Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - ตอนที่ 529
- Home
- Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์
- Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - ตอนที่ 529
“คนนั้นเป็นหลู่ซานหลีที่มีความสามารถอันดับที่สามของวังมารนิรยเหรอ ทำไมรู้สึกเหมือนการโจมตีไม่ได้เลย”เขามองดูหลู่ซานหลีที่วิญญาณได้รับบาดเจ็บต่อเนื่อง ซ่างเหิงรู้สึกว่า ทั้งหมดนี้เกินจริงมาก
ทั้งตำหนักวิญญาณ คนที่ขยี้หลู่ซานหลีแบบนี้ได้ คงมีเพียงฟางเจ๋อนายท่านที่แปดผู้ซึ่งมีความสามารถแข็งแกร่งที่สุดเท่านั้น !
แต่ว่าในตอนนี้เขาได้เห็นวัยหนุ่มที่ความสามารถยังอ่อนกว่าตัวเองเมื่อไม่นานนี้กำลังขยี้หลู่ซานหลีตอนนี้
“ชู่เฉิงเหมือนคนของวังมารนิรยมากกว่าอีก…” หลีเหิงเองมักรับมือกับคนของวังมารนิรย แต่ไม่เคยเห็นมารนิรยตัวใดที่มีความสามารถกลืนกินแบบนี้มาก่อน !
…
ญาณคู่ได้รับบาดเจ็บ หลู่ซานหลีแทบไม่มีสิทธิ์จะสู้ต่อไปได้ !
ปีศาจขาวมีความสามารถแข็งแกร่งกว่ามารนิรยขาวของหลู่ซานหลีขั้นหนึ่ง แต่ถ้าจะกลืนกินมันก็ต้องล้มมารนิรยขาวตัวนี้ก่อน มิฉะนั้น ถ้ากลืนกินมันในตอนที่มันยังมีความสามรถเต็มอิ่มแบบนี้ เท่ากับปีศาจขาวเล่นกับไฟเอง
มารนิรยขาวของหลู่ซานหลีก็นับว่า มีสายเลือดบริสุทธิ์ สู้กับปีศาจขาวในขั้นบันไดเขานี้ ความสามารถในการรวมความแค้นของมันทำให้ความสามารถของมันเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เริ่มมีความสามารถเทียบเท่าปีศาจขาวแล้ว
มารนิรยขาวของหลู่ซานหลีได้สู้กับปีศาจขาวของชู่มู่จริง ๆ และแล้ว ความสามารถยังคงห่างกันขั้นหนึ่ง พลังของไฟปีศาจเก้าวิญญาณขั้นสี่ยังคงแข็งแกร่งกว่าไฟปีศาจวิญญาณขาว การทำลายล้างของปีศาจขาวเป็นสองเท่าของมัน !
ไฟปีศาจขาวลุกโชน ตามการดำเนินต่อของการต่อสู้ มารนิรยขาวของหลู่ซานหลีเริ่มรับมือไม่ได้แล้ว…
ในที่สุด มารนิรยขาวของหลู่ซานหลียังคงพ่ายแพ้อยู่ดี !
สถานการณ์คงที่แล้ว ดวงตาอ้างว้างของหลู่ซานหลีมองไปยังสนามต่อสู้ที่เต็มไปด้วยไฟปีศาจสีขาว พูดได้ว่า ตอนที่ชู่มู่อัญเชิญมารนิรยขาวจักรพรรดิขั้นกลางออกมา การต่อสู้ครั้งนี้กำหนดให้หลู่ซานหลีเป็นฝ่ายพ่ายแพ้อยู่แล้ว
ส่วนดวงวิญญาณอีกสองตัวที่เหลือของชู่มู่ ไม่ว่าตัวใดก็แข็งแกร่งกว่าดวงวิญญาณหลักของเขา ต่อให้ควบคุมสี่ก็ทำอะไรไม่ได้ !
ชู่มู่ไม่ได้ออมมือ หลังจากมารนิรยขาวของหลู่ซานหลีได้รับบาดเจ็บสาหัส ได้สั่งให้ปีศาจขาวกลืนกินวิญญาณของมารนิรยขาว !
มารนิรยขาวลักษณะเก้าขั้นกลาง พลังของมารนิรยนี้เพียงพอที่จะทำให้ปีศาจขาวเพิ่มขึ้นจนอยู่ในลักษณะเก้าขั้นสี่ !!!
หลู่ซานหลีแทบไม่สามารถต้านทานได้ ทำได้แค่มองดูมานิรยขาวของเขาตกอยู่ในชะตาเดียวกับมารนิรยสองตัวก่อนหน้านี้ ถูกปีศาจขาวที่ทำให้วิญญาณของเขาสั่นสะเทือนกลืนกิน
วิญญาณได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกครั้ง หลู่ซานหลีเริ่มยืนไม่อยู่แล้ว จึงพิงกับหน้าผา
ในตอนนี้ ใบหน้าของเขาไม่มีเลือดใด ๆ มองดูเหมือนร่างไร้วิญญาณ เป็นถึงบุตรรักของวังมารนิรย ศักดิ์ศรีของเขาในตอนนี้ได้หายไปหมดแล้ว เหมือนผู้อ่อนแอที่ไม่มีแม้แต่จิตใต้สำนึกในการต้านทานฝันร้ายนี้
“เนี๊ย !!! ” เสียงร้องของปีศาจขาวกลายเป็นเสียงที่น่ากลัวที่สุด กระตุ้นแก้วหูของหลู่ซานหลี !
หลังจากกลืนกินมารนิรยขาวของหลู่ซานหลี ไฟปีศาจเก้าวิญญาณที่เย็นเยียบกว่าเดิม พลิ้วไหวอย่างบ้าคลั่ง ต่อให้ควบคุมอย่างไรก็ไม่อาจคุมพลังชั่วร้ายนั้นได้ !
“เติบโตแล้ว !!!”
และแล้ว ไม่เกินที่ชู่มู่คาดไว้ หลังจากกลืนกินมารนิรยสามตัวต่อเนื่อง ปีศาจขาวได้เติบโตจนอยู่ในลักษณะเก้าขั้นสี่แล้ว กลายเป็นจักรพรรดิขั้นสูง ลักษณะเก้าขั้นกลาง !!!
ตามที่ความสามารถของปีศาจขาวเพิ่มขึ้น วิญญาณของชู่มู่จะได้รับประโยชน์อย่างมาก ก่อนหน้านี้แค่ร่ายวิญญาณสี่ส่วน ตอนนี้ได้เติบโตจนอยู่ในหกส่วนแล้ว !
ร่ายวิญญาณหกส่วน !!! ความเร็วแบบนี้ อีกไม่นาน ชู่มู่จะอยู่ในเจ็ดร่ายแล้ว !!!
…
ชู่มู่ไม่ได้ฆ่าหลู่ซานหลี เขามีตำแหน่งที่สูงมากในวังมารนิรย ฆ่าเขาไม่มีความหมายเท่าไร แต่จะสร้างความยุ่งยากให้กับตัวเองเท่านั้น
ส่วนหลู่ซานหลีจะแก้แค้นหรือไม่ ชู่มู่ไม่สนใจ ในเมื่อก่อนหน้านี้เขาซึ่งมีความสามารถอ่อนแอกว่าใช้เวลาไม่กี่ปียังก้าวข้ามเขาได้ เวลาต่อจากนี้หลู่ซานหลีจะเหมือนราชันนักล่าคนใหม่อย่างหลั่วผง ความสามารถของเขาจะห่างกันมากขึ้นเรื่อย ๆ !
ชู่มู่เดินไปยังหน้าผาอย่างช้า ๆ แล้วเก็บแหวนนักโทษทั้งกองนั้นเข้าไปในแหวนช่องว่างของตัวเอง !
แหวนนักโทษที่หลู่ซานหลีเก็บได้มีไม่มากแต่ก็ไม่น้อยเกินไป น่าจะมีแค่หนึ่งพันห้าร้อยล้าน พอนับแล้ว แหวนนักโทษทั้งหมดของชู่มู่แลกได้ห้าพันล้านแล้ว (ก่อนหน้านี้ชู่มู่ก็มีสามพันห้าร้อยล้านแล้ว)
ถ้าทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น ครั้งนี้ชู่มู่เองน่าจะได้เงินมากกว่าหกพันล้าน เงินที่เหลือชู่มู่จะนำมาเพิ่มความแข็งแกร่งดวงวิญญาณตัวอื่นได้ !
“ชู่มู่…อุณหภูมิวิญญาณของเจ้าสูงขึ้นหรือเปล่า” หลังจบการต่อสู้ เย้ชิงจือกระโดดขึ้นบันได้เขา
เย้ชิงจือไม่ได้สนใจว่า ความสามารถของชู่มู่เพิ่มขึ้นเท่าไร แต่กลับห่วงอุณหภูมิวิญญาณของเขา
การกลืนกินกลุ่มเดียวกันของมารนิรยขาวแบบนี้ เท่ากับเป็นการเพิ่มภาระให้วิญญาณของชู่มู่!เธอไม่อยากให้ชู่มู่กลายเป็นปีศาจที่ไร้สติแบบนี้
“ยังไหว ทนได้” ชู่มู่ในตอนนี้ต้องการความสามารถ ส่วนตัวเขาจะมีผลข้างเคียงอะไรก็ไม่ต้องคิดมากแล้ว
ตอนที่เข้าไปยังเกาะมารนิรย ชู่มู่กำลังรักษาวิญญาณของตัวเองที่ตกอยู่ในขอบแห่งความตาย หลายปีนี้ยังทนมาได้ อุณหภูมิของวิญญาณที่เพิ่มขึ้นนี้ก็ไม่เท่าไร
เย้ชิงจือเห็นท่าทีแบบนนี้ของชู่มู่ เริ่มไม่พอใจแล้ว อุณหภูมิสูงของวิญญาณอันตรายต่อชีวิตอย่างมาก อีกทั้งถ้าอยู่ในภาวะแบบนี้เป็นเวลานาน จะลดอายุขัยของชู่มู่ได้ เย้ชิงจือไม่หวังว่าชู่มู่จะทรมานร่างกายกับวิญญาณของตัวเองเพื่อพลังแบบนี้
แน่นอนว่า เย้ชิงจือรู้ว่า พูดมากก็ไร้ประโยชน์ คงไม่มีใครห้ามให้ชู่มู่ก้าวสูงขึ้นไปได้ เธอเองก็จะพยายามไปรวบรวมวัตถุวิญญาณหมวดน้ำแข็งต่าง ๆ เพื่อกำจัดอันตรายให้ชู่มู่ !
“พวกเราเดินหน้าต่อไปเถอะ ยังมีศัตรูอีกมากมาย…” ชู่มู่ไม่สนใจหลู่ซานหลีที่สูญเสียวิญญาณไป กระโดดขึ้นหลังของจั้นเย้ พอมั่วเย้ที่อยู่ในภาวะอาวรณ์กับมารนิรยขาวที่อยู่ในภาวะเพิ่มความสามารถปีนป่ายขึ้นเขาต่อไป
ความอดทนของจั้นเย้ดีกว่ามั่วเย้ อาศัยกรงเล็บแหลมคมนี้ วิ่งไปตามหน้าผาที่เป็นแนวดิ่ง ลำตัวที่ปกคุลมด้วยเกราะสีหมึกและลายเส้นปีศาจพิเศษเหล่านั้นทำให้เห็นส่วนเหลี่ยมของร่างกายมัน ตอนไปตามหน้าผาเหมือนวิ่งอยู่บนพื้นราบ ทำให้เห็นพลังและการเคลื่อนไหวทรงพลังของดวงวิญญาณหมวดอสูร !
ปีศาจลูกม้าวายุของหลู่ซานหลีที่เต็มไปด้วยแผลไหม้ยืนอยู่ข้างหลู่ซานหลี ชู่มู่ไม่ได้ฆ่าปีศาจลูกม้าวายุ นับว่าเป็นการเหลือญาณหนึ่งให้ชู่มู่
แต่ว่าต่อให้ชู่มู่จะจากไปแล้ว หลู่ซานหลียังคงนิ่งอึ้งอย่างมาก ดวงตาของเขาจับจ้องไปยังชู่มู่ที่สวมชุดดำ
ทันใดนั้น ม่านตาของหลู่ซานหลีขยายใหญ่ขึ้น !!!
เขาจับจ้องไปยังชู่มู่ สายตาเปลี่ยนไป เขานึกขึ้นได้แล้ว !!!
ในเมืองมารนิรยขาวโลกตะวันตก เคยมีวัยหนุ่มที่เดินออกจากเกาะนักโทษคนหนึ่ง สิ่งที่เขามีคือมารนิรยขาวที่จะกลืนกินวิญญาณไปทั่วอย่างอันตราย !!!
ความสามารถของเขาในตอนนั้นแค่เป็นคนที่โดดเด่นในระดับนั้นของวังมารนิรย ถ้าอยู่ในวังมารนิรยเมืองเทียนเซี่ยก็ไม่เป็นที่กล่าวขาน อย่างน้อยหลู่ซานหลีในตอนนั้นไม่คิดว่า ชู่มู่เจ้าแห่งเกาะนักโทษนี้จะอยู่ในสายตาของเขา
แต่ว่าผ่านไปหลายปีแล้ว ความสามารถของวัยหนุ่มที่เป็นดาวใหม่ของโลกตะวันตกเล็ก ๆ นี้กลับอยู่ในระดับชั้นนี้แล้ว นี่ทำให้หลู่ซานหลีตกใจยิ่ง ผู้คุมดวงวิญญาณที่เคยเป็นแค่ตัวประกอบแบบนี้เข้าสู่ชั้นยอดในเวลาสั้น ๆ แบบนี้ได้อย่างไร !!!
…
“ชู่มู่ ก่อนหน้านี้เจ้าเคยสู้กับหลู่ซานหลีมาก่อนเหรอ” เย้ชิงจือเห็นประกายบางอย่างในตาของชู่มู่
“อืม ตอนที่ข้าออกจากเกาะนักโทษเข้าสู่วังมารนิรย เขามองดูจากที่สูงลงมา ในตอนนั้น ข้าทำได้แค่แหงนหน้ามองเขา ไม่มีแม้แต่สิทธิ์ที่จะท้าสู้กับหลู่ซานหลี ข้าเชื่อว่า วันหนึ่งตัวเองจะเอาชนะเขาได้ แต่วันนั้นมาเร็วกว่าที่ข้าคิดเอาไว้” การเอาชนะหลู่ซานหลีแบบนี้ ในใจของชู่มู่ก็เกิดความประทับใจ
เมื่อก่อน หลู่ซานหลีอยู่สูงเกินจะปีนป่าย ความสามารถแข็งแกร่งยากจะข้ามผ่านนี้ทำให้ชู่มู่ได้แค่กัดฟันฝึกอย่างหนัก แต่ในตอนนี้ หลู่ซานหลีไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตัวเองอีกต่อไป ศัตรูที่อยู่ตรงหน้าในตอนนี้กลายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในรุ่นอายุนี้ของเมืองเทียนเซี่ยแล้ว !!!
ในด่านฟ้าดินนี้ ผู้คุมดวงวิญญาณรุ่นวัยหนุ่มมีนับหมื่นล้าน ในตอนแรกที่ชู่มู่อยู่เมืองขั้นแปด เขาได้อยู่ระดับที่ต่ำสุด จนถึงเมืองพื้นที่ สู้กับผู้แข็งแกร่งที่สุดในเมืองต่าง ๆ หลังจากเมืองพื้นที่ ได้เข้าสู้โลกที่กว้างกว่า เผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งวัยหนุ่มมากมาย จนถึงตอนนี้ อยู่ในเมืองเทียนเซี่ยซึ่งเป็นที่รวมตัวของเขตโลก เขายืนอยู่ในความสูงที่ไม่เคยใฝ่ฝันมาก่อน !!!
แน่นอนว่า ชู่มู่จะไม่ลืม คำสาบานที่เคยพูดไว้ตอนเอาชีวิตรอดในเกาะมารนิรยนั้น !
จนถึงตอนนี้ คำสาบานนั้นชู่มู่ยังจำขึ้นใจได้ นั่นเป็นตอนที่นั่งอยู่ข้างอ่าวทะเลด้วยความเคียดแค้นหลังผ่านบททดสอบที่เกินมนุษย์อันทรมานจิตใจ ชู่มู่ในวัยเด็กหนุ่มได้สาบานไว้ว่า ตัวเขาจะเดินออกจากเกาะมารนิรยที่ไร้ความเป็นมนุษย์แห่งนี้ ตัวเองจะก้าวข้ามเซี่ยกว่างหานที่กดทับตัวเองเหมือนภูเขาลูกใหญ่ เหยียบคนที่เคยดูถูกตัวเองไว้ใต้เท้า !
และเวลานี้ใกล้จะมาถึงแล้ว !
ร่ายวิญญาณเติบโตจนถึงหกส่วนแล้ว ขาดอีกแค่สี่ส่วน ! แค่เพิ่มร่ายวิญญาณสี่ส่วนนี้ มั่วเย้จะเผชิญกับการแปรเปลี่ยนตระกูล อยู่ในระดับเทียบเท่าราชัน !
ดวงวิญญาณแข็งแกร่งที่สุดของเจ้าโลกเมืองหลีแห่งเมืองหลีอยู่แค่ระดับเทียบเท่าราชันเท่านั้น ! และเซียวเหยิ่นที่ได้รับสมญานามเป็นหนึ่งในห้ายอดนั้นมีดวงวิญญาณที่อยู่ระหว่างระดับจักรพรรดิชั้นยอดและระดับราชันตัวหนึ่งเท่านั้น !
ทันทีที่มั่วเย้อยู่ในระดับเทียบเท่าราชัน เซี่ยกว่างหานที่เคยเป็นเงามืดในใจของชู่มู่ก็เป็นแค่เศษสวะในสายตาชู่มู่เท่านั้น !!!
·…
ทุกครั้งที่คิดว่า มั่วเย้กำลังจะแปรเปลี่ยนเป็นเทียบเท่าราชัน ชู่มู่จะใจพอง ตื่นเต้นกับการแปรเปลี่ยนตระกูลต่อเนื่องของมั่วเย้อย่างมาก !!!
และเพื่อให้เวลานี้มาถึงไวขึ้น ชู่มู่จะไปใส่ใจอุณหภูมิที่สูงขึ้นได้อย่างไร
ต้องรู้ไว้ว่า ในไม่ช้า และในอีกไม่นาน ตัวเองจะมีพลังที่เป็นอันตรายต่อศัตรูที่เคยดูถูกตัวเอง !