Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9 - ตอนที่ 184 งานอดิเรก
Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9 Special District 9 ตอนที่ 184 งานอดิเรก
วันรุ่งขึ้น ในร้านบนถนนไค๋หยวน
หลีจือสวมเสื้อคลุมขนสัตว์และนั่งอยู่ที่โต๊ะพนันบาคาร่า มือขวาของเขากําลังกําชิปที่กระจัดกระจายด้วยสีหน้าไม่สู้ดี
บางคนถึงไม่เล่นการพนันมาแปดร้อยปีและไม่เข้าใจกฎของบาคาร่า แต่พวกเขาก็สามารถชนะเงินได้ด้วยการนั่งเฉยๆ เห็นได้ชัดว่าหลีจือปืนอย่างหลัง ทุกปีเขาจะติดตามอาเซียวและคนอื่นๆ เดินทางไปทํางานที่อันตรายแลกชีวิตเพื่อให้ได้เงินมา แต่สุดท้ายก็ไม่ได้อะไรนอกจากส่วนแบ่งเล็กๆ ที่ใช้ส่งไปให้ครอบครัวกับเอามาเล่นเกมแบบนี้
ตราบใดที่ยังเป็นมนุษย์ ความสมบูรณ์แบบนั้นไม่มีจริง ทุกคนมีข้อบกพร่องของตัวเองไม่มากก็น้อย เหมือนหลีจือที่ใช้ชีวิตเหมือนเสี่ยงโชค พวกเขาอยู่ภายใต้แรงกดดันทางจิตอย่างมากและอาจทํางานในวันนี้และตายในคืนนี้ ดังนั้นทางออกและงานอดิเรกที่สามารถลดความเครียดได้จึงเป็นสิ่งที่จําเป็น แต่ก็มีเพียงหลีจือที่ติดงานอดิเรกแบบนี้มานานและจนบางครั้งก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
วันนี้เขาก็แพ้อีกเช่นเคย เงินจํานวนเล็กน้อยที่อาเซียวแบ่งให้เมื่อไม่กี่วันก่อนเหลือเพียงน้อยนิด
“เดิมพันมา” ดีลเลอร์ชายตะโกนโบกมือ
หลี่จือนั่งกินมันฝรั่งพลางสูบบุหรีไปด้วย
“กริ๊ง!”
ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น หลีจือล้วงโทรศัพท์ออกมา และหลังจากเหลือบมองที่หน้าจอ เขาก็ลุกเดินไปหาที่เงียบๆ ทันที
:
“ฮัลโหล”
“อยู่ไหน?” อาเซียวถาม
“ฉันออกมาหาข้าวกับไวน์กินข้างนอก” แม้หลีจือจะมั่นใจในตัวเองขนาดไหนแต่ก็ไม่กล้าพูดความเมื่ออยู่ต่อหน้าอาเซียวเพราะกลัวถูกบ่น
“ไม่ใช่ว่าเล่นพนันอยู่หรอกเหรอ?” อาเซียวรู้จักหลีจือดี
“เปล่า ฉันไม่มีเงินไปเล่นหรอกส่งเงินไปที่บ้านหมดแล้ว” หลีจือตอบกลับ
“เดี๋ยวฉันจะกลับไป” อาเซียวพูดขึ้น “ไปพักผ่อนข้างนอกสักสองสามวันกันเถอะ”
“จะชวนไปหาปี้ผู้หญิงใช่ไหม?”
“เปล่าสักหน่อย ทําไปทําอะไรก็ไป แล้วเจอกัน”
“โอเค”
“แค่นี้แหละ”
ทั้งคู่วางสาย
หลีจือยืนอยู่ที่ประตูห้องน้ำและเหลือบมองดูมันฝรั่งทอดในมือ สุดท้ายก็ไม่กล้าเล่นการพนันต่อเขา เดินไปที่บาร์ด้านหน้าและพูดกับชายที่อยู่ข้างในว่า ”เปิดบัญชีอินเทอร์เน็ตให้ฉันหน่อยเพื่อน”
ชายร่างกํายําเหลือบมองหลีจือ “ฝากเท่าไหร่?”
“สามพัน”
“มีใบอนุญาตพํานักเขตพิเศษที่เก้ารึเปล่า?” ชายร่างกํา ยําถาม
หลีจือส่ายหัว “ไม่”
“เปิดบัญชีสําหรับคนไม่มีใบอนุญาต ไม่มีการจํากัดล่วงหน้า แต่คุณต้องเข้ามาฝากเอง” ชายร่างกํายําอธิบายอย่างนุ่มนวล
“ถ้าฝากเพิ่มมีค่าอะไรไหม?”
“มี จ่ายห้าพัน”
“มากเกินไปแล้ว ลืมไป ลืมซะ ฝากแค่สามพันก่อน” ไม่มีเงินในกระเป๋าของหลี่จื่ออีกแล้ว เขาทําได้เพียงโบกมือแล้วพูดว่า “หักเงินได้เลย”
“เยี่ยม”
หลังจากพยักหน้า ชายร่างกํายําก็เอื้อมมือไปกดคอมพิวเตอร์
ราวห้านาทีต่อมา หลีจือได้รับการ์ดใบเล็กๆ จากอีกฝ่ายพร้อมที่อยู่เว็บ และชุดบัญชีและรหัสผ่าน
“โอเค”
“โทรเดิมพันเอาได้ไหม?” หลีจือถาม
“ได้” ชายร่างกํายําพยักหน้า
“โอเค ขอบใจมาก”
“ไม่เป็นไร ด้วยความยินดี” ชายร่างกํายํามองหลีจือ ” ขอเสี่ยงโชคได้เงินทุกวันนะ”
“ขอบใจนะ” แรคคูนใส่การ์ดในกระเป๋าเสื้อแล้วเดินออกจากร้านไปพร้อมรอยยิ้ม
ชานเมือง
หลิวเปาเฉินนั่งบนโซฟาดูลูกสะใภ้ทํางานบ้าน
“วันนี้น่าจะได้เงินแล้ว ดีใจไหมคะ?” ลูกสะใภ้ถาม
“ฮ่าๆๆ” หลิวเป่าเฉินยิ้มมองลูกสะใภ้อย่างอารมณ์ดี “ในเมื่อโอกาสมาแล้วก็ต้องคว้าไว้สิถึงจะดี”
“คงงั้นสินะคะ” ลูกสะใภ้พูด “ดื่มไวน์ทีไร พูดเข้าข้างตัวเองตลอด”
“ไม่เชื่อป๊าเหรอ?”
“ไม่เชื่ออยู่แล้ว เพิ่งจะโดนโทษวินัยเพราะเงินหมื่นดอลลาร์ไปยังไม่เข็ดอีกเหรอคะ?” ลูกสะใภ้กลอกตาและตําหนิ “บางที่ป๊าก็ดูเหมือนสนิทกับคุณหยวนเค่อนะ แต่ไม่เข้าใจว่าทําไมถึงไม่เข้าหาเฒ่าหลี่ เฮ้อ… กินผลไม้ไหมคะ?”
ทันทีที่หลิวเปาเฉินได้ยินเขาก็พูดสวนทันทีว่า “ไม่รู้หรอกนะว่าเธอต้องการจะสื่อถึงอะไร แต่หญ้าที่ถูกแก้วครอบถ้าไม่ดิ้นรนก็มีแต่ตายเท่านั้นแหละ เหมือน…”
“กริ้ง!”
หลิวเปาเฉินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู พลางโบกมือส่งสัญญาณให้ภรรยาและลูกสะใภ้เงียบเสียง เขาเดินไปที่ระเบียงเพื่อรับโทรศัพท์
ราวสองนาทีต่อมาหลิวเปาเฉินก็เดินกลับมาจากระเบียงด้วยท่าทีตื่นเต้น “คืนนี้ป๊าอาจจะไม่กลับ ทั้งสองของคนเข้านอนได้เลยไม่ต้องรอนะ”
“มีเรื่องอะไรอีกล่ะ?” ภรรยาถาม
หลิวเปาเฉินเดินไปบีบแก้มภรรยาของตนก่อนตอบคําถาม “โอกาสที่ฉันพูดถึงมาแล้วไงที่รัก”
“ระวังตัวด้วยนะคะ” ลูกสะใภ้เอ่ยเตือน
“ หลังจากคืนนี้เฒ่าหลิวจะกลับมายิ่งใหญ่ ฮ่าๆๆๆ” หลิวเปาเฉินยิ้มและเดินไปลูบหัวหญิงสาว “เชื่อฟังแม่เขานะ พรุ่งนี้ป๊ากลับมาจะพาไปห้างซื้อตุ๊กตาสูงสักหนึ่งเมตร
” ขอบคุณค่ะป๊า”
“เยี่ยม” หลิวเป่าเฉินจุ๊บแก้มลูกสาวสะใภ้สาวก่อนหยิบเสื้อคลุมแล้วจากไป
เขารักครอบครัวนี้มาก ไม่ว่าเขาจะเผชิญกับภายนอกมากแค่ไหน เขาก็มักจะกลับบ้านมาเพื่อพบกับลูกสะใภ้และภรรยาที่ผู้เป็นที่รักอยู่เสมอ
ครึ่งชั่วโมงต่อมาหยวนเค่อโทรหาเสี่ยวจิ่ว ”ทั้งสองคนจัดการเสร็จแล้วและส่งไม้ต่อให้หลิวเปาเฉินนะ”
“แล้วเราไม่ไปด้วยเหรอ?” คนปลายสายถาม
“นายมีคนรู้จักเยอะขึ้นโผล่ไปได้เป็นเรื่องแน่ แค่ดูอยู่ห่างๆ ก็พอ” หยวนเค่อตอบ “ส่วนที่เหลือปล่อยให้หลิวเปาเฉินจัดการเอง”
“โอเค เข้าใจแล้วครับ” เสี่ยวจิ่วพยักหน้า
ในเวลาเดียวกัน ภายในสํานักงานตํารวจรัฐพื้นทมิฬ
หลิวเป่าเฉันเดินเข้าไปในพื้นที่สํานักงานของหมวดสี่อย่างรวดเร็วและสั่งหัวหน้าทีมคนหนึ่งว่า “แจ้งทุกคนในหมวดสี่ให้ลงไปชั้นล่างเพื่อรวมกําลังพลเดี๋ยวนี้”
“มีคดีเหรอครับ? ให้แจ้งฉินอวีด้วยไหมครับ?”
“เรื่องรายละเอียดเดี๋ยวจะบอกอีกที” หลิวเปาเฉินพูดด้วยความเร่งรีบ “แจ้งฉินอวี่ด้วย”