Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9 - ตอนที่ 256 นั่งโง่ๆ ในรถ
Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9 Special District 9 ตอนที่ 256 นั่งโง่ๆ ในรถ
ตอนที่ 256 นั่งโง่ๆ ในรถ
ชายหนุ่มตกใจ “ลูกพี่จะหาซื้อยาแบบพวกหม่าบ้างเหรอครับ?”
เปยเตอหยงเงยศีรษะขึ้นอย่างช้ามองหน้าอีกฝ่ายครู่หนึ่งก่อนพูด “ฉันแค่สงสัยนะ”
“ครับ” ชายหนุ่มตอบรับโดยไม่ถามอะไรอีก
“เอาล่ะ อีกเดี๋ยวนายคงจะยุ่งแล้ว ฉันไปก่อนนะ” เปยเตอหยงลุกขึ้นแล้วเดินออกประตูไป
หลังจากนั้นชั่วโมงครึ่ง
เปยเตอหยงไปพบกับชายวัยกลางคนหนวดเครารุงรัง โดยนั่งดื่มชากันอยู่ในบ้านย่านถนนหนานหยาง เขาเป็นหนึ่งในหัวหน้าของกลุ่มเปยเตอหยงรองจากหนิวเจนและฉวี่หยาง แต่เรื่องความสัมพันธ์แล้วเขาสนิทกับเปยเตอหยงมากที่สุดเพราะรับผิดชอบงานสกปรกเป็นหลัก ทั้งยังฟังคําสั่งของเปยเตอหยงเท่านั้น
“อยากรู้แหล่งผลิตยาของพวกหม่าสินะ” ชายคนนั้นถาม
“อืม” เปยเตอหยงพยักหน้า
“น่าจะยากเอาการ ฉันได้ยินมาว่าฉินอวี่ก็รู้เรื่องนี้ เขายิ้มและกล่าวต่อ “ฝ่ายผลิตดูเหมือนจะไม่อยู่แถวซ่งเจียงเลย แม้แต่หยวนเค่อและประธานสิงแห่งเฟิงเปยก็ยังไม่เคยคิดตามหา ฉันเลยพูดว่ามันค่อนข้างยากสําหรับเราถ้าจะทําแบบนั้น”
“ไม่ ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น” เปยเตอหยงโบกมือแล้วพูดต่อ “ฉันไม่ได้ต้องการหาแหล่งผลิตยาซะหน่อย ถ้าจะหาจริงๆ คงต้องให้เงินเยอะพอสมควร ต่อให้รู้ไปยังไงก็ช่วยอะไรไม่ได้มากอยู่
“แล้วหมายความว่าไงล่ะ?” ชายหนวดรุงรังทําหน้าสงสัย
“อย่างที่นายพูดเมื่อกี้” เปยเตอหยงหยิบบุหรี่ออกมาจากกล่อง แล้วตอบอย่างนุ่มนวล “แหล่งผลิตยาไม่ได้อยู่แถวซ่งเจียง และเหมือนจะอยู่ไกลซะด้วย สิ่งที่ฉันอยากรู้คือคนส่งของฉันอยากเจรจากับคนส่งของพวกนั้นเข้าใจไหม?”
ชายหนวดรุงรังก็ตะลึงหลังสิ้นประโยคนั้น “รู้แล้วจะมีประโยชน์อะไร?”
“เฮอะ! ประโยชน์บานเลย” เปยเตอหยงก้มลงจุดบุหรี่สูบ “มันทําให้ฉันรู้การเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายได้โดยไม่ต้องทําอะไรมากน่ะสิ!”
“โอเค” อีกฝ่ายพยักหน้า
เปยเตอหยงทอดสายตาไปข้างนอกหน้าต่างขณะพึมพํา “เรื่องอํานาจทางตํารวจฉันอาจไม่ได้มีมากเท่าฉินอวี่และเฒ่าหลี่ แต่เรื่องกลยุทธ์ฉันมั่นใจว่าเราเหนือกว่าพวกนั้น”
ช่วงดึกบริเวณทางเข้าของบริษัทขนส่งจี้เฉิง มีรถกระบะขับผ่านเข้าไปในลานสินค้าและหยุดที่หน้าประตูทางเข้าอาคาร
ชายที่เพิ่งคุยกับเปยเตอหยงเปิดประตูรถลงมาและผลักประตูเข้าไปในอาคาร
“ลูกพี่ลือ!”
“ลูกพี่ลือ!”
ห้องนั่งเล่นชั้นแรก ชายสองคนกําลังว่างและเล่นไพ่อยู่ก็ลุกขึ้นทักทายชายที่เพิ่งเข้าห้องมา
เสี่ยวจือเหลือบมองลงที่โต๊ะโป๊กเกอร์พลางขมวดคิ้ว “อย่าเพิ่งเล่น ฉันมีอะไรจะพูดสักหน่อย”
ชายสองคนทิ้งไพ่ในมือของพวกเขาทันที
เสี่ยวจือทิ้งตัวลงบนโซฟาและเงยหน้าอธิบายให้ทุกคนฟัง “ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปงานของเราจะหยุดไปก่อน พวกนายก็เตรียมตัวไปโกดังใหญ่เราจะส่งยากัน”
“แค่ชั่วคราวใช้ไหมพี่” ชายคนหนึ่งถามด้วยความสงสัย
“ใช่” เสี่ยวจือพยักหน้า “เปยเตอหยงสั่งมาว่าให้ฉันจดจ่ออยู่กับการส่งยาสักพัก”
“เข้าใจแล้วครับ”
ทุกคนพยักหน้า
เสี่ยวจือตบต้นขาของเขาและบอกกับทุกคนอีกครั้ง “พวกนายไปทําความสะอาดห้องคนขับก่อน”
“แล้วอีกสามงานที่เหลือเรายังต้องทําอยู่ไหมพี่?” ชายคนหนึ่ง
ถาม
“พวกเขาไม่ได้แวะมาแล้ว” เสี่ยวจือส่ายหัว “คราวนี้พวกนั้นรีบไปส่งแล้วก็กลับบ้านเลย ไม่ได้เข้าซ่งเจียง”
“อ่อ เข้าใจแล้วครับพี่” ชายคนนั้นพยักหน้า
หลังจากคุยกันทุกคนก็เริ่มจัดการกับหน้าที่ตัวเอง
แก๊งค้ามนุษย์กลุ่มนี้มีความรอบคอบในการทํางาน พวกเขาพบเอกสารที่ไร้ประโยชน์ในห้องพักของคนขับ เป็นสมุดบัญชีเล่มเล็ก และแผ่นกระดาษในการชําระเงินของหนิวเจน พวกเขาเผามันทั้งหมดก่อนล้างด้วยน้ํา
ห้าวันผ่านไปในพริบตา
จ่าวเปาและถังหยวนนั่งอยู่ในรถตู้รอการเคลื่อนไหวของพวกค้ามนุษย์อย่างใจจดจ่อบริเวณหน้าบริษัทขนส่งจี้เฉิง แต่ก็ไม่เจออะไรเลย
ในรถ
ผมจ่าวเปายุ่งเหยิงใบหน้าเต็มไปด้วยหนวดเครา เสื้อผ้าพวกเขาส่งกลิ่นเหม็นออกมาเขามองไปที่อาคารบริษัทขนส่งจี้เฉิงและพูด “ไม่ได้การล่ะ ฉันรู้สึกว่าเราเป็นไอ้โง่แล้วล่ะเพื่อน”
“นายหมายความว่าไง?” ถังหยวนเหล่ถาม
“เรานั่งจับเจ่าอยู่ที่นี่มาสามวันแล้วไม่ใช่รึไง?” จ่าวเปาพูดอย่างเบื่อหน่าย “แล้วพวกนั้นล่ะ รถสักคันยังไม่เห็นเลย ไหนบอกว่านี่คือรังพวกค้ามนุษย์มาดูทุกวันไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรเลย แน่ใจเหรอว่ามีคนข้างในนะ?”
ถังหยวนถอนหายใจ “บ้าจริงๆ มันไม่น่าเป็นอย่างนี้ได้! ก่อนหน้านี้ก็มีรถมาแวะเวียนตลอด แล้วทําไมกลับเงียบอย่างกับป่าช้าอย่างงี้ล่ะเนี่ย?”
“มันไม่ง่ายเหมือนในหนังหรอกนะ” จ่าวเปาหมดหวังกับวิธีนี้แล้ว ทั้งคู่เงียบไปพักหนึ่งท่ามกลางสนามหญ้าอันเงียบสงบ จ่าวเปาก็ถามด้วยน้ําเสียงเศร้าสร้อย “นายมีเบาะแสอื่นอีกไหม?”
“ไม่ มีแต่วิธีนี้เท่านั้นแหละ” ถังหยวนสายหัว
“เพื่อนเราควรเอารถตู้ไปคืนได้รึยัง? นี่มันรีดเลือดกับปูชัดๆ” จ่าวเปาถามกลับ
ถังหยวนตะลึง “ดูนายสิ! จะยอมแพ้ง่าย ๆ ได้ยังไง?”
“ไม่มีใครอยู่เลย มาที่นี่ทุกวันเพื่อจับผีล่ะสิ!” จ่าวเปาพูดต่อ “ถ้าจะทําต่อเราก็ต้องเปลี่ยนแผนแล้วล่ะ คิดให้ดีๆ”
ถังหยวนคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ฉันว่าฉันจะรออีกหน่อย พวกนั้นอาจมีการปรับเปลี่ยนบางอย่างภายในอย่าห่วงเลย”
ในบ้านเลขที่แปดสิบแปด
หลินเหนียนเลยตะโกนเสียงดังเรียกฉินอวี่ “ฉินอวี่ อากาศเย็น ก็อกน้ําเลยแข็งเปิดไม่ออก ช่วยมาดูให้ฉันหน่อยสิ”
“นี่….อย่าเรียกเสียงดังนักสิ!” ฉินอวี่ผลักประตูออกมาจากห้อง และข้ามระเบียงไปอย่างรวดเร็วก่อนเดินไปเปิดประตูห้องหลินเหนียนเลย
หลินเหนียนเลยสวมชุดโยคะและกําลังหวีผมอยู่ “ฉันกําลังจะอาบน้ํา แต่ก็อกน้ําดันมาใช้งานไม่ได้น่ะสิ”
“เธอเข้าใจความสัมพันธ์ของเราคลาดเคลื่อนไปรึเปล่า?!” ฉินอวี่มองหลินเหนียนเลยและถาม “ฉันสนุกกับการดูแลเพื่อนบ้านของฉันทุกวัน แต่เธอทําก็อย่างกับฉันเป็นสามี! มันไม่ประจวบเหมาะไปหน่อยเรอะ หรือเธอแค่เห็นฉันเป็นคนใช้กันแน่?”
“แล้วพูดอย่างงี้จะสื่ออะไร?” หลินเหนียนเล่ยเท้าสะเอวถาม
“หลังจากซ่อมก๊อกน้ําเสร็จ ให้ฉันจะอาบน้ําด้วยเลยดีไหม?” ฉินอวี่ถามด้วยรอยยิ้ม
“ตาบ้านี่! รีบไปซ่อมเลย!” หลินเหนียนเลยหน้าแดง
ฉินอวี่ยิ้มและเดินเข้าไปในห้อง
“กริ้ง”
ทันใดนั้นโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
ฉินอวี่หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วชะงักไปทันที “ หมายเลขนอกเขตเฟิงเปย อาจเป็นหัวหน้าของเจ้าเขี้ยวล่ะมั้ง…”