Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - ตอนที่ 505
- Home
- Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์
- Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - ตอนที่ 505
“ชู่เฉิง อย่าฝืนตัวเอง นักโทษทั้งห้าคนนี้ต่างมีผู้นำขั้นสูงลักษณะสิบและผู้นำชั้นยอดลักษณะสิบ ต่อให้เจ้ามีจักรพรรดิขั้นกลางลักษณะเก้าสามตัว อย่างมากก็ทำได้แค่รับมือกับนักโทษสองคน” ซ่างเหิงบอกอย่างใจร้อน
นักโทษห้าคนมีดวงวิญญาณทั้งหมดสิบคน ความสามารถของผู้นำขั้นสูงลักษณะสิบจะเทียบเท่าจักรพรรดิขั้นกลางลักษณะเก้าขั้นต่ำ ต่อให้ดวงวิญญาณทั้งสี่ตัวของเย้ชิงจืออยู่ในจักรพรรดิขั้นกลางลักษณะเก้าก็จัดการนักโทษเหล่านี้ลำบาก อย่างไรก็ตาม นักโทษห้าคนนี้ล้วนเป็นผู้คุมดวงวิญญาณรุ่นผู้ใหญ่ ถ้าพวกเขาแค่ควบคุมคู่ละก็ จะทำให้ความสามารถของดวงวิญญาณสองตัวที่พวกเขาควบคุมนั้นเกิดประโยชน์สูงสุดได้
ชู่มู่ไม่ได้สนใจความกังวลของซ่างเหิง ร่ายคาถาขึ้นอย่างช้า ๆ อัญเชิญปีศาจนักรบไม้ออกมา
ปีศาจนักรบไม้อยู่ในลักษณะเก้าขั้นสอง รากปักลงหินที่แข็งแรงโดยตรง กระจายรากไม้ของมันไปรอบ ๆ พร้อมที่จะโจมตีนักโทษที่ไล่โจมตีพวกนั้น
เย้ชิงจือร่ายคาถาขึ้นแล้ว น้ำแข็งพิฆาตขั้นสูงที่หนาวแทงกระดูกกับเลือดอัคคีขั้นสูงที่ร้อนระอุปรากฏขึ้นด้านหน้าเธอ ผลึกธาตุสองอย่างนี้หล่อรวมเข้าด้วยกัน กลายเป็นโครงร่างของภูตน้ำแข็งอัคคีอย่างช้า ๆ
ผู้คุมดวงวิญญาณส่วนใหญ่จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้ดวงวิญญาณตระกูลธาตุที่มีหลายหมวดตามหมวดที่มีพรสวรรค์สูงกว่า นอกนั้นจะเป็นหมวดรอง ซึ่งจะเพิ่มพลังทำลายล้างได้ในระดับหนึ่ง
การปรับหมวดใดหมวดหนึ่งให้อยู่ในภาวะขั้นสูงระดับสามจำต้องใช้เงินจำนวนมหาศาลอย่างมาก ปรับหมวดทั้งสองเข้าด้วยกัน ไม่เพียงแต่ต้องใช้เงินทุนซื้อวัตถุวิญญาณเพิ่มความแข็งแกร่งพรสวรรค์หมวดนั้นยังเดียว ยังต้องซื้อวัตถุวิญญาณที่ป้องกันและปรับความสมดุลไม่ให้หมวดทั้งสองปะทะกันด้วย
ดังนั้น ในการปรับหมวดคู่แบบนี้จะต้องใช้เงินทุนมากกว่าการปรับหมวดเดี่ยวถึงสามเท่า
ในภาวะปกติ ผู้คุมดวงวิญญาณยอมที่จะใช้เงินทองเหล่านี้เพิ่มความแข็งแกร่งหมวดใดหมวดหนึ่ง ให้หมวดใดหมวดหนึ่งของดวงวิญญาณแข็งแกร่งยิ่งขึ้น น้อยครั้งที่จะพัฒนาหมวดคู่
และแล้ว ภูตน้ำแข็งอัคคีตัวนี้ของเย้ชิงจือกลับพัฒนาสองหมวดพร้อมกัน ผลึกธาตุน้ำแข็งกับผลึกธาตุไฟอยู่ในภาวะขั้นสูงระดับสามแล้ว
ดวงวิญญาณปรับการฝึกแบบนี้เป็นที่พบเห็นได้ยากมากในโลกดวงวิญญาณ เกรงว่ามีเพียงเย้ชิงจือที่สามารถสร้างวัตถุวิญญาณขั้นแปดราคาแพงด้วยตัวเองเท่านั้นที่จะรับวิธีการเพิ่มความแข็งแกร่งราคาแพงแบบนี้ได้
“จักรพรรดิขั้นต่ำหมวดคู่นี่แข็งแกร่งยิ่งกว่าจักรพรรดิขั้นสูงอีก !!! ” ซ่างเหิงอึ้งเล็กน้อย มองไปยังภูตน้ำแข็งอัคคีของเย้ชิงจือด้วยความประหลาดใจ
จักรพรรดิขั้นต่ำลักษณะเก้าขั้นหนึ่ง หมวดคู่อยู่ในภาวะขั้นสูงระดับที่สาม ความสามารถที่แท้จริงแข็งแกร่งกว่าจักรพรรดิขั้นต่ำลักษณะเก้าขั้นหนึ่งมากถึงสองขั้น !
·นี่เป็นจักรพรรดิขั้นกลาง ลักษณะเก้าขั้นกลางตัวหนึ่ง เป็นดวงวิญญาณที่มีความสามารถไม่ด้อยไปกว่าภูตพันวายุของชู่มู่ !
ภูตน้ำแข็งอัคคีตัวนี้เป็นดวงวิญญาณหลักของเย้ชิงจือ ตามการเพิ่มลักษณะขั้นของภูตน้ำแข็งอัคคี หมวดคู่หลักของมันได้เผยออกมามากยิ่งขึ้น
และถ้าเย้ชิงจือสามารถทำให้เลือดอัคคีกับน้ำแข็งพิฆาตอยู่ในระดับที่สี่ได้ละก็ ระดับพลังต่อสู้ของมันคงจะน่ากลัวยิ่งกว่านี้ !
·”ชิงจือ ซ่อนภูตน้ำแข็งอัคคีของเจ้าไว้ที่สูง” ชู่มู่พูดกับเย้ชิงจือ
ดวงวิญญาณตระกูลธาตุจำต้องมีพื้นที่มากพอที่จะปล่อยทักษะออกมา พลังทำลายล้างของภูตน้ำแข็งอัคคีเพียงพอที่จะทำให้นักโทษทั้งห้าได้รับอันตรายถึงชีวิตได้แน่นอน !
·”อืม” เย้ชิงจือพยักหน้า ให้ภูตน้ำแข็งอัคคีลอยตัวขึ้น ไปยังปลายสุดของเส้นทางภูเขา อยู่บริเวณที่สูง
“ปีศาจไม้ ควบคุมพวกเขาเอาไว้ อย่าให้พวกเขาเข้าใกล้” ชู่มู่พูดกับปีศาจนักรบไม้
ปีศาจนักรบไม้ก้าวเท้าออก เดินตรงไปด้านหน้า ในขณะเดียวกัน ภูตไม้หมุนของเย้ชิงจือได้ร่ายคาถาขึ้น นำน้ำค้างภูตไม้ปกคลุมบนตัวปีศาจนักรบไม้ !
พลังชีวิตของปีศาจนักรบไม้เป็นสองเท่าของดวงวิญญาณลักษณะเก้าขั้นสองธรรมดา หลังจากใช้น้ำค้างภูตไม้นี้แล้ว ยิ่งทำให้พลังชีวิตของปีศาจนักรบไม้เพิ่มขึ้นจนเป็นสามเท่าของดวงวิญญาณธรรมดา
พลังชีวิตของปีศาจนักรบไม้เพิ่มขึ้น ไม่เพียงแต่ทำให้ความสามารถต้านทานของมันแข็งแกร่งขึ้น แต่ได้เพิ่มความเร็วในการดูดซึมพลังชีวิตของปีศาจนักรบไม้เช่นเดียวกัน !
หลังจากเพิ่มผลของพลังชีวิตแล้ว ภูตไม้หมุนได้เดินไปด้านหน้าพร้อมกับปีศาจนักรบไม้ มุ่งหน้าไปรับมือกับศัตรูพร้อมกับปีศาจนักรบไม้
…
“โครม โครม โครม โครม”
เดิมภูเขาที่สร้างจากหินก็ไม่มั่นคงอยู่แล้ว ในตอนที่มีฝูงดวงวิญญาณแข็งแรงวิ่งมา ทั้งเส้นทางภูเขาจะเกิดการสั่นสะเทือน
นักโทษทั้งห้าต่างขี่ดวงวิญญาณที่ต่างกัน ภูตอสูรที่เปี่ยมด้วยพลังวิ่งไปตามเส้นทางภูเขา ตอนเหยียบลงพื้นกลับทำให้ฝุ่นทั้งหมดตลบขึ้น ต่อให้ห่างกันในระยะพอสมควรยังสัมผัสได้ถึงกลิ่นไอบ้าคลั่งของอสูรได้
ภูตอสูรที่เน้นความเร็วได้กระโดดมุ่งหน้าไปตามหินและหน้าผาที่ขรุขระ พวกมันกระโดดไปตามหน้าผา แขนขาที่คล่องแคล่ว เห็นได้ชัดว่า เป็นดวงวิญญาณที่ผ่านการฝึกความเร็วเป็นระยะเวลานาน ความสามารถในการเคลื่อนไหวคล่องแคล่วกว่าดวงวิญญาณขั้นสูงที่วัยหนุ่มควบคุมอีก ต่อให้ภูเขาจะเป็นทางชันที่ไม่ราบเรียบ ยังคงทำได้เช่นเดียวกับพื้นราบ
ในบรรดาดวงวิญญาณของนักโทษ นอกจากดวงวิญญาณหมวดอสูรกับดวงวิญญาณหมวดภูตวิญญาณแล้วยังมีดวงวิญญาณหมวดปีกสองตัว
ดวงวิญญาณหมวดปีกสองตัวนี้บินแนบติดกับหน้าผา พวกเขาก็รู้ว่า ถ้าบินสูงเกินไปจะถูกแส้ฟาดลง และระหว่างที่บินแนบไปตามหน้าผานี้ ความเร็วของดวงวิญญาณหมวดปีกนี้กลับไม่ลดลงมากเท่าไร ไสยายไปตามสายลม หลบหินแปลกที่ยื่นออกเหล่านั้นอย่างง่ายดาย ทะลุผ่านได้ตามใจ…
“พวกเขา…พวกเขามาแล้ว ! ” สีหน้าของซ่างเหิงเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
ฝ่ายตรงข้ามมีดวงวิญญาณทั้งหมดสิบตัว ต่างอยู่ในภาวะลักษณะสิบสมบูรณ์แล้ว บวกกับความสามารถในการควบคุมดวงวิญญาณของเหล่านักโทษวัยผู้ใหญ่นี้ หากไม่ระวังอาจทำให้ไม่มีแรงโต้ตอบได้ !
สายตาของชู่มู่เพ่งเล็งไปยังดวงวิญญาณหมวดปีกที่บินแนบไปตามหน้าผาสองตัวนั้นก่อน ดวงวิญญาณที่บินจะส่งผลกระทบต่อการต่อสู้อย่างมาก พร้อมที่จะโจมตีตัวผู้คุมดวงวิญญาณได้ทุกเมื่อ ดังนั้น ในตอนที่ต่อสู้ สิ่งแรกที่ชู่มู่จะจัดการคือดวงวิญญาณหมวดปีก
“ชิงจือ อสูรนิมิตชุดม่วงของเจ้ารับมือได้ไหม” ชู่มู่ถามขึ้น
“ไม่ได้ หนึ่งในดวงวิญญาณหมวดปีกสองตัวนี้อยู่ในผู้นำชั้นยอดแล้ว อสูรนิมิตชุดม่วงของข้าจัดการได้แค่ตัวเดียว อีกตัวหนึ่ง…” เย้ชิงจือก็ไม่ฝืนตัวเอง พูดความจริงออกมา
คนที่ควบคุมดวงวิญญาณหมวดปีกนี้เป็นผู้คุมดวงวิญญาณวัยผู้ใหญ่ เย้ชิงจือไม่อวดดีจนถึงขั้นคิดว่า ตัวเองจะควบคุมให้อสูรนิมิตชุดม่วงจัดการผู้นำลักษณะสิบสองตัวได้
“อีกตัวหนึ่งให้ข้าเถอะ ในเมื่อจะสู้ก็สู้ ! ” ซ่างเหิงเช็ดรอยเลือดบนหน้าออก กัดฟันพูด
ในภาวะที่กำลังต่อสู้ สมาชิกขั้นสามสองคนกลับไม่หวาดกลัวอะไร ซ่างเหิงเป็นถึงตัวแทนขั้นสองของตำหนักวิญญาณ จะอ่อนแอแบบนั้นไม่ได้ !
“อืม เจ้าแค่จับตาดูดวงวิญญาณหมวดปีกตัวนั้นให้ดี ที่เหลือปล่อยให้พวกเราจัดการเถอะ ! ” ชู่มู่พูดด้วยความมั่นใจ
…
สามร้อยเมตรห่างจากเส้นทางเดินเขา นักโทษขั้นเจ็ดที่ขี่อสูรเขาหนามตัวหนึ่งด้านหน้าสุดยิ้มด้วยความโหดร้าย
“ฮะฮะ มีผู้เข้าแข่งขันเพิ่มขึ้นสองคน ! ” นักโทษขั้นเจ็ดคนนี้เห็นเย้ชิงจือกับชู่มู่ทันที ในไม่ช้า ตาของเขาเล็งไปยังเย้ชิงจือ ตาเป็นประกาย เผยท่าทีหื่นกามออกมา ตะโกนขึ้นว่า “ในนั้นมีผู้คุมดวงวิญญาณหญิงคนหนึ่ง รูปร่างไม่แย่ เป็นของข้า ! ”
หลังจากพูดจบ นักโทษขั้นเจ็ดคนนี้ได้ออกคำสั่งไปยังอสูรเขานาม ให้มันเพิ่มความเร็วในการวิ่งขึ้น อดใจไม่ไหวแล้ว !
“ล้อเล่นใช่ไหม เป็นของเจ้างั้นหรือ นี่เป็นสิ่งที่ทุกคนพบเห็น ! ” บริเวณที่สูงสิบเมตร นักโทษที่ขี่ดวงวิญญาณหมวดปีกคนนั้นหัวเราะออกมา
“ลองดูว่าใครจับได้ก่อน ! ” เจ้าของอสูรเขาหนามพูดขึ้น แทบไม่สนใจดวงวิญญาณของชู่มู่กับเย้ชิงจือ
หลังจากนักโทษสองคนนี้พูดจบ ดวงตาของนักโทษทั้งสามคนส่องประกายตื่นเต้นออกมาเช่นกัน อย่างไรก็ทำชั่วมามากแล้ว พวกเขาไม่สนใจว่า จะมีโทษเพิ่มขึ้นอีกไหม !
ดวงตาเร่าร้อนของนักโทษเต็มไปด้วยความอยากครอบครองอันรุนแรง เย้ชิงจือเข้าใจว่า ในหัวของเหล่านักโทษนี้กำลังคิดอะไรอยู่
ทว่า เย้ชิงจือเองก็ไม่ได้โกรธด้วยเรื่องแบบนี้ ดวงตาของเขายังคงความแน่นิ่งเอาไว้ ออกคำสั่งต่อภูตไม้หมุนของตัวเอง
“พุ !!! พุ !!! ”
หนามเส้นเล็กของภูตไม้หมุนทำลายหินทันที ขวางไว้ใต้เท้าของอสูรเขาหนาม คิดจะมัดอสูรเขาหนามที่วิ่งด้วยความเร็วสูงนี้ไว้
นักโทษขั้นเจ็ดนั้นยิ้มด้วยความเย้ยหยัน ให้อสูรเขาหนามกระโดดขึ้น หลบกับดักเล็ก ๆ ของภูตไม้หมุนนี้อย่างง่ายดาย
“ปัญญาอ่อนจริง ทักษะแบบนี้เอาไว้เล่นกับเด็กเหรอ” นักโทษขั้นเจ็ดคนนี้พูดพร้อมเยาะเย้ย
“ถ้าอย่างนั้นก็เล่นเกมผู้ใหญ่กับเธอหน่อย ! ” นักโทษคนอื่นหัวเราะด้วยความหื่นกามออกมา จากสายตาของพวกเขา พวกเขาแทบไม่ต้องจริงจังกับการต่อสู้แบบนี้
“เกมของผู้ใหญ่เหรอ ถ้าอย่างนั้นคือ การฆ่าล้าง สมใจอยากข้าพอดี ! ” ชู่มู่เผชิญหน้ากับนักโทษที่เยาะเย้ยเย้ชิงจือ เผยรอยยิ้มเยือกเย็นพร้อมจะทรมานออกมา
จากมุมมองของชู่มู่ ผู้ชายที่แท้จริงควรต่อสู้ด้วยเลือดสด ไม่ใช่คิดแต่ร่างกายของหญิงสาวในหัว ดังนั้น ตลอดที่ผ่านมา ต่อให้ชู่มู่เผชิญหน้ากับผู้คุมดวงวิญญาณหญิง ก็จะไม่ประมาท !
และเป็นถึงนักโทษที่ชั่วร้ายแบบนี้ แทบไม่อยู่ในระดับที่มีเพียงการฆ่าล้างเช่นเดียวกับผู้ฆ่าล้างอย่างแท้จริง เช่นนี้ พวกเขาจะต้องเสียสละให้กับการประหม่าศัตรูและจิตที่ไม่จดจ่อ !
“ปีศาจไม้ กับดักไม้ธรรมชาติ ! ” ชู่มู่ออกคำสั่งต่อปีศาจนักรบไม้
กับดักไม้ธรรมชาติของปีศาจนักรบไม้วางไว้บนเส้นทางเดียวของภูเขานี้ตั้งนานแล้ว ความกว้างกลับมากถึงสามสิบกว่าเมตร !
ชั้นหินของภูเขาเวหาอมตะหนาแน่นยิ่ง ในภาวะปกติ กับดักของปีศาจนักรบไม้มากถึงร้อยเมตรได้ ทว่า กับดักสามสิบเมตรจัดการอสูรเขาหนามที่ตกลงจากที่สูงนั้นได้เหลือเฟือแล้ว !
“กับดักแบบนี้ยังคิดจะจัดการข้าเหรอ” นักโทษขั้นเจ็ดคนนั้นหัวเราะออกมา
อสูรเขาหนามที่อยู่กลางอากาศยกขาหน้าขึ้นเล็กน้อย พลังอสูรสีน้ำตาลรวมไว้บนเกือกเหล็กใหญ่ของมัน ตามเสียงคำรามของอสูรเขานาม พลังสลายอย่างหนึ่งพาดผ่านขาหน้าอย่างแรง พุ่งเข้าไปยังกับดักไม้ธรรมชาติสามสิบเมตร ทำให้รากไม้ที่ปีศาจนักรบไม้วางไว้กลายเป็นเศษหมด
หลังจากกับดักไม้ธรรมชาติถูกทำลาย ชู่มู่กลับไม่รีบร้อน แค่ออกคำสั่งต่อปีศาจนักรบไม้อย่างราบเรียบ “คุกนิ้วไม้”