Super God Gene - ตอนที่ 2581
Super God Gene – ตอนที่ 2581
หานเซิ่นหลงรักธนูคันใหม่ในทันที ก่อนหน้านี้เขาได้ใช้วินด์สตริงของออทัมน์วินด์ไป แต่คันธนูนั้นมีเจ้าของเรียบร้อยแล้ว การบังคับให้มันยอมเชื่อฟังนั้นไม่ทำให้รู้สึกดี
แต่ธนูงูหกคอร์นี้ต่างออกไป หานเซิ่นจับคันธนูและดึงสายธนูได้อย่างง่ายดาย ฟันเฟืองบนคันธนูเริ่มหมุนขณะที่เขาดึงสายไปด้านหลัง แถมพลังที่คันธนูปลดปล่อยออกมานั้นก็ยอดเยี่ยมเหมือนอย่างที่เขาหวังเอาไว้ ความจริงแล้วคันธนูนี้สามารถยิงได้แรงกว่าที่วินด์สตริงทำได้เสียอีก
หานเซิ่นรู้สึกได้ถึงพลังธาตุอวกาศจากคันธนู แต่เขาไม่รู้ว่าพลังธาตุอวกาศนั้นส่งผลกับการใช้ธนูงูหกคอร์ยังไง
นี่เป็นครั้งแรกที่หานเซิ่นได้มีโอกาสใช้วิญญาณอสูรระดับเทพเจ้าประเภทอาวุธ ดังนั้นมันจึงยากที่จะคาดคะเนถึงพลังที่แท้จริงของมัน
หานเซิ่นยังไม่มีแผนที่จะลองใช้มันในตอนนี้ เขาคิดจะเก็บคันธนูนี้เอาไว้สำหรับใช้ในตัวตนหานเซิ่น สำหรับตอนที่ใช้ชื่อดอลลาร์ แค่ขุนพลเกราะทองก็มากเพียงพอแล้วที่จะต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้า ด้วยเหตุนั้นมันจึงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะใช้มันในตอนนี้
แถมอาวุธนั้นเหมาะสมกับตัวตนหานเซิ่นอย่างที่สุด เสื้อคลุมวิญญาณราชานกยูงนั้นส่งผลต่อการใช้ธนูและมันยังจะช่วยให้การยิงธนูของเขาทรงพลังยิ่งขึ้นอีก มันจะช่วยมอบความปลอดภัยที่มากขึ้นให้กับเขา
ถึงแม้จะมียอดฝีมือระดับเทพเจ้ามาตามล่าตัวเขา พวกเขาก็ไม่สามารถฆ่าหานเซิ่นได้ เนื่องจากหานเซิ่นมีเสื้อคลุมวิญญาณราชานกยูงและธนูงูหกคอร์
หานเซิ่นเก็บคันธนูหกคอร์ไป เขาจะใช้มันในภายหลัง
เขาใช้อาณาเขตตงเสวียนเพื่อซ่อนตัวเองและจระเข้น้อยขณะที่ตรวจเช็คคันธนู ด้วยเหตุนั้นแม้แต่เอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อก็ไม่รู้ว่าตอนนี้เขากำลังทำอะไร
‘ขาดไปก็แต่ลูกธนูระดับเทพเจ้า การมีคันธนูแต่ไม่มีลูกธนูนั้นไม่สมบูรณ์’ หานเซิ่นคิดอย่างละโมภ
เอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อกำลังจะไล่ตามหลังหานเซิ่นไป แต่พวกเธอรู้สึกตัวว่าเขาได้หายตัวไปจากตรวจจับของพวกเธอ พวกเธอไม่สามารถตรวจจับตัวตนของเขาได้อีกต่อไป ไม่ว่าพวกเธอจะใช้วิธีการใด พวกเธอบินไปยังจุดที่หานเซิ่นถูกเห็นเป็นครั้งสุดท้าย แต่ดูเหมือนว่าเขาจะหายไปนานแล้ว แม้แต่เวรี่ไฮเซ้นส์ของพวกเธอก็หาร่องรอยของเขาไม่เจอ
“ดอลลาร์คนนี้เป็นบุคคลที่ลึกลับมากๆ” เอ็กซ์ควิสิทพูดพร้อมกับขมวดคิ้ว
“ไม่ใช่แค่ลึกลับ ทุกอย่างที่เขาทำเป็นอะไรที่เหลือเชื่อ แต่มันยากที่จะโน้มน้าวคนแบบนั้นให้มาเป็นตัวไหมของข้า” หลี่เคอเอ๋อถอนหายใจ
“ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งสักแค่ไหน เขาก็ซ่อนตัวจากเผ่าเวรี่ไฮไปตลอดไม่ได้ ถ้าเจ้าอยากจะเลือกเขาจริงๆ พวกเรากลับไปที่บ้านและขอให้ผู้อาวุโสช่วยหาตัวตนที่แท้จริงของเขา หลังจากนั้นพวกเราค่อยมาคิดแผนการที่จะรับตัวเขาไป” เอ็กซ์ควิสิทพูด
หลี่เคอเอ๋อส่ายหัว “เขาจะเป็นตัวไหมของข้า ดังนั้นข้าควรจะพยายามรับตัวเขามาด้วยตัวเอง”
เอ็กซ์ควิสิทไม่ได้พูดอะไร แต่เธอไม่ได้มีความหวังกับความพยายามของหลี่เคอเอ๋อมากนัก
ก่อนที่เธอจะได้พบกับดอลล่าร์ เอ็กซ์ควิสิทเคยคาดคิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่คนๆหนึ่งจะปฏิเสธข้อเสนอของเผ่าเวรี่ไฮ แต่ดอลลาร์นั้นมหัศจรรย์จนเธอเปลี่ยนความคิดนั้นไป
มันเป็นเรื่องยากมากๆที่จะโน้มน้าวคนแบบนั้นให้มาเป็นตัวไหมของพวกเขา แถมเวรี่ไฮเซ้นส์ของหลี่เคอเอ๋อก็ยังไม่สมบูรณ์
แต่หลี่เคอเอ๋อยืนกราน ดังนั้นเอ็กซ์ควิสิทจึงไม่โต้แย้งอะไร
หานเซิ่นพาจระเข้น้อยไปรอบๆเพื่อออกล่า พวกเขาฆ่าคอร์ซีโน่เจเนอิคระดับราชันหลายตัวที่พบ ในตอนแรกจระเข้น้อยก็ดีใจกับมัน แต่ตอนนี้มันเริ่มจะรู้สึกเบื่อ
หานเซิ่นเอาไวท์ออกมาเพื่อทำให้จระเข้น้อยกลับมาดีใจอีกครั้ง แต่มันเริ่มจะยากขึ้นทุกทีที่จะเอาใจจระเข้น้อย มันอยากจะเห็นโลกภายนอกมากขึ้นเรื่อยๆ
“สถานที่ที่ข้าบอกเจ้ามีอยู่จริงๆ แต่เจ้าจะไม่เห็นมันในคอร์แอเรีย เจ้าเป็นสิ่งมีชีวิตของคอร์แอเรีย เจ้าออกไปไม่ได้ แบบนั้นข้าจะพาเจ้าออกไปเห็นสิ่งที่อยู่ข้างนอกนั่นได้ยังไงกัน?” หานเซิ่นเริ่มจะรำคาญเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน
โชคดีที่เตาหลอมทองแดงอยู่ที่นี่ด้วย มันช่วยทำให้จระเข้น้อยมีความสุขมากขึ้น
จระเข้น้อยได้ให้ซีโน่เจเนอิคมากมายกับเตาหลอมทองแดง และตอนนี้มันก็มีดาบจำนวนมากอยู่ภายในเตาหลอม
หานเซิ่นใช้กราสเซสเพื่อวิเคราะห์เตาหลอมทองแดงและพบว่าศักยภาพยีนของมันคือ 5 ดาวเช่นกัน นั่นคือจำนวนดาวสูงสุดที่ระดับราชันจะมีได้
“น่าเสียดายที่ซีโน่เจเนอิคของคอร์แอเรียออกไปไม่ได้ ไม่อย่างนั้นเราก็คงจะเก็บพวกมันเอาไว้ข้างกายตลอด” หานเซิ่นถอนหายใจ
หานเซิ่นให้เตาหลอมนำทางพวกเขาไปรอบๆ แต่ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็ออกไปจากคอร์แอเรียและกลับไปที่วาฬขาว
ในอดีตทุกครั้งที่หานเซิ่นกลับมา เหล่าโจรสลัดจะมาต้อนรับเขา แต่ครั้งนี้ไม่มีใครสังเกตเห็นเขา ทุกคนกำลังมองบางสิ่งที่อยู่นอกวาฬขาว และพวกเขาดูเหมือนจะกำลังตกตะลึง แม้แต่เป่าเอ๋อเองก็เช่นกัน
หานเซิ่นไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เขามองตามสายตาของทุกคนไปและเห็นว่ามีกลุ่มงูกำลังขึ้นมาบนเกาะ พวกมันขึ้นมาจากทะเลสีดำ เสือขาวก็ปรากฏตัวออกมาเพื่อไล่พวกมันกลับไปเหมือนกับทุกครั้ง
การต่อสู้แบบนี้เกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้ง แต่ในครั้งนี้มันต่างออกไป มันมีจำนวนงูออกมาจากทะเลสีดำมากเกินไป มันมากกว่าจำนวนงูที่ปรากฏตัวในครั้งก่อนหลายเท่า
เหล่างูเลื้อยขึ้นมาเป็นฝูงและเริ่มกินเห็ดที่อยู่บนเกาะ พวกมันน่ากลัวยิ่งกว่าการคุกคามของฝูงตั๊กแตน
เสือขาวพยายามไล่ฆ่าพวกมัน แต่มันมีงูอยู่มากเกินไป เจ้าเสือขาวไม่สามารถฆ่าพวกมันได้ทั้งหมด ฝูงงูเลื้อยขึ้นมาบนเกาะมากขึ้นเรื่อยๆ
“โอ้ไม่นะ!” ทันใดนั้นจู่ๆฟางชิงอวี่ก็ร้องตะโกนขึ้นมา
“ไม่อะไร?” เหล่าโจรสลัดหันไปมองฟางชิงอวี่
สีหน้าของฟางชิงอวี่ดูแย่ เขาพูดขึ้นมา “ถ้าเสือขาวหยุดพวกงูไม่ได้ เห็ดทั้งหมดที่อยู่ที่นี่ก็จะถูกพวกมันกินไป นั่นหมายความว่าพวกเราจะไม่มีอาหารเหลืออีก”
“ข้าก็คิดว่าจะมีเรื่องไม่ดีอะไรเกิดขึ้น นั่นไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร พวกเราจะแลกเปลี่ยนอาหารกับคนอื่นภายในคอร์แอเรีย” โจรสลัดคนหนึ่งพูด
“มันไม่ได้ง่ายแบบนั้น ฟังให้ดี ถ้าเห็ดทั้งหมดถูกกินไปแล้ว อย่างนั้นเมื่อเสือขาวเกิดหิวขึ้นมา มันก็อาจจะมาล่าพวกมัน แล้วพวกงูล่ะ? นอกจากเห็ดบนภูเขาแล้ว เห็ดที่ยังเหลืออยู่ก็มีแค่…” ก่อนที่ฟางชิงอวี่จะพูดจบ ทุกคนก็รู้ว่าเขาจะบอกอะไร
พวกเขาทุกคนมองเห็ดที่อยู่บนหัวของกันและกัน พวกเขารู้สึกหนาวขึ้นมา ถ้าพวกงูปฏิบัติกับพวกเขาเหมือนกับอาหาร พวกเขาก็ต้องหยุดการลุกลานของงู และนั่นคงจะจบลงไม่สวยสำหรับพวกเขา
พวกเขาได้เห็นถึงความน่ากลัวของพวกงู และหลายตัวในหมู่พวกมันก็เป็นถึงระดับราชัน แถมพวกมันยังดูเหมือนกับว่ามีจำนวนไม่จำกัด มันเป็นไปไม่ได้ที่จะฆ่าพวกมันได้หมด
ถ้าเสือขาวหยุดพวกงูไม่ได้ มันก็ไม่มีอะไรที่พวกเขาจะทำได้
“นกแดงน้อย ออกไปช่วยเจ้าเสือขาว” หานเซิ่นพูดกับนกแดงน้อย ถ้าฝูงงูเข้ายึดครองเกาะ มันก็จะเป็นปัญหาสำหรับพวกเขา นั่นเป็นเหตุผลที่หานเซิ่นอนุญาตให้นกแดงน้อยออกไปช่วยเหลือเสือขาวต่อสู้กับฝูงงู แต่ก่อนที่นกแดงน้อยจะทำอะไร สายลมที่รุนแรงพัดมาจากทางทะเลสีดำ สัตว์ประหลาดขนาดยักษ์โผล่ขึ้นมาจากะเลสีดำพร้อมกับก่อให้เกิดคลื่นลูกใหญ่