Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - ตอนที่ 549
- Home
- Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์
- Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - ตอนที่ 549
“กลุ่มที่ชู่เฉิงเป็นหัวหน้าได้เจอกับกลุ่มที่เซียวอานเป็นหัวหน้า !”
“ชู่เฉิงตำหนักวิญญาณ ได้เจอกับกลุ่มของเซียวอานอันดับที่ห้า !!!”
พวกชู่มู่ในตอนนี้กลายเป็นจุดสนใจของผู้คนทั้งหมดแล้ว และตอนนี้ได้เจอกับเซียวอานอันดับที่ห้า ยิ่งก่อให้เกิดความดุเดือดขึ้น
ผู้คนอยากรู้มากว่า ระหว่างผู้แข็งแกร่งสองคนนี้จะเกิดการปะทะกันหรือไม่ !
เกียรติสุดท้ายมีเพียงผู้เดียว จัดการผู้เข้าแข่งขันคนอื่นก่อนที่จะเข้าสู่แท่นบูชาอสูรเลือดเป็นขั้นตอนที่จำเป็นยิ่ง !
…
“ผู้เข้าแข่งขันทั้งสองแยกออกจากกัน ไม่ได้เกิดการต่อสู้กัน”
…
หลังจากข่าวนี้กระจายออก ผู้คนได้ส่งเสียงร้องขึ้น
การปะทะระหว่างผู้เข้าแข่งขันเป็นสิ่งที่ผู้คนจับตามองมากที่สุด โดยเฉพาะผู้เข้าแข่งขันที่มีหวังอย่างมากจะได้เกียรติสุดท้ายอย่างชู่มู่กับเซียวอาน การปะทะระหว่างพวกเขาจะต้องดุเดือดอย่างมากแน่นอน
แต่น่าเสียดาย กลุ่มทั้งสองได้เลี่ยงจากกัน ไม่ได้ทำการต่อสู้ทันที
“เซียวอานทำถูกแล้ว ต้องรู้ก่อนว่า ชู่มู่ได้ใช้มั่วเย้ตัวเดียวจัดการจักรพรรดิขั้นกลางสองตัว คาดว่าชู่เฉิงคนเดียวก็พอจะกวาดล้างทั้งกลุ่มของพวกเขาได้แล้ว ถ้าเกิดการปะทะกัน พวกเซียวอานตายแน่”
“เหมือนเซียวอานจะมีจักรพรรดิขั้นกลางลักษณะสิบตัวหนึ่งเหมือนกัน…”
เหล่าผู้ชมเริ่มวิจารณ์
“ว่าแต่ เหล่าผู้เข้าแข่งขันในเมืองอมตะน่าจะไม่รู้สถานการณ์ของกันและกันใช่ไหม” ซ่างเหิงพึมพำ
“แน่นอนอยู่แล้ว ดวงวิญญาณส่งสารจะบอกกับผู้คุมดวงวิญญาณส่งสารโดยตรง แล้วส่งมาโลกนอกของพวกเรา ระหว่างผู้เข้าแข่งขันย่อมไม่รู้สถานการณ์ของกันและกัน”จ้าวเฉิงบอก
“เอ่อ เหล่าผู้เข้าแข่งขันในนั้นน่าจะยังไม่รู้ นอกจากมารนิรยขาวของชู่มู่แล้ว ยังมีมั่วเย้ลักษณะสิบที่จัดการจักรพรรดิขั้นกลางลักษณะสิบจำนวนสองตัวได้ในห้านาทีอีกตัวหนึ่ง !!” ซ่างเหิงบอก
“คึคึ คาดว่าผู้เข้าแข่งขันคนใดคันไม้คันมือ จะหาเรื่องชู่มู่ละก็ พวกเขาจะต้องรับกรรมแล้ว ว่าแต่ มั่วเย้ของชู่มู่เหมือนจะเพิ่มพลังต่อสู้เรื่อย ๆ เท่ากับว่า ยิ่งต่อสู้นานเท่าไร ความสามารถยิ่งแข็งแกร่ง จะว่าไป จักรพรรดิขั้นกลางลักษณะสิบก็ใช่ว่าจะเป็นความสามารถของมัน”ถิงหลันพูดพร้อมรอยยิ้ม
หลังจากได้ยินคำพูดนี้ของถิงหลัน เหล่าสมาชิกตำหนักวิญญาณที่อยู่ในที่นั่งตรงนั้นต่างสูดหายใจเเข้า !
ถ้าบอกว่านี่เป็นเรื่องจริง ความสามารถของดวงวิญญาณหลักตัวหนึ่งอาจถึงจักรพรรดิขั้นสูงลักษณะสิบ เท่ากับว่าชู่มู่ควบคุมเดี่ยวรับมือกับสิ่งมีชีวิตผนึกในเกียรติสุดท้ายนี้ได้อย่างเหลือเฟือ !
…
ในเมืองอมตะ
กลุ่มของเซียวอานมีทั้งหมดสี่คน ความสามารถของเซียวอานอยู่อันดับที่ห้า คนที่เหลือเป็นอันดับที่เจ็ด สิบเอ็ด และสิบสาม นับว่าเป็นกลุ่มชั้นยอดในบรรดากลุ่มผู้เข้าแข่งขันแล้ว
หลังจากพวกเขาทั้งสี่คนเฉียดผ่านกับกลุ่มของชู่มู่แล้ว กลับไม่ได้เดินตามเส้นทางที่พวกเขาจะเดินก่อนหน้านี้ แต่กลับหยุดลงแล้วปรึกษากัน
“ชู่เฉิงตำหนักวิญญาณ จำต้องจัดการทิ้ง เขาเป็นอันตรายต่อพวกเราค่อนข้างมาก โดยเฉพาะมารนิรยขาวที่แข็งแกร่งยิ่งของเขา เขาใช้มารนิรยขาวตัวนั้นล้มเจียงอี้เถิง เมื่อกี้พวกเจ้าก็เห็นแล้ว ดวงวิญญาณอื่นของพวกเขาไม่เท่าไร”เซียวอานพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
ตอนที่ผ่านกับกลุ่มของชู่มู่ เซียวอานได้มองไปยังดวงวิญญาณของพวกเขา
รวมถึงชู่มู่ ความสามารถเฉลี่ยของดวงวิญญาณพวกเขาอยู่ในระดับจักรพรรดิขั้นกลาง ลักษณะเก้าขั้นกลาง ความสามารถแบบนี้เทียบเท่ากับความสามารถเฉลี่ยของผู้เข้าแข่งขันในด่านที่เก้านี้
ดังนั้น วินาทีที่รู้ความสามารถของกลุ่มชู่มู่ เซียวอานมีท่าทีจะลงมือแล้ว
ทว่า เซียวอานเลือกที่จะหลีกเลี่ยงการปะทะซึ่งหน้าอย่างชาญฉลาด แม้ดวงวิญญาณของฝ่ายตรงข้ามเฉลี่ยอยู่ที่จักรพรรดิขั้นกลาง ลักษณะเก้าขั้นกลาง แต่ถ้าสู้กันจริง พวกเขาอาจเสียหายอย่างมาก พวกเขามีผู้คุมดวงวิญญาณเสริม สามารถฟื้นพลังชีวิตระหว่างต่อสู้อย่างรวดเร็วได้
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราจะดักโจมตีเหรอ” เลี่ยวเจี๋ยอันดับที่เจ็ดของโลกซานพูดขึ้น
“ต้องดักโจมตีอยู่แล้ว ถ้าจะให้ดี อย่าให้ชู่เฉิงมีโอกาสอัญเชิญมารนิรยขาวตัวนั้นออกมา ดังนั้น จำต้องให้คนหนึ่งคอยควบคุมการอัญเชิญของชู่เฉิง ! มิฉะนั้น ถ้ามารนิรยขาวปรากฏตัวละก็ พวกเราจะมีปัญหาอย่างมาก” เซียวอานบอก
“เรื่องนี้ให้เป็นหน้าที่ภูตวิญญาณของข้าเถอะ มันอยู่ในลักษณะเก้าขั้นแปดแล้ว ควบคุมเขาได้ง่ายมาก เพียงแค่พวกเจ้าจัดการดวงวิญญาณของคนอื่นได้อย่างรวดเร็ว แล้วก็ผู้คุมดวงวิญญาณเสริมคนนั้น จำต้องจัดการดวงวิญญาณเสริมของเขาในวินาทีแรก” เลี่ยวเจี๋ยวบอก
“ได้ ตามนี้”
…
ชู่มู่ เย้หวันเชิง เย้ชิงจือ องค์หญิงจิ่งโหลวต่างควบคุมคู่ ดังนั้น รูปแบบดวงวิญญาณจึงดูไม่แข็งแกร่งเท่าไร โดยเฉพาะในตอนที่จั้นเย้ถูกอสูรนิมิตชุดม่วงอำพรางมาแล้ว
“ชู่มู่ ความสามารถของจั้นเย้เจ้ากำลังลดลง” เย้หวันเชิงมองไปยังมั่วเย้ของชู่มู่
หลังจากที่จั้นเย้หยุดการต่อสู้ประมาณครึ่งชั่วโมง ความสามารถจะลดลงอย่างช้า ๆ หลังจากสองชั่วโมง จะกลับมาอยู่ในลักษณะขั้นเดิม
“มีคนคิดจะใช้ดวงวิญญาณของพวกเขาเพื่อเติมเต็มความสามารถของจั้นเย้ข้าพอดี” ชู่มู่มองไปยังด้านหลัง ฉีกยิ้มมุมปากออกมา
ชู่มู่เป็นเจ้าวิญญาณเจ็ดร่ายคนหนึ่ง ต่อให้อยู่ในขั้นหนึ่ง เกรงว่าคงมีไม่กี่คนที่จะมีร่ายวิญญาณสูงกว่าชู่มู่ ส่วนพวกคนที่คิดจะโจมตีพวกเขาจากด้านหลัง การกระทำของพวกเขาน่าสมเพชอย่างมก
“จั้นเย้ เตรียมฆ่าล้างได้แล้ว !” ชู่มู่พูดกับจั้นเย้
ความสามารถของจั้นเย้ลดลงเหลือลักษณะเก้าขั้นเก้าแล้ว เชื่อว่าหลังจากสู้กับคนกลุ่มนั้นแล้ว ความสามารถของจั้นเย้จะเพิ่มขึ้นอีกขั้นแน่นอน
เย้ชิงจือเองก็สังเกตเห็นท่าทีของคนเหล่านั้นแล้ว จึงร่ายคาถาขึ้นทันที เสริมหมวดให้ชีวิตของจั้นเย้ ให้พลังขีวิตของจั้นเย้เพิ่มขึ้นอีกครั้ง
และแล้ว ภูตวิญญาณที่ซ่อนตัวอย่างระมัดระวังหลายตัวปรากฎด้านหลังสี่คนนี้ เข้าใกล้พวกชู่มู่อย่างช้า ๆ ดวงตาที่ซ่อนอยู่ท่ามกลางกำแพงพืชสีดำนี้จับจ้องไปยังดวงวิญญาณของเหล่าผู้คน
ชู่มู่ไม่รีบร้อน รอให้ดวงวิญญาณทั้งหมดของผู้ดักโจมตีปรากฏตัวหมดก่อน ถึงออกคำสั่งต่อจั้นเย้
ภูตวิญญาณตัวหนึ่งเล็งไปยังจั้นเย้ที่ถูกอสูรนิมิตซ่อนความสามารถเอาไว้ มันคลานไปด้านหลังจั้นเย้อย่างเชื่องช้า กรงเล็บแหลมคมยื่นออกช้า ๆ คิดจะฉีกจุดสำคัญของจั้นเย้
“มั่วเย้ลักษณะเก้าขั้นสองตัวหนึ่ง หึหึ ถูกภูตวิญญาณของข้าดักโจมตี จะต้องตายด้วยการโจมตีเดียวแน่นอน…”เลี่ยวเจี๋ยที่ซ่อนอยู่ในความมืดหัวเราะออกมา !
“ซัวะ !!!”
แทบจะเป็นวินาทีเดียวกับที่เลี่ยงเจี๋ยออกคำสั่งต่อภูตวิญญาณของเขา กรงเล็บเย็นเยียบตวัดผ่าน !!
เลือดสดกระเซ็นทันที สีแดงฉานกระจายบนกำแพงพืชสีดำ
หัวอันหนึ่งตกลงบนพื้น นั่นไม่ใช่หัวของมั่วเย้ชู่มู่ แต่เป็นหัวของภูตวิญญาณเลี่ยวเจี๋ย !
“เป็นไปได้อย่างไร !!” เซียวอานที่อยู่ด้านข้างเบิกตากว้าง มองไปยังบริเวณที่เลือดสดพุ่งออกด้วยความหวาดกลัว !!
ดวงตาสีดำเยือกเย็นคู่หนึ่งจับจ้องมายังที่นี่ นั่นเป็นมั่วเย้ลักษณะเก้าขั้นสองตัวนั้น และแล้ว กลิ่นไอความมืดที่กระจายออกจากตัวของมันกลับเข้าใกล้ลักษณะสิบอย่างมาก !
“นี่เป็นมั่วเย้ลักษณะสิบตัวหนึ่ง !!!” สีหน้าของเซียวอานเปลี่ยนไปทันที ในตอนนี้เข้าก็ไม่กล้าเก็บความสามารถไว้ ได้อัญเชิญดวงวิญญาณแข็งแกร่งที่สุดของเขาออกมาทันที !
คนอื่นต่างเผยสีหน้าตกใจออกมา เมื่อกี้ตอนที่พวกเขาสังเกต เห็นว่ามั่วเย้ตัวนั้นอยู่แค่ลักษณะเก้าขั้นสอง ทำไมถึงกลายเป็นลักษณะสิบในเสี้ยววินาที !
การต่อสู้ระเบิดขึ้นทันที ดวงวิญญาณของพวกชู่มู่ได้ทำการโจมตีโต้ตอบทันที ปล่อยทักษะสีสันต่าง ๆ ออก โจมตีไปยังดวงวิญญาณของพวกเซียวอานอย่างบ้าคลั่ง
ผู้คนเหล่านี้เตรียมตัวดักโจมตี จะไปรู้ได้อย่างไรว่าฝ่ายตรงข้ามรับมือไว้ตั้งนานแล้ว หลังจากการโจมตีของทักษะเหล่านี้ พวกเขาตื่นตูมทันที
“โฮร่ โฮร่ โฮร่ !!!”
จั้นเย้กล้าหาญยิ่งขึ้น ไม่ต้องให้ดวงวิญญาณอื่นช่วยเหลือหรือคุ้มกัน ร่างของมันกลายเป็นแสงสีเข้ม พุ่งเข้าไปในวงดวงวิญญาณของพวกเซียวอานทันที !
เซียวอานได้อัญเชิญจักรพรรดิขั้นกลางลักษณะสิบออกมารับมือกับจั้นเย้ แต่ว่าต่อให้ความสามารถลักษณะขั้นเดียวกัน จั้นเย้ก็อาศัยพลังชีวิตพลังฟื้นฟูเจ็ดเท่าของตัวเอง และความได้เปรียบของเกราะวิญญาณขั้นเก้า จักรพรรดิขั้นกลางลักษณะสิบของเซียวอานแทบไม่สามารถทำให้จั้นเย้ได้รับบาดเจ็บใด ๆ
อีกทั้ง ต่อให้ดวงวิญญาณของคนทั้งหมดได้ล้อมโจมตีจั้นเย้ จั้นเย้ก็แค่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่กลับเป็นดวงวิญญาณของพวกเซียวอานที่ถูกจั้นเย้ทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส !
“ทำไมทำลายการป้องกันไม่ได้แม้แต่น้อย !!! เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้แน่นอน มั่วเย้ตัวนี้แข็งแกร่งถึงระดับนี้ได้อย่างไร !!!” เพิ่งรับมือกันไม่กี่รอบ ดวงวิญญาณของพวกเซียวอานเริ่มแพ้แล้ว และทั้งสนามต่อสู้ราวกับเป็นการแสดงของมั่วเย้ ดวงวิญญาณลักษณะเก้าขั้นกลางเหล่านั้นถูกฆ่าตายในเสี้ยววินาทีอย่างต่อเนื่อง !!!
“พระเจ้า ความสามารถของมันกำลังเพิ่มขึ้น !!!” เลี่ยวเจี๋ยร้องขึ้นด้วยสีหน้าซีดขาว
ความสามารถของจั้นเย้เข้าสู่ลักษณะสิบ ทำให้ผู้เข้าแข่งขันรู้สึกราวกับเป็นฝันร้าย มั่วเย้ตัวนี้กลับใช้ทักษะภาวะคลั่งเลือด เพิ่มความสามารถอีกขั้นหนึ่ง !!!
จักรพรรดิขั้นกลางลักษณะสิบก็น่ากลัวมากพอแล้ว ใช้ภาวะคลั่งเลือดอีก เป็นการฆ่าล้างฝ่ายเดียว โดยเฉพาะดวงวิญญาณตัวนี้แทบจะมองข้ามทักษะทั้งหมดของดวงวิญญาณพวกเขา !
ไม่เพียงแต่ผู้เข้าแข่งขันสามคนนั้น แม้แต่เซียวอานอันดับที่ห้าในตอนนี้ก็ไม่เชื่อสายตาตัวเอง !
ดวงวิญญาณอื่นของพวกชู่มู่ไม่ต่างจากดวงวิญญาณของพวกเขาเท่าไร ถ้าสู้กันด้วยจำนวนของดวงวิญญาณ ท้ายที่สุดชัยชนะก็ยังเป็นของพวกเขา
และแล้ว ความกล้าของมั่วเย้ตัวนี้น่ากลัวเหลือเกิน ทำให้สถานการณ์ต่อสู้เอนเอียงไปทางเดียว !!!
…
…
“กลุ่มของเซียวอานดักโจมตีกลุ่มชู่เฉิง ทั้งคู่เข้าสู้การต่อสู้ชุลมุน”
ข่าวนี้กระจายในลานกว้างเทียนเซี่ยในไม่ช้า ผู้คนที่ผิดหวังก่อนหน้านี้ เริ่มตาสว่างขึ้นมาทันที เสียงร้องดังไปทั่ว
การปะทะระหว่างผู้แข็งแกร่ง และความดุเดือดของการต่อสู้ถึงเป็นที่น่าสนใจของเหล่าผู้ชม !
“การต่อสู้ครั้งนี้น่าจะเป็นที่จับตามองอย่างมาก อย่างไรเสีย ความสามารถของเซียวอานก็แข็งแกร่งมาก !”
“ใช่ว่าจะเป็นแบบนั้น ชู่เฉิงอัญเชิญมารนิรยขาวออกมา ใครก็สู้กับเขาไม่ได้”
“เซียวอานก็มีดวงวิญญาณหลักที่แข็งแกร่งมากอยู่ ยากที่จะตัดสินได้”
คนทั้งหมดเริ่มคาดเดาผลการต่อสู้ คนเหล่านี้อยากให้ตัวเขาเป็นดวงวิญญาณส่งสาร จะได้มองดูการต่อสู้ระหว่างแข็งแกร่งอันดับสองและ อันดับห้านี้กับตา
…
หลังจากผ่านไปสิบนาที
ในตอนที่คนทั้งหมดกำลังคาดเดาการต่อสู้นี้อย่างดุเดือด ได้มีข่าวส่งมาแล้ว
ตอนแรก ผู้คนต่างคิดว่า เป็นข่าวสำคัญเกี่ยวกับขั้นตอนการต่อสู้ ตั้งใจส่งมาให้คนทั้งหมดรับรู้
และแล้ว หลังจากที่ข่าวนี้กระจายออก ลานกว้างเทียนเซี่ยนี้กลับเงียบลงหลายวินาที !!!
“กลุ่มเซียวอาน ดับหมด !!!”