Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9 - ตอนที่ 94
ตอนที่ 94 พุ่งเป้าไปที่เหวินเทา
ซ่งเจียงอยู่ห่างจากเฟิงเป่ยหกร้อยกิโลเมตร หากสภาพอากาศปกติรถไฟจะใช้เวลาเดินทางราวสามชั่วโมง
ทันทีที่ฉินอวี่ แมวเฒ่า และกวนฉีมาถึงสถานีเฟิงเป่ย สิ่งแรกที่พวกเขาทำคือติดต่อหม่าเหลาเอ๋อ
“ว่าไง?” หม่าเหลาเอ๋อรับสาย
“นายอยู่ไหน?” ฉินอวี่ถาม
“ฉันเพิ่งได้อาวุธมา ตอนนี้อยู่ที่ดูคคาร์นิวัล” หม่าเหลาเอ๋อตอบกลับ “ฉันให้พี่จื้อชูเข้าไปถามแล้ว วันนี้เพื่อนของไอ้เสี่ยวฉู่ไม่เข้างาน”
หลังครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งฉินอวี่จึงตอบกลับ “แสดงว่ามันเจอเสี่ยวฉู่แล้ว”
“ฉันก็ว่างั้น” หม่าเหลาเอ๋อเห็นด้วย “ฉันกะว่าจะดักรอมันที่นี่สักพัก”
“ฉันว่ามันคงไม่โผล่หัวมาหรอก” ฉินอวี่คาดการณ์ “กลับมาวางแผนกันก่อนก็ได้”
“วางแผนอะไร? แผนตอนนี้คือต้องจับไอ้เสี่ยวฉู่ให้ได้” หม่าเหลาเอ๋อตอบ “ถ้าเกิดมันแอบกลับมาที่ดูคคาร์นิวัลกลางดึกฉันก็คลาดกับมันน่ะสิ ฉันไม่อยากเสียเวลา…เดี๋ยวดักรอมันที่นี่แหละ”
“ช้าๆ ได้พร้าเล่มงามนะเว้ย รีบร้อนไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น อีกอย่างนายมาเฟิงเป่ยด้วยรถไฟ…ขืนก่อเรื่องที่นี่โดยไม่ดูตาม้าตาเรือจะโดนจับเอา” ฉินอวี่พยายามพูดกล่อม “เชื่อฉันว่าความปลอดภัยต้องมาก่อน”
“ฉันรู้ตัวดีว่ากำลังทำอะไร” หม่าเหลาเอ๋อตอบกลับ “เอาเป็นว่าอย่าเพิ่งสนใจฉัน นายหาคนช่วยให้ได้ก่อนเถอะ”
“หมายความว่าไง?” ฉินอวี่ถามด้วยความสงสัย
“ที่นี่เราไม่มีอิทธิพลเหมือนในซ่งเจียง ฉันจึงต้องถ่อไปขอปืนจากเพื่อนที่รู้จัก” หม่าเหลาเอ๋อพูด “หมายความว่าถ้านายมีเพื่อนกว้างขวางที่นี่…โดยเฉพาะในดูคคาร์นิวัล ทุกอย่างจะราบรื่นขึ้นมาก”
“หมายถึงจะให้ฉันหาข้อมูลเกี่ยวกับเพื่อนของไอ้เสี่ยวฉู่เพิ่มงั้นเหรอ?” ฉินอวี่ถาม
“ถูกต้อง” หม่าเหลาเอ๋อพยักหน้า “ฉันคิดว่ามันมาถึงแล้วและเพื่อนมันต้องลางานไปหาแน่ การดักรออยู่แบบนี้มันเสียเวลาและขึ้นอยู่กับดวงล้วนๆ แต่ตแนนี้ฉันไม่มีรถเลยทำอะไรไม่ได้ เพราะงั้นถ้านายหาเพื่อนแถวนี้ช่วยสืบข้อมูลที่อยู่พวกมันให้ได้ก็คงจะดีไม่น้อย”
คำขอของหม่าเหลาเอ๋อทำฉินอวี่ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบกลับ “ฉันจะลองหาทางดูแล้วกัน เพื่อนไอ้เสี่ยวฉู่ชื่อว่าอะไรนะ?”
“เหวินเทา”
“เข้าใจล่ะ”
“เออ แค่นี้แหละ”
“อ้อ…ฉันลืมบอก ลุงหม่ามาด้วยนะ” ฉินอวี่พูดขึ้น
หม่าเหลาเอ๋ออึ้งไปชั่วขณะก่อนตอบอย่างปลงตก “คิดไว้อยู่แล้ว ว่ายังไงตาลุงนั้นต้องไม่เชื่อฉัน แต่เอาเถอะ…ตามนั้นแล้วกัน!”
“เออ…เราต้องจัดการเรื่องนี้ได้แน่”
“ขอบใจฉินอวี่” หม่าเหลาเอ๋อพูดอย่างจริงจัง “เรื่องนี้นายวางใจฉันมากกว่าเฒ่าหลี่ เพราะงั้น… ฉันไม่มีทางทำให้นายผิดหวังแน่นอน”
“ไม่ใช่เวลามาพูดเรื่องนี้นะ”
“เออ ไว้เจอกัน”
ทั้งคู่วางสาย
…
บริเวณทางเข้าสถานีรถไฟ
แมวเฒ่าถามฉินอวี่ว่า “หม่าเหลาเอ๋อว่าไงบ้าง?”
“วันนี้เพื่อนไอ้เสี่ยวฉู่ไม่เข้างาน” ฉินอวี่ตอบกลับ “หม่าเหลาเอ๋อกับพี่จื้อชูดักรออยู่ที่ดูคคาร์นิวัลแต่ยังไม่รู้ว่ามันจะกลับไปที่นั่นหรือเปล่า พวกเขาเลยอยากให้เราไปหาข้อมูลเกี่ยวกับกับไอ้เด็กนั่นเพิ่ม”
“คงต้องโทรหาเฒ่าหลี่แล้วล่ะ” แมวเฒ่าเสนอ “เพราะฉันก็ไม่รู้จักใครในเฟิงเป่ยเหมือนกัน”
“นายจะโทรหรือให้ฉันโทร?” ฉินอวี่หรี่ตาถาม
“แหม…จะให้ฉันโทรก็บอกมาดีๆ เถอะ!” แมวเฒ่ากลอกตา
“ตามนั้น” ฉินอวี่หัวเราะ
หลังเถียงกันจบ แมวเฒ่าจึงเดินไปอีกทางเพื่อต่อสายหาเฒ่าหลี่ แม้ฉินอวี่กับกวนฉีจะพอมีคนรู้จักอยู่เฟิงเป่ยบ้าง แต่ก็ไม่กล้าเสี่ยงติดต่อ เพราะถ้าเกิดเรื่องที่พวกเขามาทำอะไรที่นี่เล็ดลอดไปต้องมีปัญหาใหญ่ตามมาแน่
ไม่ถึงสิบนาทีต่อมา แมวเฒ่าก็วางสายแล้วเดินมาสมทบกับคนอื่นๆ ก่อนพูด “เฒ่าหลี่ตกลงช่วยเรา”
“เยี่ยม!” ฉินอวี่ตอบอย่างดีใจก่อนก้มมองนาฬิกาข้อมือ “รีบเข้าเมืองหาที่พักรอลุงหม่ากัน”
“ป่ะ! ไปกันเถอะ!” แมวเฒ่าพยักหน้า
…
บนรถไฟ
ลูกน้องเปิดประตูและเข้าไปในห้องหรูบนรถไฟ ขณะที่หยงตงกำลังนั่งจิบน้ำเปล่าอยู่
“พี่ตง ผมได้ข้อมูลมาแล้วครับ เพื่อนของไอ้เสี่ยวฉู่ทำงานเป็นคนแจกไพ่อยู่ที่ดูคคาร์นิวัล แต่วันนี้มันไม่เข้างาน” ลูกน้องโค้งตัวคำนับเล็กน้อยก่อนรายงานข่าว
หยงตงครุ่นคิดก่อนถาม “แล้วพอรู้ไหมว่ามันพักอยู่ที่ไหน?”
“เพื่อนผมที่ให้ข่าวมาอยู่ในรัฐใหม่สอง ด้วยไม่รู้จักใครในดูคคาร์นิวัลเลยให้ข้อมูลได้แค่นี้ครับ” ลูกน้องอธิบาย
หยงตงพยักหน้าก่อนถามพลางล้วงโทรศัพท์ออกมา “เพื่อนไอ้เสี่ยวฉู่ชื่ออะไร?”
“เหวินเทาครับ” ลูกน้องตอบกลับ
หยงตงกดเบอร์โทรหาสิงจื่อห่าวทันที
“ว่าไง?”
“สวัสดีครับนายน้อยสิง ผมมีเรื่องอยากให้ช่วยครับ!”
“ว่ามา”
“นายน้อยรู้จักดูคคาร์นิวัลหรือเปล่า?” หยงตงถาม
“ไม่มีย่านบรรเทิงชั้นนำที่ไหนในเฟิงเป่ยที่ฉันไม่รู้จัก” สิงจื่อห่าวตอบอย่างไม่ใส่ใจ
“เยี่ยมเลย!” หยงตงอุทาน “ผมอยากให้คุณช่วยหาใครบางคนหน่อย มันทำงานเป็นคนแจกไพ่ในคูคคาร์นิวัลชื่อเหวินเทา ผมอยากรู้ว่าตอนนี้มันอยู่ที่ไหนรวมถึงที่พักมันด้วย”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับธุรกิจของเรา?” สิงจื่อห่าวขมวดคิ้วถาม
“เกี่ยวครับ” หยงตงตอบอย่างนอบน้อม “เด็กคนนั้นเป็นกุญแจสำคัญเพื่อกำจัดคู่แข่งในซ่งเจียง ไม่อย่างนั้นผมคงไม่ขอให้คุณช่วยหรอก”
“ได้ ถ้าถึงแล้วติดต่อมาอีกทีแล้วกัน” สิงจื่อห่าวตัดสายโทรศัพท์
หลังวางสายรอยยิ้มเสแสร้งบนใบหน้าของหยงตงกก็หุบลงทันที “ฉันตั้งใจทำงานมาสิบกว่าปี แต่ตอนนี้ยังต้องมาพูดนอบน้อมกับเด็กเหลือขอ โลกนี้แม่งไม่ยุติธรรม”
“หึ! เด็กที่ใช้ชีวิตด้วยเงินพ่อเงินแม่น่ะเหรอครับ?” ลูกน้องสบถ “เทียบไม่ติดกับพี่เลยสักนิด!”
“ต่อให้ฉันทำงานอีกร้อยปีก็คงเทียบกับเส้นสายที่มันมีไม่ได้” หยงตงบ่นก่อนหันมองนอกหน้าต่าง “นายคิดว่าตอนนี้เฒ่าหม่ากำลังทำอะไรอยู่?”
ลูกน้องชะงัก เขาไม่เข้าใจว่าทำไมหยงตงจึงถามเช่นนี้
หยงตงล้วงกล่องบุหรี่ออกมาพร้อมกล่าว “ฉันมีคำสั่งใหม่”
“ว่ามาเลยครับพี่ตง!”
“โทรหาเฒ่าสาม บอกให้เขาไปตรวจตราดูแถวสถานีรถไฟสายเหนือกับด่านศุลกากร…”
…
มณฑลเฟิงเป่ย
ขณะที่ฉินอวี่กำลังขึ้นรถ จู่ๆ แมวเฒ่าก็ตะโกนออกมา “เฮ้ย! ฉันนึกออกแล้ว…”
“อะไร?” ฉินอวี่หันไปถาม
“นางฟ้าผู้น่ารักของเรากลับบ้านที่เฟิงเป่ยด้วยใช่ไหม?” แมวเฒ่าแววตาเป็นประกาย
“นายพูดถึงยัยเซ่อหลินใช่ไหมเนี่ย?” ฉินอวี่ชะงักทันทีที่คิดได้ หลินเหนียนเล่ยบอกว่าจะกลับเฟิงเป่ย หนำซ้ำเขายังฝากเธอซื้อเครื่องสำอางให้อีกด้วย แต่ฉันไม่เจอเธอมาสักพักแล้วนะ คงกลับมาเฟิงเป่ยไปแล้วมั้ง”
“เราขอให้เธอช่วยตามหาเหวินเทาไม่ได้ไง?” แมวเฒ่าถามอย่างตื่นเต้น “นายเคยบอกว่าบ้านเธอร่ำรวยไม่ใช่เหรอ? อีกอย่างเธอเกิดและโตที่นี่ คงพอมีเพื่อนที่เชื่อใจได้บ้างแหละ!”
ฉินอวี่ครุ่นคิด
“ฉันโทรถามเอง” แมวเฒ่ากลายเป็นคนกระตือรือร้นขึ้นมาทันที “ตอนนี้เราเริ่มจนปัญญากันแล้ว ไม่ว่าด้วยวิธีไหนเราต้องหาทางออกให้ได้…”
…
บนถนน
หลินเหนียนเล่ยกำลังสบถด่าคนปลายสายด้วยความไม่พอใจ “จะมาอยู่ไหมเนี่ยหลินเหนียนเหนียน? ฉันรอจนจะหนาวตายอยู่แล้วนะ!”
………………………………….