Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9 - ตอนที่ 240 หาหุ้นส่วน
ตอนที่ 240 หาหุ้นส่วน
ในห้องหนึ่งของจอยพาเลซที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและโห่ร้องยินดีให้กับหม่าเหล่าเอ๋อ
หลังจากดื่มมานานกว่าหนึ่งชั่วโมง หม่าเหลาเอ๋อเหลือบมองนาฬิกาก่อนตะโกนเรียกหลิวจื้อชูที่อยู่ด้านข้าง “พี่หลิว โทรถามเฒ่าเปยให้หน่อยว่าเขาจะมารีเปล่า?”
“ฮ่าฮ่า!” ชายร่างใหญ่ที่อยู่ทางขวามือยิ้มและยกมือขึ้นเป็นเชิงห้าม “เชื่อฉันเถอะ ไม่ต้องเรียกเขามาหรอก”
“ทําไมล่ะ?” หม่าเหลาเอ๋อตะลึง “ฉันจะเรียกเขามาคุยกันที่นี่”
“ขึ้นนายโทรไปเขาปฏิเสธนายแน่ และคงจะหาข้ออ้างบ่ายเบี่ยง” ชายร่างใหญ่ยิ้มพลางพูดเสียงเรียบ “หม่าเหล่าเอ๋อนายเรียกเรามาทําอะไรที่นี่ล่ะ?”
หม่าเหลาเอ้อนิ่งไปครู่หนึ่ง “ก็ชวนทุกคนมาสนุกด้วยกันไงล่ะ”
“งั้นเหรอ?” ชายร่างใหญ่ถามด้วยความแปลกใจ “ไม่ใช่ว่ามีแผนอะไรอยู่ในใจเรอะ?”
“คุณคิดว่าไงล่ะ?”
“นายและหยวนเค่อต้องการสร้างชื่อในช่วงนี้ ” ชายร่างใหญ่พูดต่อ “ช่วงนี้หยวนเค่อวางแผนเส้นทางยาเน้นไปที่เจียงหนาน และนายคงคิดใช้โอกาสนี้รวบรวมคนของนายให้มากที่สุดสินะ”
“ฮ่าฮ่า” หม่าเหลาเอ๋อยิ้ม “คุณนี่มันฉลาดเกินไป”
“ไม่ขนาดนั้นหรอก ถ้านายลองมองทุกอย่างเป็นภาพรวมนายก็จะเห็นเอง” ชายร่างใหญ่มองรอบห้อง “เหล่าคนที่มากล้นในวันนี้ล้วนเกี่ยวข้องกับตระกูลหม่าของนาย แต่ฝั่งไหนล่ะที่ไม่ได้มา?”
“ฉันเข้าใจสิ่งที่นายหมายถึงแล้ว” หม่าเหลาเอ๋อพยักหน้า
“คนอื่นฉันไม่รู้นะ แต่เฒ่าเปยเป็นเจ้านายที่มีทรัพยากรเยอะไม่ว่าจะด้านคนหรือเงิน” ชายร่างใหญ่มองกลับมาที่หม่าเหลาเอ๋อ “นายเลยต้องการให้เขามาอยู่ฝั่งเดียวกับนาย”
“หยวนเค่อจะคุยกับเขาเหมือนกันไหม?” หม่าเหลาเอื้อถามพลางสูบบุหรี่
“แน่นอน” ชายร่างใหญ่พูดโดยไม่ลังเล “ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเฒ่าเปยเหมือนจะลงทุนไปกับการค้าประเวณีและการพนันทําให้ประชาชนไม่พอใจ เขาเป็นคนรวยมากแต่ก็มีบางอย่างเกี่ยวข้องกับเขาหลายส่วน หยวนเค่อเองก็ต้องการเพิ่มสาขากระจายไปเขตเจียงหนานจึงต้องหาคนสําคัญสักสองสามคน ฉันเลยเดาว่าเขาคงคุยกับเฒ่าเปยแล้ว ไม่อย่างนั้นเขาก็คงจะมาที่นี่ เออ! ใช่แล้ว. ปีก่อนเฒ่าเปยไม่ได้ตั้งบริษัทก่อสร้างแต่ไปเข้ายึดงานก่อสร้างของฐานทัพในเฟิงเปย นายรู้รึเปล่าว่าเขาเอาคนงานมาจากไหน?”
“ที่ไหน?” หม่าเหลาเอ๋อถาม
“เขาเกณฑ์คนไปจับเด็กในพื้นที่โครงการ” ชายร่างใหญ่ตอบขณะก้มหน้าลง “เฒ่าเปยจับเด็กในช่วงอายุสิบห้าสิบหกปีอาจเพราะเด็กเหล่านี้หลอกล่อง่ายเพียงให้อาหารพวกนั้นซะ”
“แล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้นเหรอ?” หม่าเหลาเอ๋อแปลกใจ
“ปีที่แล้วคนหลายสิบในไซต์ก่อสร้างของเขารวมตัวกันประท้วงแต่ลูกน้องคนหนึ่งของเขาที่เมาอยู่ก็ยิงพวกนั้นไปสี่ห้าคนจึงทําให้ทุกอย่างก็แย่ลงไปอีก” ชายร่างใหญ่ตอบด้วยเสียงทุ่มต่ํา “ฉันได้ยินมาว่าครั้งนั้นเฒ่าเปยใช้เงินไปถึงสี่แสนห้าหมื่นหยวน”
“แต่เขาก็รวยมากอยู่แล้วนี่นา”
“เขาไม่เพียงแต่รวยแต่ยังเจ้าเล่ห์อีกด้วย! นายเห็นไหมว่าเขารับงานก่อสร้างและปล่อยให้คนไปทํางานบนภูเขาและเขาก็ไปทําธุรกิจค้ามนุษย์ เขาไม่อยู่ในเขตพิเศษที่เก้าด้วยซ้ํา พอเกิดเรื่องเขาก็แค่ใช้เงินแก้ปัญหาแต่ก็ยังยากที่จะตามตัวเขาอยู่ดี” ชายร่างใหญ่อธิบายอย่างละเอียด
“ก่อนหน้านี้ฉันไม่ได้ค่อยติดต่อกับเขาเลย และไม่รู้ว่าเขากําลังทําสิ่งเหล่านี้อยู่หรือเปล่า” หม่าเหลาเอ๋อส่ายหน้า
“ฉันว่านายต้องชวนเขามาทําธุรกิจส่งยาด้วยกันแล้วล่ะ ให้เข้ารับส่วนแบ่ง อย่างน้อยนายก็เอาโบนัสไปเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์!” ชายร่างใหญ่พูดอย่างจริงจัง “ไม่งั้นตาเฒ่านั้นคงไม่เข้าร่วมกับ นายหรอก”
“เจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์?! ฉันต้องจ่ายเท่าไหร่กันล่ะ?” หม่าเหล่าเอ๋อตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน “เป็นไปไม่ได้หรอก”
“ถ้านายไม่ยอมจ่าย เฒ่าเปยก็จะไปอยู่ข้างหยวนเค่อ” ชายร่างใหญ่ตอบอย่างตรงไปตรงมา “ตอนนี้ในรัฐพื้นทมิฬ เฒ่าเปยเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้วถ้าต้องการทําธุรกิจนี้ต่อไป”
“ฉันต้องตกลงเรื่องผลประโยชน์กับเขาดีๆ พอเป็นหุ้นส่วนกันแล้วสิ่งนี้จะทําให้อิทธิพลของหยวนเค่ออ่อนลง” หม่าเหลาเอ๋อขมวดคิ้ว “แต่ถ้าเขาทําธุรกิจนี้จริง ฉันก็ไม่อยากที่จะมาคอยเอาอกเอาใจเขาไปตลอด!”
“นายคิดว่า…”
“งานนี้มันเกินตัว” หม่าเหลาเอ๋อพูดอย่างตรงไปตรงมา “ตอนนี้ฉันรีบสร้างสาขาใหม่อยู่ ฉันไม่สามารถเป็นหุ้นส่วนกับคนนี้ได้หรอกไม่งั้นถ้าเงินขาดฉันคงทําอะไรไม่เสร็จสักที”
ชายร่างใหญ่นั่งนิ่งอยู่นาน ทันใดนั้นเขาก็หยิบแก้วขึ้นมาและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับตัวหม่าเหลาเอ๋อ “นายดูมั่นคงกว่าเมื่อก่อนนะ”
“อย่าพูดเรื่องอื่นเลย…มาชนแก้ว!” หม่าเหลาเอ๋อก็หยิบแก้วขี้นมา
“เดี๋ยว!” ชายร่างใหญ่หยุดครู่หนึ่งก่อนถามด้วยรอยยิ้ม “งั้นฉันจะได้อะไรถ้าฉันเป็นหุ้นส่วนกับนาย?”
“คุณกับลุงของฉันเป็นเพื่อนกัน คุณเป็นคนตั้งราคา…ถ้าราคามันยุติธรรมฉันก็จะไม่ต่อรอง” หม่าเหลาเอ๋อตอบอย่างตรงไปตรงมา
หลังจากไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งชายร่างใหญ่ก็ชูสามนิ้วแล้วพูด “ฉันไม่จ่ายเงินนะ แต่จะขายยาให้นายและเอากําไรไปสามสิบเปอร์เซ็นต์ ถ้ามีอะไรผิดพลาดฉันจะรับผิดชอบเอง!”
“ตามนั้นเลย” หม่าเหลาเอ๋อพยักหน้าและตอบอย่างรวดเร็ว
“งั้นก็ชนแก้ว!”
หลังพูดจบทั้งสองก็จิบไวน์
เวลาห้าทุ่มตรง
ข่าวเปาทํางานล่วงเวลาอยู่ในห้องทํางาน กําลังดูข้อมูลจํานวนมากในคอลัมน์กฎหมายด้วยความหงุดหงิด “ฉันจะหาคดีที่น่าสนใจได้จากไหนล่ะเนี่ย!”
“กริ้ง!”
ขณะกําลังพึมพําอยู่โทรศัพท์ก็ดังขึ้น
“มีอะไร?!” จ่าวเปารับโทรศัพท์ด้วยความหงุดหงิด
“ที่รักจําฉันได้ไหม? ฉันลิซ่าเอง”
“ละ..ลิซ่า?!”
“คนที่อยู่กับคุณในห้องน้ํา” ลิซ่าเตือนความจํา
ข่าวเปาชะงัก “แล้วมีอะไรกับฉันเหรอ?”
“ออกไปเดินเล่นกันไหม? วันนี้ฉันไม่ได้ออกไปทํางานนะ!”
“วันนั้นฉันแค่เมา ไม่งั้นคงไม่ไปลงเอยที่ห้องน้ําหรอกเข้าใจ ไหม?!” จ่าวเปาทิ้งคําพูดไว้แล้ววางสายไป
หลังจากนั้นสองชั่วโมง
จ่าวเปาดูเทปบันทึกที่เป็นรายงานเกี่ยวกับสาวขายบริการ เขาก็อดไม่ได้ที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
“ฮัลโหล? ลิซ่าใช่ไหม? เธอรีบไปไหนรึเปล่า?”
จ่าวเปาเอนกายอยู่บนเก้าอี้และถามด้วยเสียงหุ้มต่ํา
บนถนนในพื้นที่โครงการ รถบรรทุกคันหนึ่งขับมาอย่างเชื่องช้าคนขับกําลังเคี้ยวยาระงับประสาทที่ห้ามขายก่อนจะพูดโพล่งออกมาทันที “นั่นไง! ฉันเห็นแม่ของนายแล้ว…ดูสิ”