Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9 - ตอนที่ 238 สามพันสําหรับเสี่ยวห่าว
Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9 Special District 9 ตอนที่ 238 สามพันสําหรับเสี่ยวห่าว
ตอนที่ 238 สามพันสําหรับเสี่ยวห่าว
วันที่ห้า ภายในสํานักงานตํารวจรัฐพื้นทมิฬ
ฉินอวี่ที่เพิ่งนั่งลงได้ไม่นานก็มีเสียงเคาะประตูดังจากข้างนอก “เข้ามา!”
ฟู่เสียวห่าวเดินเปิดประตูเข้ามาและถามเสียงเบา “พี่กําลังยุ่งอยู่รึเปล่า?”
“เรียกหัวหน้าสิ” ฉินอวี่เตือนด้วยรอยยิ้ม
“อ๋อ..นั่นสินะครับ” ฟู่เสี่ยวห่าวเกาศีรษะของเขา “หัวหน้า”
“ปิดประตูแล้วมานั่งก่อนสิ” ฉินอวี่พูดพลางเปิดคอมพิวเตอร์
ฟู่เสี่ยวห่าวก้าวไปข้างหน้าและนั่งบนเก้าอี้พร้อมกับพูดว่า “มีปัญหานิดหน่อยนะครับ”
“เกิดอะไรขึ้น?” ฉินอวี่ถาม
“ผมทําคดีอยู่เคสหนึ่ง ในช่วงเย็นของวันที่สาม ซ่องสองแห่งบนถนนเถ้าธุลีตบตีกันเพราะแย่งลูกค้า หนึ่งในนั้นได้รับอาการบาดเจ็บสาหัสไปสองราย” ฟู่เสี่ยวห่าวกระซิบ
ฉินอวี่นิ่งไปชั่วขณะก่อนถาม “จับตัวคนทําได้ไหม?”
“จับได้ครับ” ฟู่เสี่ยวห่าวพยักหน้า “ผมให้จําคุกสามเดือน”
“แล้วไกล่เกลี่ยกันได้ไหม?” ฉินอวี่ถามอีกครั้ง
“ฝ่ายที่ได้รับบาดเจ็บต้องการสองหมื่น พวกเขาจะแบ่งให้เราครึ่งหนึ่งถ้าช่วยพวกเขา เพราะท้ายที่สุดพวกเขาต้องทําธุรกิจที่เดิมต่อไป” ฟู่เสี่ยวห่าวหันมามองประตูพลางเดินไปข้างหน้า “แต่อีกฝ่ายให้มาสองหมื่นห้า”
“นายรับมาเหรอ?” ฉินอวี่ขมวดคิ้ว
“ครับ” ฟู่เสี่ยวห่าวพยักหน้าพร้อมกล่าว “ผมแบ่งห้าพันให้กับอัยการ สามพันเป็นส่วนในเรือนจําและสองพันให้พวกติงถั่วเซิน ที่เหลืออีกหมื่นห้าอยู่ในกล่องถุงมือของหัวหน้า”
ฉินอวี่มองฟู่เสี่ยวห่าวด้วยความประหลาดใจ “นายจัดการคดีนี้เรียบร้อยหมดแล้วเหรอ?”
“ผมก็ไม่แน่ใจ ผมเป็นตํารวจที่ทําคดีเล็กน้อยๆที่เพิ่งมาบรรจุ
“นายรู้รึเปล่าว่าหลิวเปาเฉินถูกลงโทษยังไร?” ฉินอวี่ถาม
ฟู่เสี่ยวห่าวตะลึงก่อนตอบด้วยเสียงทุ่มต่ํา “ผมเข้าใจสิ่งที่หัว หน้าหมายถึง แต่หลิวเปาเนินคงมีวิธีการของเขาเองนั่นแหละ ส่วน ผมไม่ได้รับเงินมาสักดอลลาร์ ยิ่งกว่านั้นงานชาวบ้านแบบนี้ก็ต่าง จากของหลิวเปาเฉินด้วย อีกอย่างคดีนี้ยังไงผลก็เหมือนเดิมอยู่ดี”
“แบ่งเงินกันหมด แล้วนายไม่เก็บไว้บ้างเหรอ?” ฉินอวี่ถาม
“ผมทําไปก็เพื่อหาเส้นสาย ไม่ได้หาเงินหรอกครับ” ฟู่เสี่ยวห่าวอมยิ้ม
“ตกลง งั้นก็ทําตามที่นายบอก” ฉินอวี่ชี้ไปที่ฟู่เสี่ยวห่าวก่อนพูดต่อ “นายเอาสามพันส่งไปให้ทางบ้านซะสิ”
“ยะเยอะเกินไปแล้วหัวหน้า!”
“แลกกับสิ่งที่นายทํามามันไม่มากเกินไปหรอก” ฉินอวี่ยื่นมือออก “ส่งเอกสารที่ฉันต้องเซ็นมาสิ”
ฟู่เสี่ยวห่าวได้ยินดังนั้นจึงเปิดกระเป๋าเอกสารที่เขานําติดตัวมาด้วย ก่อนล้วงมือไปหยิบเอกสารและส่งให้ฉินอวี่
ฉินอวี่เหลือบไปเห็นขั้นตอนคดีและคําสารภาพคร่าวๆ เขาจึงพูดอย่างรวบรัด “ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นอีกในอนาคตนายก็ไปคุยกับหม่าเหลาเอ๋อได้เลยนะ เขาจะหาคนทํางานให้นายเอง”
“เข้าใจแล้วหัวหน้า” ฟู่เสี่ยวห่าวพยักหน้า
“อืม ไปได้ละ
“ครับหัวหน้า” ฟู่เสี่ยวห่าวกล่าวลาและออกไปอย่างรวดเร็ว
ฉินอวี่มองหลังของฟู่เสี่ยวห่าวด้วยความกังวล
ฟู่เสี่ยวห่าวเป็นคนหัวไว แต่ในปีนี้ความสัมพันธ์ของหลายคนมีความซับซ้อนเกินไป แม้ว่าจะมีโอกาสประสบความสําเร็จได้ง่าย แต่ก็ผิดพลาดง่ายเช่นกัน
งานตํารวจสมัยนี้มุมหนึ่งเต็มไปด้วยอันตรายแต่ก็เต็มไปด้วยสิ่งล่อใจเหมือนกัน ถึงฉินอวี่จะไม่อยากรับผลประโยชน์จากพวกนี้ แต่ในอนาคตคงจะมีสิ่งที่น่าสนใจกว่านี้เป็นแน่ ในขณะเดียวกันเขาก็รู้ด้วยว่าในยุคขุ่นมัวเช่นนี้ช่างยากสําหรับการอยู่รอด ถ้าอยู่อย่างขาวสะอาดเกินไปคงไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมจากพวกอื่นและคงต้องทนอยู่กับที่แน่นอน เรื่องควรระวังอย่างเดียวก็คืออย่าถลําลึกเกินไป
หยวนหัวล้ําเส้นเกินไป ส่วนหยงตงคิดการกบฏ ดังนั้นแม้ว่าพวกเขาจะเสียชีวิตไปแต่กลับทิ้งอันตรายที่ซ่อนอยู่มากมายให้คนข้าง หลัง
หมู่เหย้าก็ร้ายกาจเกินไป เขาคิดเสมอว่าคนอื่นอยู่ต่ํากว่าตนเอง แถมยังกล้าเย้ยกฎหมาย และถึงขั้นกล้าที่จะฆ่าคนต่อหน้าต่อตาเจ้าหน้าที่ตํารวจ แต่สุดท้ายเป็นอย่างไร? เขาต้องตายอย่างทรมานกว่าใครทั้งหมด
นอกจากนี้หวูเวินเซึ่งกําลังหนีตายในเขตเจียงหนานไปถึงภูเขาชางงี สุดท้ายเขาก็ตายโดยคนที่เขาไว้ใจ
ตัวอย่างเหล่านี้เป็นเครื่องเตือนใจฉินอวี่มาตลอด ดังนั้นเขาจึงรู้ดีว่าเขาควรจะทําอย่างไรต่อไป
รุ่งเช้า
ฉินอวี่นําทีมไปประชุมกันตามปกติจนเวลาล่วงเลยถึงเที่ยงวัน
ช่วงพักกลางวันแทนที่เขาจะหาอะไรกินในโรงอาหาร ฉินอวี่กลับชวนหม่าเหลาเอ๋อไปร้านบะหมี่ฝั่งตรงข้ามถนน พวกเขาสั่งเกี๊ยวหนึ่งชามและกินกับอาหารรสเผ็ด
“ผลการเลือกตั้งจะออกเมื่อไหร่ล่ะ?” หม่าเหลาเอ๋อถามพลางเช็ดเหงื่อที่หน้าผาก
“ใกล้แล้วล่ะ” ฉินอวี่จิบน้ํา “อีกไม่เกินสิบวันฉันมาบอกอีกที”
“อะไรนะ?!” หม่าเหลาเอื้อประหลาดใจ
“เฒ่าหลี่อาจมีการเคลื่อนไหวใหม่ ก่อนหน้านี้ขอให้ฉันถามโกโก้
“เรามีตลาดกว่าครึ่งในรัฐพื้นทมิฬและเจียงหนาน ตอนนี้ก็สามารถมีส่วนแบ่งได้ถึงหนึ่งในสาม แล้วจะเพิ่มปริมาณสินค้าของเราไปเพื่ออะไร? เราคงขายได้ไม่หมดหรอก” หม่าเหลาเอ๋อพูดด้วยสีหน้าสงสัย
“นายวางใจได้เลย เฒ่าหลี่ต้องกําลังจะทําอะไรอยู่แน่นอน ไม่งั้นเขาไม่มาถามถึงปริมาณสินค้าหรอก” ฉินอวี่มองหม่าเหลาเอ๋อ “ที่เรียกนายมาเพราะกะจะเตือนนายสักหน่อย”
“เตือนอะไร?” หม่าเหลาเอ๋อตะลึง
“ก่อนหน้านี้หยวนเค่อทุ่มกําลังและเงินอย่างมหาศาลเพื่อพัฒนาเขตเจียงหนาน นายต้องใช้ประโยชน์จากความพยายามนี้เพื่อเสริมสร้างกําลัง รวบรวมกลุ่มเล็กๆในรัฐพื้นทมิฬให้มากที่สุด” ฉินอวี่ยกชามซดน้ําซุปที่เหลือ “ถ้ามีกําลังมากขึ้น อํานาจในเขตนั้นๆ ก็จะมีมากตามไปด้วย จริงไหม?”
หม่าเหลาเอ๋อคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เข้าใจแล้ว”
“ผลการเลือกตั้งใกล้เปิดเผยเต็มที่แล้ว ผลลัพธ์คงไม่เปลี่ยนไปจากที่คาดเท่าไหร่หรอก นายอย่ามัวเสียเวลาอยู่ที่เจียงหนานเลยกลับไปดูแลฝั่งรัฐพื้นทมิฬแล้วเริ่มทําธุรกิจซะน่าจะดีกว่า” ฉินอวี่นิ่งไปก่อนพูดเสริม “อย่าลืมจดทะเบียนบริษัทตัวเองด้วย”
ที่สถานีออนไลน์
จ่าวเปาเดินเข้าไปในสํานักงานโดยมีรอยฟกช้ําเต็มตัว ไม่นานจึงมีคนเห็นและยิ้มกว้างก่อนตะโกนเสียงดัง “ทุกคน..นี่คือคุณจ่าวเปาที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ ตั้งแต่นี้เขาจะมาเป็นบรรณาธิการแผนกคอลัมน์กฎหมายของเราครับ”
ทุกคนปรบมือให้ มีแค่หลินเหนียนเล่ยที่ยืนนิ่งอยู่