Super God Gene - ตอนที่ 2766
Super God Gene – ตอนที่ 2766
เอ็กซ์ควิสิทมองหานเซิ่นด้วยสีหน้าที่ซับซ้อน เธอได้ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ที่จะฝ่าฝืนกฎและเสี่ยงพาหานเซิ่นหนีไป เธออาจจะไม่ถูกขังเป็นเวลาหนึ่งร้อยปี แต่เธอยังจะได้รับบทลงโทษที่รุนแรง แต่ตอนนี้หานเซิ่นไม่ยินดีจะจากไป เขาบอกเธอว่าเขาจะใช้พลังของตัวเองเพื่อหนีไป เอ็กซ์ควิสิทไม่รู้ว่าทำไมหานเซิ่นถึงได้มั่นใจนัก สำหรับเธอแล้วสิ่งที่เขาพูดเป็นอะไรที่บ้ามากๆ
ขวดที่ขังหานเซิ่นเอาไว้นั้นถูกเก็บอยู่ในห้องโถงของอัลฟ่าเผ่าเวรี่ไฮ แม้แต่ยอดฝีมือขั้นทรูก็อตก็ไม่สามารถผ่านระบบป้องกันเพื่อเข้าออกจากที่นั่นได้ถ้าไม่มีตราประทับของเวรี่ไฮอยู่
หานเซิ่นเป็นเพียงแค่คนที่เพิ่งจะกลายเป็นระดับเทพเจ้า แต่เขากลับพูดออกมาอย่างมั่นใจว่าเขาจะใช้พลังของตัวเองเพื่อหนีออกไปจากห้องโถงของอัลฟ่าเผ่าเวรี่ไฮ นอกจากนั้นเขายังคงถูกขังอยู่ในขวดอีก ไม่ว่าใครก็คิดว่าหานเซิ่นนั้นบ้าที่พูดอะไรแบบนั้นออกมา
“เจ้าจำเป็นต้องคิดเกี่ยวกับมันดีๆ ข้อเสนอของข้าในตอนนี้คือโอกาสเดียว” เอ็กซ์ควิสิทพูดขณะที่จ้องไปที่หานเซิ่น
“ส่งข้ากลับไป มันจะดูไม่ดีถ้าคนอื่นมาเห็นพวกเราแบบนี้” หานเซิ่นพูดอย่างสงบนิ่ง
เอ็กซ์ควิสิทสัมผัสได้ถึงสิ่งที่หานเซิ่นกำลังคิด และเธอรู้สึกตื้นตันใจ เขาไม่อยากให้เธอต้องประสบกับปัญหาเพราะเขา นั่นเป็นเหตุผลที่เขาแน่วแน่ที่จะกลับไปในขวด
แต่เอ็กซ์ควิสิทยังคงไม่เข้าใจว่าหานเซิ่นไปเอาความมั่นใจมาจากที่ไหน
ทันใดนั้นสีหน้าของเอ็กซ์ควิสิทก็เปลี่ยนไป เธอถอนหายใจและพูด “ตอนนี้มันสายเกินไปแล้วที่เจ้าจะหนีไป”
หลังจากนั้นเธอก็เลิกลังเลและพาหานเซิ่นกลับเข้าไปในโลกในขวด
ในตอนที่เอ็กซ์ควิสิทพาหานเซิ่นกลับเข้าไปขวด เธอก็เห็นว่าลุงเก้ารอคอยเธออยู่ข้างใน เขามองมาที่เอ็กซ์ควิสิทและขมวดคิ้ว
“เอ็กซ์ควิสิท เจ้ามากับข้า”
หานเซิ่นรู้ว่าลุงเก้าต้องพบว่าเธอพยายามจะพาเขาหนีออกไป โชคดีที่เขาไม่ได้หนีไปจริงๆ ไม่อย่างนั้นเผ่าเวรี่ไฮก็คงจะถือว่าเอ็กซ์ควิสิทนั้นเป็นอาชญากร
เอ็กซ์ควิสิทมองหานเซิ่นด้วยสีหน้าที่ซับซ้อน หลังจากนั้นเธอก็ตามลุงเก้าออกจากโลกในขวดไป
“ดูเหมือนว่าทางเวรี่ไฮจะไม่รู้ว่าปะการังโลหิตนั้นหนีออกมาจากการปิดผนึกและกลับมาหาเรา น่าแปลกที่แม้แต่ผู้อาวุโสของเวรี่ไฮก็ไม่ได้สังเกตว่ามันหายไปแล้ว”
หานเซิ่นรู้สึกสงสัยอย่างมากเกี่ยวกับปะการังโลหิต ถึงแม้มันจะดูเป็นอะไรที่ค่อนข้างทนทาน แต่เขาก็ไม่สามารถใช้มันเป็นอาวุธได้ มันเป็นเพียงแค่ภาชนะสำหรับร่างกายของแอนท์เชี่ยนบลัดดราก้อนเลดี้
หานเซิ่นยังคงทำการปรับแต่งวิชาใต้นภาและเบรกซิกซ์สกายต่อไป จนกระทั่งเขาไม่สามารถคิดหาหนทางไหนที่จะปรับแต่งพวกมันได้อีก หลังจากนั้นเขาก็หาเวลาเพื่อเข้าไปในฟาร์มของพระเจ้าอีกครั้ง
หานเซิ่นเข้าไปในฟาร์มของพระเจ้าอย่างระมัดระวัง แต่เขาไม่เห็นกู่หว่านเอ๋อหรือมีดเทพ รถม้าที่ถูกลากโดยยูนิคอร์นเก้าตัวก็หายไปเช่นกัน
“กู่หว่านเอ๋อควรจะกลับมาถูกไหม?” หานเซิ่นไม่ได้กังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของตัวเองอีกต่อไป เขากังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งก่อน เขากลัวว่าตอนนี้มีดเทพหรือเจ้าของของมันอาจจะตัดสินใจหยุดกู่หว่านเอ๋อจากการมาที่ดาวดวงนี้อีก
“ฟาร์มของพระเจ้าคืออะไรกันแน่? มันคือสถานที่ที่เป็นส่วนหนึ่งของจักรวาลจีโนอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นรู้สึกตัวว่าเขายังไม่ได้ลองพยายามกลับไปในก็อตแซงชัวรี่จากที่นี่ เขารู้ว่าโอกาสที่มันจะได้ผลนั้นน้อย แต่เขาก็ไม่รังเกลียดที่จะลองดู
แต่ในตอนที่เขาลองทดสอบดู เขาก็ถูกส่งกลับไปที่บ้านจริงๆ แม้แต่หานเซิ่นเองก็ประหลาดใจกับเรื่องนั้น
“ถ้าเราเดินทางกลับเข้ามาในก็อตแซงชัวรี่ได้ นั่นหมายความว่าฟาร์มของพระเจ้านั้นอยู่ที่ไหนสักแห่งในจักรวาลจีโน มันไม่ได้อยู่ในมิติที่แยกตัวออกไปเหมือนอย่างเอาท์เตอร์สกาย ถ้าอย่างนั้นเราจะเป็นอิสระถ้าเราหนีไปจากระบบป้องกันของดาวแกะปีศาจได้”
ถ้าปัญหาเดียวของหานเซิ่นคือการถูกขังอยู่ภายในโลกในขวด นี่ก็จะทำให้เขาดีใจอย่างมาก แต่ตอนนี้ถึงแม้เขาจะเป็นอิสระ เขาก็ไม่ได้รู้สึกดีใจ เพราะเขาไม่มีหนทางที่จะช่วยกู่หว่านเอ๋อ
“เราควรบอกกับไผ่เดียวดายเกี่ยวกับกู่หว่านเอ๋อไหมนะ? แต่เราไม่รู้ว่าจะหาฟาร์มของพระเจ้าได้จากที่ไหน นอกซะจากเราจะเดินทางโดยใช้ลูกบาศก์สี่แกะ มันไร้ประโยชน์ที่จะบอกกับไผ่เดียวดายในตอนนี้”
เมื่อหานเซิ่นกลับไปที่บ้าน เขาก็ได้เห็นหลิงเอ๋อลูกสาวของเขา
“หลิงเอ๋อที่รักของพ่อ ในตอนที่พ่อไม่อยู่ หนูเป็นเด็กดีใช่ไหม?” เขาอุ้มหลิงเอ๋อขึ้นมาและหอมแก้มของเธอ
“หลิงเอ๋อเป็นเด็กดี พ่อเป็นเด็กไม่ดี” หลิงเอ๋อพูดพร้อมกับกระพริบตาปริบๆ
“พ่อเป็นเด็กไม่ดีตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?” หานเซิ่นถามด้วยความอยากรู้
หลิงเอ๋อมองจีเหยียนหรันที่กำลังทำอาหารอยู่ในครัว เธอกระซิบบอกหานเซิ่น “พ่อไม่กลับมาเป็นเวลานาน มันทำให้แม่โกรธมากๆ”
“แม่โกรธแค่ไหนกัน?” หานเซิ่นถามหลิงเอ๋อเบาๆ
หลิงเอ๋อกระซิบด้วยเสียงที่มีแค่พวกเขาสองคนเท่านั้นที่จะได้ยิน
“แม่บอกว่าแม่จะสั่งสอนบทเรียนให้กับพ่อในตอนที่พ่อกลับมา”
…
หานเซิ่นพักอยู่ที่บ้านอยู่หลายวัน และเขาก็จะกลับเข้าไปที่ฟาร์มของพระเจ้าอยู่เป็นครั้งคราว แต่เขายังคงไม่เห็นกู่หว่านเอ๋อหรือมีดเทพ หานเซิ่นไม่รู้ว่าเธอจะกลับมาที่ดาวดวงนั้นอีกไหม
“เราจะเอาแต่รออยู่แบบนี้ไม่ได้ ดูเหมือนว่ามันถึงเวลาที่เราจะต้องลองฝ่าการป้องกันของดาวแกะปีศาจออกไป”
หานเซิ่นมองขึ้นไปบนท้องฟ้า เขาเข้าสู่โหมดร่างต่อสู้ซีโน่เจเนอิคและบินขึ้นจากพื้นดิน
เหมือนกับครั้งก่อน ในจังหวะที่หานเซิ่นกำลังจะผ่านชั้นบรรยากาศไป ใบมีดนับไม่ถ้วนก็ก่อตัวขึ้นรอบๆตัวเขา พวกมันแต่ละอันเทียบได้กับการโจมตีของสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟ และพวกมันก็ปรากฏออกมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
หานเซิ่นพอจะรับมือกับหนึ่งถึงสองใบมีดได้ แต่เขาไม่สามารถจะรับมือกับพวกมันนับหมื่นได้ มันมีใบมีดอยู่มากเกินไป และพวกมันก็หลั่งไหลเข้ามาหาเขาอย่างไม่หยุดยั้ง
หานเซิ่นใช้โล่เมดูซ่าส์เกซเพื่อป้องกัน และถึงโล่ของเขาจะไม่ถูกทำลาย แรงกระแทกจากการโจมตีก็ส่งหานเซิ่นร่วงลงไปจากท้องฟ้า เขาพุ่งลงไปสู่พื้นผิวราวกับลูกอุกกาบาตทำให้เกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่บนพื้น
หานเซิ่นพยายามจะฝ่าระบบป้องกันของดวงดาวอยู่หลายครั้ง แต่เขารู้สึกตัวว่าไม่สามารถหนีออกไปจากดวงดาวโดยการใช้กำลังได้ แม้แต่สิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าขั้นลาร์วาก็ไม่สามารถฝ่าการป้องกันนี้ไปได้
“ถ้าร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดของเราไม่ได้รับผลกระทบจากหว่านเอ๋อ เราก็คงจะหนีไปได้ แต่เราจะใช้ร่างเทพเจ้าสปิริตขึ้นสุดยอดเป็นเวลานานไม่ได้ มันทำงานได้เพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น แต่เราไม่รู้ว่านั้นเพียงพอที่จะหนีไปได้หรือเปล่า”
ตอนนี้หานเซิ่นไม่มีตัวเลือกอื่นอีกแล้ว ดังนั้นเขาจำเป็นต้องลองดู เขายกโล่ขึ้นและบินสู่ท้องฟ้าอีกครั้ง
ในตอนที่ร่างกายของเขาไม่สามารถทนรับแรงกระแทกของใบมีดได้อีกต่อไป เขาก็ลดโล่เมดูซ่าส์เกซลงและเปิดใช้โหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอด
ขณะที่อยู่โหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอด หานเซิ่นก็ทำการเทเลพอร์ต ซึ่งการพยายามนี้ได้ผลออกมาดีกว่าที่เขาคิดเอาไว้ หัวใจของเขาเริ่มเต้นอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น เขาจำเป็นต้องเทเลพอร์ตไปให้ไกลที่สุด ด้วยเหตุนั้นในตอนที่เขาทำการเทเลพอร์ต เขาไม่ได้ดูว่าตัวเองเทเลพอร์ตไปไกลขนาดไหน แต่ในตอนที่เขาปรากฏตัวออกมาหลังจากการเทเลพอร์ตนั้น เขาพบตัวเองอยู่ในส่วนที่แปลกประหลาดของอวกาศ หลังจากนั้นสักพักเขาก็หาดาวแกะปีศาจเจอด้านหลัง มันอยู่ไกลแสนไกลจนดวงดาวมีขนาดพอๆกับกำปั้น
โหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดมาถึงจุดสิ้นสุด มันคงอยู่นานพอแค่ให้หานเซิ่นเทเลพอร์ตได้ครั้งหนึ่งเท่านั้น
ขณะที่หานเซิ่นมองไปรอบๆ เขาก็เห็นกลุ่มคนบินผ่านมา เมื่อเขามองดูดีๆ เขาก็สังเกตเห็นว่ามีเดสทรอยเยอร์คนหนึ่งที่เขารู้จักอยู่ในหมู่คนพวกนั้น เดสทรอยเยอร์คนนั้นก็คือบาร์