Super God Gene - ตอนที่ 2553
Super God Gene – ตอนที่ 2553
ตอนที่ 2553 ฮีโร่พิทักษ์หญิงงาม
หานเซิ่นไม่ได้คิดจะหยามเกียรติของจี๋หยางเซิง และเขาก็ไม่ได้ต้องการจะนั่งบนรถม้า เขาแค่อยากลองดูว่าจะสามารถดึงดูดความสนใจของเผ่าเดม่อนได้ไหม
ถ้าพวกเขาต้องการช่วยจี๋หยางเซิงหรือกำจัดหานเซิ่น มันก็เป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะทำแบบนั้นในคอร์แอเรีย มันจึงมีความเป็นไปได้สูงที่เผ่าเดม่อนจะส่งเดม่อนดอลล์มา
จุดประสงค์ที่แท้จริงของหานเซิ่นคือการล่อเดม่อนดอลล์ออกมา หลังจากนั้นเขาก็จะชิงมันมาเป็นของตัวเอง มันเป็นเรื่องดีสำหรับเขาที่จะมีเดม่อนดอลล์ระดับเทพเจ้าเก็บเอาไว้
การมีอยู่ของเดม่อนดอลล์ถือเป็นสิ่งที่ประหลาดมากๆ เดม่อนดอลล์ที่หานเซิ่นได้รับมานั้นมีพลังชีวิตและคิดได้ด้วยตัวเองเล็กน้อย แต่มันดูไม่เหมือนว่ามีชีวิตจริงๆ
มันจะมีชีวิตจิตใจขึ้นมาก็ต่อเมื่อมันได้รับคำสั่งผ่านเขาสีม่วง ถ้ามันไม่ถูกควบคุม มันก็จะยืนนิ่งอยู่กับที่ราวกับหุ่นยนต์ที่ถูกปิดการทำงาน
แถมคนๆหนึ่งไม่ควรเดินทางเข้ามาในคอร์แอเรียพร้อมกับสิ่งมีชีวิตอื่น แต่ถึงอย่างนั้นเดม่อนดอลล์กลับถูกนำเข้ามาในคอร์แอเรียได้ นั่นหมายความว่ามันไม่ได้เป็นสิ่งมีชีวิต
แต่หานเซิ่นไม่รู้ว่าเดม่อนดอลล์ระดับเทพเจ้าจะผ่านเข้ามาในคอร์แอเรียได้หรือเปล่า ถ้าทำได้ เผ่าเดม่อนก็ควรจะแข็งแกร่งกว่าเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงเมื่ออยู่ภายในคอร์แอเรีย
แน่นอนว่าทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่การคาดเดาของหานเซิ่น มันอาจจะเป็นไปไม่ได้ด้วยซ้ำที่จะนำเดม่อนดอลล์ระดับเทพเจ้าเข้ามาในคอร์แอเรีย แต่ถึงจะนำพวกมันเข้ามาได้ เผ่าเดม่อนก็อาจจะใช้พวกมันอย่างลับๆเท่านั้นเพื่อป้องกันไม่ให้ความลับแพร่งพรายออกไปสู่เผ่าอื่น
“มาดูนี่เร็วเข้า สิ่งแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นทุกวัน และนี่คงจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เดม่อนจี๋หยางเซิงเป็นคนลากรถม้าแบบนี้”
“เดม่อนอัลฟ่านั้นรักและเอ็นดูจี๋หยางเซิง เขาเป็นคนที่อวดดี แต่ตอนนี้เขากลายเป็นคนลากรถม้า ใครกันที่เขาลากรถม้าให้? มันคงจะไม่ใช่คนของเอ็กซ์ตรีมคิงหรอกใช่ไหม?”
“คนของเอ็กซ์ตรีมคิงจะทำแบบนั้นได้ยังไง? เรื่องแบบนั้นอยู่เหนือความสามารถของพวกเขา”
“เจ้าต้องล้อเล่นแน่ๆ ในจักรวาลนี้จะมีใครแข็งแกร่งกว่าคนของเอ็กซ์ตรีมคิงได้อีก”
“เจ้าลืมบิดาของเทพไป”
“โอ้เจ้าหมายถึงหานเซิ่นใช่ไหม? เขายังไม่ตายอีกหรอ?”
“ตาย? เขายังใช้ชีวิตอย่างปกติดี แถมเขายังบังคับจี๋หยางเซิงให้มาลากรถม้าให้กับเขา ขณะที่มีผู้หญิงที่งดงาม 2 คนนั่งประกบข้าง เจ้าไม่ได้เห็นพวกนางทั้ง 2 คนอย่างนั้นหรอ? พวกนางงดงามมากๆ ข้าไม่คิดว่าจะมีผู้หญิงคนไหนในจักรวาลที่งดงามไปกว่าพวกนางทั้ง 2”
“จริงอย่างนั้นหรอ? พวกนางงดงามขนาดนั้นเลย?”
“ข้าไม่ได้โกหก ข้าเคยเห็นองค์หญิงของเอ็กซ์ตรีมคงมาครั้งหนึ่ง แต่เมื่อเทียบกับพวกนางทั้ง 2 คนแล้ว… องค์หญิงของเอ็กซ์ตรีมคิงดูธรรมดาไปเลย พวกนางนั้นงดงามกว่ามาก องค์หญิงเอ็กซ์ตรีมคิงแทบไม่คู่ควรที่จะเป็นสาวใช้ของพวกนางด้วยซ้ำ”
“ถ้าอย่างนั้นข้าต้องไปดูสักหน่อยแล้ว”
จี๋หยางเซิงลดหัวลงขณะที่ลากรถม้าไปข้างหน้า เขารู้สึกโกรธมากๆ แต่เขาไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ เขาได้แต่คิดกับตัวเองว่า ‘ไอ้เวรหานเซิ่น อย่าให้ข้ามีโอกาสฆ่าเจ้านะ’
ใครบางคนถ่ายวิดีโอสิ่งที่เกิดขึ้นและเผยแพร่มันออกไป ทั้งจักรวาลจึงได้รับรู้ว่าจี๋หยางเซิงกลายเป็นคนลากรถม้าของหานเซิ่น เมื่อผู้นำของเผ่าเดม่อนได้เห็น เขาก็คงจะกระอักเลือดออกมาด้วยความอับอาย
แถมยอดฝีมือที่ครั้งหนึ่งอยู่ข้างกายจี๋หยางเซิงถูกฆ่าตายไปจนหมด กำลังเสริมของพวกเขาอยู่ไกลออกไป และมันจะใช้เวลานานกว่าที่พวกเขาจะเดินทางมาช่วยได้
หานเซิ่นมีแผนที่จะล่อเผ่าเดม่อนออกมา แต่ไม่มีเผ่าเดม่อนคนไหนปรากฏตัวมา กู่ชิงเฉิงและจันทราสวรรค์รู้สึกหงุดหงิดมากเกี่ยวกับความจริงที่ว่าพวกเธอดึงดูดสายตาของผู้ชายจำนวนมาก
โชคดีที่พวกเธอแค่แสดงตัวเองในตอนแรกเท่านั้น หลังจากผ่านไปสักพักพวกเธอก็ซ่อนใบหน้าของตัวเองด้วยการสวมใส่ชุดเกราะ
แต่ถึงอย่างนั้นราชันมากมายก็ยังคงมาเพื่อดูพวกเขา
แน่นอนว่าราชันบางคนมาเพื่อดูผู้หญิงเท่านั้น แต่ราชันส่วนใหญ่ที่มานั้นมาเพื่อดูหานเซิ่น พวกเขาอยากจะได้รับพรจากหานเซิ่นหรือไม่ก็จับตัวหานเซิ่นไป
แต่การได้เห็นเดม่อนจี๋หยางเซิงที่เป็นถึงครึ่งเทพกำลังลากรถม้าให้กับหานเซิ่น มันก็ไม่มีใครกล้าจะทำอะไร พวกเขาก็คิดว่าควรจะรอให้ยอดฝีมือที่แข็งแกร่งมาถึง
หานเซิ่นเดินทางอยู่ครึ่งวันก่อนที่จะมีใครบางคนกล้าพอที่จะมาขวางทางเขาเอาไว้
“ดูนั่น มีใครบางคนมาที่นี่ เริ่มถ่ายมันเร็วเข้า มาดูกันว่าใครกันที่มาหาหานเซิ่น นั่นมันออทัมน์วินด์ของเผ่าไอจิไม่ใช่หรอ?”
“เผ่าไอจินั้นขึ้นชื่อในเรื่องความเจ้าชู้ ออทัมน์วินด์นั้นคงจะต้องมาเพราะผู้หญิง 2 คนนั้น”
“เผ่าไอจิถือเป็นเผ่าที่ถูกเคารพนับถือในบรรดาเผ่าพันธุ์ชั้นสูงทั้งหมด พวกเขามียอดฝีมืออยู่มากมาย และพวกเขาก็เชี่ยวชาญในการใช้ธนูเป็นพิเศษ มันมีนักธนูที่เก่งกาจมากมายในเผ่าพวกเขา แต่เผ่าไอจิไม่ถือว่าแข็งแกร่งอะไร เนื่องจากยอดฝีมือส่วนใหญ่ของพวกเขามักจะถูกจ้างโดยเผ่าพันธุ์อื่นๆ มันมีน้อยเผ่าพันธุ์นักที่จะไม่มีนักธนูของเผ่าไอจิอยู่ ส่วนออทัมน์วินด์นั้นเป็นนักธนูที่เก่งกาจที่สุดในรอบหลายศตวรรษ เขาเป็นครึ่งเทพ และสักวันหนึ่งเขาต้องกลายเป็นระดับเทพเจ้าแน่นอน เขาอาจจะโค่นล้มหานเซิ่นได้”
“ข้ากลัวว่าเป้าหมายของเขาจะไม่ใช่หานเซิ่น แต่เป็นผู้หญิงทั้ง 2 คน”
“ข้าไม่คิดว่าออทัมน์วินด์จะมีความสามารถพอ สมญานามบิดาของเทพทั้งปรวงนั้นไม่ใช่แค่มุขตลก แม้แต่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าของเอ็กซ์ตรีมคิงก็ยังจับตัวเขาไม่ได้ ดังนั้นข้าไม่คิดว่าออทัมน์วินด์จะทำอะไรได้มาก”
“บางทีอาจจะไม่เป็นแบบนั้น ระบบเทียนเซียและระบบจักรวาลเคออสนั้นซับซ้อนเกินไป เห็นได้ชัดว่าเหล่ายอดฝีมือระดับเทพเจ้าเจอกับปัญหาในตอนที่ตามล่าตัวหานเซิ่น และเขาก็ซ่อนตัวเป็นอย่างดี แต่ในคอร์แอเรียนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะซ่อนตัว”
ในขณะที่ทุกคนพูดคุยกัน รถม้าทองแดงของหานเซิ่นก็เคลื่อนมาอยู่ตรงหน้าของออทัมน์วินด์
หานเซิ่นมองไปที่ออทัมน์วินด์ เขาดูเหมือนกับมนุษย์คนหนึ่ง เขาเตี้ยและผอมกว่าหานเซิ่น แต่ใบหน้าของเขานั้นละเอียดอ่อน หูของเขายาวและแหลมเป็นพิเศษ เขามีปีกเงินที่โปร่งใสอยู่ด้านหลัง เขาดูเหมือนกับเอลฟ์ในเทพนิยาย
“ทำไมเจ้าถึงมาขวางทางข้า?” หานเซิ่นถามขณะที่มองไปที่ออทัมน์วินด์
ออทัมน์วินด์มองไปที่กู่ชิงเฉิงและจันทราสวรรค์ก่อนจะพูดขึ้นมา
“ข้าได้ยินว่ามีผู้หญิงที่งดงาม 2 คนอยู่ที่นี่ ผู้คนกล่าวว่าโฉมหน้าของพวกนางนั้นตกตะลึงทั้งจักรวาล ดังนั้นข้าจึงมาที่นี่เพื่อดู ข้าคิดว่าเรื่องราวพวกนั้นต้องพูดเกินเลยไป แต่ก่อนที่ข้าจะได้เห็นพวกนาง เพียงแค่ออร่าของพวกนางก็เพียงพอที่จะทำให้ข้าลุ่มหลง ความรู้สึกนี้เป็นอะไรที่คุ้มค่าสำหรับการเดินทางมา ข้าสงสัยว่าพวกนางทั้ง 2 ยินดีที่จะเผยโฉมให้กับข้าไหม ข้ายินดีจะตายเพื่อได้เห็นพวกนาง”
“เจ้าควรกลับบ้านไปในขณะที่เจ้ายังมีโอกาส” หานเซิ่นพูด
“ข้าจริงจังกับเรื่องนี้ ถ้าพวกเจ้าทั้ง 2 คนอนุญาตให้ข้าได้เห็นหน้าพวกเจ้า ข้าก็ยินดีจะเป็นทาสของพวกเจ้าไปชั่วชีวิต ไม่สิถึงข้าจะถูกฆ่าตายในทันที ข้าก็จะไม่เสียใจกับมัน” ออทัมน์วินด์ไม่สนใจหานเซิ่นและขอร้องกู่ชิงเฉิงกับจันทราสวรรค์
ถึงแม้เขาจะพูดออกมาแบบนั้น แต่มันก็ดูไม่เหมือนว่าเขามาที่นี่เพื่อหาเรื่อง
หานเซิ่นกำลังจะบอกให้จี๋หยางเซิงลากรถม้าผ่านออทัมน์วินด์ไป แต่จู่ๆจันทราสวรรค์ก็พูดขึ้นมา
“เจ้าจะได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของพวกเรา แต่เจ้าต้องเอาชนะเขาให้ได้ซะก่อน”
คำพูดของจันทราสวรรค์ทำให้เหล่าราชันมากมายที่อยู่ที่นั่นตกใจ พวกเขาคิดว่าพวกเธอทั้ง 2 คนเป็นเพื่อนของหานเซิ่น แต่สิ่งที่เธอพูดออกมานั้นบ่งบอกอะไรที่แตกต่างออกไป
พวกเขาเริ่มเชื่อว่าพวกเธอถูกจับเป็นตัวประกันโดยปีศาจที่ชั่วร้าย มันทำให้พวกเขาเดือดขึ้นมา พวกเขาต้องการจะช่วยพวกเธอทั้ง 2 คน