Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - ตอนที่ 559
- Home
- Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์
- Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - ตอนที่ 559
ด้านในมิติผนึก
เซี่ยกว่างหานยืนอยู่ตรงนั้น ทั้งคนถูกห่อหุ้มด้วยไอเย็นเยียบ มองออกได้ว่า ผิวซีดขาวบนหน้าเขากำลังกระตุกอยู่ ดวงตาคู่นั้นเผยความโกรธมากมายออกมา!
“เจ้าบ้าไปแล้ว เปิดผนึก ผู้เฝ้าหินนับพันจะถาถมเข้ามา หรือว่าเจ้าจัดการได้ !” ฉิงเย้เห็นเซี่ยกว่างหานทำท่าทีประหลาด ตะโกนด่าด้วยความโกรธทันที !
เซี่ยกว่างหานกำลังพยายามจะเปิดผนึกจริง ๆ เขาไม่สนใจความเป็นอยู่ของชู่มู่ แต่จิ้งจอกอัคคีเก้าหางมงกุฎเพลิงตัวนั้นคือ สิ่งที่เขาอยากได้มากที่สุด !
“ก็แค่จิ้งจอกอัคคีเก้าหางระดับผู้นำสมบูรณ์แบบตัวหนึ่ง ใช้เงินก็ซื้อมาได้ ต่อให้จะพิเศษมากเพียงใด จะมีค่ามากกว่ามารนิรยขาวกับมั่วเย้ตัวนี้เหรอ” ฉิงเย้พูดขึ้น
“เจ้าไม่เข้าใจ !” อารมณ์ของเซี่ยกว่างหานแย่มาก พูดอะไรก็ไม่เกรงใจทั้งนั้น
ฉิงเย้ไม่รู้แม้แต่น้อย ว่านั่นเป็นดวงวิญญาณแปรเปลี่ยนตระกูลต่อเนื่อง และเดิมทีดวงวิญญาณตัวนี้ควรตกอยู่ในมือเซี่ยกว่างหาน แต่เขาคิดอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่า วางกับดักไว้ กลับจับมันไม่ได้ !!!
ผลสรุปนี้ทำให้เซี่ยกว่างหายปวดหัวอย่างมาก ทำให้เขาแทบจะเป็นบ้า !!!
เขากวาดตามองไปยังทั้งสามคนอย่างเยือกเย็น นัยน์ตาดุร้ายขึ้น !
“พวกเจ้าไปตายให้หมด !!!”
ไฟปีศาจเก้าวิญญาณลุกโชนขึ้นบนตัวเซี่ยกว่างหาน ไอเย็นเยียบปกคลุมมิติผนึกคับแคบนี้ทันที พลังนี้เกินกว่าพลังของปีศาจขาวกับเจ้าหญิงปีศาจขาวทันที !
นี่เป็นมารนิรยขาวที่มีไฟปีศาจเก้าวิญญาณขั้นกลางตัวหนึ่ง !!!
สีหน้าของเซี่ยกว่างหานดุร้ายอย่างมาก ความโกรธของเขาในตอนนี้ลุกโชนขึ้นเช่นเดียวกับไฟปีศาจเก้าวิญญาณ !!!
ในที่สุด มารนิรยขาวปรากฏตัวแล้ว เห็นได้ชัดว่า นี่เป็นมารนิรยขาวลักษณะสิบระดับจักรพรรดิชั้นยอดตัวหนึ่ง !
“จักรพรรดิชั้นยอด !!!”
เย้ชิงจือ เย้หวันเชิง องค์หญิงจิ่งโหลวต่างเผยสีหน้าตกใจออกมา พวกเขาจัดการดวงวิญญาณระดับจักรพรรดิขั้นสูงก็ยากมากแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงมารนิรยขาวระดับจักรพรรดิชั้นยอด !!!
“เนี๊ย !!!”
ปีศาจขาวที่ยืนอยู่ข้างเย้ชิงจือส่งเสียงร้องดุร้ายออกมาทันที !
อารมณ์ของเซี่ยกว่างหานแย่มาก อารมณ์ของปีศาจขาวแย่ยิ่งกว่าอีก โดยเฉพาะมนุษย์ตรงหน้าคนนี้เป็นตัวการที่ทำให้ชู่มู่ต้องตายลง ความแค้นในใจมันเริ่มทวีคูณมากขึ้น !
ไอร้อนบนตัวปีศาจขาวเพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ ต่อให้อยู่แค่จักรพรรดิขั้นสูง เผชิญหน้ากับมารนิรยขาวระดับจักรพรรดิชั้นยอดของเซี่ยกว่างหาน ปีศาขาวกลับเต็มไปด้วยกลิ่นไอดุร้าย เนตรลับจับจ้องไปยังดวงวิญญาณกลุ่มเดียวกันตัวนี้ ไม่มีท่าทีอ่อนน้อมใด ๆ !!!
“เจ้าตัวเล็ก เจ้ารอดมาได้ ยังต้องขอบคุณข้าเซี่ยกว่างหาน ตอนนี้คิดจะปฏิวัติต่อหน้าข้าเหรอ” เซี่ยกว่างหานจับจ้องไปยังปีศาจขาว พูดอย่างรังเกียจและหงุดหงิด
หลังจากพูดจบ เซี่ยกว่างหานได้ออกคำสั่งโจมตีไปยังมารนิรยขาวของตัวเอง !
พลังของไฟปีศาจเก้าวิญญาณขั้นกลางแข็งแกร่งยิ่งกว่าไฟปีศาจเก้าวิญญาณของปีศาจขาว ตอนที่ไฟปีศาจสองชนิดปะทะกันในมิติผนึกแห่งนี้ สัมผัสได้ว่าไฟปีศาจของปีศาจขาวลดลงอย่างชัดเจน
และในไม่ช้า ไฟปีศาจเก้าวิญญาณขั้นกลางได้พุ่งผ่านบนตัวปีศาจขาว แผดเผาแขนของปีศาจขาว ทิ้งรอยลึกสีเข้มเอาไว้
ปีศาจขาวไม่แยแสใด ๆ นำความแค้นที่อยู่ในร่างกายของตัวเองเปลี่ยนเป็นพลังเพื่อเพิ่มความสามารถของตัวเองอย่างต่อเนื่อง !
…
ฉิงเย้เห็นเซี่ยกว่างหานลงมือแล้ว ดวงตาคู่นั้นจับจ้องไปยังมั่วเย้สีดำทั้งตัวทันที แล้วฉีกยิ้มออกมา
จากมุมมองของจั้นเย้ ที่ฉิงเย้ให้ดวงวิญญาณตัวนั้นแสดงท่าทีท้าสู้นั้น เท่ากับว่ากำลังท้าทายตัวมันเอง ท้าทายมั่วเย้กลุ่มราชวงศ์ตัวนั้น !
“ยังคิดจะประลองสักตั้งไหม มีเวลามากมายอยู่แล้ว จะทำให้สมปรารถนาของเจ้า แต่หวังว่า เจ้าจะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง ถ้าทำให้ข้าผิดหวัง ชีวิตของเจ้าคงหมดสิ้นไป” ฉิงเย้ร่ายคาถาขึ้นเช่นเดียวกัน !
กลิ่นไอความมืดเริ่มคืบคานกระจายออก พลังนี้ยังเข้มข้นกว่ากลิ่นไอความมืดของดวงวิญญาณตระกูลธาตุบางตัวอีก ถ้าไม่ได้เป็นเพราะบนสัญญาอัญเชิญมีสัญญาวิญญาณหมวดอสูรอยู่ คนที่เห็นพลังหมวดมืดนี้จะคิดว่า สิ่งที่ฉิงเย้อัญเชิญเป็นดวงวิญญาณธาตุหมวดมืดตัวหนึ่ง !
ท่ามกลางลายเส้นดวงวิญญาณ มั่วเย้ที่มีรูปร่างแข็งแรงปรากฏขึ้นช้า ๆ เกราะของมั่วเย้กลุ่มราชวงศ์ตัวนี้เงางามและดำยิ่งกว่า ยืนรอยู่ตรงหน้าจั้นเย้ ทำให้เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนจากลักษณะภายนอก !
มั่วเย้กลุ่มราชวงศ์ที่แข็งแกร่ง เกราะสีดำเงางามถึงที่สุด เห็นได้ชัดว่า ดวงวิญญาณแบบนี้มีสายเลือดชั้นเยี่ยมตั้งแต่เกิด พลังต่อสู้แข็งแกร่งกว่ามั่วเย้ธรรมดาอย่างมาก !
หมวดคู่หลัก หมวดมืดกับหมวดอสูร อีกทั้งยังมีพรสวรรค์หมวดมืด !
สำหรับดวงวิญญาณตัวหนึ่งแล้ว สามารถเผยให้เห็นพรสวรรค์ของหมวดบางอย่างออกมาได้ นับว่าเป็นชั้นยอดของชั้นยอดแล้ว ดวงวิญญาณแบบนี้มักจะได้เปรียบระหว่างการต่อสู้อย่างมาก
และถ้าเป็นหมวดหลักคู่ละก็ เท่ากับว่าระหว่างที่ปรับการฝึกของมั่วเย้กลุ่มราชวงศ์ตัวนี้ต้องใช้เงินทุนสามเท่าของวิธีเพิ่มความแข็งแกร่งธรรมดา เพื่อเพิ่มหมวดคู่ทั้งสองชนิดในเวลาเดียวกัน ความสามารถของดวงวิญญาณหมวดคู่มักสูงกว่าระดับพลังต่อสู้ที่มันเป็นอยู่สองถึงสามขั้น !
เห็นได้ชัดมากว่า จากกลิ่นไอของมั่วเย้ตัวนี้เป็นแค่จักรพรรดิขั้นกลางตัวหนึ่ง ผลของหมวดคู่กลับทำให้พลังต่อสู้ของมันเทียบเท่ากับจักรพรรดิขั้นสูงได้ บวกกับมันยังมีพลังหมวดมืดพิเศษบางอย่าง ต่อให้เป็นจักรพรรดิขั้นกลางก็ใช่ว่าจะเป็นคู่ต่อสู้ของมัน !
แค่ด้านระดับพลังต่อสู้ ความสามารถของมั่วเย้กลุ่มราชวงศ์ตัวนี้ก็สูงกว่าจั้นเย้สามขั้นแล้ว !
โชคดีที่ว่า มั่วเย้กลุ่มราชวงศ์ตัวนี้ยังไม่ถึงลักษณะสิบ แต่อยู่ในลักษณะเก้าขั้นสูง สูงกว่าจั้นเย้ขั้นหนึ่ง
เห็นได้ชัดว่า มั่วเย้กลุ่มราชวงศ์ตัวนี้ของฉิงเย้สวมเกราะวิญญาณขั้นเก้าราคาแพงอยู่ เช่นนี้ เมื่อมองภาพรวมแล้ว หากประเมินความสามารถของมั่วเย้กลุ่มราชวงศ์ตัวนี้ในภาพรวมแล้ว จะสูงกว่าจั้นเย้ถึงสี่ขั้น !
“ไม่ตายในสิบนาที เจ้าจะมีชีวิตรอดได้” ฉิงเย้พูดอย่างราบเรียบ
หลังจากพูดจบ เขากวาดตามองไปยังดวงวิญญาณของคนอื่นที่พร้อมจะต่อสู้ ฉีกยิ้มอย่างไม่แยแสแล้วพูดขึ้นว่า “ดวงวิญญาณของพวกเจ้า เป็นเหมือนขยะชัด ๆ ไม่จำต้องรีบหาที่ตายขนาดนั้น ข้าจะอัญเชิญดวงวิญญาณหลักของเจ้า ค่อย ๆ เล่นกับพวกเจ้าเอง !”
…
…
ลานกว้างแท่นบูชา
เวลาสิบวินาทีสั้นมาก ชู่มู่สัมผัสได้ว่า มีพลังหมวดหินที่ทำให้บางอย่างสั่นคลอนแล้วพุ่งตรงมา
ความกดอากาศที่ขุ่นมัวจมลงเรื่อย ๆ สิ่งที่อยู่ตรงหน้าชู่มู่คือผู้เฝ้าหินแต่ละแถวที่ยกดาบหินขึ้น
ผู้นำคือผู้เฝ้าหินจักรพรรดิขั้นสูงที่ขวางทางชู่มู่กลับไปยังตำแหน่งผนึกตัวนั้น !
ผู้เฝ้าหินตัวนี้สูงกว่าผู้เฝ้าหินตัวอื่น ดาบหินในมือนั้นใหญ่โตมาก ตอนที่ลากบนพื้นจะส่งเสียงเสียดสีอันหนวกหู ทิ้งรอยลึกไว้บนพื้น !
“อ๊าว !!!”
ทันใดนั้น ผู้เฝ้าหินระดับจักรพรรดิขั้นสูงตัวนี้ยกดาบหินในมือขึ้น ส่งเสียงคำรามทุ้มต่ำขึ้น
วินาทีที่ยกดาบหินนี้ขึ้น ผู้เฝ้าหินทั้งหมดได้หยุดเดินกะทันหัน ดวงตาสีเขียวที่เป็นระเบียบนั้นจับจ้องไปยังชู่มู่กับมั่วเย้
วินาทีนี้ ผู้เฝ้าหินรอบ ๆ มากมายยืนอยู่ตรงนั้นราวกับอัศวิน ล้อมชู่มู่กับมั่วเย้ไว้ในพื้นที่หนึ่งร้อยเมตร !
“กลัวว่าพลังจะโดนคนของตัวเองเหรอ” ชู่มู่เข้าใจแผนการของผู้เฝ้าหินจักรพรรดิขั้นสูงตัวนั้นทันที
ทั้งลายกวางเต็มไปด้วยผู้เฝ้าหิน ถ้ารวมพลังทั้งหมดกวาดล้าง จะทำให้เพื่อนพ้องบาดเจ็บไปด้วย เห็นได้ชัดว่า ผู้เฝ้าหินจักรพรรดิขั้นสูงรู้ว่า ชู่มู่กับมั่วเย้หนีไปไม่ได้แล้ว เพื่อไม่ให้เพื่อนพ้องตัวเองได้รับบาดเจ็บ ผู้เฝ้าหินตัวนี้จะลงมือเอง!
“บึ้ง!!!บึ้ง!!!!!!”
ผู้เฝ้าหินจักรพรรดิขั้นสูงก้าวเท้าหนักอึ้งออก ดวงตาสีเขียวจับจ้องไปยังมั่วเย้ !
ผลของเชิญปีศาจจันทรายังอยู่ แต่ว่าต่อให้เป็นแบบนี้ความสามารถของมั่วเย้กับผู้เฝ้าหินตัวนี้ยังคงห่างกันสามขั้น !
“อ๊าว !!!”
ผู้เฝ้าหินระดับจักรพรรดิขั้นสูงส่งเสียงคำรามขึ้น ดาบหินชี้ลงพื้นทันที !
พื้นดินแยกออกกะทันหัน ลูกธนูหินสีดำปรากฏจากด้านล่างทันที พุ่งขึ้นอย่างลึกลับ บินไปยังข้างกายชู่มู่กับมั่วเย้ !
“อู อู อู อู !!!”
หางเก้าเส้นของมั่วเย้สะบัดอย่างบ้าคลั่ง ลูกศรสีดำพุ่งออกราวกับสายฝน อีกทั้งมีพลังโจมตีรุนแรง ทำลายการป้องกันของมั่วเย้อย่างง่ายดาย แทงเข้าไปในร่างกายและหางจิ้งจอกเก้าเส้นของมั่วเย้
ด้วยความสามารถในการหลบซ่อนของมั่วเย้ หลบการโจมตีแบบนี้ได้ มันกางหางออกก็เพื่อปกป้องชู่มู่เท่านั้น
เห็นลูกศรหินสีดำนี้แทงเข้าไปในร่างกายของมั่วเย้ ชู่มู่สูดหายใจเข้า ดวงตาสีดำคู่นั้นจับจ้องไปยังมั่วเย้ที่เต็มไปด้วยบาดแผลทันที
“ต่อให้ต้องตาย พวกเราก็ต้องให้ผู้เฝ้าหินเหล่านี้ตายไปพร้อมกับพวกเรา !!!” ทันใดนั้น ไฟปีศาจเก้าวิญญาณลุกโชนขึ้นบนตัวชู่มู่ !
นี่เป็นพลังวิญญาณสุดท้ายของชู่มู่ ต่อให้พลังวิญญาณนี้กลายเป็นการโจมตีที่ไร้ความหมาย ชู่มู่จะไม่ให้มันอยู่ในร่างของตัวเองโดยที่ไม่เกิดประโยชน์ใด ๆ เลย !
ส่วนมั่วเย้ได้เข้าสู่ระยะแปรเปลี่ยนตระกูลแล้ว สายเลือดพิเศษบางอย่างที่ฝ่าฝืนกฎของสิ่งมีชีวิตจะไม่ปล่อยให้มันตายไปอย่างไร้ศักดิ์ศรีแบบนี้ !!!
“มั่วเย้ แปรเปลี่ยนตระกูล !!! ให้ศัตรูที่คิดจะฆ่าพวกเราต้องแลกด้วยชีวิตของพวกมัน !!!”
มีเพียงการเผชิญหน้ากับศัตรูที่ไม่อาจชนะได้ สายเลือดแปรเปลี่ยนในตัวของมั่วเย้ถึงดุเดือดขึ้นมาได้
เดิมชู่มู่คิดจะให้มั่วเย้จัดการอสูรเลือดในแท่นบูชาเลือดอสูรนี้ลำพัง แบบนั้นจะทำให้มั่วเย้เกิดการแปรเปลี่ยนระหว่างต่อสู้ได้ ก้าวสู่ระดับเทียบเท่าราชันอย่างแท้จริง
แต่ศัตรูที่กำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้แข็งแกร่งกว่าหลายร้อยเท่า และเขารู้ว่า ต่อให้มั่วเย้แปรเปลี่ยนก็ยากที่จะเอาชนะพวกมันได้ แต่ชู่มู่กลับไม่สิ้นหวังด้วยเหตุนี้ สามารถเข้าสู่ระดับเทียบเท่าราชันได้ สามารถทำให้จักรพรรดินับไม่ถ้วนตายไปพร้อมกับตัวเองและมั่วเย้ แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว !
ไฟปีศาจเก้าวิญญาณบนตัวชู่มู่กลายเป็นวงแหวนไฟปีศาจอย่างหนึ่ง โดยมีชู่มู่เป็นใจกลาง กระจายไปรอบข้างอย่างบ้าคลั่ง !
ผู้เฝ้าหินนับร้อยตัวรอบ ๆ กระจายไปบนตัวผู้เฝ้าหินแต่ละตัว ไฟปีศาจเก้าวิญญาณของชู่มู่นี้แทบไม่สามารถทำอะไรพวกมันได้แม้แต่น้อย แต่วงแหวนไฟปีศาจนี้กลับทำให้ผู้เฝ้าหินเหล่านี้มองไม่เห็นในชั่วคราวได้ !
“อู อู อู อู !!! อู อู อู อู !!!”
มั่วเย้ที่เต็มไปด้วยบาดแผลและเลือด ได้เงยหน้าขึ้นในวินาทีที่ไฟปีศาจซีดขาวนี้กระจายออก ส่งเสียงร้องจิ้งจอกจากส่วนลึกของวิญญาณ !!!
“อู อู อู อู อู อู อู !!!”
เสียงจากวิญญาณนี้ก้องกังวานบนฟ้าเหนือเมืองอมตะนี้เนิ่นนาน ราวกับมีพลังชั่วรายบางอย่าง ตอนที่เสียงนี้ส่งขึ้นฟ้าในยามค่ำคืน กลับทำให้เกิดการบิดเบี้ยวอย่างลึกลับ !!!
…
วิญญาณของชู่มู่กำลังทยานขึ้น นี่เป็นลางก่อนการแปรเปลี่ยนตระกูลของมั่วเย้ !!!
…