Super God Gene - ตอนที่ 2548
Super God Gene – ตอนที่ 2548
สิ่งมีชีวิตนั้นดูเหมือนกับมนุษย์ แต่เนื่องจากมันถูกห่อหุ้มในชุดเกราะสีดำ มันจึงบอกไม่ได้ว่ารูปลักษณ์ของมันเป็นยังไงกันแน่ มันแค่ยืนอยู่เฉยๆด้านหลังเดม่อนระดับราชัน
“องค์ชาย ข้าพาเดม่อนดอลล์มาแล้ว” เดม่อนระดับราชันคนนั้นพาเดม่อนดอลล์มาอยู่ต่อหน้าจี๋หยางเซิง หลังจากนั้นเขาก็ยกเขาสีม่วงขึ้นต่อหน้าจี๋หยางเซิงด้วย 2 มือ
เขาสีม่วงนั้นมีความยาวราวๆหนึ่งฟุต และผิวของมันก็เป็นเกลียวเหมือนกับตะปู รูปร่างของมันเป็นเสี้ยวพระจันทร์ และมันมีสัญลักษณ์ประหลาดมากมายสลักอยู่ที่ปลายของมัน มันทั้งดูงดงามและลึกลับ
เขาสีม่วงนั้นดูเหมือนกับเขาบนหัวของเผ่าเดม่อนอย่างจี๋หยางเซิง จี๋หยางเซิงรับเขาสีม่วงนั้นมา หลังจากนั้นเขาก็หันไปพูดกับเดม่อนดอลล์
“จงฟังคำสั่งของข้า”
ดวงตาของจี๋หยางเซิงแว็บด้วยแสงสีม่วง ออร่าสีม่วงลอยออกมาจากมือของเขาและแทรกซึมเข้าไปในเขาสีม่วง หลังจากนั้นเขาสีม่วงก็เรืองแสงขึ้นมา และสัญลักษณ์ประหลาดก็เริ่มปลดปล่อยควันปีศาจออกมา
เดม่อนดอลล์แว็บด้วยแสงสีม่วงและเริ่มขยับเขยื้อน มันเคลื่อนที่ไปในทิศทางของหานเซิ่นด้วยความเร็วสูง
“องค์ชายต้องระมัดระวัง พวกเราจะปล่อยให้เผ่าพันธุ์อื่นจับตัวเดม่อนดอลล์ไปไม่ได้” เดม่อนระดับราชันคนนั้นอย่างเป็นกังวล
“ไม่จำเป็นต้องกังวล ด้วยพลังของเดม่อนดอลล์ ถึงแม้ข้าจะจับตัวหานเซิ่นไม่ได้ มันจะมีอะไรอย่างอื่นในคอร์แอเรียอีกที่จะเป็นภัยต่อเดม่อนดอลล์?” จี๋หยางเซิงดูรำคาญ
เดม่อนระดับราชันคนนั้นพยักหน้าและถอยออกไป หลังจากนั้นเขาก็ไม่พูดอะไรอีก
…
ฝูงปลาปีศาจเครื่องจักรกำลังบินผ่านอวกาศ ขณะที่พวกมันตรงมาทางหานเซิ่น พวกมันก็พ่นสายฟ้าที่น่ากลัวออกมาและเปลี่ยนอวกาศบริเวณรอบๆเป็นมหาสมุทรสายฟ้า
เมื่อเห็นมหาสมุทรสายฟ้ากำลังเข้ามาหาพวกเขา จันทราสวรรค์ก็เรียกร่มกระดาษออกมา หลังจากที่ร่มนั้นกางออก ดาบแสงก็ถูกปลดปล่อยออกมาเพื่อป้องกันสายฟ้าทั้งหมด พวกเขาทั้งสามถูกป้องกันโดยมันเช่นเดียวกัน ซึ่งหมายความว่าสายฟ้าเหล่านั้นไม่สามารถทำอะไรพวกเขาได้
กู่ชิงเฉิงยกมือขึ้นและปลดปล่อยดาบแสงนับไม่ถ้วนออกมา ดาบนาๆชนิดบินวนรอบร่างกายของเธอ หลังจากนั้นดาบแสงทั้งหมดก็ถูกยิงออกไปใส่ฝูงปลา
ในวินาทีเดียวปลาปีศาจกว่าร้อยตัวก็ถูกตัดเป็นชิ้นๆ
“อาณาเขตหนึ่งพันดาบของเธอทรงพลังจริงๆ!” หานเซิ่นเอ่ยชมเธอ ฝูงปลาปีศาจเครื่องจักรนั้นมีระดับราชันอยู่ 3 ตัว แต่พวกมันไม่สามารถป้องกันการโจมตีของกู่ชิงเฉิงได้
“นี่อาณาเขตของข้าอ่อนแอหรือยังไง? นั่นคือสิ่งที่เจ้าพยายามจะบอกอย่างนั้นใช่ไหม?” จันทราสวรรค์ถามด้วยความรำคาญ
หานเซิ่นกำลังจะตอบ แต่จู่ๆจันทราสวรรค์ก็จ้องมองออกไปยังอวกาศที่ว่างเปล่า หานเซิ่นและกู่ชิงเฉิงหันไปมองเพื่อจะดูว่าอะไรกันที่ดึงดูดความสนใจของเธอ ที่นั่นพวกเขาเห็นเงาสีดำกำลังตรงเข้ามาหาพวกเขา มันไม่ได้เคลื่อนที่เข้ามาอย่างรวดเร็ว มันแค่ลอยผ่านอวกาศมาอย่างช้าๆ
หลังจากที่เงานั้นเข้ามาใกล้มากพอ พวกเขาก็มองเห็นมันอย่างชัดเจน
บุคคลในชุดเกราะไม่มีเจตนาจะหยุด เขายังคงเข้ามาใกล้หานเซิ่นขึ้นเรื่อยๆ
“ทำไมเจ้าถึงมาที่นี่?” หานเซิ่นถามขณะที่มองบุคคลในชุดเกราะสีดำ
แต่บุคคลในชุดเกราะสีดำไม่ตอบสนอง มันเหมือนกับว่าเขาไม่ได้ยินหานเซิ่นและยังคงลอยเข้ามาใกล้
หานเซิ่นสังเกตเห็นว่าสิ่งมีชีวิตนั้นมองมาที่เขาเพียงคนเดียว นั่นหมายความว่าหานเซิ่นก็คือเป้าหมายของมัน
เมื่อบุคคลในชุดเกราะสีดำเข้ามาในรัศมีของพวกเขา หานเซิ่นก็พูดอีกครั้ง “เจ้าควรจะหยุดอยู่ตรงนั้น”
บุคคลในชุดเกราะทำเหมือนกับว่าเขาไม่ได้ยินอะไร เขาไม่หยุดและยกหมัดขึ้นเพื่อจะชกหานเซิ่น เมื่อหมัดนั้นถูกชกออกมา ร่างกายทั้งร่างของเขาก็หายไปจากสายตาของทุกคนที่กำลังมองอยู่
เมื่อเขาปรากฏอีกครั้ง เขาก็อยู่ตรงหน้าหานเซิ่น หมัดที่รุนแรงของมันกำลังจะชกใส่หัวของหานเซิ่นและบดขยี้กะโหลกของเขา
“วิชาการเทเลพอร์ตที่ทรงพลัง” ดวงตาของกู่ชิงเฉิงและจันทราสวรรค์เบิกกว้าง พวกเธอไม่แน่ใจว่าบุคคลในชุดเกราะนั้นมาอยู่ตรงหน้าหานเซิ่นได้ยังไง มันเป็นอะไรที่น่าตกตะลึง
ตามทฤษฎีแล้วมันมีการเทเลพอร์ตอยู่ 2 แบบด้วยกัน หนึ่งคือการเทเลพอร์ตประเภทความเร็ว และอีกอย่างคือการเทเลพอร์ตประเภทอวกาศ เมื่อวิชาเทเลพอร์ตถูกใช้งาน มันจะมีลักษณะเฉพาะที่แยกวิชาเทเลพอร์ตทั้ง 2 ชนิดออกจากกัน
การเทเลพอร์ตประเภทความเร็วนั้นแค่จำเป็นต้องใช้สายตาที่ยอดเยี่ยมเพื่อตามการเคลื่อนไหวของมัน คนที่มีสายตาเฉียบคมจะยังคงมองเห็นมันได้
ส่วนการเทเลพอร์ตประเภทอวกาศนั้นต่างออกไป เมื่ออวกาศและมิติถูกทำลาย คลื่นกระแทกก็จะถูกปลดปล่อยออกมา แม้แต่วิชาอย่างก็อตส์วอนเดอร์ก็มีข้อบกพร่องนี้ แต่คลื่นกระแทกของก็อตส์วอนเดอร์นั้นเบามากๆ และเวลาการทำงานของมันก็สั้น มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะสัมผัสถึงพลังของมัน
แต่บุคคนในชุดเกราะคนนี้ จากเวลาที่เขายกหมัดขึ้นถึงเวลาที่เขาปรากฏตัวต่อหน้าหานเซิ่น มันไม่มีร่องรอยของการเทเลพอร์ตเลย มันไม่มีคลื่นกระแทกหรืออะไรทำนองนั้น มันเหมือนกับว่าจู่ๆเขาก็โผล่ออกมาโดยที่ไม่เปิดโอกาสให้ใครคนไหนตอบสนอง
เคร๊ง!
หานเซิ่นยกหมัดขึ้นเพื่อป้องกันคนในชุดเกราะ แต่ร่างกายทั้งร่างของเขารู้สึกราวกับว่าถูกไฟฟ้าช็อต หมัดนั้นทรงพลังมากๆและมันก็ส่งเขาบินออกไปราวกับดาวตก
กู่ชิงเฉิงและจันทราสวรรค์ตกตะลึง พวกเธอรู้ว่าหานเซิ่นแข็งแกร่งขนาดไหน ถึงแม้เขาจะเป็นแค่ระดับราชันขั้นที่ 4 แต่เขาก็แข็งแกร่งทัดเทียมกับครึ่งเทพ มันไม่ควรจะมีใครที่สามารถเอาชนะหานเซิ่นได้ นอกซะจากว่ามันจะเป็นครึ่งเทพที่เน้นไปที่พลังทางกายภาพล้วนๆ
โดยไม่ลังเล กู่ชิงเฉิงชักดาบของเธอออกมา เมื่อเธอใช้ดาบทองแดง เงาดาบนับไม่ถ้วนก็ถูกปลดปล่อยจากแปดทิศทาง มันเหมือนกับกาแล็กซี่ของดาบพุ่งเข้าไปใส่คนในชุดเกราะคนนั้น
ในขณะเดียวกันจันทราสวรรค์ก็โจมตีจากอีกด้านหนึ่ง เธอหุบร่มกระดาษและใช้มันเป็นเหมือนกับดาบเพื่อแทงใส่หัวใจของคนในชุดเกราะ
ทั้ง 2 คนปิดทางออกของคนในชุดเกราะเอาไว้ แต่คนในชุดเกราะเมินเฉยต่อการโจมตีของพวกเธอ เขาบินตามหานเซิ่นเพื่อจะชกใส่เขาอีกครั้ง
กู่ชิงเฉิงและจันทราสวรรค์โกรธเมื่อเห็นแบบนั้น คนในชุดเกราะนั้นอวดดีที่เมินเฉยต่อการโจมตีของพวกเธอ มันเหมือนกับว่าพวกเธอกำลังถือของเล่นอยู่ และมันไม่มีความจำเป็นที่ต้องให้ความสนใจพวกเธอ
พวกเธอส่งพลังเข้าไปอาวุธของพวกเธอมากขึ้นอีก จันทราสวรรค์พูด
“คำแนะนำสำหรับอนาคต ไม่ว่าเจ้าจะทำอะไร อย่าได้ประมาทผู้หญิง มันเป็นความผิดพลาดที่ร้ายแรง”
แต่ก่อนที่จันทราสวรรค์จะพูดจบ ดวงตาของเธอก็เบิกกว้าง
เมื่อคนในชุดเกราะชกหมัดออกไป เขาก็หายตัวไปจากสายตาของพวกเธอ การโจมตีของพวกเธอไม่สามารถหยุดเขาเอาไว้ได้
“นั่นไม่ใช่การเทเลพอร์ตประเภทอวกาศ” ใบหน้าของกู่ชิงเฉิงซีดไปเล็กน้อย เธอไม่สังเกตเห็นถึงความบิดเบือนของอวกาศรอบๆตัว เธอไม่รู้เลยว่าคนในชุดเกราะหนีไปจากสายตาของพวกเธอได้ยังไงกัน