Super God Gene - ตอนที่ 2227
Super God Gene – ตอนที่ 2227
ตอนที่ 2227 อันดายอิ้งเบิร์ด
“อันดายอิ้งเบิร์ดคือระดับอะไร?” หานเซิ่นถามพร้อมกับขมวดคิ้ว ชื่อของมันฟังดูเหมือนกับเป็นลางที่ไม่ดีนัก
“เทพเจ้า” ไป๋เวยตอบเขาอย่างไม่ลังเล
หานเซิ่นเลียริมฝีปากของเขาขณะที่มองไปที่เธอ เขาพูดขึ้นมา “นี่เจ้ารู้ตัวไหมว่าพูดอะไรออกมา? เจ้าจะล่าซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าเนี่ยนะ? การทำอะไรแบบนั้นมีแต่จะทำให้เจ้าถูกฆ่าตาย แม้แต่คนอย่างข้าก็จะถูกฆ่าตายไปด้วย ถ้าไปเผชิญหน้ากับศัตรูแบบนั้น”
“ถ้าเจ้าหวาดกลัว เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องไป” ไป๋เวยเปลี่ยนเส้นทางของเธอและเริ่มบินไปทางแม่น้ำที่ไหลลงไปใต้หน้าผาแห่งหนึ่ง
“ผู้หญิงคนนี้ไม่มีหัวคิดหรือยังไง?” หานเซิ่นนำทีมของเขาติดตามเธอไป แต่หานเซิ่นไม่ได้คิดว่าเธอเป็นคนที่จะทำอะไรที่โง่เขลา เขามั่นใจว่าเธอจะไม่ยอมเอาชีวิตของตัวเองไปทิ้งแบบนั้น
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพาไป๋เวยเข้ามาในหุบเขาลาวา แต่เธอกลับรู้เกี่ยวกับอันดายอิ้งเบิร์ด นั่นหมายความว่าอย่างน้อยๆเธอก็ได้เตรียมตัวมา บทลงโทษของเธอที่ถูกส่งมาที่ดาวไอซ์บลูนั้นคงจะเกี่ยวข้องอะไรบางอย่างกับอันดายอิ้งเบิร์ด
ดังนั้นหานเซิ่นจึงรีบตามเธอไป เขาอยากรู้ว่าไป๋เวยตั้งใจจะทำอะไรกันแน่ ไม่อย่างนั้นเขาก็แค่ต้องจับเธอมัดและลากตัวเธอไปกับเขา
ไป๋เวยดูเหมือนจะคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้ หลังจากที่เธอเข้าไปใกล้แม่น้ำลาวา เธอก็มุ่งหน้าไปทางถ้ำๆหนึ่งที่มีลาวาไหลออกมา
หานเซิ่นและพวกพ้องของเขาเข้าไปข้างในเช่นกัน พื้นถ้ำเต็มไปด้วยลาวา ดังนั้นพวกเขาจึงต้องบินเหนือมันไป
“ถ้าเจ้าคิดจะไปให้ได้ไม่ว่ายังไง อย่างน้อยเจ้าก็ควรจะอธิบาย เจ้าพยายามจะทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรกัน” หานเซิ่นตามไป๋เวยจากด้านหลัง
ไป๋เวยเมินเฉยใส่เขาและยังคงบินต่อไป ภายในถ้ำไม่ได้มีซีโน่เจเนอิคตัวไหนอาศัยอยู่ มันปลอดโปร่งจนน่าประหลาดใจ นอกจากลาวาที่ร้อนแรงแล้ว มันก็ไม่มีอะไรอย่างอื่นอยู่ที่นี่
พวกเขาบินต่อไปในเส้นทางนั้นกว่าครึ่งวัน แต่ทันใดก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นมา หานเซิ่นมองไปในทิศทางที่มีเสียงดังขึ้นมาและเห็นถ้ำเปิดออก มันเป็นเหมือนกับโลกใต้ดินขนาดใหญ่ยักษ์เผยตัวเองออกมา ลาวาไหลลงไปตามหน้าผาที่อยู่ข้างหน้าพวกเขา มันกลายเป็นน้ำตกลาวาที่ดูแปลกมากๆ
หลังจากที่พวกเขาบินออกมาจากถ้ำ พวกเขาก็เห็นว่าโลกใต้ดินนั้นเต็มไปด้วยลาวา มันเป็นเหมือนกับทะเลลาวา และท่ามกลางทะเลลาวาที่กว้างใหญ่นั้นมีภูเขาลูกหนึ่งตั้งอยู่ มันดูเป็นอะไรที่ค่อนข้างน่าอัศจรรย์ที่ได้เห็น
ไป๋เวยบินตรงเข้าไปหาเกาะที่ตั้งอยู่ท่ามกลางทะเลลาวาอย่างไม่ลังเล แต่ตอนนี้เธอบินไปด้วยความเร็วที่ช้าลงอย่างมาก มันเห็นได้ชัดว่าเธอกังวลต่ออะไรบางอย่าง
หานเซิ่นให้จีชิง หานเหยียนและหวงฟูจิ้งนั่งบนหลังอสูรกาแล็กซี่เผื่อว่าถ้ามีอันตรายบางอย่างเกิดขึ้น และวิญญาณอสูรใบเสมาไม่สามารถใช้งานได้ พลังของอสูรกาแลกซี่ก็เพียงพอที่จะช่วยชีวิตพวกเธอ
บนทะเลลาวามีการระเบิดเกิดขึ้น ลาวาพุ่งขึ้นมาราวกับน้ำพุ บางอย่างสีดำแดงปรากฏออกมาและมันก็พุ่งตรงไปที่ไป๋เวย
สีหน้าของไป๋เวยยังคงไม่เปลี่ยน เธอชกหมัดเข้าใส่เงาสีดำแดงนั้น มันมีการระเบิดขึ้นอีกครั้ง ขณะที่ลาวาบนร่างกายของมันแพร่กระจายออกมา เธอชกใส่มันและส่งสิ่งมีชีวิตนั้นร่วงกลับลงไปในลาวา
เมื่อได้เห็นชัดๆ หานเซิ่นก็สังเกตเห็นว่ามอนสเตอร์ตัวนั้นดูคล้ายคลึงกับจระเข้ ร่างกายของมันดำเหมือนกับถ่าน แต่บางส่วนของมันเป็นสีแดงเหมือนกับลาวา
หานเซิ่นมองไปรอบๆและเห็นเงาที่เหมือนกับถ่านอีกเป็นจำนวนมาก พวกมันดูเหมือนกับไม้ที่ไม้เกรียม และหลายตัวก็กำลังมุ่งหน้ามาทางพวกเขา
จระเข้ที่ยาวกว่า 3 เมตรกระโดดออกมาจากลาวา พวกมันทั้งหมดตรงเข้ามาที่ไป๋เวยและหานเซิ่น
หานเซิ่นเรียกปืนพกมนตราออกมา เขายิงกระสุนใส่จระเข้ลาวา ขณะที่หานเมิ่งเอ๋อก็ยิงลูกธนูสีดำของเธออกไปใส่ศัตรูเช่นเดียวกัน
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!
จระเข้ลาวามากมายถูกฆ่าตายด้วยกระสุนและลูกธนู ร่างกายที่ดูเหมือนกับลาวาของพวกมันแตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย พวกมันเป็นเหมือนกับก้อนลาวาที่ร่วงกลับลงไปในทะเลลาวา แต่หานเซิ่นไม่ได้ยินเสียงประกาศดังขึ้นมา จระเข้ที่แตกกระจายร่วงลงสู่ลาวาและกลายเป็นร่างที่สมบูรณ์อีกครั้ง ก่อนที่จะกลับมาจู่โจมพวกเขาอีก
ไป๋เวยฆ่าจระเข้ลาวาไปเรื่อยๆ ขณะที่เธอมุ่งหน้าไปทางเกาะกลางทะเลลาวา เธอไม่มีแผนที่จะหยุด มันเห็นได้ชัดว่าเธอรู้เกี่ยวกับจระเข้พวกนี้
เมื่อหานเซิ่นเห็นสิ่งที่เธอทำ เขาก็หยุดฆ่าพวกจระเข้ลาวา เขาให้หานเมิ่งเอ๋อใช้ใบเสมาราชาแมลงปีศาจสีฟ้าของเธอ มันสามารถปกป้องทุกคนขณะที่พวกเขามุ่งหน้าไปที่เกาะ
ไป๋เวยกำลังบินตรงไปข้างหน้า แต่ทันใดนั้นเธอก็เห็นโล่ป้องกันของหานเซิ่นและทีมของเขา จระเข้ลาวากระโดดเข้าใส่พวกเขา แต่พวกมันก็ชนเข้ากับผิวของโล่ป้องกันและร่วงกลับลงไปในลาวา
แต่หานเซิ่นไม่มีแผนจะปกป้องเธอด้วยโล่นั้น เขาแค่ตามไป๋เวยไปจากด้านข้างและมองดูเธอต่อสู้กับเหล่าจระเข้ลาวาตามลำพัง
ไป๋เวยโกรธเล็กน้อยกับเรื่องนี้ แต่เธอไม่ได้พูดอะไร เธอมุ่งหน้าต่อไปเรื่อยๆขณะที่ชกใส่จระเข้ลาวาที่เข้ามาขวางทางเธอ จระเข้ลาวานั้นฆ่าไม่ตายก็จริง แต่พวกมันก็ไม่ได้แข็งแกร่งอะไร พวกมันเป็นแค่มาร์ควิสธรรมดาเท่านั้น
ไม่นานหลังจากนั้นไป๋เวยก็ไปถึงชายฝั่งของเกาะ แต่ทันทีที่มาถึงเธอก็เริ่มร่วงลงไป หานเซิ่นเองก็รู้สึกได้ถึงเรื่องนั้นเช่นเดียวกัน เขารู้สึกหนักขึ้นมา มันเหมือนกับว่าเขาเพิ่งกลับมาที่โลกหลังจากการบินในอวกาศ พวกเขาทุกคนเริ่มจะร่วงลงไปบนพื้นของเกาะ
“เกาะแห่งนี้ห้ามพลังทางอากาศอย่างนั้นหรอ?” จีชิงมองไปที่เกาะด้วยความประหลาดใจ
ไป๋เวยพูดอย่างเย็นชา “มันไม่ได้แค่ห้ามพลังทางอากาศเท่านั้น มันง่ายที่จะมาแต่การจะออกไปนั้นเป็นอะไรที่ยากกว่ามาก”
“นั่นหมายความว่ายังไง?” หานเซิ่นมองไปที่ไป๋เวยและถาม
ไป๋เวยไม่ตอบ เธอแค่ชี้ไปที่ทะเลลาวานอกชายฝั่งของเกาะ
หานเซิ่นหันกลับไปมองและเห็นว่าตลอดทะเลลาวาที่ร้อนแรงนั้นมีแมลงสีทองอยู่ พวกมันดูเหมือนกับลาวา แต่พวกมันก็เป็นแมลงจริงๆ และพวกมันก็มีกันอยู่มากมายนับไม่ถ้วน
“พวกมันคือแมลงลาวา พวกมันออกมาจากลาวาไม่ได้ พวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่ดุร้ายอย่างมาก และแม้แต่ดยุกก็ต้านทานอุณหภูมิของพวกมันไม่ไหว พวกมันบินในที่แห่งนี้ได้ แต่เพราะเจ้าทำไม่ได้ พวกเจ้าต้องวิ่งไปบนลาวา ถ้าพวกเจ้าอยากจะออกจากไปที่นี่ พวกเจ้าก็จำเป็นต้องออกห่างจากเกาะไปหนึ่งไมล์เพื่อบินขึ้น ข้าหวังว่าโล่ป้องกันของพวกเจ้าจะต้านทานการโจมตีของแมลงลาวาได้ ไม่อย่างนั้นพวกเจ้าทุกคนก็จะต้องตาย” ไป๋เวยพูดอย่างเย็นชา เธอไม่พอใจที่หานเซิ่นไม่ปกป้องเธอด้วยโล่ป้องกันนั่น