Super God Gene - ตอนที่ 2470
Super God Gene – ตอนที่ 2470
“หานเซิ่น ดูที่ที่เจ้าอยู่ในตอนนี้สิ” ชาโดว์โกสต์ยกรูบิคว่านเจียในมือขึ้น การถ่ายทอดสดของรูบิคว่านเจียยังคงทำงานอยู่ และหานเซิ่นก็เห็นภาพของเขาที่อยู่ในหน้าจอกล้องของชาโดว์โกสต์
หานเซิ่นตกใจกับภาพที่เห็น เขาพยายามจะบินไปออกจากหน้าจอของกล้อง เขาจับตามองไปที่วิดีโอบนรูบิคว่านเจียขณะที่บินออกไป แต่ไม่นานเขาก็รู้สึกตัวว่าไม่สามารถหนีออกจากที่แห่งนั่นได้ วิดีโอบนรูบิคว่านเจียยังคงแสดงภาพของเขาอยู่ที่จุดศูนย์กลางของหน้าจอเสมอ
“มันไร้ประโยชน์! ภายในอาณาเขตของข้า เจ้าก็เป็นแค่ภาพถ่าย และถ้าข้าฉีกรูปภาพนี้ ร่างกายของเจ้าก็จะถูกฉีกไปพร้อมๆกับมัน”
ชาโดว์โกสต์พูดอวด หลังจากนั้นเขาก็สร้างความเสียหายที่มุมๆหนึ่งของภาพถ่าย
ในจังหวะที่เส้นผมของหานเซิ่นในภาพถ่ายได้รับความเสียหาย เส้นผมจริงๆของหานเซิ่นก็ได้รับความเสียหายไปด้วย หานเซิ่นไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง และเขาก็ไม่สามารถทำอะไรเพื่อหลีกเลี่ยงมันได้
ผู้คนที่มองดูการถ่ายทอดสดอยู่รู้สึกหนาวขึ้นมา พวกเขารู้ว่าชาโดว์โกสต์สามารถเข้าไปในภาพเสมือนได้ แต่พวกเขาไม่รู้ว่าชาโดว์โกสต์จะมีพลังแบบนี้อยู่อีกด้วย ถ้าชาโดว์โกสต์กักขังพวกเขาไว้ในภาพถ่าย การจะฆ่าพวกเขาก็เป็นอะไรที่ง่ายดาย
ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าบางคนที่มองดูวิดีโออยู่รู้สึกทึ่งกับความน่ากลัวของชาโดว์โกสต์
“อย่าได้กังวล ข้าจะไม่ฆ่าเจ้า” ชาโดว์โกสต์ยิ้มอย่างน่าขนลุก
“เจ้าจะมีค่ามากกว่าถ้ายังมีชีวิตอยู่ ข้าจะนำเจ้าไปมอบให้กับเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง นี่เป็นโอกาสดีที่ข้าจะได้กลายเป็นระดับเทพเจ้า”
หานเซิ่นมองชาโดว์โกสต์ที่อยู่ด้านนอกด้วยสีหน้าที่ไร้ความรู้สึก
“เจ้าคิดจริงๆหรือว่าจะจับตัวข้าได้ด้วยวิธีนี้น่ะ?”
ชาโดว์โกสต์พูดด้วยความมั่นใจ “อาณาเขตของข้าไม่มีระยะที่จำกัด นอกจากนั้นเจ้ายังเป็นแค่ระดับราชัน ถึงแม้เจ้าจะเป็นระดับเทพเจ้า เจ้าก็หนีไปจากอาณาเขตของข้าไม่ได้”
“จริงอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นพูด หลังจากนั้นดวงตาข้างซ้ายของเขาก็แว็บแสงสีแดงขึ้นมา และร่างกายทั้งร่างของเขาก็เปลี่ยนเป็นเงาสีแดง
“เขาหายไปไหนแล้ว?” ใบหน้าของชาโดว์โกสต์เปลี่ยนไป หานเซิ่นหายตัวไปต่อหน้าต่อตาของเขา
“เขาหายไปไหนกัน?” ผู้คนที่มองดูการถ่ายทอดสดอยู่รู้สึกแปลกใจเช่นกัน พวกเขาไม่เห็นว่าหานเซิ่นออกมาจากภาพถ่ายบนกล้องของชาโดว์โกสต์ได้ยังไง
“อ้า!” การกรีดร้องอย่างกะทันหันของชาโดว์โกสต์ดึงดูดความสนใจของทุกคน
หนึ่งในดวงตาของชาโดว์โกสต์มีเลือดไหลออกมา มันดูเหมือนกับว่ามีพลังที่น่ากลัวเจาะเข้าไปในดวงตาของเขา
หานเซิ่นยืนอยู่ด้านหลังของชาโดว์โกสต์ ขณะที่ในมือถือธันเดอร์ก็อตสไปค์ที่มีเลือดไหลลงมา
“ครั้งต่อไป ถ้าเจ้าต้องการจะฆ่าข้า อย่ามัวพูดจาไร้สาระ”
หานเซิ่นสะบัดเลือดออกจากธันเดอร์ก็อตสไปค์และเอารูบิคว่านเจียกลับคืนมา หลังจากนั้นเขาก็บินจากไปโดยไม่หันกลับมามอง
ร่างกายของชาโดว์โกสต์ร่วงผ่านความว่างเปล่าของอวกาศ มันดูเหมือนกับว่าเขาถูกฆ่าตายไปเรียบร้อยแล้ว
ผู้ชมทุกคนจ้องไปที่วิดีโออย่างพูดไม่ออก ชาโดว์โกสต์เป็นเหมือนกับฝันร้ายของใครหลายๆคน แต่เขากลับถูกฆ่าตายในการโจมตีเพียงครั้งเดียว ผู้ชมพยายามจะทำความเข้าใจเกี่ยวกับสิ่งที่เพิ่งจะได้เห็น
แต่ผู้ชมส่วนใหญ่ไม่สามารถบอกได้ว่าหานเซิ่นฆ่าชาโดว์โกสต์ได้ยังไง ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เหล่าผู้ชมรู้สึกหวาดกลัวที่สุด
คนที่เป็นเพียงแค่ระดับราชันฆ่านักสู้ระดับครึ่งเทพได้อย่างง่ายดายราวกับว่าเขาฆ่าไก่ตัวหนึ่ง นั่นเป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่อ
หลังจากนั้นวิดีโอก็ถูกตัดไปและการถ่ายทอดสดก็มาถึงจุดสิ้นสุด แต่ผู้ชมมากมายต่างก็ยังคงจ้องมองไปที่หน้าจอด้วยความตกตะลึง พวกเขาไม่รู้ว่าควรจะตอบสนองยังไงกับสิ่งที่ได้เห็น
หานเซิ่นปิดรูบิคว่านเจียและบินต่อไปข้างหน้า เขาอยากจะกลับไปค้นตัวชาโดว์โกสต์และบาร์ แต่เขาไม่มีเวลาจะทำอะไรแบบนั้น
หานเซิ่นสัมผัสได้ว่ามีพลังชีวิตที่น่าสะพรึงกลัวกำลังตรงเข้ามาทางเขา ถ้าอีกฝ่ายไม่ใช่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้า เขาก็ต้องเป็นสิ่งมีชีวิตระดับครึ่งเทพที่แข็งแกร่ง มันมีโอกาสสูงที่หานเซิ่นจะรับมืออีกฝ่ายไม่ได้
หลังจากที่หานเซิ่นบินจากไปได้ไม่นาน เงาของคนๆหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในจุดที่หานเซิ่นเคยอยู่ก่อนหน้านี้ คนๆนั้นมองไปที่ศพของชาโดว์โกสตและบาร์ที่ถูกแช่แข็ง เขาสะบัดมือเพื่อนำเอาดาบแสงออกมา เขาใช้มันทำลายน้ำแข็งเพื่อปล่อยบาร์และคนอื่นๆให้เป็นอิสระ
เมื่อบาร์และคนอื่นๆเป็นอิสระ พวกเขาก็ได้เห็นบุคคลที่ช่วยเหลือพวกเขาเอาไว้ และพวกเขาก็เริ่มจะสั่นกลัวขึ้นมา
“เลอตู้!” ชาโดว์จากเผ่าสตอร์มพูดขึ้นมา เขาดูหวาดกลัวอย่างมาก
“พวกเจ้าต่อสู้กับหานเซิ่นอย่างนั้นหรอ?” เลอตู้ถามอย่างดุดัน
“ใช่” ชาโดว์ตอบไปตามจริง เขาดูหวาดกลัวเลอตู้คนนี้อย่างมาก
หลังจากที่ได้ยินคำตอบของชาโดว์ เลอตู้ก็รีบไล่ตามหานเซิ่นไป ร่างกายของเขาเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วจนอวกาศรอบๆคร่ำครวญออกมา
“ไม่อยากเชื่อเลยว่าเลอตู้จะมาที่นี่ มันไม่สำคัญว่าหานเซิ่นจะแข็งแกร่งถึงขนาดไหน นั่นเป็นศัตรูที่เขาไม่มีทางหนีไปได้” ธันเดอร์พูดและถอนหายใจออกมา
“คนทรยศที่เผ่าดราก้อนเกลียดชังมากที่สุด อินเวอร์สดราก้อนเลอตู้นั้นอาจจะไม่ได้เป็นระดับเทพเจ้า แต่เขาเคยฆ่ายอดฝีมือระดับเทพเจ้ามาหลายต่อหลายคน และพวกเขาก็เป็นถึงดราก้อนระดับเทพเจ้า ยอดฝีมือระดับราชันคนหนึ่งไม่มีทางจะรับมือกับคนอย่างเขาได้” ชาโดว์พูด
“มันมียอดฝีมือระดับครึ่งเทพอยู่มากมายในจักรวาลนี้ แต่ระดับครึ่งเทพที่น่ากลัวที่สุดในจักรวาลก็คือเลอตู้คนนี้”
ธันเดอร์พูด และหลังจากที่คิดอยู่ชั่วครู่เขาก็พูดต่อ “ถึงแม้ว่าครึ่งเทพของเอ็กซ์ตรีมคิงจะแข็งแกร่ง แต่ถ้าให้ข้าเลือกคนหนึ่งเป็นศัตรู ข้าก็จะขอเลือกครึ่งเทพของเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง เลอตู้นั้นชั่วร้ายเกินไป”
แม้แต่บาร์เองก็ดูสั่นกลัว โดยปกตินอกจากยอดฝีมือระดับเทพเจ้าแล้ว บาร์ก็ไม่เคยหวาดกลัวต่อสิ่งใด แต่มันมีอยู่ 2 คนที่เขาหวาดกลัว ซึ่งก็คืออินเวอร์สดราก้อนเลอตู้และอวี้ซ่านซินของปราสาทนภา
ถ้าเป็นคนอื่น เขาก็จะไล่ล่าคนๆนั้นไปถึงสุดขอบจักรวาลหรือไม่ก็ฆ่าคนๆนั้นตั้งแต่ที่เจอหน้ากัน แต่ทันทีที่ได้เห็นเลอตู้ บาร์ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาสัก เขาเพียงแค่มองดูเลอตู้ไล่ตามหานเซิ่นไป
“หานเซิ่นไม่รอดแน่ๆ” บาร์พูดกับตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็บินออกไปจากระบบเทียนเซีย เขาไม่คิดจะไปไล่ล่าหานเซิ่นต่อ
หานเซิ่นบินผ่านหมู่เมฆด้วยความเร็วสูงสุด เขาเปลี่ยนเส้นทางอยู่เรื่อยๆ และเขาก็ลบร่องรอยของตัวเองตลอด แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่สามารถสลัดการติดตามของคนที่ไล่ตามมาจากด้านหลังได้
หานเซิ่นยังสัมผัสได้อีกว่าระยะห่างระหว่างพวกเขากำลังลดลงเรื่อยๆ
ในตอนที่หานเซิ่นไปถึงขอบของก้อนเมฆสีม่วง เขาก็เห็นใครบางคนออกมาจากก้อนเมฆด้านหลัง คนๆหนึ่งกำลังตรงเข้ามาหาเขาด้วยความเร็วสูง
“เผ่าดราก้อน?” หานเซิ่นพึมพำกับตัวเอง ชายคนนั้นมีเขามังกรที่ใหญ่เป็นพิเศษ แต่เขาไม่มีปีกมังกร เขาดูเหมือนกับเผ่าดราก้อนเลือดผสม