Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9 - ตอนที่ 185 กลับไปที่อพาร์ตเมนต์
Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9 Special District 9 ตอนที่ 185 กลับไปที่อพาร์ตเมนต์
ไม่กี่นาทีต่อมา ที่ลานกว้างหลังสํานักงานตํารวจฉินอวี่ยืนขมวดคิ้วอยู่ข้างรถพลางหันไปถามจี้เหว่ยว่า “พอรู้เรื่องอะไรรึเปล่า? หลิวเป่าเฉินคิดจะทําอะไร?”
“ไม่รู้ครับ” จี้เหว่ยส่ายหัวตอบ “เห็นหมอนั่นเดินไปหาปีนแถวแผนกพลาธิการ คงมีเรื่องอะไรแน่ๆ”
ฉินอวี่กอดอกเดินไปรอบๆ ก่อนพึมพําว่า “อาจได้เบาะแสอะไรมา”
“เป็นไปได้นะครับ เขาไม่บอกผมว่าจะทําอะไร ดูมีพิรุธแปลกๆ” ฟูเสี่ยวห่าวแทรกขึ้น
ฉินอวี่ชะงัก “ที่ว่ามานี่หมายความว่าไง? นายรู้จักหลิวเปาเฉินด้วยเหรอ?”
“เอ่อ…” ฟูเสี่ยวห่าวเกาหัวยิ้ม“เขาเคยเป็นรุ่นพี่ผมกับกั่วเงินน่ะครับ ก็เลยลองเข้าไปถามดูแต่ไม่ได้อะไร”
ฉินอวี่เอื้อมมือไปลูบหัวฟูเสี่ยวห่าว “ถือว่าทําดีไอ้หนู”
“รองผู้หมวดฉินลูบหัวผมบ้างสิครับ” ติงกั่วเซินเสนอตัว“ผมก็ไปกับมันนะ”
“ไปเล่นกับถ้วยชมพูแสนรักของนายไป”
เมื่อหมวดสี่รวมตัวกันพร้อมหน้าแล้ว หลิวเป่าเฉินจึงเดินมาพร้อมกับคนอีกกว่ายี่สิบคน “อย่ามัวยึดยาดรีบไปเตรียมรถและอุปกรณ์ซะ”
ฉินอวี่เหลือบมองเขาก่อนหันกลับมาพูดว่า “ไปเตรียมตัวกันเถอะ เหนื่อยจะโดนบ่น”
แต่ก่อนหน้านั้นหลิวเป่าเฉินนําชายหนุ่มสองคนพร้อมกระเป๋าเป้ตํารวจมาและพูดด้วยสีหน้าจริงจัง ”ภารกิจคราว นี้เป็นความลับทุกคนโปรดส่งอุปกรณ์สื่อสารทั้งหมดมาเก็บไว้และใช้การติดต่อผ่านอินเตอร์คอมแค่ช่องทางเดียวเท่า นั้น ถ้าใครฝ่าฝืนจะโดนโทษวินัยฐานละทิ้งหน้าที่และไม่ปฏิบัติตามคําสั่ง”
ฉินอวี่ประหลาดใจ แม้ว่าจะยังไม่เข้าใจสถานการณ์แต่ก็ยอมทําตามโดยดี ” ทําตามที่ผู้หมวดหลิวสั่ง”
ทุกคนยื่นโทรศัพท์ของตนเองและวิทยุสื่อสารใส่ในกระเป๋าก่อนเตรียมตัวขึ้นรถ จากนั้นหมวดสี่กว่าสามคนจึงมุ่งหน้าออกจากสํานักงานตํารวจไปราวสามทุ่ม
บริเวณอพาร์ตเมนต์ถนนเมเปิล ฉินอวี่มองดูด้านนอกรถด้วยความสงสัยก่อนหันไปถามจี้เหว่ยว่า ” นี่มันอพาร์ตเมนต์ที่เราบุกจับพวกเล่ยจื่อก่อนหน้านี้หนิ พามาทํา ไมอีก?”
“ผมจะไปรู้ได้ไงเล่า” จี้เหว่ยส่ายหัว
ขบวนรถแล่นเข้ามาจอดบริเวณใกล้เคียง หลิวเปาเฉินตะโกนผ่านวิทยุว่า “ทุกคนฟัง อย่าเพิ่งลงจากรถจนกว่าฉันจะอธิบายภารกิจนี้จบ”
ทุกคนต่างตั้งใจฟังทันที
“คนร้ายที่เราจะจับกุมมีห้าถึงเจ็ดคน หัวโจกชื่อเซียว เป็นชายที่มัดผมหางม้า และมันนั่นแหละที่เป็นคนฆ่าหรู่เหย้ากับเหยียนคัง”หลิวเป่าเฉินอธิบายคร่าวๆ “ฉันได้เบาะแส มาว่าพวกมันอยู่ในห้องเจ็ดศูนย์หนึ่งบล็อกแปดแน่นอนว่าคนร้ายมีอาวุธพร้อมตอบโต้ ฉะนั้นขอให้ทุกคนควรสวมชุดเกราะกันกระสุนและระวังตัวให้ดี”
ฉินอวี่ตกตะลึง ” กลับมาอยู่ที่เดิมเนี่ยนะ?”
“นั่นสิ” วันเส้นเองก็ไม่เข้าใจ ” ที่แน่ๆ เขาได้เบาะแสมาจากไหนถึงมั่นใจขนาดนี้?”
“คงได้หยวนเค่อช่วย” จี้เหว่ยเดาสุ่ม
หลิวเปาเฉินยังคงสั่งการผ่านระบบอินเตอร์คอม ”เราจะแบ่งกันเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกคือทุกทีมให้ไปดักรออยู่ข้างห้องหม้อไอน้ําส่วนอีกกลุ่มคือรองผู้หมวดฉินให้ผู้คนติ ดตามไปด้วยสองคนเฝ้าประตูฝั่งตะวันตกไว้”
ฉินอวี่สบถเบาๆ ” หนอย หมอนคิดจะทําอะไรกันแน่…ทําไมไม่ให้ฉันนําทีมบุกวะ”
“สงสัยคงอยากแก้แค้นเรื่องส่วนตัวมั้งครับ” จี้เหว่ยพูดหัวเราะ“เอาเถอะ หัวหน้าพาพาเสียวห่าวกับกั่วเงินไปด้วยเดี๋ยวผมจะนําทีมที่เหลือไปสมทบทีมจู่โจมเอง”
“อืม เอางั้นก็ได้” ฉินอวพยักหน้าบนถนน
อาเซียวสวมหมวกแก๊ปยืนอยู่ข้างถนน ในมือถือโทรศัพท์คุยกับต้าฮ่วง “ถามพวกนั้นรึยังว่าจะเอาอะไรเพิ่มไหม? ฉันสั่งบะหมี่เสร็จแล้วรอแค่เครื่องเคียงโอเคเข้าใจแล้ว”
หลังจากุยกันเสร็จอาเซียวก็รับบะหมีจากเจ้าของร้านก่อนสั่งเพิ่ม “ขอเต้าหูถั่วกับเนื้อวัวให้ฉันด้วย”
.
“ได้ เดี๋ยวเอามาให้” เจ้าของร้านตอบและเดินไปที่เคาน์เตอร์เพื่อเตรียมของให้
ห้านาทีต่อมา อาเซียวนําอาหารกลับไปที่รถเขาเปิดเพลงวิทยุฟังและขับรถกลับอพาร์ตเมนต์ถนนเมเปิลอย่างสบายใจ
และเนื่องจากระยะทางอยู่ไม่ไกล ทําให้ขับรถไม่ถึงสิบนาทีก็ถึงที่หมาย อาเซียวติดนิสัยชอบจอดรถห่างจากที่อยู่ไม่ว่าเขาจะตอนทํางานหรือไม่ก็ตาม เมื่อเกิดกรณีฉุกเฉินจะได้มีทางหนีทีไล่
เขาเลือกจอดรถไว้ริมถนนซึ่งห่างจากบล็อกแปดราวสองร้อยเมตร จากนั้นจึงเดินทอดน่องริ้วอาหารไปทางเข้าอพาร์ตเมนต์ที่อยู่ด้านข้าง
ทว่าทันทีที่เดินเข้าไปถึงลานกว้าง เขาก็สังเกตว่าประตูเล็กฝั่งตะวันตกกําลังขยับ เขาคิดว่าคงมีใครบางคนออกมาเดินที่ลานเหมือนกันจึงไม่ได้ใส่ใจ ขณะกําลังเลี้ยวตรงมุมตึกเขาก็สังเกตเห็นอีกว่าบริเวณหน้าห้องหม้อไอน้ําทางด้านซ้า ยซึ่งปกติไม่มีใครผ่านมีรอยเท้าอยู่เต็มไปหมด
อาเซียวมองดูรอยเท้าครู่หนึ่งและหยุดเดินโดยไม่รู้ตัวเขาทํางานที่ต้องใช้ความรอบคอบมานานจึงอ่อนไหวต่ อตําแหน่งรายละเอียดที่คนอื่นไม่มองกันทําให้เขารู้ สึกเป็นกังวลอย่างมากกับสิ่งผิดปกติที่เห็น
ความร้อนใจปะทุขึ้นทันที เพราะยิ่งมองยิ่งทําให้เขารู้สึกกระวนกระวายลานกว้างของอพาร์ตเมนต์ที่คุ้นเคยมีบางอย่างผิดแปลกไป
อาเซียวรวบหิวอาหารไว้ในมือข้างเดียวและหยิบหันหลังกลับพร้อมใช้มือที่ว่างล้วงโทรศัพท์ออกมา
“กรึง!”
ทันใดนั้นโทรศัพท์ดังขึ้นก่อนที่เขาจะได้ทําอะไรเมื่อมองดูหมายเลขที่ปรากฏบนหน้าจอ เขาจึงหันกลับไปมองทางห้องหม้อไอน้ําอีกครั้ง
ฝั่งหลิวเปาเฉินเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์จึงรีบออกคําสั่งผ่านอินเตอร์คอมว่า “มีคนอยู่ข้างนอก ทุกคนเงียบเสียงไว้รอจนกว่าทีมฝั่งทางเดินจะพร้อม”
อาเซียวรับโทรศัพท์เดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆ”มีอะไร?”
“นายพลาดแล้ว หลิวเปาเฉินนําทีมล้อมอพาร์ตเมนต์ไว้หมดแล้ว” ปลายสายตอบเสียงเรียบ
อาเซียวฉับพลันชะงักฝีเท้าก่อนตะคอกกลับด้วยความลนลาน “ทําไมไม่บอกให้มันเร็วกว่านี้วะ!”
“ก็หลิวเป่าเฉินมันไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลปฏิบัติการแล้วฉันจะบอกได้ยังไง?”
“แม่งเอ๊ย!” อาเซียววางสายทันทีเขาโยนบะหมีทิ้งและกดหมายเลขโทรหาหลีจือ
ในเวลาเดียวกัน ชายสี่คนเดินข้ามทางออกมาอย่างรวดเร็วพวกเขาจะแต่งกายด้วยชุดลําลองแต่ถือปืนไว้ในมือ
เวลาเดียวกัน ชายสี่คนสวมชุดลําลองถือปืนตรงเข้ามาหาเขาจากประตูทางออก ดูจากสภาพแล้วคงเป็นตํารวจฝึกหัด
ตํารวจทั้งสิ้นายและอาเซียวต่างชะงักเมื่อเผชิญหน้ากัน