Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9 - ตอนที่ 91
ตอนที่ 91 รับลูกระเบิดหรือยื่นมือเข้าไปช่วย?
“ข้อมูลนี้เชื่อถือได้ไหม?” ฉินอวี่ถาม
“น่าจะได้” หม่าเหลาเอ๋อขมวดคิ้วพร้อมตอบ “ฉันจับตัวเพื่อนของเสี่ยวฉู่เป็นตัวประกัน ฉันคิดว่ามันคงไม่กล้าโกหกหรอก”
“กลับมาคุยกันก่อนว่าเราจะจัดการเรื่องนี้ยังไง?”
“ฉันอยู่ที่สถานีเหนือแล้ว” หม่าเหลาเอ๋อพูดขณะเหลือบมองนาฬิกา “ฉันจะขึ้นรถไฟในอีกสิบนาที”
ฉินอวี่รู้สึกตกใจเมื่อได้ยิน “นายออกไปแล้วเหรอ? รีบเกินไปหรือเปล่า?”
“ฉันมีทางเลือกเหรอ? ชายแก่คนนั้นถือศักดิ์ศรียิ่งกว่าชีวิต ถ้าพวกมันเจอตัวเสี่ยวฉู่ก่อน เราคงไม่มีทางกอบกู้ชื่อเสียงคืนได้อีก” หม่าเหลาเอ๋อตอบ “ฉันเป็นคนก่อเรื่องนี้ ดังนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นฉันต้องแก้ไขมันให้ได้”
“แต่เราควรคุยกันให้รู้เรื่องก่อน ถ้านายใจร้อนแบบนี้ เราคงวางแผนอะไรไม่ได้หรอก!” ฉินอวี่กล่าวอย่างกังวล
“ยังไม่มีการยืนยันว่าเสี่ยวฉู่จะอยู่ที่เดียวนานๆ” หม่าเหลาเอ๋อตอบ “ถ้าเขาไปที่อื่นหลังจากแวะเฟิงเป่ย การหาตัวเขาคงยากเหมือนกับงมเข็มในมหาสมุทร…ฉันคิดดีแล้ว อย่างมากที่สุดเสี่ยวฉู่อาจไปถึงก่อนหน้าฉันไม่กี่ชั่วโมง และฉันอาจจับเขาได้ตราบใดที่ฉันเร็วพอ”
ฉินอวี่เงียบ
“ชายแก่คนนั้นยังโกรธฉันอยู่ ฉันเลยไม่โทรหาเขาตอนนี้” หม่าเหลาเอ๋อพูด “ฝากบอกเขาด้วยว่าฉันจะพาพี่หลิวจื้อชู เสี่ยวหลิว และเหมาจื่อไปด้วย ถ้าเจอเสี่ยวฉู่เมื่อไรฉันจะกลับซ่งเจียงทันที”
“นายต้องใช้เอกสารแสดงตนเพื่อขึ้นรถไฟ” ฉินอวี่พูดพร้อมขมวดคิ้ว “ถ้าสร้างปัญหาในเฟิงเป่ยชื่อของนายถูกขึ้นบัญชีดำแน่ และเมื่อถึงตอนนั้นทุกอย่างอาจมีปัญหา และนายก็จะมีคดีติดตัว”
“ไม่ต้องห่วง ฉันจะติดต่อกับผู้ค้ายาให้ติดต่อกับศุลกากร” หม่าเหลาเอ๋อพูด “ตราบใดที่ใช้เงินแก้ปัญหา ทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี”
“ฉันไม่อยากให้นายไป” ไม่ว่ายังไงฉินอวี่ก็รู้สึกว่าการทำเช่นนี้ก็ไม่ปลอดภัย
“ฉินอวี่ ตราบใดที่เรื่องนี้ยังไม่จบ ตระกูลหม่าจะไม่มีที่ยืนในซ่งเจียง” หม่าเหลาเอ๋อพูดอย่างจริงจัง “พี่น้องของเราพึ่งพิงช่องทางการขายยาเพื่อเลี้ยงชีพ ฉันไม่สามารถทำลายชีวิตของพวกเขาเพียงเพื่อดื่มเหล้า…ดังนั้นฉันจะลังเลไม่ได้”
“ถ้ามีอะไรให้ติดต่อหาฉันทันที” ฉินอวี่สั่ง
“ซื้อโทรศัพท์ใหม่ซะแล้วฉันจะโทรหา” หม่าเหลาเอ๋อพูดด้วยความรอบคอบ “ถ้าเกิดอะไรขึ้นนายจะได้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง”
“ดูแลตัวเองด้วย”
“อืม แล้วเจอกัน”
ฉินอวี่มุ่งหน้าไปที่ชานชาลารถไฟหลังจากหม่าเหลาเอ๋อวางสาย ไม่นานชายวัยกลางคนสวมชุดทักซิโด้เดินออกมาจากห้องวีไอพีพลางกวักมือเรียกฉินอวี่ “ตามผมมา”
…
สำนักงานตำรวจ
ยิ่งฉินอวี่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เท่าไรก็ยิ่งไม่มั่นใจในเรื่องนี้มากเท่านั้น เขาจึงตัดสินใจโทรหาแมวเฒ่า
“ว่าไง?”
“ฉันอยากให้นายมาที่ห้องของทีมสามเดี๋ยวนี้”
“โอเค”
หลังจากวางสาย แมวเฒ่าใช้เวลาเพียงห้านาทีก่อนมาถึงห้องทำงานของทีมที่สาม
ฉินอวี่ลากแมวเฒ่าเข้าไปในห้องประชุมก่อนล็อกห้องและพูดว่า “หม่าเหลาเอ๋อไปเฟิงเป่ย”
“เพื่ออะไร?” แมวเฒ่าถามด้วยความประหลาดใจ “เขาไม่ได้วางแผนจับเสี่ยวฉู่เหรอ?”
ฉินอวี่กอดอกพร้อมตอบอย่างเคร่งเครียด “เขาได้ข่าวมาว่าเสี่ยวฉู่ไปที่เฟิงเป่ย หม่าเหลาเอ๋อเลยกลัวว่าเขาจะอยู่ที่นั่นไม่นานเพราะถูกตระกูลหยวนไล่ล่า ตอนนี้หม่าเหลาเอ๋อเลยขึ้นรถไฟไปที่เฟิงเป่ย”
แมวเฒ่าครุ่นคิดก่อนถามว่า “ข้อมูลของหม่าเหลาเอ๋อเชื่อถือได้ไหม? จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามันเป็นกับดักที่ตระกูลหยวนเตรียมไว้ล่ะ?”
“ฉันก็กลัวเหมือนกัน!” ฉินอวี่ตอบอย่างเห็นด้วย
“เสี่ยวฉู่เป็นแค่หมากตัวเล็กในเรื่องนี้ ซึ่งปัญหาคือเราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลย ไม่รู้ว่าเสี่ยวฉู่สมรู้ร่วมคิดหรือถูกจ้างมา ถ้าถูกจ้างมายังคงไม่เลวร้ายเท่าไร เพราะความเป็นไปได้สองข้อคือเสี่ยวฉู่หนีไปหลังจากได้รับเงิน และตระกูลหยวนฆ่าปิดปากเขาเพื่อปิดผนึกชะตากรรมของตระกูลหม่า แต่ถ้าเสี่ยวฉู่สมรู้ร่วมคิดกับตระกูลหยวนมาตลอด สถานการณ์อาจเลวร้ายมากขึ้น…”
“นายกำลังบอกว่าถ้าเสี่ยวฉู่ภักดีต่อตระกูลหยวน เขาอาจเตรียมกับดักอื่นๆ ที่เฟิงเป่ยเพื่อรอให้ตระกูลหม่าเดินเข้าไปติดเหรอ?” แมวเฒ่าเข้าใจประเด็นนี้เช่นกัน
“ถูกต้อง” ฉินอวี่พยักหน้าเห็นด้วย “แม้แต่คนโง่ยังรู้เลยว่าวิธีเดียวที่ตระกูลหม่าจะกอบกู้ชื่อเสียงได้คือการจับเสี่ยวฉู่ซึ่งเป็นผู้ร้ายตัวจริง ดังนั้นสิ่งที่พวกเขาต้องทำคือหาวิธีเปิดเผยที่อยู่ของเสี่ยวฉู่ให้ตระกูลหม่ารู้ เพื่อที่อีกฝ่ายจะได้เคลื่อนไหว”
เหงื่อเย็นพลันไหลอาบแผ่นหลังแมวเฒ่า เมื่อตระหนักได้ว่าสถานการณ์เลวร้ายเพียงใด “ถ้าอย่างนั้นจริง พวกเราเจอปัญหาใหญ่แล้วล่ะ หม่าเหลาเอ๋อเป็นคนเด็ดเดี่ยวแต่ขาดความรอบคอบ นิสัยประมาทเลินเล่อของเขาไม่เหมาะที่จะสู้กับตระกูลหยวนผู้เจ้าเล่ห์ ถ้ามันเป็นอุบายของตระกูลหยวนที่ต้องการกำจัดหม่าเหลาเอ๋อ เขาก็ไม่น่าจะปกป้องตัวเองได้”
“อืม” ฉินอวี่เดาะลิ้นด้วยความหงุดหงิด “ถ้าเขายังอยู่ในซ่งเจียง อย่างน้อยก็ยังมีเฒ่าหม่าและเราคอยระวังหลังให้ แต่ตอนนี้เขาไปเฟิงเป่ยคนเดียว เราเลยปกป้องเขามากไม่ได้”
“นายจะทำอะไร?” แมวเฒ่าถาม
ฉินอวี่ไม่ตอบแต่ล้วงบุหรี่ไฟฟ้าออกมาสูบก่อนพูดขึ้นอีกครั้ง “ฉันจะไปเฟิงเป่ย”
แมวเฒ่าผงะ “เชี่ย! เอาจริงเหรอ? ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราก็ยังมียศติดตัวอยู่ นายรู้ไหมว่าเฟิงเป่ยไม่เหมือนเขตพัฒนา! ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น เฒ่าหลี่จะซวยไปด้วยเพราะทุกคนรู้ว่าเราเป็นลูกน้องของเขา!”
“แล้วเราทำอะไรได้ล่ะ?” ฉินอวี่ตอบด้วยความรำคาญ “ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับหม่าเหลาเอ๋อช่องทางการค้ายาที่เราสร้างขึ้นจะพังลง…ความพยายามของเราจะสูญเปล่า”
แมวเฒ่าลูบศีรษะก่อนถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนขึ้นเล็กน้อย “นายรู้ไหมว่าเฒ่าหลี่คิดยังไงกับเรื่องนี้?”
“รู้” ฉินอวี่ตอบโดยไม่ลังเล “เขาแสดงออกชัดเจนว่าตระกูลหม่าไม่ใช่ผู้ค้ายารายเดียวที่เราร่วมมือด้วย แม้พวกเขาจะถูกล้มล้าง แต่เรายังหาคนตามท้องถนนมาทำงานให้ได้ เพราะการเชื่อมโยงกับผู้จัดจำหน่ายอยู่ในมือเราแล้ว”
แมวเฒ่าเงยหน้ามองฉินอวี่พร้อมพูดว่า “ถ้าอย่างงั้นนายควรรู้สิว่าเขาไม่เห็นด้วยกับเราเรื่องไปเฟิงเป่ยแน่”
“แมวเฒ่า ที่นี่มีแค่เราสองคน ดังนั้นฉันขอพูดตรงๆ เลยนะ” ฉินอวี่พูดเปิดอก “ฉันต้องการช่วยตระกูลหม่า และฉันมีเหตุผลรองรับ”
“บอกมาสิ”
“การเป็นหุ้นส่วนกับตระกูลหม่าคือความสัมพันธ์ที่สร้างขึ้นด้วยน้ำพักน้ำแรงของเรา ตระกูลหม่าต้องพึ่งพาสินค้าของเรา ดังนั้นพวกเขาจำเป็นต้องร่วมมือกับเราเพราะตราบใดที่ตระกูลหม่ายังอยู่ในซ่งเจียง คำพูดของเราก็จะมีน้ำหนัก แต่ถ้าเฒ่าหลี่เปลี่ยนหุ้นส่วนเป็นตระกูลอื่น อิทธิพลของเราจะลดลงมาก…เข้าใจไหม?” ฉินอวี่พูดตามตรงกับแมวเฒ่า
“ฉันไม่ได้บอกว่าเฒ่าหลี่วางแผนลับหลังพวกเรา แต่นายลองคิดดูสิถ้าเฒ่าหลี่สนับสนุนตระกูลขึ้นชื่อแทนตระกูลหม่า…เราจะทำอะไรได้? ไม่มีใช่ไหมล่ะ? เราทำได้แค่เชื่อฟังและร่วมมือให้มากเท่าที่จะทำได้…แต่สำหรับฉันไม่มีประโยชน์เลย ตราบใดที่ไม่มีอำนาจในถนนเถ้าธุลี เราก็เป็นได้แค่คนกลางที่เป็นแค่ส่วนหนึ่งของห่วงโซ่ธุรกิจนี้เท่านั้น”
แมวเฒ่าเงียบอยู่ครู่หนึ่งหลังฟังฉินอวี่พูด “นายไม่กลัวว่าฉันจะเอาเรื่องนี้ไปฟ้องเฒ่าหลี่เหรอ?”
“แมวเฒ่า ฉันไม่ใช่คนที่ไว้ใจใครง่ายๆ ฉันอาศัยกับผู้ชายคนหนึ่งในเขตพัฒนาอยู่แปดเดือน เราสองคนนอนห่างกันหนึ่งเมตรเท่านั้น และทุกคืนก่อนนอน ฉันจะวางเงินไว้ใต้หมอนเขาและถือปืนไว้ในมือขวา ภายนอกพวกเราอาจดูเหมือนพี่น้อง แต่ในความจริงแล้วเราเป็นแค่เพื่อนร่วมงาน ก่อนที่จะแยกกันเขาบอกกับฉันว่าเขาไม่สามารถไว้ใจฉันได้ ดังนั้นเขาจึงไม่เคยไว้ใจฉันเลย” ฉินอวี่มองแมวเฒ่าก่อนยิ้มมุมปาก
“ในเมื่อเปิดใจให้นายแล้ว ฉันจะพูดอย่างตรงไปตรงมา ไม่ปิดบังไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม บางทีนายอาจไม่ชอบสิ่งที่ฉันพูด แต่มันคือความจริงใจและความซื่อสัตย์ที่ฉันมีให้นาย นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันพูดเรื่องเหล่านั้นกับนาย…มันสิ่งที่อัดอั้นอยู่ในใจของฉัน จากนั้นนายจะทำอะไรก็เรื่องของนายแล้ว”
แมวเฒ่าชะงักไปครู่หนึ่งก่อนส่ายศีรษะพร้อมกล่าว “จริงๆ แล้ว ในแง่ของการตำแหน่ง ฉันควรจะเชื่อฟังเฒ่าหลี่ แต่ในมุมมองส่วนตัวฉันไม่อยากเห็นตระกูลหลี่ล่มสลายเหมือนกัน ถ้าเส้นสายของเฒ่าหลี่จัดแจงให้คนของพวกเขาเข้ามาทำธุรกิจแทนอาจทำให้เกิดปัญหาตามมา หรือได้รับผลประโยชน์แตกต่างกัน”
ฉินอวี่มองแมวเฒ่าอยู่ครู่หนึ่งก่อนพยักหน้า “ฉันปล่อยจะให้นายตัดสินใจ ตอนนี้ฉันต้องแวะไปที่ห้องทำงานของเฒ่าหลี่ก่อน”
“นายจะไปเฟิงเป่ยเหรอ?”
“ผมช่วยตระกูลหม่าได้แค่นี้ครับ” ฉินอวี่พูดขณะมองออกไปนอกหน้าต่างพร้อมถอนหายใจ “พวกเขาเป็นเพียงตระกูลเดียวในรัฐพื้นทมิฬที่ยืนหยัดต่อต้านตระกูลหยวน ถ้าพวกเขาถูกโค่นล้ม ท้องฟ้าของซ่งเจียงคงมืดมนสำหรับฉัน”
…
ณ คฤหาสน์เริงรมย์
หยงตงนอนฟังเพลงพลางสูบซิการ์อยู่บนโซฟาก่อนสั่งลูกน้องที่ยืนอยู่ข้างห้องว่า “ติดตามบันทึกธนาคารของเสี่ยวฉู่เพื่ออะไร? มันเป็นแค่นักเลงที่หาเงินตามท้องถนน ไม่มีทางที่มันจะทำพลาดแน่! ตรวจสอบความสัมพันธ์ของมันแทน ผู้ร้ายหลบหนีจะติดต่อเส้นสายทั้งหมดที่มีเพื่อขอหลบภัย”
………………………………….