Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - ตอนที่ 516
- Home
- Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์
- Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - ตอนที่ 516
ถ้าดวงวิญญาณแข็งแกร่งกว่าผู้คุมดวงวิญญาณมากเกินไป จะเกิดเหตุการณ์ทรยศได้
ดังนั้น ระหว่างที่ผู้คุมดวงวิญญาณฝึกอยู่ มักจะเริ่มจากระดับทาสชั้นต่ำที่สุดก่อน แล้วค่อย ๆ เติบโตไปตามดวงวิญญาณ
ไม่มีใครที่สามารถควบคุมดวงวิญญาณขั้นสูงในตอนที่อยู่ในระดับศิษย์วิญญาณได้ จะมีดวงวิญญาณที่ระดับสูงกว่าก็ไม่ได้
ดังนั้น อำนาจต่าง ๆ จึงมีกฎเข้มงวดกับรุ่นวัยหนุ่ม ผู้คุมดวงวิญญาณคนใดก็ต้องฝึกตัวเองให้แข็งแกร่ง ไม่ใช่ชิงดวงวิญญาณขั้นสูงจากคนอื่น อำนาจใหญ่ทำได้แค่มอบสภาพแวดล้อมที่จะทำให้เหล่ารุ่นวัยหนุ่มได้ดวงวิญญาณขั้นสูงเท่านั้น
ความสามารถของชู่มู่เองนับว่าเพิ่มขึ้นไวมาก ด้านหนึ่งก็เป็นเพราะพรสวรรค์ของชู่มู่เองสูงมาก ร่ายวิญญาณของเขาสูงกว่าคนอื่นตั้งแต่เด็ก อีกด้านหนึ่งก็เป็นเพราะได้รับการกระตุ้นของเด็กสาวทรยศกับมารนิรยขาวที่เป็นดวงวิญญาณขั้นสูงกว่าสองตัวนี้ ทำให้ร่ายวิญญาณของชู่มู่อยู่ในภาวะที่ต้องเพิ่มขึ้นตลอด
พูดได้ว่า ผู้แข็งแกร่งในรุ่นผู้ใหญ่ส่วนใหญ่ก็อยู่ในระดับเจ้าวิญญาณ พวกที่เข้าสู่ระดับราชันมักเป็นบุคคลที่มีอำนาจสูงส่ง
ชู่มู่อยู่ในระดับเจ้าวิญญาณห้าร่ายด้วยอายุเท่านี้ได้ อย่างน้อยในขั้นที่สองจะไม่เจอคนที่แข็งแกร่งกว่าเขาแน่นอน
แต่ว่าที่ทำให้ชู่มู่คาดไม่ถึงคือ ร่ายวิญญาณที่สูงกว่าคนทั่วไปแบบเขา ยังคงต่ำไปสำหรับมั่วเย้ กลับกลายเป็นข้อจำกัดการแปรเปลี่ยนตระกูลของมั่วเย้ !
“ผู้เฒ่าหลี ถ้ามั่วเย้ของเจ้าแปรเปลี่ยนได้ หรือว่าข้าต้องให้ถึงระดับราชันวิญญาณ มันถึงจะแปรเปลี่ยนได้เหรอ” ชู่มู่ถามขึ้น
การแปรเปลี่ยนตระกูลของมั่วเย้อาจทำให้มันอยู่จักรพรรดิชั้นยอดหรือเทียบเท่าราชันได้ ถ้าเป็นเทียบเท่าราชันละก็ ชู่มู่จะต้องอยู่ในราชันวิญญาณไม่ใช่เหรอ นั่นเป็นเรื่องที่ไกลตัวอย่างมาก
“ไม่ต้อง เดิมตระกูลของมั่วเย้ท่านก็อยู่ในผู้นำสมบูรณ์แบบแล้ว การแปรเปลี่ยนครั้งหน้าอาจเป็นจักรพรรดิสมบูรณ์แบบ ยังคงเป็นจักรพรรดิอยู่ ถึงตอนนั้น เจ้าแค่อยู่ในเจ้าวิญญาณเจ็ดร่าย คือเพิ่มเจ้าวิญญาณร่ายกลางให้เป็นร่ายสูง โดยปกติมันจะไม่จำกัดการแปรเปลี่ยนตระกูล…นายท่าน ท่านลองคิดตามความเป็นจริง จิ้งจอกน้อยของท่านเคยแปรเปลี่ยนครั้งหนึ่งตอนอยู่โลกตะวันตก นี่เป็นเรื่องที่ยากมากแล้ว มันไม่อาจแปรเปลี่ยนตระกูลได้อีก” ผู้เฒ่าหลีบอก
“ที่แท้เจ็ดร่ายก็ได้แล้ว !!!” ชู่มู่ดีใจ ตอนนี้ตัวเขาเองอยู่ระหว่างห้าร่ายกับหกร่าย พูดได้ว่า แค่ฝึกสมาธิอีกไม่กี่คืน ก็จะอยู่ในประมาณหกร่ายแล้ว
หลังจากเข้าสู่หกร่ายแล้ว จะห่างกับเจ็ดร่ายแค่ก้าวเดียว ทันทีที่เข้าสู่เจ็ดร่าย ตัวเองก็จะมีดวงวิญญาณที่มีระดับพลังต่อสู้เทียบเท่าระดับราชันตัวหนึ่งได้แล้ว !!!
ในตอนนั้น ดวงวิญญาณหลักแข็งแกร่งที่สุดของเจ้าโลกจั้นหลีก็เป็นแค่เทียบเท่าราชันตัวหนึ่ง และแค่เข้าสู่เจ็ดร่าย อย่างน้อยดวงวิญญาณตัวหนึ่งของชู่มู่จะเผชิญหน้ากับเจ้าโลกได้ !
…
แค่คิดว่ามั่วเย้จะแปรเปลี่ยนจนเทียบเท่าราชัน ชู่มู่ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้น ตอนนั่งฝึกสมาธิยิ่งเต็มไปด้วยความมั่นใจ คิดจะอาศัยคืนนี้ ก้าวข้ามห้าร่ายไป เข้าสู่ระดับหกร่าย
หกร่ายถึงเจ็ดร่าย จะเป็นระยะห่างที่ไม่น้อย นอกจากความสามารถดวงวิญญาณบางตัวของชู่มู่เพิ่มขึ้นอย่างมาก มิฉะนั้น จะเพิ่มขึ้นอย่างสี่ร่ายไปห้าร่ายจะต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน ถึงตอนนั้น การประลองฟ้าดินก็จบลงแล้ว…
ชู่มู่เปลี่ยนดวงวิญญาณ แล้วยังใช้ทักษะวิญญาณขั้นแปดที่สิ้นเปลืองพลังวิญญาณอย่างมาก ทำให้พลังวิญญาณลดลงเกือบครึ่งแล้ว ร่ายวิญญาณของชู่มู่ในตอนนี้แข็งแกร่งขึ้น การฟื้นพลังวิญญาณทั้งหมดต้องใช้เวลาอย่างน้อยสี่วัน ครึ่งหนึ่งที่ใช้ไป ต้องใช้เวลาสองคืนถึงจะฟื้นกลับมาได้
ยาพลังวิญญาณของเย้ชิงจือจึงเกิดประโยชน์อย่างมากในตอนนี้ ถ้าฟื้นพลังวิญญาณด้วยความเร็วแบบนี้ จะเต็มอิ่มก่อนฟ้าสว่างได้แน่นอน
เหมือนจะได้รับการกระตุ้นจากยาวิญญาณของเย้ชิงจือ ในตอนที่พลังวิญญาณของชู่มู่ค่อยฟื้นกลับมาอยู่ในภาวะเต็มอิ่ม พลังวิญญาณยังคงเพิ่มขึ้นอีก !
“มีความหวัง ! ” ชู่มู่ดีใจทันที ในตอนนี้จึงรวมร่ายวิญญาณของตัวเองไว้ในวิญญาณ พยายามให้วิญญาณของตัวเองเพิ่มขึ้น
แสงสีฟ้าบนตัวค่อย ๆ ส่องจากด้านในตัวออกมาด้านนอกร่างกายของชู่มู่ เย้ชิงจือที่อยู่ด้านข้างสังเกตเห็นความผิดปกติของชู่มู่ทันที
“จะเพิ่มระดับแล้วเหรอ” เย้ชิงจือพึมพำ
ในตอนนี้ เย้ชิงจือได้หยิบยาพลังวิญญาณอีกชนิดหนึ่งออกจากแหวนช่องว่างของตัวเอง
ยาพลังวิญญาณนี้ได้เตรียมไว้เพื่อผู้คุมดวงวิญญาณที่กำลังจะเพิ่มระดับโดยเฉพาะ ถ้าได้กินลงระหว่างที่จะทำลายระดับเดิม จะทำให้โอกาสที่จะสำเร็จเพิ่มขึ้นอย่างมาก
เย้ชิงจือเปิดขวดยาสีน้ำเงินนี้ ใช้ร่ายวิญญาณพูดกับชู่มู่ว่า” กินสิ่งนี้เข้าไป จะช่วยให้เจ้าเพิ่มระดับได้” หลังจากพูดจบ เย้ชิงจอได้นำยาเข้าปากของชู่มู่
ชู่มู่อ้าปากอัตโนมัติ เย้ชิงจือเองก็พยุงคอของชู่มู่เอาไว้ ค่อย ๆ นำยานี้เข้าปากของชู่มู่
ชู่มู่ในตอนนี้อยู่ในภาวะสมาธิ ไม่สามารถแยกประสาทควบคุมร่างกายได้ ดังนั้น จึงจะต้องให้ยาเหล่านี้ไหลลงคอแล้วไปยังกระเพาะของเขาเอง
หลังจากเย้ชิงจือป้อนชู่มู่กินยานี้ลงไปแล้ว ได้เช็ดปากให้ชู่มู่อย่างใส่ใจ แล้วจับจ้องไปยังชู่มู่ ในใจคิดบางอย่างอยู่…
ยาของเย้ชิงจือออกฤทธิ์ผ่านร่างกาย แล้วส่งไปยังวิญญาณ ชู่มู่รู้สึกว่าเป็นแรงผลักดันอย่างมาก กำลังดันให้ตัวเองเข้าสู่หกร่าย !
…
แสงยามเช้าสาดส่อง เกิดเป็นลำแสงต่าง ๆ บนหินที่เงางาม
แสงสีน้ำเงินบนตัวชู่มู่เริ่มกระจายไปตามแสงยามเช้านี้ เขาลืมตาขึ้นช้า ๆ
สิ่งที่เข้าตาคือผมนุ่มลื่น ชู่มู่หันไปเล็กน้อย ถึงพบว่า เย้ชิงจือได้นอนพิงข้างตัวเองตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่รู้แล้ว นอนหลับอย่างสงบ
เย้ชิงจือมีนิสัยคล้ายกับชู่มู่ มักจะทำสมาธิตอนกลางคืน พอใกล้จะเช้าถึงจะนอนสักหนึ่งถึงสองชั่วโมง
เย้ชิงจือนอนหลับลึกมาก พิงอยู่บนไหล่ของชู่มู่ เธอไม่ต้องกังวลเรื่องอะไร หลับอย่างสงบ
แสงยามเช้าแสงหนึ่งสาดส่อง สาดลงบนใบหน้างดงามของเย้ชิงจือ เธอที่นอนหลับอยู่ไม่มีความเยือกเย็น เฉยเมย อีกทั้งยังเผยลักษณะหลับลึกของหญิงสาวออกมา ท่ามกลางความน่ารักยังมีเสน่ห์ที่เอ่อล้น ทำให้ชู่มู่ที่ชื่นชมเธอในระยะใกล้ชิดนี้มองนานมาก…
เย้ชิงจือเองไม่ใช่เด็กสาวที่ขี้เซา ตอนที่แสงแดดสาดลงบนใบหน้างดงามของเธอ เธอจึงลืมตาขึ้นช้า ๆ
ตอนที่ลืมตา ได้เห็นชู่มู่ที่มองไปยังตัวเองด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เย้ชิงจือเผยความเขินออกมาบนใบหน้า แก้มที่เป็นสีแดง กลับทำให้มากเสน่ห์กว่าเดิมภายใต้แสงแดด
“สำเร็จแล้วงั้นหรือ” เย้ชิงจือก้มหน้า ถามขึ้นด้วยเสียงเบามาก
“อืม เดิมยังห่างอีกก้าวหนึ่ง ยังต้องใช้เวลาอีกหลายวันถึงจะเพิ่มขึ้นได้ ยาวิเศษของเจ้าช่วยข้าไว้” ชู่มู่พูดพร้อมรอยยิ้ม
“นั่นเป็นหยดวิญญาณ กระตุ้นให้ร่ายวิญญาณเพิ่มขึ้นได้” เย้ชิงจือบอก
“ตอนนี้ข้าอยู่ในหกร่าย มีหยดวิญญาณอะไรที่จะทำให้ข้าเพิ่มขึ้นจนอยู่ในเจ็ดร่ายในเวลาอันสั้นได้บ้าง” ชู่มู่ถามขึ้นด้วยตาที่เป็นประกาย
“เจ้าเพิ่งเข้าสู่หกร่ายก็จะใช้ยาเข้าสู่เจ็ดร่าย เป็นเรื่องที่ยากมาก แต่มีหยดวิญญาณที่ช่วยแบบนั้นด้ไจริง ๆ ถ้าความสามารถของดวงวิญญาณบางตัวเพิ่มขึ้นอีก แบบนั้นจะเป็นไปได้อย่างมาก” เย้ชิงจือตอบ
“เจ้าสามารถปรุงยาแบบนี้ออกมาได้เหรอ ต้องใช้วัตถุวิญญาณอะไรไหม” ชู่มู่ถามขึ้น ยาที่มีราคาแพงจะต้องใช้วัตถุดิบหลายอย่างมาก
“ข้าปรุงเองขวดหนึ่งแล้ว ถ้าเจ้าต้องการอย่างมากละก็ ให้เจ้าก่อนละกัน” เย้ชิงจือเปิดแหวนช่องว่างออก นำหยดวิญญาณขวดที่มีสีแดงทับทิมออกมา ส่งไปให้ชู่มู่
ชู่มู่อึ้งเล็กน้อย พูดขึ้นว่า “เจ้าใช้เวลาไม่น้อยเพื่อปรุงสิ่งนี้ออกมาไม่ใช่เหรอ”
ไม่ว่าจะเป็นยาพลังวิญญาณหรือหยดวิญญาณ ของเหล่าต่อให้เจ้ามีเงินมากเพียงใดก็ไม่สามารถหาซื้อได้ โดยเฉพาะหยดวิญญาณที่ช่วยให้ผู้คุมดวงวิญญาณเพิ่มระดับร่ายวิญญาณได้ ต้องรู้ว่า ผู้คุมดวงวิญญาณเก้าร่ายจะทุ่มเงินมหาศาลเพื่อซื้อยาแบบนี้เพื่อให้ตัวเองไปถึงระดับเจ้าวิญญาณ ดังนั้น ชู่มู่จะไม่รู้ถึงความล้ำค่าของยาชนิดนี้ได้อย่างไร
“ไม่เป็นไร ข้ายังปรุงออกมาได้” เย้ชิงจือฉีกยิ้มจาง ๆ ออกมา
“ชิงจือ เจ้ามักจะทำดีแบบนี้กับข้า ข้าจะรู้สึกผิดได้ ข้าไม่เคยให้อะไรกับเจ้า…” ชู่มู่มองไปยังตาของเย้ชิงจือ แล้วพูดขึ้น
หลังจากชู่มู่ออกจากบ้านแห่งภูตวิญญาณ เดิมไม่ควรจะใช้ภาวะครึ่งมารแล้ว แต่เขากลับใช้สองครั้ง และผลจากการใช้สองครั้งนี้ วิญญาณที่ร้อนระอุแบบนี้ของชู่มู่จะบีบบังคับให้ชู่มู่กลายเป็นคนบ้าไปแล้ว แต่ชู่มู่ไม่เป็นอะไร เพราะมีเย้ชิงจือเป็นคนคอยช่วยเหลือตัวเอง
เย้ชิงจือได้ยินชู่มู่พูดแบบนี้ กลับทำท่าทีลำบากใจ พูดเสียงเบาว่า “ทุกครั้งที่เจ้าทำสมาธิ กินแค่หยดเดียวก็พอแล้ว ถ้ามากเกินไป จะส่งผลด้านลบ”
“อืม ชิงจือ เจ้าวางใจได้ ข้าจะนำคำสั่งเสียของอาจารย์เจ้ามาให้” ชู่มู่รู้สึกว่า แบบนี้ตัวเองต้องได้ทำบางอย่างให้เย้ชิงจือบ้าง มิฉะนั้น มักให้เธอช่วยเหลือตัวเองโดยไม่ตอบแทนอะไรเลย…
“อย่าฝืนมากเกินไป…” ตอนที่เย้ชิงจือพูด รู้สึกได้ถึงใจตัวเองที่เปลี่ยนไป เดิมเธอหวังจะให้ชู่มู่ช่วยตัวเองได้คำสั่งเสียของอาจารย์มาให้ได้ อย่างไรก็ตาม ของที่อยู่ในนั้นสำคัญอย่างมากจริง ๆ แต่ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไร เธอกลับไม่หวังให้ชู่มู่ไปเสี่ยงเพราะเรื่องแบบนี้
เย้ชิงจือรู้ว่า ชู่มู่จะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาก แต่ผู้แข็งแกร่งในขั้นสองมีมากมาย เธอหวังว่า ชู่มู่จะทำได้ตามกำลังของตัวเอง
“แค่บางคนไม่ขัดขวางข้า ผู้แข็งแกร่งพวกนั้นในขั้นสองข้ายังจัดการได้” ชู่มู่พูดอย่างจริงจัง
คนที่ชู่มู่หมายถึงย่อมเป็นเซี่ยกว่างหานกับหุ่นเชิดเด็กสาวทรยศ สองคนนี้ถึงเป็นศัตรูตัวฉกาจของชู่มู่ ส่วนผู้แข็งแกร่งขั้นสอง ชู่มู่ยังมีความมั่นใจว่าจะเอาชนะพวกเขาได้
“ฮวย ฮวย”
เย้ชิงจือยังอยากพูดบางอย่าง ทันใดนั้น อสูรนิมิตชุดม่วงของเธอส่งเสียงร้องขึ้น เสียงนี้รีบร้อนอย่างมาก เห็นได้ชัดว่ามีอันตรายกำลังเข้าใกล้อย่างรวดเร็ว !
ชู่มู่รีบลุกขึ้นทันที ปล่อยร่ายวิญญาณหกร่ายของตัวเองออกไป !
หลังจากถึงหกร่าย ความสามารถรับรู้ของชู่มู่แข็งแกร่งกว่าอสูรนิมิตชุดม่วงไม่น้อย พื้นที่กว้างมากขึ้นด้วย
ในไม่ช้า ชู่มู่พบว่าใต้แสงแดด มีสิ่งมีชีวิตบางอย่างกำลังเคลื่อนไหว…
แต่ในตอนที่ชู่มู่มองไป กลับไม่เห็นสิ่งเหล่านี้ !!!