ รู้ถึงจุดที่ผิดปกติทันที
ต่อให้มิ้งเงามีไหวพริบที่เชื่องช้ามากเพียงใด ก็คงไม่ปล่อยให้ออกคำสั่งจนนานขนาดนี้ แต่ยังไม่ทำอะไร !
“อสูรนิมิต !!! ” ไช่จี้ได้สติกลับมาทันที ตอนที่กวาดตามองไปพบว่า อสูรสายฟ้านิมิตราตรีกับอสูรนิมิตชุดม่วงของชู่มู่ต่างส่องประกายออกจากดวงตา กำลังใช้ความสามารถนิมิตนั้นควบคุมจิตของมิ้งเงาเอาไว้
“หน็อยแน่ ถูกเจอตัวแล้ว ! ” สีหน้าของไช่จี้หมองคล้ำลงทันที
ถ้าลอบโจมตีไม่สำเร็จละก็ เขาที่มีดวงวิญญาณเพียงสองตัวแทบไม่สามารถต่อต้านสองคนนี้ได้ ในตอนนี้ไช่จี้ไม่สนใจมิ้งเงาที่ถูกควบคุมจิตเอาไว้ ขี่ภูตอสูรของเขากระโดดดิ่งลงเหวทันที ตัดสินใจหนีไป !
“ฉิง พายุ พัดเขาขึ้นมา ! ” ชู่มู่จะไม่ปล่อยให้สองร้อยล้านเหรียญทองหนีไปแบบนี้ ให้ภูตพันวายุวางกับดักไว้ตั้งนานแล้ว !
ภูตพันวายุแทบไม่ต้องร่ายคาถา หลังจากที่ดวงตาผ่องใสส่องประกายออกมา พายุขั้นเก้ารุนแรงพัดพาจากด้านล่างของเหวทันที ราวกับงูเหลือมที่มีร่างใหญ่โต พัดพาจากเหวที่มีหมอกปกคลุมนี้ เหวี่ยงไช่จี้กับภูตอสูรของเขาขึ้นมาบนสะพานหินรุ้ง
“ภูตอสูรของเขาเทียบเท่าจักรพรรดิลักษณะสิบตัวหนึ่ง อย่าประหม่า ! ” เย้ชิงจือได้ประเมินภูตอสูรของไช่จี้ทันที แล้วพูดเตือนชู่มู่
ทักษะพายุของภูตพันวายุทำได้แค่ให้ดวงวิญญาณของไช่จี้กับเขาเกิดความมึนหัว ในไม่ช้าที่ไช่จี้อยู่บนสะพานหินรุ้งทรงตัวได้แล้ว ขี่เทียบเท่าจักรพรรดิลักษณะสิบตัวนี้พุ่งตรงมายังชู่มู่กับเย้ชิงจือด้วยความโกรธ
“เย้ ราตรีรำพัน ! ”ชู่มู่ให้อสูรสายฟ้านิมิตราตรีปล่อยทักษะพื้นที่ออกมาทันที
ไม่มีพื้นที่ของราตรีรำพัน เกรงว่าอสูรสายฟ้านิมิตราตรีลักษณะเก้าขั้นสามนี้ยากที่จะหลบการโจมตีของเทียบเท่าจักรพรรดิลักษณะสิบนี้ได้
ตอนนี้เป็นตอนกลางคืนแล้ว หลังจากอสูรสายฟ้านิมิตราตรีส่งเสียงร้องขึ้น ทั้งราตรีกลับถูกปกคลุมด้วยกลิ่นไอมืดที่หนาแน่นกว่าเดิม ทั้งสะพานหินรุ้งรวมถึงปลายสะพานทั้งสองฝั่งกลายเป็นพื้นที่ไม่เห็นแม้แต่นิ้ว แสงดาวก็ไม่สามารถสาดส่องทะลุเข้ามาได้
เนตรนิมิตของอสูรสายฟ้านิมิตราตรีสาดส่อง จ้องไปยังเย้ชิงจือ การจับจ้องแบบนี้ทำให้สายตาของเย้ชิงจือไม่ถูกส่งกระทบด้วยทักษะพื้นที่ของมันได้
ในไม่ช้าเย้ชิงจือได้ฟื้นประสาทสัมผัสและความสามารถในการมองเห็นของเธอแล้ว ตอนมองดูจักรพรรดิลักษณะสิบที่เต็มไปด้วยพลังพุ่งตรงมา เย้ชิงจือได้ออกคำสั่งไปยังภูตไม้หมุน ก่อเป็นกิ่งไม้ตะขอบริเวณด้านปลายของสะพานรุ้ง ไขว้กันเป็นกำแพงแห่งรากไม้
“ป้าบ !!! ป้าบ !!! ”
พลังเทียบเท่าจักรพรรดิลักษณะสิบ น่าตกใจอย่างมาก กำแพงไม้ของภูไม้หมุนทำให้การเคลื่อนไหวของมันชะลอเล็กน้อยเท่านั้น หลังจากนั้นก็ถูกทำลายทันที !
“มีความสามารถเท่านี้ยังคิดจะขวางข้าไว้เหรอ” ไช่จี้ส่งเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ขี่ภูตอสูรลักษณะสิบพุ่งตรงไปยังอสูรสายฟ้านิมิตราตรีของชู่มู่ เห็นได้ชัดว่า ไช่จี้กำลังจะไปช่วยมิ้งเงาของเขา
“บึ้ง !!! บึ้ง !!! ”
หินแข็งแรงที่ขวางอยู่ด้านหน้าภูตอสูรตัวนี้ถูกชนกลายเป็นเศษอย่างง่ายดาย เศษหินนับไม่ถ้วนกระจายออก กระเด็นไปทุกทิศ
อสูรนิมิตชุดม่วงของเย้ชิงจือกระโดดขึ้นอย่างคล่อลแคล่ว ระหว่างเขานิมิตเกิดเป็นไฟสีม่วงลึกลับ ก่อเป็นคลื่นแห่งจิตที่จะทำให้รู้สึกเหนื่อยล้า ส่งเข้าไปในร่างกายของจักรพรรดิเทียบเท่าลักษณะสิบ
สายตาดุร้ายของเทียบเท่าจักรพรรดิลักษณะสิบตัวนี้หลังจากถูกกระตุ้นด้วยคลื่นจิตที่จะทำให้เหนื่อยล้าแบบนี้แล้วเริ่มเกิดความอ้างว้างขึ้น ฝีเท้าที่วิ่งด้วยความเร็วก็ลดลงอย่างมาก พลังก็ลดน้อยลง
ในตอนที่เทียบเท่าจักรพรรดิลักษณะสิบวิ่งไปถึงหน้าของอสูรนิมิตชุดม่วงแล้ว เทียบเท่าจักรพรรดิลักษณะสิบได้เผยท่าทีเหนื่อยล้าอย่างมากออกมาแล้ว
“อย่าให้ทักษะจิตของเขามีผลกระทบ !!! ” ไช่จี้สังเกตเห็นท่าทีของดวงวิญญาณตัวเอง ตะโกนด้วยความโกรธทันที
วิญญาณของไช่จี้ถูกปิดผนึกเอาไว้แล้ว ไม่สามารถใช้ทักษะวิญญาณใด ๆ ได้ แต่เขากลับใช้ร่ายวิญญาณของตัวเองกระตุ้นโลกแห่งจิตของดวงวิญญาณตัวเองได้
เจ้าวิญญาณห้าร่าย การกระตุ้นจิตแบบนี้รุนแรงอย่างมาก เพียงพอที่จะทำให้เทียบเท่าจักรพรรดิลักษณะสิบของเขาฟื้นจากคลื่นนิมิตจิตแบบนั้นได้
“โฮร่ โฮร่ โฮร่ !!! ”
หลังจากจิตได้รับการกระทบ อสูรคลั่งนี้ส่งเสียงคำรามขึ้นทันที ดวงตาที่มัวหมองนั้นส่องประกายดุร้ายออกมาอีกครั้ง แล้วพุ่งตรงไปยังอสูรนิมิตชุดม่วงนี้ด้วยพลังที่เต็มเปี่ยม
ปลายหางของอสูรนิมิตชุดม่วงส่องประกายสีม่วงขึ้น ประกายสีม่วงนี้ไหลไปตามหลังของอสูรนิมิตชุดม่วง ทำให้ร่างกายของอสูรนิมิตชุดม่วงมองดูมีประกายแสงสีม่วง
“บึ้ง !!! ” ทั้งตัวจักรพรรดิเทียบเท่าลักษณะสิบของไช่จี้เต็มไปด้วยพลังอสูร กระแทกลงบนหินก้อนใหญ่อย่างแรง ในตอนนี้ หินที่แข็งแรงกว่าหินธรรมดานี้กลับเกิดรอยแยก คืบคลานไปตามหินก้อนยักษ์อย่างช้า ๆ
ท้ายที่สุด หินยักษ์เกิดการสั่นสะเทือนอย่างแรง สลายจากตำแหน่งที่มีรอยแยกออกจากกัน !
พลังพุ่งชนของจักรพรรดิลักษณะสิบนี้น่ากลัวอย่างมาก ถ้าความเร็วในการหลบซ่อนของอสูรนิมิตชุดม่วงช้าลงเล็กน้อย หลังจากถูกจนต้องได้รับบาดเจ็บสาหัสแน่นอน
ดวงวิญญาณของฝ่ายตรงข้ามได้ถอยไปแล้ว ไช่จี้ฉีกยิ้มออกมาทันที เพราะตำแหน่งนี้เข้าใกล้มิ้งเงาของเขาอย่างมากแล้ว เพียงแค่ไม่เสียดวงวิญญาณไป เขาก็สามารถโจมตีผู้เข้าแข่งขันวัยหนุ่มเหล่านี้ได้
ผ่านความมืดที่ขุ่นมัว ก่อนหน้านี้การโจมตีทั้งหมดของไช่จี้อาศัยความจำของเขาอย่างเดียว และแล้วในตอนที่ไช่จี้ใช้ร่ายวิญญาณของตัวเองค้นหามิ้งเงาในความมืดนี้ กลับไม่พบร่องรอยของมัน
“อ๊าว”
ทันใดนั้น ท่ามกลางราตรีรำพันกลับมีเสียงร้องโอดครวญขึ้น ตามด้วยเลือดสดสีแดงที่กระเซ็นออก แนบติดบนหินยักษ์ด้านข้างไช่จี้ !
ไช่จี้เผยสีหน้าตกใจออกมาทันที ทันใดนั้น จิตที่ขาดออกจากกันได้พุ่งตรงไปยังวิญญาณของเขา !
สีหน้าของไช่จี้ซีดขาวทันที เส้นเลือดปูดออก มองดูเจ็บปวดอย่างมาก
อาการบาดเจ็บสาหัสของวิญญาณนี้มาจากมิ้งเงาอย่างเห็นได้ชัด ตอนที่ชู่มู่ให้อสูรสายฟ้านิมิตราตรีปกปิดสายตาและประสาทสัมผัสของไช่จี้ไว้ ได้ย้ายตำแหน่งของมิ้งเงาที่ถูกควบคุมเอาไว้แล้ว จึงฆ่าดวงวิญญาณตัวนี้ของไช่จี้อย่างง่ายดาย
ตอนที่วิญญาณของผู้คุมดวงวิญญาณได้รับบาดเจ็บสาหัสเป็นช่วงที่อ่อนแอที่สุด ชู่มู่ได้คำนวณเวลาไว้แล้ว ในวินาทีที่ฆ่ามิ้งเงาตายได้ออกคำสั่งโจมตีไปยังภูตพันวายุ
ภูตพันวายุไม่ได้ออกโจมตีสองวินาทีแล้ว และเวลาสองวินาทีเป็นเวลาที่ภูตพันวายุขับร่ายคาถาทักษะหมวดลม !
“ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู”
ความกดอากาศที่รุนแรงทำให้สายหมอกด้านล่างเหวนั้นเคลื่อนตัว กลายเป็นการไสยตัวที่ไม่เป็นระเบียบ
ในตอนแรกสุด แรงลมของลมอลวนทำได้แค่ทำให้หินบางก้อนเคลื่อนตัว แต่ในไม่ช้า ได้กลายเป็นกรงเล็บโหดร้ายสีดำ ทิ้งรอยลึกไว้บนหินที่แข็งแรงคงทนยิ่ง !
“อู อู อู อู !!! ”
เสียงลมกลายเป็นเสียงคำรามดังขึ้นข้างหูของไช่จี้อย่างแสบแก้วหู ตำแหน่งที่ไช่จี้อยู่แทบไม่มีที่จะให้เขาหลบซ่อนได้ จักรพรรดิเทียบเท่าลักษณะสิบก้าวเท้าออก พยายามวิ่งไปยังบริเวณที่พลังต่ำลง
“ค้อนไม้ธรรมชาติ ! ”
ภูตไม้หมุนของเย้ชิงจือไม่ได้มีไว้ให้มอง จักรพรรดิเทียบเท่าลักษณะสิบพึ่งเคลื่อนตัว รากไม้ราวกับค้อนใหญ่ทั้งหมดได้พันรอบสี่ขาของภูตอสูรตัวนี้เอาไว้ มัดมันไว้กับพื้นอย่างแน่น
ใบหน้าซีดขาวของไช่จี้ได้เผยความหวาดกลัวออกมาในที่สุด เขาเบิกตากว้าง จับจ้องไปยังปีศาจยักษ์ท่ามกลางลมอลวนนั้น ลำตัวเริ่มสั่นโดยไม่รู้ตัว
ปีศาจที่กลายร่างจากลมอลวนยื่นแขนยาวออกมา ซ้ายขวาไขว้กัน วาดเป็นกริดผีลมอลวนที่มีความยาวเกือบร้อยเมตร !
“ซัวะ !!! ซัวะ !!! ”
เสียงวาดผ่านอากาศดังขึ้น กริดลมอลวนสีดำส่องประกายลึกลับออกมา กลายเป็นประกายเย็นเยียบสีดำของดาบทั้งสอง ตวัดลงบนตัวของจักรพรรดิเทียบเท่าลักษณะสิบ
ร่างกายของจักรพรรดิเทียบเท่าลักษณะสิบได้ไถลออกหลังจากถูกกริดผีลมอลวนนี้โจมตี กระเด็นเข้าไปในหน้าผาหินด้านหลัง ทำให้หน้าผาเกิดเป็นหลุมยักษ์
และในสี่มุมของหลุมนี้ กลับเป็นรอยสองเส้นที่ไขว้กัน ลึกจนแทบจะตัดยอดเขาลูกนี้ไป !
“พุ พุ”
เลือดสดกระเด็นออกจากจักรพรรดิเทียบเท่าลักษณะสิบ กระเซ็นออกไปสิบกว่าเมตร
ชู่มู่รู้ว่า การโจมตีเดียวของภูตพันวายุจะฆ่าจักรพรรดิเทียบเท่าลักษณะสิบไม่ได้ ให้อสูรสายฟ้านิมิตราตรีโจมตีด้วยแสงสลายทันที ทำการโจมตีอีกครั้ง !
ภูตไม้หมุนกับอสูรนิมิตชุดม่วงของเย้ชิงจือออกโจมตีพร้อมกัน คิดจะกระแทกจักรพรรดิเทียบเท่าลักษณะสิบนี้ให้ลึกกว่าเดิม หน้าผาทั้งอันเริ่มสั่นด้วยทักษะต่อเนื่องนี้ มองดูเหมือนจะถล่มจากที่สูงลงมา
…
หลังจากการโจมตีต่อเนื่อง ชู่มู่กับเย้ชิงจือถึงหยุดโจมตีในที่สุด
“ไม่มีกลิ่นไอชีวิตแล้ว เหรียญทองสองร้อยล้านจะเข้ามาในมือแล้ว” ชู่มู่ฉีกยิ้มออก กวาดตามองไปยังหลุมหน้าผาหมดสภาพ
“ดูเจ้าสิ ทำท่าทีเหมือนจะกวาดล้างทุกอย่างในด่านที่แปดนี้” เย้ชิงจือบอก
การเพิ่มความแข็งแกร่งให้ภูตพันวายุจำต้องใช้เงินมหาศาล นอกจากภูตพันวายุแล้ว การเพิ่มความแข็งแกร่งของดวงวิญญาณอื่นก็ต้องใช้เงินมหาศาล ชู่มู่จำต้องใช้กฎกติกาครั้งนี้ให้ดี เพื่อหาเงินมาใช้กับค่าใช้จ่ายสูงนี้ !
“กฎกติกานี้ คือโอกาสอันดีที่จะได้หาเงิน ! ” ชู่มู่ฉีกยิ้มออก !