Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9 - ตอนที่ 170 กองกําลัง จู่โจมทีมสาม
Special District 9 ตอนที่ 170 กองกําลัง จู่โจมทีมสาม
ในอพาร์ตเมนต์ห้องหกศูนย์หก
อาเซียวนั่งจิบชาบนโซฟาขณะสั่งอย่างใจเย็น “ต้าฮ๋วง ทําความสะอาดห้องหน่อยก็ดีนะ”
ต้าฮ๋วงถือนวนิยายอีโรติกเดินเข้าไปในห้องน้ํา “ให้หลี่จือทําไปก่อน ฉันจะเข้าห้องน้ํา”
“แกนี่มันน่ารําคาญจริงโว้ย!” หลี่จือบ่น “เร็วๆเลย!”
“เออๆ รู้แล้ว!” ต้าฮ๋วงตอบขณะปิดประตูห้องน้ํา
สํานักงานตํารวจนครบาลรัฐพื้นทมิฬ
หลิวเปาเฉินเดินปรี่ไปที่ศูนย์รัแจ้งอย่างใจจดใจจ่อขณะถามอย่างกังวล “นายได้รับสายล่าสุดเมื่อไหร่?”
“ประมาณสิบห้านาทีก่อนครับ” เจ้าหน้าที่ตํารวจตอบ
“แล้วเขาได้ทิ้งที่อยู่ไว้รึเปล่า?”
“ครับ เขาให้มาแล้วครับ” เจ้าหน้าที่ตํารวจวางกระดาษแผ่นหนึ่งลงบนโต๊ะ “ผมจดไว้ในนี้หมดแล้ว”
หลิวเปาเฉินอ่านข้อมูลบนกระดาษอย่างรวดเร็วก่อนรีบเดินออกไปและโทรสั่งการ “รวบรวมเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยที่จะปฏิบัติการคืนนี้ในสนามด้านหลังภายในห้านาที รีบกระจายคําสั่งซะ!”
…
ถนนเถ้าธุลี
ฉินอวี่เพิ่งงีบได้นิดหน่อยหลังจากทานอาหารไป ทันใดนั้น โทรศัพท์ในกระเป๋าก็ดังขึ้น
“ฮัลโหลจู้เหว่ย?” ฉินอวี่พูดเสียงงัวเงีย “มีอะไรเหรอ?”
“ตอนนี้หัวหน้าอยู่ถนนเถ้าธุลีรึเปล่า?”
“ฉันจะอยู่ที่ไหนได้อีกล่ะ?”
“อย่าเพิ่งนอน หัวหน้าต้องไปที่อพาร์ตเมนต์ถนนปาเมเบิลเดี๋ยวนี้เลย”
“ทําไมล่ะ?” ฉินอวี่ถามด้วยน้ําเสียงที่ตื่นตัวขณะคิดว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นแล้ว
“หลิวเปาเฉินได้รับข้อมูลมาว่าคนร้ายที่อยู่เบื้องหลังคดีฆาตกรรมตอนนี้อยู่แถวถนนปาเมเปิล”
จู้เหว่ยยังพูดต่อไปอีก “ทุกหน่วยที่อยู่เวรคืนนี้ถูกระดมกําลังแล้วและพวกเขากําลังมุ่งหน้าไปยังอพาร์ตเมนต์นั้น”
“จริงเหรอ?” ฉินอวี่ตกตะลึง “ดูจากความฉลาดของพวกคนร้ายแล้ว จะปล่อยให้ใครมาตามจับง่ายๆได้ยังไง?”
“ผมจะรู้เหรอ?” จู้เหว่ยบ่นกลับ “แต่ดูท่าทางของหลิวเปาเฉินจะเอาจริงเอาจังมาก เขาไปเบิกปืนจากหน่วยพลาธิการอย่างกับจะไปแก้แค้นให้แม่เลย!”
“โอเค เข้าใจแล้วเดี๋ยวฉันจะออกไป”
“เร็วๆนะ ไม่งั้นเขาคงหาเรื่องตําหนิเราอีกแน่” จู้เหว่ยกล่าว “เจอกันที่นั่นครับ”
“ได้เลย”
พอวางสายไปฉินอวี่ก็รีบลุกขึ้นนั่งตัวตรงพร้อมอุทานกับตัวเอง “เวรละ หยุดนอนก่อนออกไปได้แล้ว!”
ติงกั๋วเซินคนที่ก่อนหน้านี้บอกว่าตื่นเต้นเกินกว่าจะนอน สะดุ้งตื่นมาเช็ดน้ําลายจากมุมปากอย่างสับสน “เอ่อ…เราจะไปไหนกันครับ?”
ฉินอวี่ตบไหล่ของติงกั๋วเซิน “ไหนใครบอกว่าตื่นเต้นมากจนนอนไม่ได้? ให้ตายสินายหลับอย่างกับเด็กทารกเลย!”
“แหะๆ” ติงกั่วเซินเกาหัว
“รีบขับรถไปถนนปาเมเปิล” ฉินอวี่สั่ง
“แต่ผมไม่รู้ว่าถนนป่าเมเปิลอยู่ไหนนะ!” ฟูเสี่ยวห่าวตอบด้วยสายตาที่ว่างเปล่า
“งั้นมานั่งนี่ฉันจะขับเอง” ฉินอวี่พูดขณะลงรถ
สิบห้านาทีต่อมา
อพาร์ตเมนต์ถนนปาเมเปิลตั้งอยู่ริมถนนสายหลักจึงทําให้เข้าถึงได้ง่าย
หลิวเป่าเฉินตะโกนคําสั่งผ่านวิทยุสื่อสาร “ทีมหนึ่งส่งเจ้าหน้าที่สองนายไปเฝ้าระวังด้านหลังที่ยัง? โอเค! ส่งพวกเขาไปตรวจสอบบริเวณใกล้เคียงบล็อกสองด้วย ผู้ต้องสงสัยอยู่ในห้องหกศูนย์หก ดูให้ดีล่ะว่าไฟห้องนั้นเปิดอยู่รึเปล่า”
“รับทราบ
“รับทราบ
เสียงตอบรับดังมาจากวิทยุสื่อสาร
“เอ๊ยด!”
ฉินอวี่เบรกรถสายตรวจในซอยถัดจากอพาร์ตเมนต์ดังกล่าวก่อนลงจากรถ ทั้งสามคนรีบไปด้านข้างของหลิวเป่าเฉิน
“ข้อมูลถูกต้องแน่นะ?” ฉินอวี่ถาม
หลิวเป่าเฉินสั่งฉินอวี่อย่างไม่ใส่ใจทันที “นำทีมสามเข้าจู่โจม นายจะเป็นกองกําลังจู่โจมในภารกิจนี้”
ฉินอวี่งุนงงไปชั่วขณะเมื่อได้ยินประโยคนั้น “ให้เราเป็นแนวหน้าเนี่ยนะ? ปกติงานนี้ไม่ใช่หน้าที่ของทีมหนึ่งหรอกเหรอ?”
“ศัตรูเป็นผู้ร้ายลักลอบขนอาวุธ จึงมีแนวโน้มว่าจะมีอาวุธหนักด้วย” หลิวเป่าเฉินอธิบายด้วยน้ําเสียงเรียบ “เราไม่คุ้นเคยกับแผนผังของอพาร์ตเมนต์นี้ อีกอย่างพวกมันอาจเช่าห้องมากกว่าหนึ่งห้องฉันจึงให้ทีมหนึ่งไปดักทางเข้าด้านหลังเพื่อสกัดพวกมัน”
“พูดอีกอย่างก็คือ จะให้เราไปเสี่ยงชีวิตงั้นเหรอ?”
“ฉินอวี่เรากําลังดําเนินตามแผน! ระวังน้ําเสียงของนายหน่อย!” หลิวเป่าเฉินหันไปตะโกนใส่ฉินอวี่ “จะทําไหม?! ถ้ามีปัญหาฉันจะได้ให้คนอื่นมาทําแทน!”
ฉินอวี่ส่งสายตาเยาะเย้ยใส่หลิวเป่าเฉินก่อนจะถอดเสื้อโค้ตออกพลางตะโกน “ทีมสามมารวมกันที่รถบรรทุกอุปกรณ์ ผู้หมวดหลิวให้โอกาสเราแล้ว เขาไม่สามารถดําเนินการจับกุมได้ถ้าไม่มีพวกเราเป็นกองกําลังจู่โจม!”
เพียงสองนาทีฉินอวี่และสมาชิกในทีมติดตั้งชุดเกราะกันกระสุนและปืนไรเฟิลจู่โจม ไฟฉาย ระเบิดควัน แท่งฮัลลิแกนและอุปกรณ์อื่นๆอย่างรวดเร็ว
หลังจากเตรียมพร้อมกันแล้ว ก็มีเสียงดังขึ้นจากวิทยุสื่อสาร “ไฟและม่านที่ห้องหกศูนย์หกเปิดอยู่ น่าจะมีคนอยู่ข้างในสองสามคนครับ”
หลิวเปาเฉินครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนตะโกนใส่วิทยุสื่อสาร “ทีมสามจะเป็นผู้นํา ทีมหนึ่งด้านหลังเตรียมสกัดกั้น! ส่วนทีมที่เหลืออยู่ข้างบันไดเตรียมเสริมกําลังให้ทีมสาม”
” บุกได้!”
ฉินอวี่สั่งคนในทีมก่อนเริ่มย่องเข้าไปยังบล็อกที่สอง เขาโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย ในมือกระชับปืนไว้แน่นพร้อมปะทะตลอดเวลา
ข้างหลัง ฉินอวี่ จู้เหว่ย และวุ้นเส้นนําทีมสองทีมแยกจากกัน พวกเขาเดินหน้าอย่างรวดเร็วเป็นแนวเส้นตรงดูเป็นระเบียบ
ครึ่งนาทีต่อมา
เมื่อทีมมาถึงด้านล่างของบล็อกสองฉินอวี่มองอาคารข้างหน้า และสั่งการอย่างเคร่งขรึม “ทุกคนระวังตัวให้ดี ไฟและม่านในห้องเปิดอยู่ มีโอกาสสูงที่เราจะต้องเผชิญกับคนร้ายที่มีอาวุธหนัก ดูแลพวกเด็กฝึกด้วย ใครทําอะไรได้ก็เข้ามาช่วยเลย
“รับทราบ”
“รับทราบ”
ทุกคนรับทราบคําสั่งของฉินอวี่อย่างรวดเร็ว
เสียงของหลิวเปาเฉินดังผ่านวิทยุสื่อสาร “หยุดทําไม? จะรอให้พวกนั้นรู้ตัวรึไง? รีบเข้าไปสิ!”
ฉินอวี่ดึงไมค์หูออกมาโดยไม่สนใจสิ่งที่อีกฝ่ายพูด จากนั้นเขาจึงหันไปหาสมาชิกในทีมก่อนพูดเสียงเรียบ “ไปกันเถอะ!”
“พลั่ก!”
ประตูอาคารถูกเปิดออก จู้เหว่ยที่สวมชุดกันระเบิดบุกเข้าไปกับทีมของเขาก่อน
สามสิบวินาทีต่อมา
พวกฉินอวี่มาถึงชั้นหกแล้วยืนอยู่หน้าห้องหกศูนย์หก เขาชําเลืองมองไปทางซ้ายเห็นกองขยะขนาดใหญ่ซึ่งเต็มไปด้วยของใช้ในชีวิตประจําวันที่ข้างบันได
“เข้าไป”
ฉินอวี่นั่งลงและหันตัวชิดกําแพงข้างประตู
วุ้นเส้นถือปืนไรเฟิลจู่โจมเล็งไปที่กลอนและยิงอย่างแม่น
“ปัง!”
เสียงปืนดังลั่น กลิ่นดินปืนคละคลุ้งขณะที่กระสุนเจาะผ่านเข้าไปจนตัวล็อกประตูคลายออก
“พลั่ก!”
ฉินอวี่ผลักประตูเปิดและบุกเข้าไปทันที
“ปัง! ปัง! ปัง!”
จู้เหว่ยเหนี่ยวไกยิงหลอดไฟบนเพดานโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทําได้ เพื่อนร่วมทีมข้างหลังปิดไฟฉายอย่างรวดเร็วเช่นกัน
“มีคนถืออาวุธอยู่ในครัวครับ!”
ติงกั๋วเซินอุทานขณะเหงื่อไหลออกเต็มตัว