Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9 - ตอนที่ 13
ตอนที่ 13 เพื่อนที่ไว้ใจ
ณ บ้านเช่า…
แมวเฒ่าเฝ้ามองหน้าต่างของบ้านหลังข้างๆ พร้อมกล่าวด้วยความผิดหวังว่า “ทำไมเธอยังไม่กลับมาอีกนะ…หลินเหนียนเล่ย”
ฉินอวี่ที่อยู่หน้าทางเข้าตะโกนอย่างฉุนเฉียว “มาช่วยกันสักที! ฉันเรียกนายมาชมวิวหรือไง?!”
“เออ! กำลังไป! ไม่เห็นต้องตะคอกเลย” แมวเฒ่าตอบอย่างบึ้งตึงก่อนจะเดินเข้ามาช่วยฉินอวี่ “นอนๆ ไปเถอะหน่า ก็แค่บ้านเช่าจะทำความสะอาดอะไรนักหนา…แค่เก็บขยะก็พอ”
“มันคือบ้านที่ต้องอยู่ทุกวัน! อย่างน้อยๆ ก็ต้องสะอาด!” ฉินอวี่กล่าวขณะขยี้จมูก “ช่วยกวาดพื้นที…ฝุ่นเยอะมาก”
“นายบ้าไปแล้วเหรอ?! จะให้ฉันที่เป็นถึงรองผู้หมวดไปกวาดพื้นเนี่ยนะ? ไอ้น้อง…นี่มันจะเกินไปแล้ว!”
“กวาดๆ ไปเถอะ ไว้จะเลี้ยงข้าวตอบแทน”
“ค่อยน่าสนใจหน่อย…” แมวเฒ่าเป็นคนขี้เกียจและมักจะสั่งให้คนอื่นทำความสะอาดห้องพักแทนเสมอ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องน่าตกใจมากที่เขาช่วยฉินอวี่ทำความสะอาด
ทั้งสองเข้าขากันเป็นอย่างดี แมวเฒ่าชี้นิ้วสั่งไปมาขณะที่ฉินอวี่เป็นผู้ปัดกวาดเช็ดถู เวลาล่วงเลยจนถึงสามทุ่ม ทว่ายังไม่มีวี่แววของหลินเหนียนเล่ย…
“ทำไมหล่อนยังไม่กลับบ้าน?” เห็นได้ชัด…สาเหตุหลักที่แมวเฒ่าอยู่บ้านเช่าหลังนี้ก็เพราะหลินเหนียนเล่ย
“เลิกจ้องบ้านข้างๆ สักที นายเหมือนโรคจิตเลย…จ้องไปหล่อนก็ไม่วาปมาหรอก” ฉินอวี่กลอกตา “ไปหาอะไรกินกันเถอะ”
“อืม งั้นไปย่านพี่รองกัน!”
“ย่านพี่รองบ้าบออะไรล่ะ! เราจะไปกินมื้อเย็นธรรมดาๆ เท่านั้น!”
“กินอะไร?”
“บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไง! ธรรมดาดีใช่ไหมล่ะ?”
“โธ่! นายใช้แรงงานฉันทั้งวัน แต่เลี้ยงแค่บะหมี่สำเร็จรูปเนี่ยนะ?!”
“ก็มันราคาถูกนี่…” ฉินอวี่ยักไหล่ “ถ้าไม่กินก็กลับไปนอนที่หอพักเลยสิ ฉันจะได้ประหยัดเงินด้วย…อุตส่าห์สงสารที่ทำงานจนไม่ได้กินอะไรทั้งวัน”
“ไอ้เพื่อนเวร! ใจดำมาก!”
“พูดจาแบบนี้เหรอ! ตอนแรกฉันคิดว่าจะซื้อไส้กรอกให้นายอีกสักชิ้น…น่าเสียดายจริงๆ!”
เมื่อพูดจบ ฉินอวี่เดินออกจากบ้านทันที
…
ย่านนี้มีบ้านทั้งหมดห้าครัวเรือน หญิงเจ้าของบ้านเช่าอาศัยอยู่ที่บ้านหลังในสุดที่ถูกล้อมด้วยรั้วเหล็ก อีกทั้งไม่ค่อยมีใครพบเห็นหล่อน ส่วนฉินอวี่ หลินเหนียนเล่ยและอีกสามครัวเรือนบ้านหันหน้าชนกัน บ้านอีกสองหลังถัดไปไม่มีน้ำประปาและไฟฟ้า และเขาทั้งสองไม่เคยพบผู้เช่าคนอื่นๆ นอกจากหลินเหนียนเล่ย
เมื่อกินมื้อเย็นเสร็จ…ฉินอวี่ต้มน้ำร้อนและพูดคุยกับแมวเฒ่า คืนนี้เขาต้องการพักผ่อนเพราะรู้สึกเหนื่อยล้าจากกการทำงานติดต่อกันหลายวัน อีกทั้งในวันรุ่งขึ้นเขายังต้องสอบปากคำหม่าเหล่าเอ๋อ และลุงสามที่คนอื่นๆ รู้จักกันในนามดามิน
“อิ่มแล้วก็กลับไปซะ!” ฉินอวี่กล่าวขณะถอดเสื้อคลุมออก
แมวเฒ่าเรอพร้อมเอนตัวนอนบนเก้าอี้” ฉันขี้เกียจกลับ ขอนอนที่นี่แล้วกัน!”
“ที่นี่มีแค่เตียงสามฟุต…จะนอนสองคนได้ยังไง?”
“ฉันก็นอนกอดนายไง” แมวเฒ่าตอบพร้อมลุกไปที่เตียงและถอดถุงเท้าออก
“อะไรวะ!” ฉินอวี่อุทานด้วยความโกรธ “มาที่นี่เพราะอยากจะช่วยขนของหรือจริงๆ อยากเจอหลินเหนียนเล่ย?”
“นายเคยมีอะไรกับพวกเกย์ไหมวะ?” แมวเฒ่าทรุดตัวลงบนเตียงพลางถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ฉินอวี่นิ่งเงียบไปพักใหญ่
“ตอบสิ!”
“นายเคยหรือไง?!” ฉินอวี่ถามกลับ
“ฉะ…ฉันเคยเห็นคนที่เป็นเกย์ เขาทำแบบ…” แมวเฒ่าเริ่มเล่าเรื่องอย่างตื่นเต้น
“หุบปาก!” ฉินอวี่ไม่ได้สนใจเรื่องที่แมวเฒ่าพูดแม้แต่น้อย “ตกลงนายจะกลับไหม?”
“ไม่กลับ! มันดึกแล้วฉันจะนอนที่นี่” แมวเฒ่าหาวก่อนถอดเสื้อผ้าออก
ฉินอวี่ห้ามแมวเฒ่าไม่ได้…เขาเดินไปล้างเท้าก่อนกลับมาที่เตียง เนื่องจากมีผ้าห่มเพียงผืนเดียว ฉินอวี่เลยจำเป็นต้องนอนกับแมวเฒ่าแม้จะรู้สึกอึดอัดก็ตาม จากนั้นแมวเฒ่าได้เริ่มถามถึงสิ่งที่วนเวียนอยู่ในหัว
“นายจับพวกลักลอบขายยาสำเร็จไหม?” แมวเฒ่าถามด้วยความง่วง ดวงตาของเขาแทบจะลืมไม่ขึ้น
“อืม” ฉินอวี่ตอบ “เราจับหัวหน้าของพวกมันได้สองคน”
“หึ หยวนเค่อต้องพอใจมากแน่ๆ” แมวเฒ่ายิ้มเยาะอย่างเย็นชา “ไอ้หมอนั่นพูดโน้มน้าวใจคนเก่ง แต่เบื้องหลังกลับซ่อนสิ่งชั่วร้ายไว้มาก”
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉินอวี่ได้ยินเรื่องนี้จากปากของแมวเฒ่า “ทำไมนายถึงอคติกับผู้หมวดหยวนขนาดนี้?”
“พูดยาก…การทำงานของเขามันไม่ได้แย่ ทว่าฉันขอเตือนไว้อย่าง…อย่าทำอะไรเกินควร และระวังตัวให้มาก!”
“เอาขานายออกไป! อย่าทับ! หนัก!” ฉินอวี่แทรกขึ้นทันที
“ฉันยังไม่ได้ขยับขาเลยนะ!”
“พูดบ้าอะไร? ก็ขานายมันทับขาฉันอยู่!”
“ไม่ใช่ขาฉันโว๊ย” แมวเฒ่าตอบขณะหลับตา
“แล้วมันคืออะไร?” ฉินอวี่ผงะทันทีที่เอื้อมมือลงไปจับ
“นายทำบ้าอะไร?” แมวเฒ่าก็ตกใจเช่นกัน
“บ้าไปแล้วเหรอวะ?!” ใบหน้าของฉินอวี่แดงก่ำ “เตียงก็เล็กแค่นี้…ทำไมไม่ใส่เสื้อผ้า?!”
“นายใส่เสื้อผ้าตอนนอนด้วยเหรอ?” แมวเฒ่าถามด้วยความสงสัย
“ไม่ ฉันหมายถึง…อย่างน้อยก็ควรใส่กางเกงใน!”
“อ๋อ…ก็ใส่แล้วมันอึดอัด”
“แม่ง…ไอ้นั่นของนายมันโดนขาฉันอีกแล้ว…” ฉินอวี่กล่าวอย่างฉุนเฉียว “ใส่เลย! ตอนนี้!”
“โอ๊ย…ทำไมเรื่องมากขนาดนี้วะ?! ก็แค่นอนๆ ไปไม่ได้หรือไง?! ไม่ต้องห่วงฉันไม่ทำอะไรนายเพื่อแลกกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแค่ห่อเดียวหรอก!”
“หุบปาก! ไปใส่เสื้อผ้าเดี๋ยวนี้!” ฉินอวี่คำรามอย่างเกรี้ยวกราด
ก๊อก ก๊อก
ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
“ใคร?” ฉินอวี่ตะโกนถาม
“ฉันเอง หลินเหนียนเล่ย…คุณกลับมาแล้วเหรอคะ?”
“ครับ…กลับมาแล้ว”
“คุณมีน้ำร้อนไหม? ฉันเพิ่งเลิกงานกลับบ้านมาแล้วน้ำมันไม่ไหล” หลินเหนียนเล่ยไม่แน่ใจว่าฉินอวี่อยู่ด้านในหรือเปล่า เธอจึงแอบมองพลางเคาะหน้าต่าง และพบว่าฉินอวี่กำลังลงจากเตียงอย่างทุลักทุเล
“มีครับ รอสักครู่นะ”
ฉินอวี่รีบสวมเสื้อคลุมก่อนเดินมาเปิดประตู
“ขอโทษที่มาปลุกกลางดึกนะคะ” หลินเหนียนเล่ยสวมเสื้อโค้ตขนสัตว์พร้อมใบหน้าแดงก่ำจากอากาศที่หนาว
“ไม่เป็นไรครับ ผมคงยังมีน้ำร้อนเหลืออยู่” ฉินอวี่กล่าวด้วยรอยยิ้ม “เดี๋ยวไปดูให้ครับ”
“ขอบคุณค่ะ” หลินเหนียนเล่ยยืนรออยู่นอกบ้านด้วยความสุภาพ
ฉินอวี่ที่กำลังจะเดินไปหยิบน้ำร้อนพลันถามว่า “งานคงเหนื่อยน่าดู…คุณเลิกงานเวลานี้ตลอดเลยเหรอครับ?”
“พอดีฉันเพิ่งเข้าทำงานใหม่…ยังต้องปรับตัวและทำความเข้าใจกับอะไรหลายอย่าง” หลินเหนียนเล่ยตอบพร้อมสะบัดคอคลายกล้ามเนื้อเล็กน้อย “อื้อ…ฉันนั่งทั้งวันจนคอจะเป็นหินแล้ว…”
“อืม…เหนียนเล่ย น้ำร้อนของเราหมดแล้ว…”
ทันใดนั้น…แมวเฒ่าได้ลุกขึ้นจากเตียงพลางสวมเสื้อผ้าและตะโกน “เดี๋ยวผมรีบไปเอาน้ำร้อนมาให้! รอสักครู่ครับ!”
หลินเหนียนเล่ยที่รออยู่ด้านนอกบ้านรู้สึกตกใจเมื่อเห็นแมวเฒ่าหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาสวมทั้งๆ ที่ตัวเองอยู่บนเตียง จึงหันไปถามฉินอวี่ด้วยสีหน้าสับสน “เอ่อ…คะ…คุณอยู่กับแฟนเหรอ?”
“?!” ฉินอวี่ที่กำลังถือกระติกน้ำตัวแข็งทื่อทันที
…
รถมอเตอร์ไซต์ไฟฟ้าคันหนึ่งจอดอยู่หน้าบ้านของฉินอวี่ “…เสี่ยวหูบอกว่ามันอยู่กับเพื่อน”
“แสดงว่ามีเพื่อนอาศัยด้วยสองคนเหรอ?” คนขับถาม
“อืม…คงใช่”
“งั้นซุ่มดู…และรอจนกว่าไอ้ฉินอวี่ออกจากบ้าน…แล้วพวกเราค่อยตามมันไป”
จากนั้นมอเตอร์ไซต์ไฟฟ้าคันดังกล่าวได้หายไปในความมืด
………………………………….