Super God Gene - ตอนที่ 2691
Super God Gene – ตอนที่ 2691
ตอนที่ 2691 ซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟที่น่ากลัว
เจลเดม่อนฮอลล์ถูกสร้างขึ้นสำหรับซีโน่เจเนอิคตัวนั้น ในตอนที่หานเซิ่นเข้าไปข้างใน เขาไม่ได้ถูกจำกัดพลังอะไร สถาปัตยกรรมของห้องโถงแห่งนี่นั้นเป็นอะไรที่แปลกประหลาดมากๆ ห้องโถงปกติจะเรียบสนิทหรือไม่ก็ลาดเอียงไปสู่เวทีของห้อง แต่ทว่าภายในห้องโถงแห่งนี้ ทั้งสี่ด้านของห้องเป็นขั้นบันไดที่นำลงไปสู่แท่นหินที่มีความยาวสิบเมตรด้านล่าง
แท่นหินนั้นปกคลุมไปด้วยสัญลักษณ์ที่หานเซิ่นไม่เคยเห็นมาก่อน ถึงแม้หานเซิ่นจะไม่รู้ว่าพวกมันหมายถึงอะไร แต่เขาก็สัมผัสได้ถึงพลังประหลาดจากพวกมัน
ที่ใจกลางของแท่นหินมีเสาหินสีดำสนิทตั้งอยู่ มันสูงขึ้นไปจนถึงเพดานของห้องโถง ส่วนบนของเสาต้นนั้นปกคลุมไปด้วยรอยแกะสลักและเครื่องหมาย แต่ความสนใจของหานเซิ่นถูกดึงไปที่ฐานของเสาต้นนั้น มันมีสิ่งมีชีวิตตัวหนึ่งถูกล่ามติดกับเสา
สิ่งมีชีวิตนั้นดูคล้ายคลึงกับมนุษย์ แต่ร่างกายของมันเหมือนกับแมลง เปลือกของมันเป็นสีแดงเหมือนกับเลือด และบนหัวของมันก็มีเขาสีแดงอยู่ ซึ่งทำให้มันดูเหมือนกับม้ายูนิคอร์น ดวงตาของมันเป็นสีเลือดหมูและดูเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด
ขณะที่หานเซิ่นสังเกตสิ่งมีชีวิตที่ถูกล่ามอยู่นั้น สิ่งมีชีวิตนั้นก็จ้องกลับมาที่เขาด้วยเช่นกัน มันอ้าปากขึ้นและเผยให้เห็นฟันที่หยักเหมือนกับใบเลื่อยของมัน หลังจากนั้นมันก็คำรามใส่หานเซิ่น
มันเริ่มจะดิ้นไปดิ้นมาอย่างรุนแรง และในตอนที่มันเคลื่อนไหว เครื่องหมายที่อยู่บนเสาหินก็เรืองแสงขึ้นมา โซ่ที่ติดกับเสาก็เริ่มจะส่องสว่างเช่นเดียวกัน พวกมันรัดแน่นขึ้นกว่าเดิมเพื่อจะหยุดสิ่งมีชีวิตตัวนั้น
“มันเป็นระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟจริงๆ” เมื่อเห็นโซ่สสารสีแดงรอบๆตัวของสิ่งมีชีวิตตัวนั้น หานเซิ่นก็มีสีหน้าดีใจ
ภายในเอาท์เตอร์สกายมีซีโน่เจเนอิคอาศัยอยู่มากมาย แต่พวกมันส่วนใหญ่น่าสะพรึงกลัวมากๆ มันจะเป็นอะไรที่เสี่ยงเกินไป ถ้าหานเซิ่นออกไปล่าพวกมันแบบสุ่มสี่สุ่มห้า ตอนนี้ซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟตัวหนึ่งถูกมอบให้กับเขาอย่างง่ายๆ หานเซิ่นจึงรู้สึกพึงพอใจอย่างมาก
หานเซิ่นสวมใส่เซ็ตอะพอลโล หลังจากนั้นเขาก็กระพือปีกอะพอลโลและบินตรงเข้าไปสู่แท่นหินในชั่วพริบตา เขาใช้มือเป็นเหมือนกับมีดและฟันใส่ซีโน่เจเนอิคที่ถูกล่ามติดกับเสาหิน
หานเซิ่นยังคงใช้วิชาใต้นภา แต่ด้วยพลังเสริมจากเซ็ตอะพอลโล มีดลมปราณโซ่สสารที่น่าสะพรึงจึงถูกปลดปล่อยออกไปเมื่อเขาใช้วิชาใต้นภา การโจมตีของเขาเป็นเหมือนกับใบมีดแสงอาทิตย์ที่ฟันลงไปยังคอของซีโน่เจเนอิค
ซีโน่เจเนอิคตัวนั้นส่งเสียงขู่เหมือนกับงู และโซ่สสารสีแดงของมันก็ระเบิดราวกับภูเขาไฟ มันเป็นอิสระจากการรัดกุมของเสาหินและกรงเล็บของมันก็แกว่งเข้าใส่หานเซิ่นราวกับใบมีดสีแดง
มีดลมปราณของหานเซิ่นรุนแรงพอจะเอาชนะระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้ากรงเล็บของซีโน่เจเนอิคตัวนี้ การโจมตีของหานเซิ่นไม่สามารถทำอะไรได้ เจ้าซีโน่เจเนอิคนั้นปัดการโจมตีของเขาทิ้งอย่างง่ายดายและพุ่งเข้ามาประชิดตัว
ฝ่ามือและกรงเล็บปะทะซึ่งกันและกัน กรงเล็บของมันทิ้งรอยลึกเอาไว้บนถุงมือของหานเซิ่น รอยข่วนสามรอยเกิดขึ้นบนมือของเขาก่อนที่เลือดจะเริ่มไหลออกมา โชคดีที่หานเซิ่นตอบสนองได้เร็วพอ เขารีบเทเลพอร์ตถอยออกไป ถ้าเขาไม่ได้ตอบสนองในทันทีล่ะก็ เจ้าซีโน่เจเนอิตตัวนั้นก็คงจะตัดฝ่ามือของเขาจนขาดไปแล้ว
“ทำไมมันถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้?” หานเซิ่นรู้สึกแปลกใจ
ในจังหวะที่เขาเทเลพอร์ตถอยออกไป เจ้าซีโน่เจเนอิคก็มาปรากฏต่อหน้าเขาอีกครั้งเรียบร้อยแล้ว มันแกว่งกรงเล็บเข้ามาที่อกของเขาและตัดผ่านชุดเกราะอะพอลโลราวกับเป็นเนย
หานเซิ่นรีบถอยออกไปเพื่อสร้างระยะห่างกับเจ้าซีโน่เจเนอิค แต่มันมีแสงสีเลือดส่องสว่างออกมาจากร่างกายของเจ้าซีโน่เจเนอิค ขณะที่มันพุ่งเข้ามาหาเขาอีกครั้ง ความเร็วของมันเป็นอะไรที่ไม่อาจจะหยั่งถึงได้ กรงเล็บของมันข่วนใส่อกของหานเซิ่นอีกครั้ง โซ่สสารสีแดงกลายเป็นแสงที่เหมือนกับกรงเล็บ และพวกมันก็ทิ้งบาดแผลไว้บนอกของหานเซิ่น ซี่โครงของเขาเกือบจะเผยออกมาให้เห็นจากบาดแผลที่เขาได้รับ
“เจ้าตัวนี้เป็นแค่ขั้นพริมิทีฟแน่หรอ?” หานเซิ่นพึมพำอย่างครุ่นคิด เขาใช้ก็อตส์วอนเดอร์และเทเลพอร์ตหนีไปอีกครั้งโดยหวังจะสลัดซีโน่เจเนอิคตัวนี้ให้หลุด
แต่ความพยายามของเขาไร้ประโยชน์ เจ้าซีโน่เจเนอิคนั้นดูเหมือนจะคาดเดาการเคลื่อนไหวของหานเซิ่นได้ ทันทีที่เขาเทเลพอร์ตไปอีกจุดหนึ่ง เจ้าซีโน่เจเนอิคก็จะมาปรากฏตัวต่อหน้าเขาอีกครั้ง
หานเซิ่นร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ขณะที่กรงเล็บของซีโน่เจเนอิคแทงถูกท้องของเขา ถ้าหานเซิ่นเทเลพอร์ตช้ากว่านี้ ไส้ของเขาก็คงจะร่วงลงไปกับพื้นเรียบร้อยแล้ว
โชคดีที่หานเซิ่นมีเซ็ตอะพอลโลที่เป็นสมบัติระดับเทพเจ้า แต่ถึงอย่างนั้นเมื่ออยู่ต่อหน้ากรงเล็บอันแหลมคมของซีโน่เจเนอิคตัวนี้ มันก็ไม่ได้ต่างอะไรจากกระดาษทิชชู่
หานเซิ่นไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี ถึงแม้เขาจะกำลังต่อสู้กับซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟ แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ร่างโคลนของมันเท่านั้น คู่ต่อสู้ที่แท้จริงของเขาคือร่างจริงของมันที่กำลังควบคุมสิ่งมีชีวิตตัวนี้ ซึ่งมันเป็นซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าขั้นทรูก็อตที่น่ากลัว
และถึงร่างกายนี้จะเป็นแค่ร่างโคลน แต่มันก็เป็นที่สุดของที่สุดในระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟอย่างไม่ต้องสงสัย มันเหนือกว่าเชลที่เพิ่งจะกลายเป็นระดับเทพเจ้าอย่างมาก
ที่น่ายิ่งกว่าคือจิตใจและการเคลื่อนไหวของมันเป็นขั้นทรูก็อต หานเซิ่นภูมิใจในพลังของตัวเอง แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเทพเจ้าขั้นทรูก็อต ความสามารถของเขาก็ถือเป็นอะไรที่กระจิดริด เขายืมพลังจากเซ็ตอะพอลโลเพื่อทำให้สามารถต่อสู้กับระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟทั่วๆไปได้ แต่ถึงอย่างเขาก็ยังไม่สามารถป้องกันการโจมตีของซีโน่เจเนอิคตัวนี้ได้
เวรี่ไฮทุกคนที่ถูกส่งมาจัดการกับร่างโคลนนั้นจะเป็นระดับลาร์วาขึ้นไป แม้แต่เวรี่ไฮระดับเทพเจ้าขั้นทรานส์มิวเทชั่นก็ยังต้องใช้เวลานานกว่าจะฆ่ามันได้
เอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อบอกว่านี่เป็นเพียงแค่ซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟ แต่พวกเธอไม่ได้บอกถึงความน่ากลัวของซีโน่เจเนอิคตัวนี้ เมื่อหานเซิ่นรู้สึกตัวถึงความแข็งแกร่งของมัน เขาก็รู้ว่าไม่ควรเสี่ยงพยายามต่อสู้กับมันต่อไป เขาใช้ความสามารถในการเทเลพอร์ตเพื่อหนีออกไปจากเจลเดม่อนฮอลล์ หานเซิ่นรอดตัวออกไปอย่างหวุดหวิด ถ้าเขายังฝืนต่อสู้ต่อไปอีกล่ะก็ เขาก็คงจะถูกฆ่าตายอย่างไม่ต้องสงสัย
“นั่นเป็นซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟจริงๆอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถามขณะที่กุมบาดแผลที่ท้องของตัวเอง เขามองไปที่หลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทด้วยความสงสัย
“มันเป็นความจริง มันเป็นระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟจริงๆ แต่มันเป็นระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟที่เก่งกาจที่สุด พวกเราคิดว่าเจ้าอาจจะต่อสู้กับมันได้ นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเราไปทำเรื่องขอให้เจ้าได้เข้าไปข้างใน แต่ดูเหมือนว่าพวกเราจะด่วนตัดสินใจเกินไป”
เอ็กซ์ควิสิทพูดโดยทำให้แน่ใจว่าเสียงของเธอดูจริงจังมากที่สุด แต่ในใจของเธอกำลังคิดว่า ‘มันเป็นเรื่องดีที่เจ้าจะประสบกับความล้มเหลวบ้างเป็นครั้งคราว พวกเราไม่อยากให้เจ้าอวดดีจนเกินไปในอนาคต’
หลี่เคอเอ๋อยิ้มและพูด “การพ่ายแพ้ที่นี่ถือเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ เพราะยังไงซะเจ้าก็ยังไม่ใช่ระดับเทพเจ้า เอาแบบนี้เป็นยังไง? พวกเราไปหาซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าที่อ่อนแอกว่านี้ให้เจ้าล่ากัน”
หานเซิ่นรู้ว่าหลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทไม่ได้โกหกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ถ้าพวกเธอบอกว่าซีโน่เจเนอิคนั่นเป็นระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟ แบบนั้นมันก็คงจะเป็นระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟจริงๆ
“ซีโน่เจเนอิคนั่นแข็งแกร่งมากจริงๆ” หานเซิ่นพูดก่อนที่จะหยุดมองไปที่เอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋ออยู่สักพัก หลังจากนั้นเขาก็ถาม
“มันมีเวลาจำกัดไหมในการจะฆ่าซีโน่เจเนอิคตัวนี้?”
“ซีโน่เจเนอิคของเจลเดม่อนฮอลล์จะใช้เวลาในการสะสมพลังประมานหกเดือนก่อนจะหนีออกไป โดยปกติแล้วคนของพวกเราจะพยายามฆ่ามันทุกๆสามเดือนเพื่อความปลอดภัย” หลี่เคอเอ๋อพูด
“ถ้ายังเหลือเวลา ข้าขอลองต่อสู้กับมันอีกครั้ง” หานเซิ่นยังไม่อยากจะยอมแพ้