Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - ตอนที่ 506
- Home
- Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์
- Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - ตอนที่ 506
ฝ่ามือของปีศาจนักรบไม้กดลงบนพื้นตั้งนานแล้ว แทบจะเป็นช่วงวินาทีเดียวกับที่อสูรเขาหนามเหยียบกับดักไม้ธรรมชาติจนแตกสลาย นิ้วไม้สิบเส้นที่แข็งแรงปรากฎขึ้นกะทันหัน ราวกับโซ่ที่ล้อมรอบกับดักไม้ธรรมชาติเหล่านั้น ไขว้กันเหนือกับดัก ซึ่งเป็นบริเวณเหนือศีรษะของอสูรเขาหนามพอดี !
“อ๊าว !!! ”
ปีศาจนักรบไม้ส่งเสียงคำรามขึ้น ดึงฝ่ามือไปด้านหลังอย่างแรง คุกนิ้วไม้ได้ปกคลุมบนหลุมที่เกิดจากกับดักไม้ธรรมชาตินี้ !
โซ่ของคุกนิ้วไม้ไม่ได้รั้งตัวของอสูรเขาหนามเอาไว้ แต่กลับขังอสูรเขาหนามไว้ในกับดักนั้น ทำให้อสูรเขาหนามไม่สามารถออกมาได้
“ลายเส้นน้ำแข็งอัคคี ! ” เย้ชิงจือที่ซ่อนตัวอยู่ที่สูงออกคำสั่งต่อภูตน้ำแข็งอัคคีอย่างเยือกเย็น !
ลายเส้นน้ำแข็งอัคคี ทักษะขั้นเจ็ดหมวดคู่ พลังของมันแข็งแกร่งยิ่งกว่าทักษะหมวดเดี่ยวขั้นแปด และทันทีที่ปล่อยออกมา เป็นการซ้อนทับของเลือดอัคคีขั้นสูงกับน้ำแข็งพิฆาตขั้นสูง ทำให้สร้างพลังทำลายล้างที่เข้าใกล้ขั้นเก้าระยะกลางได้ !!!
น้ำแข็งพิฆาตปรากฏด้านล่างหลุมของกับดักไม้ธรรมชาติอย่างรวดเร็ว ลายเส้นหมวดน้ำแข็งทั้งอันปกคลุมกับดักไม้ธรรมชาติได้พอดี
และเหนือกับดักไม้ธรรมชาตินี้ เปลวไฟร้อนระอุสีเลือดที่มีความสูงห้าสิบเมตรกำลังลุกโชน สะท้อนกับลายเส้นน้ำแข็งสีขาวที่อยู่ด้านล่าง !!!
น้ำแข็งกับไฟที่ประสานกัน ความร้อนระอุกับความหนาวเหน็บ กลิ่นไอธาตุแข็งแกร่งนี้ทำให้นักโทษที่บ้าคลั่งเหล่านั้นรู้ถึงความน่ากลัวของทักษะนี้ !!!
“ช่วย…ช่วยข้า !!!” พลังของลายเส้นน้ำแข็งอัคคีนี้น่ากลัวอย่างยิ่ง ต่อให้เป็นอสูรเขาหนามที่มีเกราะทั้งตัวก็ใช่ว่าจะต้านทานได้ โดยเฉพาะในตอนนี้มันอยู่ในใจกลางสุดของทักษะนี้ !
“โซ โซ โซ”
กลิ่นไอเย็นเยียบกับกลิ่นไอเลือดอัคคีทำให้เหล่านักโทษต้องหยุดชะงัดลง ถ้าโจมตีหมวดเดียว พวกเขาอาจใช้อีกหมวดที่ตรงกันข้ามมายับยั้งได้ แต่การรวมตัวของน้ำแข็งกับไฟแบบนี้ ต่อให้เป็นหมวดหินที่มีการป้องกันรอบด้านก็ใช่ว่าจะต้านทานได้ นักโทษสี่คนนี้ทำได้แค่เบิกตากว้าง มองดูนักโทษคนนี้ทนทรมานกับความเจ็บปวดของน้ำแข็งและเปลวไฟ
“ฉิง เก้าพายุ ! ”
หมวดลม พื้นที่ทำลายล้างกว้างขวางที่สุด ภูตพันวายุแทบไม่ต้องใส่ใจว่า มีจำนวนศัตรูมากเท่าไร เพียงแค่ให้มันมีพื้นที่มากพอในการปล่อยทักษะหมวดลม ศัตรูทั้งหมดก็ต้องทนต่อการทำลายล้างของพายุ !!!
ทักษะเก้าพายุหนึ่งวินาที ภูตพันวายุกลับใช้เวลาร่ายคาถาขึ้นสองวินาที เวลาในการร่ายคาถานี้เพียงพอที่จะเพิ่มพลังของทักษะได้หลายเท่า !
“ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู !!! ”
เสียงลมคำราม แสบแก้วหูนิ่ง เศษหินนับไม่ถ้วนของภูเขาถูกพลังของลมนี้เหวี่ยงขึ้นฟ้า หมุนตัวไปตามสายลม กลายเป็นพายุทั้งเก้าเส้นที่ขุ่นมัวอย่างยิ่ง !!!
พายุทั้งเก้าปรากฏบริเวณเส้นทางภูเขา หน้าผา เหว แทบไม่มีช่องว่างใด ราวกับสิ่งมีชีวิตใหญ่ยักษ์เก้าตัวนี้ได้ครอบครองทั้งภูเขาหินนี้ พร้อมที่จะกวาดล้างทุกสิ่งทุกอย่างในภูเขาแห่งนี้ !
“ตำหนักวิญญาณ….ดวงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ลายเส้นทั้งเจ็ด ภูตพันวายุ !!!” นักโทษที่ขี่ดวงวิญญาณหมวดอสูรกับหมวดภูตวิญญาณทั้งสามคนนั้นมีใบหน้าซีดขาว พวกเขามองไปยังลำตัวเล็กจิ๋วที่ยืนอยู่ที่สูงนั้นซึ่งเป็นดวงวิญญาณที่สร้างพายุพลังมหาศาลนี้ !
อสูรเชิญหงส์ของซ่างเหิงเป็นหนึ่งในดวงวิญญาณศักดิ์สิทธิลายเส้นทั้งเจ็ดเหมือนกัน แต่เมื่อเทียบกับภูตพันวายุ ความสามารถของอสูรเชิญหงส์ยังคงด้อยกว่าเล็กน้อย !
ภูตพันวายุของชู่มู่เข้าใกล้จักรพรรดิขั้นสูงแล้ว ลักษณะขั้นยังสูงกว่าอสูรเชิญหงส์ของซ่างเหิงอีก ทักษะหมวดลมที่มันปล่อยออกมา แค่พลังก็ทำให้ขาหมดแรงได้แล้ว !
“โครม โครม โครม !!! ”
เก้าพายุกวาดล้าง หินนับไม่ถ้วนในภูเขาแห่งนี้ถูกดันตัวขึ้น หมุนกลางอากาศด้วยความเร็วสูง ฝุ่นทรายกับเศษหินตลบทั่วฟ้า ปกคลุมพื้นที่ทั้งหมดไว้ในความขุ่นมัว !
เสียงร้องของดวงวิญญาณของเหล่านักโทษถูกเสียงของพายุปกปิดไว้ ภูตวิญญาณที่ร่างบอบบางแทบไม่สามารถทนต่อพลังแรงลมนี้ได้ ถูกเหวี่ยงขึ้นฟ้า ถูกลมอลวนขั้นสูงนี้ทำลาย !
เหล่าดวงวิญญาณที่ยังคงท่าทีของเหล่านักโทษ หลังจากถูกเก้าพายุนี้พัดพา พ่ายแพ้ทั้งหมด มีเพียงดวงวิญญาณหมวดปีกสองตัวที่บินสูงขึ้นได้ทันเวลา หนีออกจากพื้นที่โจมตีของทักษะหมวดลมของภูตพันวายุนี้
“ขวังจั๋ว รีบให้ดวงวิญญาณหมวดปีกของเจ้ารั้งภูตพันวายุของเขาเอาไว้ อย่าให้มันปล่อยทักษะหมวดลมออกมาอีก !!!”เสียงของนักโทษคนหนึ่งดังขึ้นบริเวณหินในพื้นที่ขุ่นมัว
ขวังจั๋วคือนักโทษที่ขี่ดวงวิญญาณหมวดปีกสองตัวนั้น นักโทษคนนี้เชี่ยวชาญดวงวิญญาณหมวดปีก !
พลังฆ่าล้างอันแข็งแกร่ง ดวงวิญญาณหมวดลมจะปกคลุมพื้นที่อันกว้างขวาง จำต้องควบคุมมันให้ได้ มิฉะนั้นการโจมตีระยะประชิดของภูตวิญญาณกับอสูรแทบไม่ก่อให้เกิดประโยชนได้
หลังจากชู่มู่ให้ภูตพันวายุใช้ทักษะพลังขั้นเก้านี้กวาดล้างแล้ว ดวงวิญญาณหกตัวของนักโทษทั้งสามคนต่างได้รับบาดเจ็บ ถ้ายังเกิดการโจมตีแบบนี้อีก ดวงวิญญาณทั้งหมดจะสูญเสียพลังต่อสู้ทันที
ดวงวิญญาณหมวดปีกสองตัวเล็งไปยังภูตพันวายุทันที พวกมันส่งเสียงร้องแหลมแสบแก้วหู สยายปีกบินตรงไปยังภูตพันวายุ
ขนของดวงวิญญาณสองตัวนี้แหลมราวกับใบมีด ตอนบินด้วยความเร็วสูงยิ่งเหมือนดาบคมสองเล่มที่พาดผ่าน มุ่งแทงไปยังภูตพันวายุร่างเล็ก !
ภูตพันวายุรีบใช้เส้นรอยลม หลบการโจมตีของดวงวิญญาณหมวดปีกสองตัวนี้อย่างคล่องแคล่ว ระหว่างที่หลบซ่อนได้ร่ายคาถาต่อ
ถ้าเป็นดวงวิญญาณตระกูลธาตุธรรมดา ย่อมไม่สามารถร่ายคาถาตอนที่ถูกโจมตีอย่างภูตพันวายุได้ ความสามารถแบบนี้ของภูตพันวายุคือ ความได้เปรียบของกลุ่มจักรพรรดิขั้นกลาง !
“ถึงเวลาที่พวกข้าต่อสู้แล้ว ! ” ซ่างเหิงจับจ้องไปยังดวงวิญญาณหมวดปีกผู้นำขั้นสูงตัวนั้น กระโดดขึ้นหลังสิงโตปีกดาบสายฟ้าที่แผลดีขึ้นเล็กน้อย
สิงโตปีกดาบสายฟ้าปล่อยสายฟ้าที่เต็มไปด้วยความโกรธออกมาทั่วทั้งตัว มันสยายปีกที่ยังไม่หายดีนั้น บินขึ้นฟ้า ปล่อยพลังสายฟ้าไปยังผู้นำขั้นสูงนั้นอย่างบ้าคลั่ง
สิงโตปีกดาบสายฟ้าเป็นดวงวิญญาณหลักของซ่างเหิง ต่อให้บนตัวยังมีแผลอยู่ ดวงวิญญาณที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นนี้ไม่ได้เผยท่าทีหวาดหวั่นออกมา หลังจากโจมตีสายฟ้าหลายรอบแต่กลับไม่โดนศัตรู กลับใช้ลำตัวแข็งแรงนั้นพุ่งชนไปยังดวงวิญญาณกลุ่มนกยักษ์ตัวนั้นโดยตรง
ตอนที่สิงโตปีกดาบสายฟ้าต่อสู้กลางอากาศ อสูรนิมิตชุดม่วงของเย้ชิงจือกลับปรากฏข้างตัวผู้นำชั้นยอดนั้นอย่างไร้เสียง สร้างทักษะภวังค์นิมิตต่าง ๆ ด้วยเนตรนิมิต ก่อกวนประสาทของผู้นำชั้นยอดตัวนี้ ให้มันไม่สามารถสร้างทักษะอันตรายออกมาได้
ไม่มีอันตรายจากดวงวิญญาณหมวดปีกแล้ว ภูตพันวายุกับภูตน้ำแข็งอัคคีซึ่งเป็นดวงวิญญาณธาตุสองตัวนี้ยิ่งสร้างทักษะของมันได้อย่างตามใจ !
ลมอลวนขั้นสูง น้ำแข็งพิฆาตขั้นสูง เลือดอัคคีขั้นสูง พลังธาตุทั้งสามได้กลายเป็นการโจมตีคร่าชีวิตของเหล่านักโทษและดวงวิญญาณของพวกเขา !
ปีศาจนักรบไม้มีพลังที่มากพอสมควร พลังชีวิตสามเท่าของมันทำให้ความสามารถต้านทานแข็งแกร่งขึ้นมาก ต่อให้ถูกดวงวิญญาณหมวอสูรลักษณะสิบโจมตีพร้อมกันก็แค่ได้รับบาดเจ็บขั้นกลางเท่านั้น
และในตอนที่รากไม้ของปีศาจนักรบไม้แทงทะลุไปยังร่างกายของศัตรู ผลของการดูดซึมพลังชีวิตทำให้พลังชีวิตของปีศาจนักรบไม้ฟื้นกลับมาอย่างช้า ๆ พูดได้ว่า ปีศาจนักรบไม้ได้รั้งผู้นำทั้งสี่ตัวด้วยแรงของมันลำพัง แทบไม่ปล่อยให้พวกมันพุ่งเข้ามาหรือหนีไปได้
ผู้นำสองตัวที่เหลือถูกภูตไม้หมุนที่ปล่อยทักษะสี่อันออกมาควบคุมไว้เช่นกัน บวกกับทักษะฆ่าล้างหมู่อันแข็งแกร่งของภูตพันวายุและภูตน้ำแข็งอัคคี ทำให้เส้นทางภูเขาทั้งแห่งเต็มไปด้วยเสียงโอดครวญ !
บนตัวเหล่านักโทษเต็มไปด้วยบาดแผลแล้ว พวกเขาที่ดูถูกเหล่าผู้เข้าแข่งขันวัยหนุ่มมาโดยตลอดคิดอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่า จะเจอผู้แข็งแกร่งวัยหนุ่มที่มีความสามารถแข็งแกร่งผิดปกติสองคนที่นี่ ตอนนี้พวกเขาจะมีความคิดร้ายได้อย่างไร แค่หวังจะมีชีวิตรอดจากการฆ่าล้างหมู่ธาตุอันน่ากลัวเหล่านี้ก็พอแล้ว
…
ซ่างเหิงบินอยู่บนที่สูง เขามองดูการร่วมมือระหว่างดวงวิญญาณสี่ตัวนี้ของชู่มู่กับเย้ชิงจือด้วยความตกใจ ดวงวิญญาณสี่ตัวนี้ไม่มีตัวใดเป็นหมวดอสูรสายหลัก แต่เป็นการร่วมมืออย่างดีระหว่างดวงวิญญาณตระกูลพืชและตระกูลธาตุ กลับทำให้นักโทษเหล่านี้ไม่มีแม้แต่ความสามารถจะโต้ตอบ
พายุพัดทำลาย น้ำแข็งกับไฟปกคลุมทั่วฟ้า ทักษะแต่ละครั้งที่ปล่อยออกมามีพลังถึงขั้นเก้า !!!
นักโทษที่พยายามจะหนีไปกลับถูกภูตไม้หมุนกับปีศาจนักรบไม้ดึงกลับมา พลังทำลายล้างของภูตพันวายุกับภูตน้ำแข็งอัคคีน่ากลัวอย่างมาก เหล่านักโทษที่เคยไล่ล่าคนอื่นกลับล้มลงท่ามกลางทักษะโหดเหี้ยมของดวงวิญญาณเหล่านี้
ความกดอากาศสีดำกำลังพุ่งตรงมา นักโทษที่เต็มไปด้วยบาดแผลคนสุดท้ายนี้ยังคงไม่สามารถต้านทานการโจมตีของภูตพันวายุได้ ตามกริดลมสีดำที่ปรากฏจากทั่วทุกทิศ พาดผ่านบนตัวดวงวิญญาณนี้ด้วยความถี่สูง…
ผู้นำตัวนี้ได้รับบาดเจ็บจากเปลวไฟในตอนที่ถูกลมพัดขึ้นฟ้าแล้ว แต่หลังจากกระแทกลงพื้นอย่างแรง เต็มไปด้วยเลือดสดแล้ว นักโทษคนนั้นก็ไม่อาจรอดไปได้ เกิดรอยลึกสองเส้นสีแดงสดบนใบหน้า
ตอนที่นักโทษคนแรกตกลงไปในกับดักไม้ธรรมชาติก็เกือบถูกฆ่าตายแล้ว ตอนนี้นักโทษสามคนที่เหลือก็ไม่อาจรอดไปได้ ศพของดวงวิญญาณพวกเขากระจายไปบนเส้นทางภูเขาแห่งนี้
นักโทษขั้นเจ็ดยังคงเป็นอันตรายต่อผู้แข็งแกร่งขั้นสองในระดับหนึ่ง สำหรับชู่มู่ที่มีระดับความสามารถอยู่ในผู้แข็งแกร่งซ่อนตัวแล้ว เท่ากับว่าได้มอบเหรียญทองให้เขาโดยตรง !
ชู่มู่เงยหน้าขึ้น จับจ้องไปยังการต่อสู้บนฟ้า
การต่อสู้บนฟ้าก็ใกล้จะจบลงแล้ว หลังจากอสูรสายฟ้านิมิตราตรีของชู่มู่เข้าร่วมการต่อสู้ นักโทษคนสุดท้ายก็ถูกฆ่าตายแล้ว ศพตกลงใต้เท้าของชู่มู่
ในไม่ช้า ชู่มู่ได้เก็บแหวนนักโทษไว้ในมือ อีกทั้งโยนวงหนึ่งให้กับซ่างเหิง พูดกับซ่างเหิงว่า “นี่เป็นของเจ้า”
“ไม่ต้อง ถ้าไม่มีพวกเจ้า ข้าอาจถูกคัดออกไปแล้ว” ซ่างเหิงโยนแหวนให้ชู่มู่ เขากวาดตามองไปยังศพนักโทษขั้นเจ็ดเหล่านั้น พูดพร้อมยิ้มฝืน
“ชู่เฉิง ความสามารถของเจ้าเพิ่มขึ้นไวเกินไปแล้ว ไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ ดวงวิญญาณสองตัวของเจ้ายังจัดการเซิ่นอีเฉิงอย่างลำบาก ตอนนี้เจ้ากลับขยี้ผู้เข้าแข่งขันระดับเซิ่นอีเฉิงได้อย่างง่ายดาย ! ”
ชู่มู่แค่ยิ้มอย่างเฉยเมย ไม่พูดอะไรอีก
การเพิ่มความสามารถชู่มู่ได้จากการได้เกียติสูงสุดต่อเนื่องแล้วเพิ่มความแข็งแกร่ง เมื่อเทียบกับไม่กี่เดือนก่อน มีการเพิ่มขึ้นอย่างมากจริง ๆ
“เจ้าอยู่คนเดียวได้อย่างไร” ชู่มู่ถามขึ้น
ซ่างเหิงมีผลกระทบระดับหนึ่งต่อตำหนักวิญญาณ น่าจะไม่ถึงขั้นที่ถูกนักโทษขั้นเจ็ดห้าคนไล่ล่าลำพังแบบนี้
“ข้าอยู่กับถิงหลัน หลีจ่าน ทว่า พวกข้าเจอกับนักโทษฝูงใหญ่ น่าจะเป็นนักโทษขั้นเจ็ดสิบกว่าคนกับขั้นแปดไม่กี่คน ก่อนหน้านี้พวกข้าถูกไล่ต้อนจนหมดทางสู้แล้ว ข้าทำได้แค่เป็นเหยื่อล่อพวกเขาออกมา ตอนนี้ไม่รู้สองคนนั้นเป็นอย่างไรบ้างแล้ว” ซ่างเหิงบอก
ตอนที่ซ่างเหิงพูดจบ เย้ชิงจือสะดุ้งทันที สีหน้าจริงจังขึ้นมาก แล้วพูดว่า “ท่าทางจะไม่ดีแล้ว”
“เจ้ารู้ได้อย่างไร” ซ่างเหิงถามอย่างไม่เข้าใจ
“ข้าได้กลิ่นยา เป็นยาถอยตัวที่ฝ่ายจัดการประลองให้พวกเรา” เย้ชิงจือตอบ
สีหน้าของซ่างเหิงเปลี่ยนไปทันที !
ในเมื่อเปิดขวดยา เท่ากับว่าพวกเขามีอันตรายถึงชีวิตแล้ว ต้องการให้ผู้เฝ้าฝ่ายจัดการประลองช่วยเหลือ !
แต่ว่าต่อให้ความเร็วของผู้เฝ้าฝ่ายจัดการประลองจะไวมากเพียงใดก็ต้องใช้เวลาห้านาที ในภาวะปกติจะต้องใช้เวลาเกือบสิบนาทีถึงจะมาถึงได้ !