Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9 - ตอนที่ 153 เกมของหวู่เหย้า
Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9 Special District 9 ตอนที่ 153 เกมของหวู่เหย้า
หวู่เหย้าเป็นลูกชายของสมาชิกวุฒิสภาแห่งสภารัฐเจียงหนาน
เพื่ออธิบายถึงอํานาจหน้าที่ของวุฒิสมาชิกของสภาในแต่ละรัฐ ต้องทําความเข้าใจก่อนว่าเขตพิเศษที่เก้านั้นมีโครงสร้างการปกครองซึ่งเป็นอิสระแตกต่างจากเขตที่เจ็ดและแปด ทําในสามมณฑลของเขตพิเศษที่เก้ามีนายกเทศมนตรีเป็นผู้ดูแลเพียงคนเดียวโดยไม่มีคนควบคุมดูแลแยกในแต่ละรัฐ
เพราะฉะนั้นจึงต้องมีหน่วยงานที่เป็นตัวแทนคอยควบคุม เช่น สํานักงานตํารวจรัฐพื้นทมิฬ และสํานักงานตํารวจรัฐเจียงหนาน ที่ช่วยจัดการเรื่องความสงบเรียบร้อย ส่วนด้านการเมืองกับความเป็นอยู่ของประชาชนต่างๆก็คือสภาแห่งรู้
สภาในแต่ละรัฐจะมีประธานวุฒิสมาชิกซึ่งทําหน้าที่นํา ปัญหาต่างๆ ขึ้นถูกที่สภานิติบัญญัติ เพื่อให้สมาชิกช่วยกันลงคะแนนเสียงว่าจะนําไปต่อยอดเป็นนโยบายหรือไม่
สําหรับการคัดเลือกผู้ที่จะเข้ามาทําเป็นหน้าที่ประธานวุฒิสมาชิกมีสองวิธี คือได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลหรือ ได้คะแนนเสียงตามความนิยมของประชาชนในรัฐนั้นๆ เช่นเดียวกันหวี่เหวินเชิงพ่อของหวู่เหย้าซึ่งเป็นประธานวุฒิสมาชิกที่ได้รับเลือกจากคะแนนโหวตสูงสุดในรัฐเจียงหนาน
เห็นได้ชัดว่าตระกูลหวี่มีอิทธิพลในเจียงหนานมาก และเพราะเหตุนีหยวนเค่อจึงบอกให้หัวโล้นแนะนําเขากับหวู่เหย้า แตกต่างจากยุคของหยวนหัวที่จํากัดอํานาจ แค่ในรัฐพื้นทมิฬในขณะที่เขามองไกลกว่านั้น
หยวนเค่อใช้เส้นสายของหัวโล้นเพื่อผูกมัดคนสี่คนด้วยอิทธิพลในฮ่งเจียง โดยหวังว่าจะใช้ประโยชน์จากพวกเขาในการขยายธุรกิจค้ายา
กลางดึก
นอกจากหวู่เหย้าแล้ว หยวนเค่อยังไม่เคยเจออีกสามคนที่เหลือ
ในคฤหาสน์เริงรมย์ กลุ่มพนักงานสาวทั้งหลายนั่งปรนเปรอพวกลูกน้องขณะที่หยวนเค่อกําลังคุย กับหวู่เหย้าอยู่บนโซฟา “ว่าไงเสี่ยวหวู่ สรุปนายสนใจขายยากับพวกเรารึเปล่า?”
หวู่เหย้าเกาผมแดงของตนด้วยความงุนงงก่อนถามกลับ “ก็หมายความว่าคุณอยากให้พวกผมเป็นลูกน้องคุณใช่ไหม?”
“ฮ่าๆๆ!” หยวนเค่อหัวเราะเมื่อได้ยินคําถาม
“คุณหัวเราะอะไร? พวกผมไม่ใช่พวกคนแก่หงําเหงือกที่ต้องเลี้ยงไวน์แล้วพูดจาสุภาพเข้าหา มาพูดกันอย่างตรงไปตรงมาเถอะผมไม่ถือ” หวู่เหย้าพูดเป็นกันเอง “ที่นี้ คุณจะบอกผมได้หรือยังว่าอยากให้พวกเราเป็นหุ้นส่วนหรือลูกน้อง?”
หยวนเค่อเงียบไปครู่หนึ่งก่อนตอบคําถาม “งั้นนายช่วยตอบคําถามฉันข้อหนึ่งก่อนได้รึเปล่า?”
“ว่ามาเลยครับ”
“สําหรับนายแล้วระหว่างผลประโยชน์กับจุดยืนอะไรสําคัญกว่ากัน?”
หวู่เหย้าตกตะลึงกับคําถามก่อนตอบอย่างไม่ลังเล “สําหรับนักธุรกิจผลประโยชน์ต้องมาก่อนอยู่แล้ว”
“ถ้างั้นตามที่นายว่า จะเป็นหุ้นส่วนหรือลูกน้องมันสําคัญด้วยงั้นเหรอ?” หยวนเค่อยิ้มก่อนพูดต่อ “สิ่งสําคัญคือกําไรที่ฉันแบ่งให้มากกว่า พวกฉันจะไม่เข้าไปยุ่มย่าม กับบริษัทนายนอกจากปล่อยของกับตั้งยอดขายไว้ทุกเดือนเท่านั้น อีกสามเดือนจากนี้ก็รอรับเงินได้เลย ที่เหลือค่อยว่ากัน”
“ก็ไม่แย่” หลังคํานวณดูแล้วหวู่เหย้าจึงพยักหน้ารับ
“ถ้านายยังคิดไม่ตกว่าจะลงทุนกับสินค้าฉันดีหรือเปล่า ฉันจะปล่อยล็อตเล็กๆให้นายไปลองก่อน ถ้าขายได้แล้วค่อยจ่ายคืน” หยวนเค่อแนะนําข้อเสนอที่น่าสนใจให้หวู่เหย้า
หวู่เหย้ารู้สึกประหลาดในเล็กน้อยเมื่อได้ยิน “แล้วบริษัทจะไม่ว่าเอาเหรอถ้าทําแบบนั้น?”
“ไม่เป็นปัญหา ฉันจะใช้เงินส่วนตัวออกให้ก่อน” หยวนเค่อตอบอย่างไม่ใส่ใจ
“ถ้างั้นผมตกลง!”
“ชนแก้วกัน”
“ชนแก้ว!”
ทั้งสองชนแก้วไวน์เพื่อฉลองการทําธุรกิจ
หลังเจรจาธุรกิจเสร็จสรรพ เหล่าชายฉกรรจ์ต่างพากันกระหน่ำกินแอลกอฮอล์จนเริ่มเมามาย หวู่เหย้าผู้หมกมุ่นเรื่องเซ็กซ์พยายามหาเกมต่างๆ มาเล่นเพื่อเพิ่มความสนุกตลอดงานเลี้ยงยามค่ําคืน
“เฮ้ๆ ทุกคนฟังทางนี้ เรามาเล่นเกมกันเถอะ!” หวู่เหย้าตะโกนเพื่อเรียกร้องความสนใจ
“เกมอะไรล่ะ?”
“เกมเลือกมังกร”
“อะไรคือเกมเลือกมังกร?” หยวนเค่อเป็นคนรักงาน เขามาที่นี่เพื่อเจรจาธุรกิจอยู่หลายครั้งแต่ไม่เคยสนใจเกมที่คนอื่นเล่นกัน
“เป็นเกมง่ายๆ” หวู่เหย้าเริ่มอธิบายด้วยน้ําเสียงตื่นเต้น “เราจะเริ่มจากการปิดไฟ จากนั้นให้น้องหนูคนหนึ่งถอดบราและส่งต่อให้คนทางซ้าย พอส่งแล้วก็ให้หลับตาหันหลัง ส่วนพวกเราที่เหลือก็ส่งบราทวนเข็มนาฬิกาไปเรื่อยๆ จนกว่าเธอจะบอกให้หยุด ใครที่ถือบราอยู่ต้องก้าวออกมา จากนั้นก็ทําวนอีกรอบเพื่อหาอีกคนสุดท้ายแล้วสองคนที่ถูกเลือกจะได้มีอะไรกับเจ้าของบรา”
หยวนเคอตกตะลึง “กลางวงเลยเหรอ?”
“จะบ้าเหรอ! ใครจะบ้าจี้มาทํากลางวงกัน ในห้องน้ํานุ่นสิ” หวู่เหย้าตอบพลางหันไปทําหน้าตาหยอกเย้าหยวนเค่อ “เป็นไงครับ.ตื่นเต้นดีไหม?”
ถึงจะค่อนข้างตกใจ แต่สุดท้ายหยวนเค่อก็เออออพยักหน้า “ก็น่าตื่นเต้นดี มาลองเล่นกัน”
“มาๆๆ เริ่มเลย!” หวู่เหย้าตบมือเรียกทุกคนให้มาล้อมวง
“เดี๋ยวนะ คนน้อยไปรึเปล่าครับลูกพี่หวู่? ให้ผมหาคนมาเพิ่มไหม?” หนึ่งในลูกน้องถาม
“ได้สิ ไปหามา” หวู่เหย้าโบกมือไล่ “ขอคนหล่อๆมาสักสองคนนะ”
หยวนเค่อหัวเราะ “นายนี่เอาใจพวกผู้หญิงน่าดูเลยนะ ถึงกับลงทุนเลือกคนหล่อๆมาให้”
เหล่าพนักงานสาวเมื่อได้ยินดังนั้นต่างพากันกระหยิ่มยิ้มย่อง หนึ่งในนั้นกะพริบตายิ้มให้หยวนเค่อ “พี่หยวนคะ ไหนๆก็สุ่มเลือกคู่อยู่แล้ว ในเมื่อมีคู่ชายหญิง ก็ต้องมีคู่ชายชายด้วยสิคะ!”
หยวนเคอตกตะลึง “มะ…หมายความว่าไง?”
“ไม่เข้าใจจริงเหรอครับ? หมายความว่าเราก็มีโอกาสเข้าห้องน้ําด้วยกันไงล่ะ!” หวู่เหย้าตอบแทน “เฮ้ใครพกโลชั่นมาบ้าง? ขอให้ลูกพี่หยวนขวดหนึ่งสิ!”
“อย่ามาตลก!” หยวนเค่อปฏิเสธทันควัน “ไม่เอาเว้ย! อยากเล่นก็เล่นกันเอง!”
“ฮ่าๆๆ!”
ทุกต่างพากันระเบิดเสียงหัวเราะ ผู้หญิงที่นั่งกับหยวนเค่อหันมาพูดว่า “เขาแค่ล้อเล่นนะค่ะ พวกผู้ชายเป็นของคุณหวู่ ถ้าใครถูกเลือกในเกมแล้วไม่อยากทําก็ให้กระดกไวน์หมดแทน”
“อ๋อ…เข้าใจล่ะ ถ้างั้นคงไม่เป็นไรมั้ง” หยวนเค่อถอนหายใจอย่างโล่งอก
สามชั่วโมงต่อมา งานเลี้ยงก็ถึงเวลาเลิกรา ทุกคนต่างเมาจนแทบไม่มีสติ หยวนเค่อเห็นกับตาตัวเองว่าหวู่เหย้าควง ทั้งผู้ชายและผู้หญิงออกไป แถมยังแวะขอโลชั่นสองขวดจากแผนกต้อนรับอีก
“ไอ้โรคจิตเอ๊ย” หยวนเค่อมองรถหวู่เหย้าแล่นออกไปด้วยสายตารังเกียจก่อนจะอ้วกออกมา
ณ สํานักงานตํารวจเช้าวันถัดมา
ฉินอวี่ที่เพิ่งเข้างานได้ยินรู้เหว่ยกับคนอื่นๆ คุยกันระหว่างทางไปหอพัก
“ฉันว่าไอ้หวู่เหย้านั่นเป็นคนร้ายแน่นอน!”
“ฉันก็คิดเหมือนกันว่าลุงเขาคงไม่โกหกหรอก”
“พี่เหว่ยไม่ได้ยินข่าวเรื่องหวู่เหย้ากับหยวนเค่อเหรอ? เห็นว่าพวกนั้นเพิ่งจับมือกันทําธุรกิจ
ฉินอวี่ที่ตั้งใจจะไปเปลี่ยนชุดที่หอพักเปลี่ยนจุดหมายเดินเข้าไปถามเรื่องราวทันที่ที่ได้ยิน “หยวนเค่อทําไมนะ?”
จูหวยหันมาถาม “มาแล้วเหรอหัวหน้า?”
“อืม เมื่อกี้พวกนายคุยเรื่องอะไรกันเหรอ?” ฉินอวี่ถาม
“พวกผมกําลังถูกกันว่าผู้ร้ายที่อยู่เบื้องหลังคดีคนหายคือหวู่เหย้า และเพิ่งได้ยินข่าวลือมาว่าหมอนั่นร่วมงานกับหยวนเค่อนะ” จี้เหว่ยตอบ
ฉินอวี่ครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนถาม “พวกนายแน่ใจนะว่าเรื่อง นี้เกี่ยวกับหมอนั่น?”
“ผมบอกแล้วว่าคดีนี้มันซับซ้อน” จู้เหว่ยใช้ประสบการณ์ จากการเป็นตํารวมาหลายปียืนยัน “ถ้าคนที่หายตัวไปเป็นผู้กํากับหรือลูกหลายผู้บริหารระดับสูงไอ้หวู่เหย้านั่นคงโดนจับไปนานแล้ว”
ฉินอวี่คิดตามก่อนออกคําสั่ง “ฉันจะไปเปลี่ยนชุดก่อน ช่วยเตรียมรายละเอียดคดีไว้ให้หน่อย เดี๋ยวเรามาสืบเรื่องหวู่เหย้ากัน”
“เพราะหัวหน้าได้ยินว่าหมอนั่นร่วมมือกับหยวนเค่อรึเปล่า?” จู้เหว่ยหรี่ตาถาม
“เออ ใช่ก็ได้ แสนรู้จริงนะ” ฉินอวี่ตอบอย่างเป็นกันเองก่อนออกจากห้องไป
ขณะเดียวกัน
อาเซียวนอนคุยโทรศัพท์อยู่บนโซฟา “แน่ในนะว่าจัดการเรื่องปล่อยของเรียบร้อยแล้ว?”
“ครับ อีกไม่กี่วันก็ได้เวลาปล่อยของแล้ว แต่ฝั่งนั้นยังไม่จ่ายเงินเลย” ปลายสายตอบกลับ