Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - ตอนที่ 538
- Home
- Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์
- Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - ตอนที่ 538
การกลืนกินของปีศาจขาวไม่ได้จบลงด้วยวิญญาณของซือที่หายไป !
ในไม่ช้า ดวงตาของปีศาจขาวเล็งไปยังมารนิรยอีกสองตัวของเจียงอี้เถิงและซิงหยาง !
มารนิรยสองตัวนี้กลับดูเล็กน้อยมากเมื่ออยู่ต่อหน้าปีศาจขาว ในตอนที่ปีศาจขาวใช้เงาปีศาจสลับตำแหน่งปรากฏตัวต่อหน้ามารนิรยขาวอีกตัวหนึ่ง มันถูกกำหนดว่า ต้องกลายเป็นเครื่องสังเวยของปีศาจขาวแล้ว
แทบไม่ต้องมีการต่อสู้ที่ดุเดือด อาศัยความบ้าคลั่งของจักรพรรดิขั้นสูง ปีศาจขาวจับตัวมารนิรยขาวนี้เอาไว้ ทำการกลืนกินวิญญาณอีกครั้ง เข้าไปในร่างของมารนิรยขาวตัวนี้ !
ความเร็วของการกลืนกินวิญญาณในครั้งนี้รวดเร็วมากขึ้น ผู้คนทั้งหมดได้เห็นมารนิรยขาวจักรพรรดิขั้นกลางลักษณะเก้าขั้นสูงอีกตัวหนึ่งถูกปีศาจขาวกลืนกินอีกครั้ง
ตามที่มารนิรยขาวตัวที่สองของเจียงอี้เถิงถูกกลืนกิน ไฟปีศาจบนตัวปีศาจขาวกลับลุกโชนขึ้นอีกครั้ง ไฟปีศาจเก้าวิญญาณอันเย็นเยียบนี้ทำให้รู้สึกขนลุกอย่างมาก !
ความสามารถเพิ่มขึ้นอีกครั้ง !
ปีศาจขาวพึ่งเพิ่มขึ้นจากลักษณะเก้าขั้นสี่เป็นลักษณะเก้าขั้นหก หลังจากทำการกลืนกินมารนิรยขาวอีกตัวหนึ่ง กลับเพิ่มขึ้นจนอยู่ในลักษณะเก้าขั้นเจ็ด อยู่ในระดับชั้นลักษณะเก้าขั้นสูงอย่างแท้จริง !
ในตอนนี้ ต่อให้เป็นดวงวิญญาณที่มีหมวดรองก็ยังต่ำกว่าปีศาจขาวถึงสองขั้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงซิงหยางที่ไม่มีดวงวิญญาณภูตวิญญาณหมวดรอง ทันทีที่แตะโดนตัวปีศาจขาว จะถูกฆ่าในเสี้ยววินาทีแน่นอน !
“เพิ่มขึ้นจนถึงเก้าส่วนแล้ว !!!” หลังจากปีศาจขาวกลืนกินมารนิรยขาวสองตัว จะทำให้ชู่มู่ได้รับประโยชน์มหาศาล
และในตอนนี้ ร่ายวิญญาณของชู่มู่เพิ่มมากถึงเก้าส่วนแล้ว ห่างจากเจ้าวิญญาณเจ็ดร่ายแค่ก้าวเดียว แค่ผ่านก้าวเล็ก ๆ นี้ไปได้ ไม่ว่าจะเป็นเซี่ยกว่างหาน ฉิงเย้ และเด็กสาวทรยศ ชู่มู่ก็ไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้ว !!!
…
ในตอนที่ไฟปีศาจเก้าวิญญาณเย็นเยียบบุกเข้ามา เจียงอี้เถิงฟื้นขึ้นมาทันที
ถ้าไม่ทำการป้องกันไว้ เขาไม่เพียงแต่เสียมารนิรยขาวที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา แต่ดวงวิญญาณหลักตัวอื่นก็จะถูกฆ่าตายเช่นกัน!
“อสูร…อสูรหลังคาน้ำแข็ง ห้ามมันไว้ !!!” เจียงอี้เถิงออกคำสั่งต่ออสูรหลังคาน้ำแข็ง !
อสูรหลังคาน้ำแข็งเป็นหมวดน้ำแข็ง หลังจากฝนตัดกำลังหายไป อสูรหลังคาน้ำแข็งฟื้นกลับมาอยู่ในลักษณะเก้าขั้นยอดอีกครั้ง
หมัดเดียวของอสูรน้ำแข็งร่างใหญ่นี้ทำให้อสูรนกสวนสงครามของเย้ชิงจือปลิวออกไปทันที ก้าวเท้าออก พุ่งตรงไปยังปีศาจขาว ไอเย็นของน้ำแข็งพิฆาตขั้นสูงตีบนตัวปีศาจขาว
ปีศาจขาวฉีกยิ้มด้วยความชั่วร้าย ดวงตาคู่นั้นของมันกลับจับจ้องไปยังภูตวิญญาณลักษณะเก้าขั้นหกของซิงหยาง !
“ฮู”
ปล่อยเงาปีศาจลึกลับออกมา ปีศาจขาวสลัดการโจมตีของอสูรหลังคาน้ำแข็งอย่างง่ายดาย ปรากฏตัวตรงหน้าภูตวิญญาณของซิงหยางด้วยความเร็วสูง !
“ซัวะ !!!”
กรงเล็บไฟปีศาจร้อนระอุตวัดลง ราวกับเป็นการโจมตีง่ายที่สุดของปีศาจขาว !
กรงเล็บนี้ฉีกร่างกายของภูตวิญญาณออก ตามด้วยไฟปีศาจเก้าวิญญาณที่พุ่งเข้าร่างกายของภูตวิญญาณอย่างรวดเร็ว ขณะที่แผดเผาเรือนร่างของมัน ได้แผดเผาวิญญาณของมันไปด้วย !
ความสามารถของภูตวิญญาณตัวนี้ห่างจากปีศาจขาวถึงสี่ขั้นเต็ม กำหนดจะถูกฆ่าตายในเสี้ยววินาทีแน่นอน !
ในไม่ช้า ภูตวิญญาณลักษณะเก้าขั้นกลางของซิงหยางถูกเผาจนเป็นเถ้าถ่านทันที ไม่เหลือแม้แต่ซากศพ
“นอกจากอสูรหลังคาน้ำแข็งที่มีหมวดตรงกันข้ามแล้ว ดวงวิญญาณอื่นถ้าถูกจับจ้องจะต้องตายลงแน่นอน มารนิรยขาวของชู่เฉิงได้กลายเป็นผู้ตัดสินชะตาของการต่อสู้ทั้งหมดแล้ว !!!”
แม้แต่ภูตวิญญาณลักษณะเก้าขั้นหกยังถูกฆ่าตายในเสี้ยววินาที ความสามารถของปีศาจขาวตัวนี้ไม่น่าปรากฏในขั้นสองนี้
ส่วนเหล่าดวงวิญญาณหลักที่แข็งแกร่งของเจียงอี้เถิงกับซิงหยางซึ่งไม่มีใครสู้ได้ในวังมารนิรย ในตอนนี้กลับกลายเป็นเด็กที่ถูกปีศาจขาวขยี้ ไม่ว่าจะเป็นลักษณะเก้าขั้นสูงหรือลักษณะเก้าขั้นกลาง ต่างทนการโจมตีไม่ได้แล้ว !
บางทีคนทั้งหมดในสนามรวมถึงหลีเหิง ถิงหลัน ซ่างเหิงทั้งสามคนนี้ต่างไม่คิดว่าจะเกิดภาพแบบนี้ขึ้น อย่างไรก็ตาม ชู่มู่ในตอนนี้มีเป้าหมายโจมตีคือสองคนที่แข็งแกร่งที่สุดของวังมารนิรยในขั้นสองนี้ !
…
ในที่สุด มารนิรยฟ้าของซิงหยางยังคงไม่อาจรอดจากชะตาถูกกลืนกินได้อยู่ดี !
ระหว่างที่กลืนกินมารนิรยฟ้าของซิงหยาง มีพลังวิญญาณมหาศาลอีกอันเข้ามา ชู่มู่หลับตาลง เริ่มดูดซึมพลังวิญญาณเหล่านี้ ใช้มันขัดเกลาร่ายวิญญาณของตัวเอง ให้วิญญาณเพิ่มขึ้น !
“เนี๊ย”
ปีศาจขาวส่งข้อความจิตมา บอกกับชู่มู่ว่า ความสามารถในการกลืนกินของมันถึงขีดสุดแล้ว !
ปีศาจขาวไม่อาจกลืนกลุ่มเดียวกันอย่างไร้ขีดจำกัด หลังจากการกลืนแต่ละครั้ง แม้มันจะเปลี่ยนพลังวิญญาณของกลุ่มเดียวกันเป็นความสามารถในการเติบโตของตัวเองได้ แต่หลังจากเติบโตแล้ว ปีศาจขาวต้องใช้เวลายาวนานมากในการย่อยวิญญาณของกลุ่มเดียวกันที่ถูกกลืนกิน
ช่วงเวลานี้มักยาวนานมาก ปีศาจขาวกำลังบอกกับชู่มู่ว่า วิญญาณของมารนิรยฟ้าในตอนนี้เป็นพลังวิญญาณสุดท้ายที่มันให้ชู่มู่ได้
ความจริงแล้ว การกลืนกินในด่านที่แปดของปีศาจขาวนี้เกินจริงไปหน่อย กินอาหารมากเกินไปก็จะทำให้กระเพาะทะลุได้ ชู่มู่ก็รู้ดี พลังวิญญาณของมารนิรยฟ้านี้สำคัญอย่างมาก จะทะลุผ่านขั้นเจ้าวิญญาณหกร่ายนี้ได้หรือไม่ จะต้องอาศัยตัวมันเองแล้ว !
“เนี๊ย เนี๊ย”
ปีศาจขาวส่งเสียงร้องขึ้น เป็นการบอกให้ชู่มู่ทะลุผ่านขั้นได้ปลอดภัย มันจะจัดการศัตรูทั้งหมดให้ !
พลังวิญญาณสุดท้ายนี้ ชู่มู่จำต้องอาศัยผลของการพุ่งทะลุนี้ของพลังวิญญาณ ทำลายในครั้งเดียว ดังนั้น วินาทีที่พลังพุ่งเข้าไปนี้สำคัญอย่างมาก
ในตอนนี้ ชู่มู่ได้ถอยออกไปด้านนอกเขตการต่อสู้ ให้เย้ชิงจือปกป้องตัวเองเอาไว้ ส่วนตัวเขาจดจ่ออยู่ในภาวะสมาธิ
เย้ชิงจือก็รู้ว่า ชู่มู่จำต้องทะลุให้ถึงเจ้าวิญญาณเจ็ดร่าย จึงออกคำสั่งต่อดวงวิญญาณของเขาแทน ทำการโจมตีไปยังเจียงอี้เถิงและซิงหยาง
ปีศาจขาวได้ฆ่ามารนิรยขาวสองตัวตายไปแล้ว หลังจากมารนิรยฟ้าและภูตวิญญาณอีกหนึ่งตัว สถานการณ์ต่อสู้ทั้งหมดนี้ถูกควบคุมเอาไว้แล้ว เย้ชิงจือแทบไม่ต้องใช้แรงในการควบคุมมากเท่าไร
โดยเฉพาะความบ้าคลั่งของปีศาจขาว ทั้งสนามต่อสู้เหมือนเป็นเวทีการแสดงของปีศาจขาว ไฟปีศาจเก้าวิญญาณมักทำให้เกิดการแผดเผาหมู่ การปล่อยทักษะในแต่ละครั้ง วิญญาณและร่างกายของดวงวิญญาณจะต้องถูกแผดเผาแน่นอน
ตอนที่ยังต่อสู้อยู่ ชู่มู่ได้นั่งลงข้างกระดิ่งแก้วตา เข้าสู่ภาวะสมาธิเพื่อให้ร่ายวิญญาณทะลุข้ามขั้นได้
ชู่มู่เพิ่งเข้าสู่เจ้าวิญญาณหกร่ายก่อนหน้านี้ไม่นาน เดิมร่ายวิญญาณและวิญญาณควรอยู่ในภาวะแน่นอนระยะต้น แต่ชู่มู่ได้ดูดซึมพลังมหาศาลในเวลาอันสั้นแบบนี้ พลังส่วนนี้มาจากการกลืนกินของปีศาจขาว นี่เป็นแหล่งวิญญาณที่ร้อนระอุยิ่ง
พลังเหล่านี้ได้กระทบวิญญาณของชู่มู่อย่างต่อเนื่อง ราวกับคลื่นที่พุ่งเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ในเมื่อพลังเพิ่มขึ้น จะต้องมีช่วงคงที่แน่นอน ด้วยเหตุนี้ ถ้าชู่มู่ไม่ถึงเจ้าวิญญาณเจ็ดร่ายได้ ในตอนที่พลังสงบลง ร่ายวิญญาณของชู่มู่จะหยุดแค่เก้าส่วน จะทำให้ยากจะข้ามผ่านช่วงนี้มาก โดยเฉพาะก่อนหน้านี้ชู่มู่พึ่งเข้าสู่หกร่าย ลักษณะขั้นนี้จะคงที่นานมากขึ้น !
ดังนั้น มีโอกาสแค่ครั้งเดียว ถ้าไม่สำเร็จ ชู่มู่อาจต้องรอหนึ่งถึงสองเดือน หรือนานกว่านั้น !
“ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู”
ไฟปีศาจลุกโชนอย่างเงียบสงัดรอบกายชู่มู่ ทำให้ชู่มู่ชุดดำที่นั่งอยู่ดูลึกลับยิ่งกว่าเดิม
“นี่…นี่บ้าเกินไปแล้ว นั่งสมาธิท่ามกลางการต่อสู้ !!!”
“ชู่เฉิง…ชู่เฉิงกำลังทำอะไรอยู่”
เหล่าผู้ชมเบิกตาอีกครั้ง มีชีวิตนานขนาดนี้ พวกเขาเพิ่งเห็นมีคนนั่งลงระหว่างการต่อสู้ แล้วเข้าสู่ภาวะสมาธิเพื่อฟื้นพลังวิญญาณ โดยเฉพาะในการต่อสู้ที่ทรงพลังแบบนี้ !
…
“เขาทำอะไรอยู่? เซี่ยกว่างหานที่อยู่ที่สูงกว่าเห็นท่าทีนี้ของชู่มู่ ยิ่งขมวดคิ้วเข้าหากัน
เซี่ยกว่างหานในตอนนี้ไม่กล้าลงมือ ทำได้แค่ร้องขอฉิงเย้ แต่ฉิงเย้ไม่รีบร้อน แค่ลอยอยู่กลางอากาศ รอให้การต่อสู้ครั้งนี้จบลง
เป้าหมายของฉิงเย้ง่ายมาก แค่ดูว่าดวงวิญญาณที่ชู่มู่มีนั้นมีความสามารถพิเศษอะไร
และในตอนนี้ ปีศาจขาวอยู่ในรายชื่อดวงวิญญาณที่ฉิงเย้จะแย่งชิงแล้ว อย่างไรก็ตาม มารนิรยขาวที่เพิ่มความสามารถด้วยการกลืนกินกลุ่มเดียวกัน นี่มันสมบูรณ์แบบเกินไปแล้ว ฉิงเย้ชอบแย่งชิงดวงวิญญาณสมบูรณ์แบบของคนอื่นอย่างมาก !
ฉิงเย้ในตอนนี้แทบไม่สนใจว่า ชู่มู่กำลังทำอะไร เพราะสำหรับเขาในตอนนี้ ชู่มู่อ่อนแอเกินไป ฉิงเย้แค่อัญเชิญดวงวิญญาณหลักตัวใดก็เอาชนะดวงวิญญาณสามตัวของชู่มู่ได้
“ทำลายร่ายวิญญาณ เห็นได้ชัดมาก…ทว่า ต่อให้ทะลุถึงระดับราชันวิญญาณ ดวงวิญญาณที่เต็มไปด้วยความสามารถของเขายังอยู่ในภาวะคงที่ แทบไม่มีอันตรายสำหรับพวกเรา นอกจากว่า ในวันต่อจากนี้ไป เขาสามารถทำให้ดวงวิญญาณทั้งหมดเพิ่มขึ้นจนอยู่ในจักรพรรดิขั้นสูงได้ หรือจักรพรรดิชั้นยอด…” ฉิงเย้พูดอย่างไม่แยแส
“วันต่อจากนี้ หรือว่าเจ้าไม่คิดจะลงมือ !” สีหน้าของเซี่ยกว่างหานเปลี่ยนไป
“ต้องลงมือสิ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ มันมีช่วงเวลาที่ดีกว่านี้”
“เวลาที่ดีกว่านี้งั้นหรือ”
“อีกไม่ช้าเจ้าจะรู้…นอกจากนี้ ข้าต้องการมั่วเย้กับมารนิรยขาวของเขา !” ดวงตาของฉิงเย้ส่องประกายออกมา
“ก่อนหน้านี้ไม่ได้สัญญาว่า มั่วเย้เป็นของเจ้าเหรอ” เซี่ยกว่างหานเผยสีหน้าซับซ้อนออกมา
“ตอนนี้ข้าเปลี่ยนใจแล้ว เจ้ามีอะไรที่ไม่พอใจไหม” ฉิงเย้จับจ้องไปยังเซี่ยกว่าหาน พูดอย่างเยือกเย็น
“ข้าไม่มีหยดแห่งความจำ ต่อให้ได้ดวงวิญญาณของเขามาก็ทำสัญญาวิญญาณไม่ได้ มั่วเย้กับมารนิรยขาวเป็นของเจ้า ข้ากับเขามีความแค้นกัน เจ้าแค่ช่วยข้ากำจัดเขาก็พอ…นอกจากนี้ ข้าสนใจดวงวิญญาณกลุ่มจิ้งจอกมากกว่า เหลือจิ้งจอกอัคคีเก้าหางมงกุฎเพลิงให้ข้าก็พอ” เซี่ยกว่างหานพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ผู้นำสมบูรณ์แบบ ถ้าข้าอยู่ในระดับปรมาจารย์วิญญาณ ข้าจะรับไว้แน่นอน ทว่า ในตอนนี้ ของแบบนี้ไม่อยู่ในสายตาของข้า ข้าให้เจ้าหมด” ฉิงเย้พูดอย่างไม่แยแส
ใบหน้าใต้เกราะสีทองของเซี่ยกว่างหาน ในตอนนี้ใบหน้าซีดขาวนี้กำลังยิ้มอย่างเยือกเย็น คนอวดดีอย่างฉิงเย้ ไม่รู้ว่า ดวงวิญญาณตัวใดของชู่มู่ที่สมบูรณ์แบบที่สุด…