Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - ตอนที่ 517
- Home
- Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์
- Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - ตอนที่ 517
“เป็นพวกปีศาจแมลงตะกละ ! ” ชู่มู่ตกใจทันที สิ่งที่ซ่อนรูปร่างแบบนี้ได้ เท่าที่ชู่มู่เคยเห็นมีเพียงปีศาจแมลงตะกละ
อีกทั้งปีศาจแมลงตะกละที่มีระดับค่อนข้างต่ำจะซ่อนตัวได้แค่ในความมืดเท่านั้น มีเพียงปีศาจแมลงตะกละที่มีความสามารถแข็งแกร่งกว่าถึงจะซ่อนร่างของตัวเองไว้ในตอนกลางวันได้ อีกทั้งไม่เห็นแม้แต่เงา !
“ถิงหลัน ซ่างเหิง ตื่นเร็ว มีศัตรูเข้าใกล้” ชู่มู่ปลุกถิงหลันและซ่างเหิงที่เหนื่อยล้ามากเกินไป
ถิงหลันกับซ่างเหิงสะดุ้งตื่นขึ้น พวกเขาสั่งดวงวิญญาณอย่างรีบร้อน ให้พวกมันเข้าสู่ภาวะต่อสู้
สิงโตปีกดาบสายฟ้าของซ่างเหิงส่งเสียงร้องขึ้น เสียงสายฟ้าดังขึ้น กระจายไปรอบ ๆ กลายเป็นสนามคลื่นไฟฟ้าในรัศมีสิบเมตร เพียงแค่ซ่างเหิงออกคำสั่ง สายฟ้าทั้งหมดในสนามไฟฟ้าแห่งนี้พุ่งออก กลายเป็นสายฟ้านับไม่ถ้วนที่โจมตีไปยังศัตรู
แต่ว่า ซ่างเหิงได้เตรียมตัวไว้แล้ว ตอนที่มองไป กลับไม่เห็นศัตรูใด ๆ รอบ ๆ ยังคงอ้างว้างอยู่
“ชู่มู่ ศัตรูอยู่ที่ใด” ซ่างเหิงใช้ร่ายวิญญาณพูดกับชู่มู่อย่างระวังตัวมาก
“ให้สิงโตปีกดาบสายฟ้าของเจ้าเก็บสนามคลื่นสายฟ้าไว้ แกล้งทำเหมือนแค่ตื่นขึ้นมา พวกมันมีความสามารถอำพราง ความสามารถรับรู้ของเจ้ารับรู้พวกมันไม่ได้” ชู่มู่รีบใช้ร่ายวิญญาณพูดกับซ่างเหิง
ซ่างเหิงอึ้งเล็กน้อย เขากลับเพิ่งเคยได้ยินว่า มีสิ่งมีชีวิตที่อำพรางตัวได้แบบนี้เป็นครั้งแรก ในตอนนี้จึงทำตามที่ชู่มู่บอก ให้สิงโตปีกดาบสายฟ้าควบคุมพลังของสายฟ้าเอาไว้ แสร้งทำเป็นยืดเส้นยืดสาย
ถิงหลันไม่ได้พูดอะไร แต่มองไปยังชู่มู่อย่างตื่นเต้น ดวงวิญญาณสามตัวของเธอนอนอยู่ข้างเธอ แผลบนตัวดวงวิญญาณของเธอหลังจากที่ผ่านการรักษาและพักผ่อนหนึ่งปีดีขึ้นมากแล้ว แต่พวกมันเหนื่อยล้ามากเกินไป พวกมันที่กำลังนอนหลับกลับไม่ทันได้สังเกตเห็นอันตรายที่ชู่มู่ว่า
“น่าจะมีประมาณสามตัว ปีศาจแมลงตะกละระดับผู้นำขั้นสูง จำต้องฆ่าพวกมันในเสี้ยววินาที” ชู่มู่ใช้ร่ายวิญญาณบอกกับสามคนที่เหลือ
ปีศาจแมลงตะกละปรากฏตัวที่นี่ได้แปลว่าร้อยแม่ก็จะอยู่ในละแวกนี้เช่นกัน ถ้าบอกว่า ให้ปีศาจแมลงตะกละตัวหนึ่งหนีไปได้แล้ว เกรงว่าจะมีปีศาจแมลงตะกละอีกฝูงหนึ่งไล่ตามมาแน่นอน !
“ชิงจือ เจ้าให้กระดิ่งแก้วตาของเจ้าสร้างกับดักกล่อมตัวหนึ่งให้นอนหลับไปได้ไหม” ชู่มู่ถามขึ้น
“ไม่สามารถทำให้หลับสนิทได้ อย่างมากทำให้มันหลับได้หนึ่งวินาที” เย้ชิงจือบอก
“หนึ่งวินาทีก็พอแล้ว ถิงหลัน ซ่างเหิง พวกเจ้าฟังคำสั่งของข้า ให้ดวงวิญญาณของพวกเจ้าเตรียมทักษะไว้ให้ดี ทันทีที่ปีศาจแมลงตะกละนั้นตกอยู่ในกับดัก จะให้โจมตีไปยังพวกมันทันที ! ” ชู่มู่บอก
ซ่างเหิงกับถิงหลันต่างพยักหน้า พวกเขาทั้งสองคนไม่เห็นดวงวิญญาณที่ว่านั้น ต่างกระวนกระวายใจอย่างมาก แต่เห็นความนิ่ง ใจเย็นของชู่มู่ จึงสงบสติได้อย่างรวดเร็ว ใบหน้าที่จริงจัง รอให้ชู่มู่ออกคำสั่งได้ทุกเมื่อ
“มั่วเย้!”อีกตัวหนึ่งย่อมปล่อยให้มั่วเย้จัดการ
ไม่มีแสงจันทร์แล้ว ความสามารถของมั่วเย้จะลดลงอย่างมากด้วย ชู่มู่จึงให้วารีจันทราของเย้ชิงจือเพิ่มเชิญปีศาจจันทราให้มั่วเย้ด้วย
ตอนกลางวัน ผลของการเชิญปีศาจจะทำให้มั่วเย้เพิ่มขึ้นอีกขั้น ดังนั้น มั่วเย้ในตอนนี้แค่มีลำดับสูงกว่าปีศาจแมลงตะกละผู้นำขั้นสูงสองขั้นเอง
ทว่า ชู่มู่มั่นใจในมั่วเย้ ด้วยความสามารถการต่อสู้และความเร็วของมั่วเย้ ไม่มีทางปล่อยให้ปีศาจแมลงตะกละตัวนั้นหนีไปได้แน่นอน
อีกทั้งต่อให้มั่วเย้ไม่อาจทำให้ตายในการโจมตีเดียวได้ ยังมีการโจมตีระยะไกลของภูตพันวายุอยู่ มันอย่าคิดที่จะรอดจากความตายไปได้
ตัวสุดท้าย ปีศาจนักรบไม้รั้งไว้ได้ ต่อให้ความเร็วของปีศาจแมลงตะกละจะไวมากเพียงใด ทันทีที่ความสามารถอำพรางถูกมองออกแล้ว ต่อให้หนีอย่างไรก็ไม่อาจหนีการโจมตีจากรากนับไม่ถ้วนของดวงวิญญาณตระกูลพืชได้
ปีศาจแมลงตะกละสามตัวกำลังเข้าใกล้อย่างช้า ๆ
ฝ่าเท้าของปีศาจแมลงตะกละพิเศษอย่างมาก ตอนที่มันเคลื่อนไหว เล็บของมันจะซ่อนอยู่ในอุ้งเท้าทั้งหมด และความหนาของอุ้งเท้ามัน ต่อให้วิ่งอยู่ก็จะไม่ส่งเสียงใด ๆ
ขาหน้าของปีศาจแมลงตะกละยาวมาก ขาหลังเต็มไปด้วยพลัง ลำตัวผอมอย่างกับแมลง ดวงตาคู่หนึ่งที่ถลนออกจากสันจมูก ตอนที่กำลังมองหาเหยื่อ จะเห็นลูกตาของมันที่กำลังเคลื่อนไหวอย่างชัดเจน แต่ทันทีที่เล็งไปยังเหยื่อ ดวงตาของพวกมันจะน่ากลัวอย่างมาก
ในตอนนี้ ปีศาจแมลงตะกละสามตัวนี้กำลังเล็งไปยังปีศาจนักรบไม้ของชู่มู่ มันยืนอยู่บริเวณด้านนอกสุด หลังจากก้อนหินนี้จะเป็นดวงวิญญาณของชู่มู่ทั้งสี่คน
“ปีศาจแมลงตะกละเป็นสิ่งมีชีวิตที่หิวโหย พวกมันจะตามหาของกินไม่หยุด แล้วมอบให้กับร้อยแม่ ยิ่งร้อยแม่ได้อาหารมากเท่าไร จะแยกปีศาจแมลงตะกละออกมาได้มากเท่านั้น นี่เป็นวงจรที่น่ากลัวอย่างมาก ไม่รู้ว่าเจ้าคนที่ควบคุมร้อยแม่ในตอนนี้มีปีศาจแมลงตะกละกี่ตัวแล้ว” เย้ชิงจือพูดเสียงเบามาก
ร้อยแม่เป็นดวงวิญญาณที่จัดการยากมาก ถ้าไม่สามารถหาร่างจริงได้ละก็ ต่อให้ฆ่าปีศาจแมลงตะกละไปมากเท่าไรก็ไร้ประโยชน์
“อืม ท่าทางครั้งนี้พวกเราจะเจอกับนักโทษที่จัดการยากมากแล้ว…พวกมันมาแล้ว เตรียมตัว” ชู่มู่บอก
เย้ชิงจือได้ออกคำสั่งไปยังกระดิ่งแก้วตาทันที ให้กระดิ่งแก้วตาเริ่มใช้ละอองดอกไม้สะกดจิต
กับดักกล่อมได้วางไว้ตั้งนานแล้ว ปีศาจแมลงตะกละหนึ่งตัวในนั้นหลังจากเหยียบลงบนหินที่ธรรมดาอย่างมาก มีเถาวัลย์ดอกไม้เส้นหนึ่งพุ่งขึ้นทันที ท่ามกลางเถาวัลย์ดอกไม้มีลออกดอกไม้กล่อมประสาทรุนแรงกระจายออกมา !
“ซึ”
ปีศาจแมลงตะกละตัวนั้นส่งเสียงร้องออกมาทันที แต่ส่งเสียงได้เพียงแค่นิดเดียวก็หยุดลงแล้ว !
สิงโตปีกดาบสายฟ้า อสูรเชิญหงส์สองตัว อสูรหางผีเสื้อหงส์ดาว ดวงวิญญาณทั้งสี่ตัวได้เตรียมทักษะสำเร็จลงพร้อมกัน พลังของทั้งสี่อันนี้รวมกันจนอยู่ในขั้นเก้า ทะลุหินก้อนนั้น โจมตีไปยังปีศาจแมลงตะกละที่ถูกกล่อมจิตเอาไว้ !!!
“บึ้ง บึ้ง !!! ”
ปีศาจแมลงตะกละตัวนั้นยังไม่ทันได้ทำการป้องกันใด ๆ พลังทั้งสี่นี้โจมตีไปบนตัวมัน ทำให้ร่างบางของมันระเบิดเป็นเศษ !!!
ปีศาจแมลงตะกละสองตัวที่เหลือได้กระโดดออกในตอนที่เถาวัลย์ดอกไม้ปรากฏขึ้น แต่ตอนที่พลังระเบิดออก ร่างกายของมันยังคงปลิวออกไปกลางอากาศ เข้าไปอยู่ในร่องหินสองก้อนด้านข้าง
มั่วเย้ดักอยู่ตรงนั้นตั้งนานแล้ว มงกุฎเพลิงบนตัวมันลุกโชนขึ้น กายเป็นจิ้งจอกอัคคีเก้าหางมงกุฎเพลิงทันที ร่างกายที่พุ่งออกมา กรงเล็บตวัดลงบนร่างกายของปีศาจแมลงตะกละตัวนั้นอย่างแม่นยำ !
ปีศาจแมลงตะกละตัวนั้นบิดตัวกลางอากาศ หลบการโจมตีของมั่วเย้ได้เฉียดฉิว เลือดสดตกลงระหว่างร่องหิน กลับกระโดดขึ้นอย่างรวดเร็ว คิดจะหนีไปตามหน้าผาหินนั้น
“ภูตพันวายุ ! ” ชู่มู่ออกคำสั่ง
ทักษะถ้ำลมของภูตพันวายุเตรียมไว้แล้ว ในตอนที่ปีศาจแมลงตะกละจะหนีไป ช่องว่างที่มีขนาดเท่าปลายนิ้วปรากฏขึ้น ก่อเป็นแรงลมมหาศาลอย่างหนึ่ง ลองกระชากปีศาจแมลงตะกละที่พยายามหนีกลับมาอย่างแรง !
“ซัวะ ซัวะ !!! ”
มั่วเย้กระโดดขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้กรงเล็บของมันไม่เกิดการผิดพลาด ตัดผ่านบริเวณเอวและลำคอของปีศาจแมลงตะกละออกเป็นสามท่อน !
และศพสามท่อนที่เต็มไปด้วยเลือดนี้ถูกถ้ำลมของภูตพันวายุดูดเข้าไปทันที ถูกถ้ำลมบดเป็นเศษ !
อีกด้านหนึ่ง รากของปีศาจนักรบไม้ได้พันรอบปีศาจแมลงตะกละตัวสุดท้ายแล้ว อสูรนกสวนสงครามของเย้ชิงจือกระโดดออกมาทันที กริดกระดูกสีเข้มตัดขาทั้งสี่ของปีศาจแมลงตะกละทันที…
สูญเสียขาทั้งสี่ไป ปีศาจแมลงตะกละตัวนี้ไม่มีความสามารถที่จะหนีไปได้แล้ว ถูกปีศาจนักรบไม้ดูดพลังชีวิตทันที !
ปีศาจแมลงตะกละสามตัวนี้หายไปทันตา ถิงหลันกับซ่างเหิงต่างมองไปยังเศษเนื้อและเลือดเหล่านั้นด้วยความประหลาดใจ พูดไม่ออกสักพัก
ตอนที่พวกเขาทั้งสองคนเห็นศพของปีศาจแมลงตะกละถึงรู้การมีอยู่ของพวกมัน พวกเขาแอบตกใจ ถ้าไม่ได้เป็นเพราะชู่มู่รับรู้การมีอยู่ของสิ่งเหล่านี้ก่อน พวกเขาอาจถูกฆ่าตายตอนไหนก็ไม่รู้
“ชู่มู่ เจ้ารับรู้พวกมันได้อย่างไร เจ้าไม่ได้อัญเชิญดวงวิญญาณที่มีจิตแข็งแกร่งออกมา” ซ่างเหิงเดินไปข้างศพ แล้วถามขึ้น
พอเพิ่งพูดจบ ศพของปีศาจแมลงตะกละมีของเหลวสีดำไหลออกมาทันที ซ่างเหิงกลัวจนรีบถอยออกมา
“วางใจได้ นั่นเป็นความสามารถสลายตัวเอง ไม่ใช่สารพิษ” เย้ชิงจือบอก
ซ่างเหิงเองก็เพิ่งเคยเห็นสิ่งมีชีวิตประหลาดแบบนี้เป็นครั้งแรก มองไปยังเย้ชิงจือ ถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจว่า “หรือว่าเจ้ารับรู้พวกมันได้เหมือนกัน ทำไมข้ากับถิงหลันถึงไม่สังเกตเห็น”
“ข้าไม่สามารถรับรู้ได้ อสูรนิมิตของข้าเตือนข้าไว้ ความสามารถอำพรางของปีศาจแมลงตะกละนี้แข็งแกร่งกว่าที่พวกข้าเจอก่อนหน้านี้อีก มีแค่ชู่มู่ที่รับรู้ได้” เย้ชิงจืออธิบาย
“ชู่มู่ เจ้าเป็นเจ้าวิญญาณร่ายที่เท่าไร” ถิงหลันเองก็ถามอย่างสงสัย เธอรู้สึกว่า เหมือนชู่มู่จะรับรู้ได้มากกว่าพวกเขาอีก
“เพิ่งอยู่ในหกร่าย” ชู่มู่ก็ไม่ปิดบัง
“หกร่าย !!!” ถิงหลันกับซ่างเหิงต่างอ้าปาก ทำท่าทีประหลาดใจอย่างมาก
“อย่าเพิ่งพูดเรื่องนี้ ออกจากที่นี่ก่อน คนที่ควบคุมปีศาจแมลงตะกละอาจอยู่แถวนี้” ชู่มู่บอก
ชู่มู่เพิ่งจะพูดจบ คิ้วของเขาก็ขมวดเข้าหากันทันที แล้วหันกลับไป จับจ้องไปยังหินก้อนหนึ่งที่ห่างออกไปสองร้อยเมตรอย่างเคร่งเครียด
หินนั้นวนขึ้นอย่างน่าประหลาด มีความสูงประมาณห้าสิบเมตร…
และด้านบนสุดของหินก้อนนี้ ชายที่สวมชุดสีเทานั่งอยู่บนนั้นอย่างไร้เรี่ยวแรง ดวงตาที่ไร้ชีวิตชีวาจับจ้องมายังพวกชู่มู่
ชายคนนี้เหมือนจะนั่งอยู่ตรงนั้นนานแล้ว อีกทั้งทำให้ชู่มู่รู้สึกว่า เขากำลังมองปีศาจแมลงตะกละสามตัวนั้นถูกฆ่าตาย !
“แนะนำตัวเองหน่อย ข้าชื่อตว้านซิงเจ๋อ เป็นนักโทษฝันร้ายสำหรับผู้เข้าแข่งขันวัยหนุ่มอย่างพวกเจ้า…” ชายคนนี้ฉีกยิ้มชั่วร้ายออกมา
“จากที่ข้ารู้มา แหวนนักโทษขั้นเก้าสามารถแลกเป็นเงินรางวัลหนึ่งพันล้านได้ และข้าตว้านซิงเจ๋อคือ หนึ่งพันล้านในสายตาผู้เข้าแข่งขันอย่างพวกเจ้า เป็นนักโทษขั้นเก้าเพียงคนเดียว เหมือนจะเรียกได้ว่า เป็นเกียรติสูงสุดด่านที่แปด…แต่น่าเสียดาย การประลองฟ้าดินด่านที่แปดในครั้งนี้ คาดว่าจะไม่มีใครได้เกียรติสูงสุดแล้ว เพราะคนทั้งหมดจะต้องตาย !!!”