Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - ตอนที่ 604
- Home
- Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์
- Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - ตอนที่ 604
วันที่สอง บนยอดเขาประตูโลกมรณะ ศพที่ถูกเผาจนไม่เหลือชิ้นดีถูกผู้เฝ้าเมืองที่กระจายตัวพบเจอ
หลังจากนั้น เหล่าราชันวิญญาณของเมืองเทียนเซี่ยพบว่า บริเวณประตูโลกมรณะซึ่งเป็นประตูต้องห้ามที่มุ่งหน้าไปเมืองมรณะมีร่องรอยที่ถูกพลังหมวดลับเปิดออก!
ประตูโลกมรณะที่มุ่งหน้าไปเมืองมรณะนี้เป็นความลับที่มีเพียงราชันวิญญาณขั้นสูงถึงรู้ ในนั้นมีสิ่งมีชีวิตดึกดำบรรพ์แข็งแกร่งนับไม่ถ้วนอยู่
เกิดร่องรอยแบบนี้เป็นเรื่องที่ประหลาดอย่างมาก จึงได้ข้อสรุปของการปรากฏตัวของครึ่งมารได้ว่า
ครึ่งมารนี้พยายามจะเข้าไปในเมืองผนึกมรณะ แต่ตอนที่แตะต้องประตูต้องห้ามนี้ถูกเทียนทิงพบเข้า ประธานเทียนทิงจึงพากลุ่มองค์กรวิญญาณมายังประตูโลกมรณะแห่งนี้ จึงเกิดการสู้รบกับครึ่งมารครั้งใหญ่…
ผลที่ได้หลังจากนั้น ผู้คนมากมายได้เห็นกับตา เทียนทิง ราชันวิญญาณทั้งสามคนและกลุ่มขององค์กรวิญญาณดับหมด
กลุ่มขององค์กรวิญญาณตายอนาถเกินไป อีกทั้งหลายคนได้เห็นฝนเลือดเนื้อนั้นกับตา แม้กลุ่มราชันวิญญาณ และคนของอำนาจต่างๆ ได้รับประกันแล้วว่า จะไม่มีครึ่งมารปรากฏตัวในเมืองเทียนเซี่ยอีก แต่ในไม่กี่วันหลังจากนี้ ยังคงน่าเป็นห่วง ไม่ว่าจะปิดกั้นอย่างไร ยังคงมีเรื่องการต่อสู้สะเทือนใจในคืนนั้นกระจายออกไปอยู่ดี
ข่าวนี้กระจายไปช่วงหนึ่ง ทั้งเมืองเทียนเซี่ยก็อยู่ในภาวะตึงเครียด คนที่เข้าออกเมืองถูกควบคุมอย่างเข้มงวด
…
ว่าแต่ในวันนั้น หลังจากชู่มู่จัดการเทียนทิงแล้ว ได้กลับไปยังตำหนักวิญญาณจากอีกทิศทางหนึ่งอย่างไร้ร่องรอยใดๆ
หลังจากกลับไปยังตำหนักวิญญาณ ท่านอาวุโสหลิ่วได้ส่งคนมาตามหาชู่มู่พอดี
ชู่มู่เองได้แต่งข้อแก้ตัวเรียบร้อยแล้ว พูดว่า คืนนั้นตอนที่ไปหาเทียนทิง เขาไม่อยู่ในตำหนัก เลยออกไปเดินเล่นแล้วกลับมายังตำหนักวิญญาณ
ท่านอาวุโสแค่ตรวจสอบความปลอดภัยของชู่มู่ ในเมื่อชู่มู่ไม่เป็นอะไร ก็ไม่ได้ถามมากเกินไป
หลังจากที่ชู่มู่กลับห้องของตัวเอง ได้แต่ถอนหายใจยาวๆ พักสักครู่ แล้วใช้น้ำแข็งเทพดินปรับร่างกายของตัวเองแล้วหลับไป
หลังจากนั้นไม่กี่วัน เดิมชู่มู่คิดว่า จะใช้พลังของตำหนักวิญญาณทำให้เรื่องนี้แนบเนียนกว่าเดิม โดยเฉพาะห้ามให้คนขององค์กรวิญญาณรู้ว่าก่อนที่เทียนทิงจะตายเขาจับจ้องตัวเองมาตลอด อีกทั้งคนที่ห้ามตัวเองออกจากเมืองก็ต้องกำจัดทิ้ง
ที่ทำให้ชู่มู่ประหลาดใจอย่างมากคือ ตอนที่ชู่มู่คิดจะจัดการคนพวกนี้ พวกนี้กลับหายไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว
คนเหล่านี้ไม่มีทางที่จะออกจากเมืองเทียนเซี่ยในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ และไม่มีทางที่จะเดาสาเหตุการตายที่แท้จริงของเทียนทิงได้เร็วขนาดนี้ พวกเขาหายตัวไปกะทันหันแบบนี้ มีสิ่งเดียวคือ อาจมีคนลงมือจัดการพวกเขาก่อนแล้ว
คนที่จะเสี่ยงช่วยปกปิดความลับให้ตัวเองได้ เกรงว่าจะมีเพียงคนเดียว นั่นคือท่านอาวุโสหลิ่ว
หลังจากนั้น ชู่มู่ได้รู้ความจริงจากเจ้าตำหนักหยู่ หลังจากที่เทียนทิงตายลง ท่านอาวุโสหลิ่วได้แอบใช้พลังทั้งหมดจัดการเรื่องนี้อย่างหมดจด เพื่อป้องกันไม่ให้ชู่มู่ถูกคนขององค์กรวิญญาณสังเกตเห็น
การกระทำแบบนี้ของท่านอาวุโสทำให้ชู่มู่แอบตกใจ หรือว่าท่านอาวุโสหลิ่วจะรู้ว่าตัวเองเป็นครึ่งมารแล้ว หรือจะบอกว่า เขาแค่อาศัยโอกาสนี้เพื่อปกป้องตัวเอง
…
ไม่ว่าท่านอาวุโสจะรู้ว่า ตัวเองเป็นครึ่งมารหรือไม่ ชู่มู่วางใจได้สักที
เพราะกังวลมาตลอด ชู่มู่ยังไม่ทันได้ดูดวงวิญญาณตัวอ่อนระดับราชัน อีกทั้งยังไม่ได้ค้นแหวนช่องว่างของเทียนทิงด้วย
ตอนนี้เรื่องที่เป็นโทษกับตัวเองได้จัดการพอประมาณแล้ว ชู่มู่เองก็จะได้ดูว่าครั้งนี้ได้อะไรมาบ้าง
ดวงวิญญาณตัวอ่อนเป็นตัวเล็กที่เพิ่งฟักออกมาได้ไม่นาน เช่นเดียวกับมังกรจำศีลน้อย ยังไม่ถึงลักษณะหนึ่งขั้นหนึ่ง
ในตอนนี้เจ้าราชันน้อยตัวนี้กำลังนอนอยู่ในแหวนจับวิญญาณ ไม่รู้ว่าตัวเองผ่านมือของใครต่อใครมาบ้างแล้ว
ชู่มู่สังเกตเจ้าตัวเล็กอย่างถี่ถ้วน รู้สึกว่า เหมือนจะเคยพบเห็นดวงวิญญาณตัวน้อยนี้มาก่อน แต่กลับนึกไม่ออกว่าคืออะไร แต่จากกลิ่นไอหมวดลมของมันมั่นใจได้ว่าเป็นราชันธาตุหมวดลมตัวหนึ่ง
“นายท่าน นี่เป็นราชันปีศาจวายุร้ายตัวหนึ่ง ท่านมองไปที่บนหัวของมัน มีทรงขนนกมงกุฎอยู่ใช่ไหม…” ผู้เฒ่าหลีเองมีสายตาที่ดีมาก มองออกทันทีว่า นี่เป็นราชันปีศาจวายุร้ายตัวหนึ่ง
พอผู้เฒ่าหลีพูดแบบนี้ ชู่มู่ถึงเข้าใจทันที ที่แท้คือราชันปีศาจวายุร้าย ตอนที่ตัวเองอยู่เมืองพันวายุได้เจอกลุ่มปีศาจวายุร้ายมาก่อนแล้ว
“ราชันปีศาจวายุร้ายเหรอ” ชู่มู่ถอนหายใจ จากสีหน้าของเขาแล้ว เห็นได้ชัดว่า ดวงวิญญาณราชันตัวอ่อนนี้ไม่ถูกใจเท่าไร
ชู่มู่มีภูตพันวายุเป็นดวงวิญญาณหมวดลมแล้ว แม้ในด้านตระกูลราชันปีศาจวายุร้ายจะแข็งแกร่งกว่าภูตพันวายุอย่างมาก แต่ชู่มู่กลับไม่มีนิสัยเปลี่ยนดวงวิญญาณแบบนี้
อีกทั้ง เดิมชู่มู่ชอบความคล่องแคล่วและทักษะการต่อสู้ของภูตพันวายุมากกว่าอยู่แล้ว แม้ราชันปีศาจวายุร้ายจะแข็งแกร่ง กลับไม่ใช่ดวงวิญญาณหมวดลมที่ชู่มู่ต้องการ
“นายท่าน ไม่สนใจราชันปีศาจวายุร้ายมากเท่าไรใช่ไหม”ผู้เฒ่าหลีพูดขึ้น
“อืม”ชู่มู่พยักหน้า
“เรื่องนี้ง่ายมาก ขายทิ้งได้เลย นายท่านไม่ชอบราชันปีศาจวายุร้ายตัวนี้ แต่มีคนนับไม่ถ้วนที่คลั่งไคล้ตัวมันอย่างมาก! ด้วยราคาของราชันปีศาจวายุร้ายแล้ว น่าจะได้วัตถุวิญญาณราชันหมวดลมหายากได้อย่างไม่มีปัญหา” ผู้เฒ่าหลีบอก
“กลุ่มปีศาจวายุร้ายอยู่ในเมืองภูตพันวายุเช่นกัน แต่จักรพรรดิปีศาจวายุร้ายกลับไม่อยู่ในรายชื่อดวงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ลายเส้นทั้งเจ็ด ความจริงเห็นได้ชัดว่า ถ้าภูตพันวายุเพิ่มความแข็งแกร่งจนอยู่ในระดับเดียวกับราชันปีศาจวายุร้ายได้ พลังต่อสู้ของภูตพันวายุจะแข็งแกร่งกว่าราชันปีศาจวายุร้ายอีก ดังนั้น ปล่อยราชันปีศาจวายุร้ายตัวนี้ไป เพื่อแลกกับวัตถุวิญญาณที่ทำให้ภูตพันวายุเพิ่มความแข็งแกร่งจนอยู่ในระดับราชันได้ เป็นทางเลือกที่ฉลาดมากแน่นอน” ผู้เฒ่าหลีพูดต่อ
บ่อน้ำอมตะมีแค่อันเดียว จะต้องให้มังกรจำศีลน้อยกินแน่นอน และถ้าฝึกปีศาจวายุร้ายใหม่ละก็ ต้องเพิ่มจากลักษณะหนึ่งขั้นหนึ่งใหม่ ต้องใช้เวลาหลายปีมาก
ส่วนภูตพันวายุอยู่ในลักษณะเก้าขั้นกลางแล้ว ถ้าเพิ่มความแข็งแกร่งให้อยู่ในระดับราชันละก็ เชื่อว่าอีกไม่นานชู่มู่จะมีดวงวิญญาณหมวดลมระดับราชันลักษณะสิบ นี่มีความหมายมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด !
“นายท่าน ต่อไปก็ทำให้ภูตพันวายุอยู่ในลักษณะสิบ เพิ่มความแข็งแกร่งให้อยู่ในจักรพรรดิชั้นยอด แล้วใช้วัตถุวิญญาณที่แลกมาเพิ่มความแข็งแกร่ภูตพันวายุ ทำให้อยู่ในระดับราชัน นายท่านจะมีราชันที่มีพลังต่อสู้ลักษณะสิบจำนวนสองตัวแล้ว เจ้าโลกธรรมดาเจอกับนายท่านยังต้องถอย” ผู้เฒ่าหลีพูดด้วยความตื่นเต้น
นึกถึงตอนที่เจ้าโลกหลีมีเทียนเท่าราชันตัวหนึ่งก็มีตำแหน่งไม่ธรรมดาในเมืองหลีแล้ว เชื่อว่าอีกไม่นาน ชู่มู่ที่มีดวงวิญญาณราชันมากขึ้น คงเพียงพอที่จะให้เหล่าผู้แข็งแกร่งเคารพนับถือตัวเอง
หลังจากคิดได้ว่า จะจัดการดวงวิญญาณตัวอ่อนราชันนี้แล้ว ชู่มู่ได้หยิบแหวนช่องว่างของเทียนทิงออกมา
ผู้เฒ่าหลีตาดีกว่า ชู่มู่ได้ให้แหวนช่องว่างนี้กับผู้เฒ่าหลีแทน
ผู้เฒ่าหลีเริ่มค้นของที่อยู่ในแหวนช่องว่างอย่างตื่นเต้น หลังจากนั้นไม่นาน ก็ได้ยินเสียงชวนขนลุกของผู้เฒ่าหลี
“นายท่านเอ้ย ของที่อยู่ในแหวนช่องว่างของเทียนทิงนี้ดีกว่าของเด็กสาวทรยศอย่างมาก!”ผู้เฒ่าหลีบอก
ผู้เฒ่าหลีตื่นเต้นแบบนี้ ตาของชู่มู่ย่อมเป็นประกายขึ้นมาทันที อย่างไรนี่ก็เป็นแหวนช่องว่างของราชันวิญญาณคนหนึ่ง ของที่อยู่ในนั้นจะทำให้ความสามารถของชู่มู่เพิ่มขึ้นแน่นอน!
“ในนี้มีเงินสดหนึ่งพันวิญญาณ ไข่มุกราชันหินขั้นสองจำนวนหนึ่งเม็ด ผลึกหมวดหินระดับราชันขั้นหนึ่งจำนวนหนึ่งเม็ด ยารักษาราชันประมาณหนึ่งร้อยขวด แค่ขายยาพวกนี้ ก็จะมีเงินหลายแสนล้านแล้ว !” ผู้เฒ่าหลีพูดอย่างตื่นเต้นมาก
“ไข่มุกหินเอาไว้ใช้ทำอะไร แล้วก็ราชันขั้นสอง ราชันขั้นหนึ่ง หมายความว่าอย่างไร” ชู่มู่ถามอย่างไม่เข้าใจ
“ก่อนหน้านี้บอกกับนายท่านแล้ว การแบ่งสิ่งของก็แบ่งเป็นเป็นสิบระดับเช่นเดียวกับระดับทาสไปยังระดับจักรพรรดิ และสิ่งที่อยู่ในวงการราชันนี้ จะแบ่งสิบระดับใหม่ เทียบเท่าราชัน ราชันขั้นต่ำ ราชันขั้นกลาง ราชันขั้นสูง ราชันชั้นยอด ระดับทั้งห้า ซึ่งขั้นหนึ่ง ขั้นสอง โดยปกติมักจะหมายถึงวัตถุวิญญาณ ยา ผลึกหิน ผลึกวิญญาณที่เห็นผลชัดเจนเทียบเท่ากับราชัน….”
“ขั้นสาม ขั้นสี่ หมายถึงสิ่งที่มีผลต่อราชันขั้นต่ำ เป็นต้น”
ชู่มู่เองเข้าใจทันที ท่าทางระดับราชันจะแบ่งแยกกับสี่ระดับก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง คาดว่าหลังจากนี้ถ้าเจอราชันวิญญาณ ขั้นหนึ่งที่พวกเขาพูดถึงจะไม่ใช่สิ่งที่ใช้เงินไม่เท่าไรก็ซื้อได้…
“นายท่าน ยาพวกนี้ระดับสูงเกินไป เจ้าเก็บไว้ส่วนหนึ่ง เพื่อใช้ในยามจำเป็นก็พอ ส่วนที่เหลือเอาไปขายทิ้งในตลาด แลกเป็นเหรียญทองนับแสนล้าน แล้วหาวิธีเพิ่มความแข็งแกร่งดวงวิญญาณจักรพรรดิขั้นกลาง ยังไม่ถึงลักษณะสิบพวกนี้ให้อยู่ในจักรพรรดิชั้นยอดลักษณะสิบในเวลาอันสั้นก็พอแล้ว…”
“ไข่มุกหินราชันขั้นสอง นี่เป็นของดี รอให้ราชันผีหินผาของนายท่านอยู่ในระดับเทียบเท่าราชันแล้ว ให้มันกินลง ในตอนที่เป็นเทียบเท่าราชัน ถ้าไม่เจอราชันที่มีการโจมตีพิเศษละก็ ใครก็ทำลายการป้องกันของราชันผีหินผาไม่ได้”
“ส่วนผลึกวิญญาณหมวดไม้ราชันขั้นหนึ่ง สิ่งนี้ไม่ต้องให้ข้าพูดเยอะแล้วละมั้ง”
ชู่มู่พยักหน้า ผลึกวิญญาณนี้ เป็นสิ่งที่ราคาไม่ตกแน่นอน ผลึกวิญญาณของดวงวิญญาณราชันเม็ดหนึ่ง ชู่มู่รู้ดีว่าราคาของมันสูงมากเพียงใด
“ผู้เฒ่าหลี ตามที่เจ้าบอกเมื่อกี้ เทียนทิงมีราชันวิญญาณขั้นกลางขั้นสูง ถ้าอย่างนั้นสิ่งที่เขาต้องการน่าจะอยู่ระหว่างขั้นสี่ถึงขั้นแปด ทำไมแหวนช่องว่างของเขาไม่มีวัตถุวิญญาณขั้นสาม” ชู่มู่ถามขึ้น
ผู้เฒ่าหลีได้ยินแบบนี้ โกรธจนหนวดปลิว พูดขึ้นว่า “นายท่าน ท่านไม่รู้จักพอจริง ๆ ท่านคิดว่า วัตถุวิญญาณระดับราชันเหมือนวัตถุวิญญาณสิบขั้นก่อนหน้านี้ที่หาได้ทั่วไปเหรอ” ผู้เฒ่าหลีพูดกับนายท่านด้วยหน้าที่ว่า ต่อให้เป็นวัตถุวิญญาณขั้นหนึ่งขั้นสองแบบนี้ เทียนทิงเองยังรู้สึกเจ็บใจได้ ของของราชันหายากยิ่งกว่ายาก มิฉะนั้น ท่านหญิงจะต้องใช้เวลานานขนาดนั้นเพื่อตามหาน้ำแข็งเทพดินได้อย่างไร ! วัตถุวิญญาณราชันไม่ใช่สิ่งที่มีได้ทั่วไป ต่อให้เป็นห้องลับเก็บสมบัติของเทียนทิง เกรงว่าอาจไม่มีวัตถุวิญญาณราชันขั้นสามขึ้นไปมากเท่าไร เพราะราชันขั้นสูงสองตัวก็สิ้นเปลืองมากพอแล้ว!”
ชู่มู่พยักหน้าเหมือนจะเข้าใจ อย่างไรก็ตาม ผู้เฒ่าหลีกำลังบอกว่า ครั้งนี้ตัวเองจะต้องเสียเงินเยอะมากแล้ว ส่วนมันจะมากเท่าไรกัน ชู่มู่ที่ยังไม่อยู่ในระดับราชันเต็มตัวคงไม่เข้าใจ
“ภูตพันวายุเป็นราชันสำรองแล้ว มังกรจำศีลน้อยก็เป็นราชันสำรองแล้ว หน้าที่หลักต่อจากนี้คือทำให้ดวงวิญญาณทั้งหมดอยู่ในจักรพรรดิชั้นยอด แล้วทำให้พวกมันอยู่ในระดับราชัน แหะแหะ อีกไม่นาน คาดว่าคนในเมืองเทียนเซี่ยที่จะหาเรื่องนายท่านได้ คงมีไม่กี่คนแล้ว” ผู้เฒ่าหลีพูดอย่างตื่นเต้น