Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9 - ตอนที่ 222 กระดานหมากรุกเบี้ยและผู้เล่น
Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9 Special District 9 ตอนที่ 222 กระดานหมากรุก เบี้ยและผู้เล่น
ตอนที่ 222 กระดานหมากรุกเบี้ยและผู้เล่น
สองวันต่อมาที่เรือนจําหญิงในฮ่งเจียง
ฉินอวี่สอบปากคําหวังปิงเป็นครั้งแรกหลังจากที่เธอหายจากอาการบาดเจ็บ
“หม ในสํานักงานตํารวจของนายมีการสอบปากคําคนปวยด้วยเหรอ?” หวังปิงพูดด้วยรอยยิ้มและมีท่าทางที่ดูผ่อนคลายมาก
“ไม่ได้ทําอะไรรุนแรงสักหน่อยไม่ต้องห่วงหรอก” ฉินอวี่พูดขณะมองอีกฝ่ายก่อนจะถามต่อ “เธอสูบบุหรีไหม?”
“ไม่เป็นไร ขอบคุณ” หวังปิงตอบอย่างสุภาพ
ฉินอวี่มองหวังปิงขณะที่คิดว่าการสอบสวนคงไม่ราบรื่น
“ฉินอวี่ ก่อนที่ฉันจะขึ้นศาลให้ฉันไปเคารพศพเฒ่าหว่ได้ไหม?” หวังปังถามอย่างแข็งขัน
ฉินอวี่ชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะส่ายหน้าช้าๆ “น่าจะไม่ได้นะ”
หวังปิงได้ยินดังนั้นก็ชักสีหน้าหงุดหงิด “เฮ้อ…งั้นก็ลืมมันไปเถอะ
ฉินอวี่มองหวังปิงก็อดไม่ได้ที่จะถาม “ฉันงงจริงๆ เธอกับเฒ่าหวี่อายุต่างกันมากเขาก็เหมือนนักธุรกิจใกล้เกษียณคนหนึ่ง ทําไมถึงต้องทุ่มเทให้เขามากขนาดนี้ ได้ผลตอบแทนดีขนาดนั้นเลยเรอะ? ช่วงไม่กี่ปีมานี้ตระกูลหญ่ออกตัวแรงเกินไป เธอไม่คิดเหรอว่าเขาจะต้องเดือดร้อนจากการกระทํา? อย่างน้อยคนปกติก็น่าค่อยๆ จะดี ตัวออกห่างไปแล้ว”
หญิงปิงเอียงคอขณะมองฉินอวก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้ม “รอให้นายมีอายุมากขึ้นก็จะรู้เองแหละ ว่าจิตวิญญาณและความสัมพันธ์นั้นยิ่งใหญ่กว่าผลประโยชน์ เฒ่าหวี่อาจเป็นสัตว์ร้ายในสายตาคนอื่นชอบเอาเปรียบ แต่เขาใจดีกับฉันมากจนได้ใจฉันไปแล้วนี่ไง”
ฉินอวี่เงียบไป
“คนเรามันไม่ได้มีแค่ด้านมืดด้านเดียว ทุกคนล้วนมีจุดแข็งและจุดอ่อน”หวังปิงมองฉินอวี่พลางพูดอย่างแผ่วเบา “เรามาเจรจา เงื่อนไขกันดีกว่า”
“เงื่อนไขอะไร?” ฉินอวี่ถาม
“พวกคดีค้ามนุษย์และข้อเท็จจริงต่างๆ ฉันบอกพวกเขาไปหมดแล้ว” หวังปิงพูดอย่างสงบ “แต่เรื่องข้อมูลวันนี้ฉันยังไม่เคยพูดที่ ไหน..”
ฉินอวสายหน้า “หยวนเค่อฉันจําเป็นต้องรู้ว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องมากแค่ไหน”
“นายจะฉันลากเขาเข้ามาซวยด้วยใช่ไหม?” หวังชิงถามกลับ
ฉินอวี่มองเธอพลางคิดอยู่พักหนึ่งก่อนตัดสินใจพูด “เธอรู้ไหมว่าเฒ่าหวี่ตายยังไง?”
“นายหมายถึงหยวนเค่อเป็นคนทํางั้นสินะ?”
ฉินอวี่ขมวดคิ้วขณะคิดในใจว่าเขาพูดแค่ไม่กี่คําหญิงกลางคนผู้นี้ก็เดาเจตนาออกแล้ว
หวังปิงพูดด้วยเสียงเรียบพลางลูบปลายผม “เฒ่าหรู่เป็นสมาชิกสภาเขตเจียงหนาน ถ้าถูกจับก็ต้องตายด้วยโทษประหารอยู่ดี เพราะถ้าเป็นแบบนั้นอีกฝ่ายที่อยู่เบื้องหลังเฒ่าหวี่ก็จะสามารถดําเนินการธุรกิจบางอย่างได้อย่างสะดวก และก่อนหน้านี้ในฮ่งเจียงก็มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นจึงต้องมีคนมีอํานาจคอยบงการสื่อให้อธิบายกับประชาชนตามต้องการ ดังนั้นการที่พวกนายจับเขาได้ก็จะเป็นผลงานชิ้นโบแดงของนายเลยถูกไหม?”
ฉินอวีพูดไม่ออก
“ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่พวกนายจะจับตายแน่นอน” หวังปิงกล่าวอย่างชัดเจน “ตอนเราหนีจากซ่งเจียง หยวนเค่อส่งคนมาช่วยพวกเราฉันจึงรู้สึกแปลกใจมาก เพราะจริงๆ เขาไม่จําเป็นต้องมาช่วยก็ได้ เขาอาจอยากแก้แค้นพวกนายผ่านเฒ่าหวี่สุดท้ายก็ล้ม เหลว…ความตายของเฒ่าหวี่ฉันไม่รู้หรอกนะว่าหยวนเค่อทํารึเปล่าแต่มันต้องมีเงื่อนงําแน่ๆ”
“แล้วอย่างงั้นทําไมไม่ตอบโต้หยวนเค่อล่ะ? ถ้าเปิดโปงเขาฉันก็สามารถออกหมายจับเขาได้เลย” ฉินอวี่พูดพร้อมขมวดคิ้วแน่น
“ฮ่าฮ่า” หวังปังหัวเราะ “หยวนเค่อไม่ต้องการจมเรือไปกับเฒ่าใหญ่แต่ไม่มีเหตุผลที่จะฆ่าเฒ่าหวี่ อีกอย่างฉันเองก็ถูกจับแล้วทําไม เขาจะต้องทําอย่างนั้นด้วย?”
ฉินอวี่เงียบไป
“นายยังเด็กเกินไป เชื่อฉันเถอะพวกเขาจะพอใจ” หวังปังยิ้มกว้างพลางตอบอย่างนุ่มนวล “สงครามทางการเมืองไม่ใช่ว่าต้องเป็นฆ่าเสมอไป”
หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมงครึ่ง
ที่ห้องทํางานผู้กํากับของสํานักงานตํารวจรัฐพื้นทมิฬ
ฉินอวี่พิงไม้ค้ําไว้กับผนัง เขาขมวดคิ้วและนั่งลงก่อนพูด “ลุงผมคิดว่าแทบเป็นไปไม่ได้ที่หวังปิงจะปริปากพูดถึงหยวนเค่อ”
“ทําไมล่ะ? ไหนลองบอกเหตุผลมาซิ” ผู้กํากับหลี่ถามขณะสู
บบุหรี่
“เหตุผลที่เธอให้คือครอบครัวเฒ่าหวี่ยังอยู่ข้างนอก เธอไม่ต้องการให้เราไปเกี่ยวข้องกับคนเหล่านี้” ฉินอวี่ตอบเสียงเบา “ตอนนี้ทนายของหวังปิงก็มาพบผมแล้ว เขาบอกอย่างชัดเจนว่าเขาจะมาเจอเธอทุกสัปดาห์ และอีกอย่างทนายคนนี้มีความสัมพันธ์กับสี่ อด้วย”
“ทนายแบบนี้แหละที่หยวนเค่อกําลังมองหา” ผู้กํากับหลี่ตอบอย่างรวบรัด “คดีของเฒ่าหรู่นั้นดังเกินไป หลายคนกําลังจับตาดูอยู่หวังบังคงกําลังขบคิดอะไรบางอย่าง…
“แล้วเราควรทํายังไงต่อดี?”ฉินอวี่ถามอย่างแข็งขัน
“ในเมื่อเรื่องนี้จบแล้วก็ไม่ต้องขุดคุ้ยหยวนเค่ออีกต่อไป” ผู้กํากับหลี่คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนเงยหน้าขึ้นตอบ “ฉันจะหาโอกาสเล่นงานเขาในภายหลัง
ฉินอวี่ชะงักไปนานก่อนตอบด้วยน้ําเสียงร้อนรน “ลุงหลี่หยวนเค่อติดต่อกับพวกตระกูลเปยแล้ว”
ผู้กํากับหลี่เดินไปที่หน้าต่างแล้วถอนหายใจ “ตอนนี้หยวนเค่อถือว่าได้โอกาสนี้ไป ไอ้เด็กคนนี้รับมือยากกว่าหยวนหัวเสียอีก!”
“ต่อให้หวังปิงจะไม่พาดพิงถึงเขา เราก็ต้องหาทางอื่นจากเธอให้ได้” ฉินอวี่ยืนและกล่าวเสริม “คงไม่ทําให้พวกมันสบายใจไปได้นานหรอก”
ผู้กํากับหลี่หันมาพูดพลางตบไหล่ของฉินอวี่ “เสี่ยวอวี่ฉันคงต้องออกจากสํานักงานตํารวจรัฐพื้นทมิฬนะ”
ฉินอวี่ตกใจ “ลุงหมายความว่ายังไง?”
“ฉันจะย้ายออกไปนะ”
“ย้ายไป?!” ฉินอวี่ทําหน้าตะลึงงัน “ไปสํานักงานตํารวจอื่นเนี่ยนะ?”
“เปล่า” หลี่ซีส่ายหน้า
“หมายความว่าไง ทําไมจู่ๆ จะทิ้งกันไปล่ะ?” ฉินอวี่รีบถาม
ผู้กํากับหลี่ยืนอยู่ท่ามกลางแสงแดดที่ส่องผ่านหน้าต่างก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “ฉันจะไปเขตเจียงหนานเพื่อลงสมัครรับตําแหน่งหัวหน้าสมาชิกสภา”
เมื่อได้ยินดังนั้นทุกคนที่อยู่ในห้องก็หันไปมองผู้กํากับหลื่อย่างตะลึงงันและพูดอะไรไม่ออกเป็นเวลานาน
คําถามมากมายเกิดขึ้นในหัวใจของฉันอวี่
อยู่ๆ ทําไมอาเซียวถึงปรากฏตัวขึ้นและฆ่าหรู่เหย้า ตามมาด้วยคดีค้าปืนของตระกูลหญ่หนําซ้ําเบาะแสทั้งหมดก็วิ่งมาหาเขาอยู่เรื่อย
หลังการบุกจับกุมหลายครั้ง เห็นได้ชัดว่าอาเซียวสามารถหลบหนี้ได้หลายครั้งแถมกลับมาตอบโต้หวูเวินเซิ่งในถนนฟูอานจนเกือบลอบยิงหยวนเค่อได้
เรื่องทั้งหลายในหัวของเขาก็เริ่มปะติดปะต่อกัน
ต้นสายปลายเหตุของเรื่องทั้งหมดดูเหมือนจะเริ่มปรากฏตรงหน้าเขาอย่างเป็นรูปเป็นร่างแล้ว!