Super God Gene - ตอนที่ 2912
Super God Gene – ตอนที่ 2912 โกสต์คาร์
มันเป็นนกตัวใหญ่ที่มีสีขาวเหมือนกับหิมะ ขนนกทุกเส้นเป็นเหมือนกับใบมีด ออร่าที่น่ากลัวของมันระเบิดลงมาสู่ผู้คนที่อยู่บนพื้น
นกตัวนี้มีทั้งหมดสี่ปีกที่มีขนาดใหญ่มากๆ ขนหางที่อยู่ด้านหลังของมันนั้นยาวมากๆ มันเหมือนกับธารน้ำตกของใบมีด มันมีหัวนกเก้าหัว มันดูเหมือนกับฟินิกซ์
นกเก้าหัวที่น่ากลัวนั้นบินออกมาจากท้องฟ้าสีรุ้ง ส่วนแผ่นหินที่ถูกตัดขาดออกจากกันนั้นหายไปจากพื้นดิน เหลือเพียงแค่แสงสีรุ้งที่ไหลไปหานกประหลาดตัวนั้น
ในตอนที่มันกระพือปีกทั้งสี่ปีก ขนนกที่เหมือนกับมีดก็ส่งเสียงที่เหมือนเสียงของโลหะปะทะกัน
“นี่คือซีโน่เจเนอิคขั้นทรูก็อต โกสต์คาร์!” ระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟคนหนึ่งตะโกนออกมา
หานเซิ่นรู้สึกแปลกใจ เขาเคยได้ยินชื่อของซีโน่เจเนอิคโกสต์คาร์มาก่อน บางคนบอกว่าโกสต์คาร์นั้นมีสายเลือดของฟินิกซ์ แต่บางคนก็บอกว่าโกสต์คาร์นั้นเป็นนกที่ชั่วร้าย และไม่ว่ามันจะไปที่ไหนความโกลาหลก็จะตามมันไปที่นั่น
แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่หานเซิ่นเคยได้ยินชื่อของโกสต์คาร์มาก่อน ในตำนานบอกว่าหนึ่งในสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ของเซเคร็ดก็คือโกสต์คาร์ นั่นคือเหตุผลที่ทำให้หานเซิ่นเคยได้ยินชื่อของมัน
ตำนานบอกว่าโกสต์คาร์นั้นมีขนนกสีดำ แต่นกตัวนี้มีขนสีขาวเหมือนกับใบมีด และร่างกายของมันก็ยังเป็นธาตุหิน ที่มันมีรูปลักษณ์เป็นแบบนี้ก็เพราะว่ามันดูดซับมีดแสงของหานเซิ่นเข้าไป
หานเซิ่นคิด ‘ซีโน่เจเนอิคตัวนี้ประหลาดจริงๆ เราตัดมันจนขาดครึ่ง แต่มันก็ไม่ตาย มันกลับกลายเป็นซีโน่เจเนอิคขั้นทรูก็อตโกสต์คาร์แทน ถ้าเราเกิดฆ่าเจ้านกตัวนี้อีกครั้ง มันจะกลับกลายเป็นแผ่นหินไหมนะ?’
โกตส์คาร์บินวนรอบๆตัวหานเซิ่นอยู่สามรอบ ก่อนที่จะหยุดตรงหน้าของเขา มันยกหัวขึ้นและส่งเสียงร้องออกมา เสียงทั้งเก้าสั่นสะเทือนท้องฟ้า มันเหมือนกับเสียงร้องร่วมกันของมีดนับหมื่น
หลังจากที่กรีดร้องเสร็จ โกสต์คาร์ก็หุบปีกทั้งสี่ของมัน ร่างกายและหัวทั้งเก้าของมันเอนมาข้างหน้า เหมือนกับว่ามันสวามิภักดิ์ต่อหานเซิ่น
“เราจะพานกตัวนี้ออกไปจากก็อตแอเรียได้ไหมนะ?” หานเซิ่นลองเปิดประตูเพื่อจะพาโกสต์คาร์ออกไปจากก็อตแอเรีย
โดยปกติแล้วสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้านั้นต้องเข้าออกจากก็อตแอเรียด้วยประตูของตัวเองเท่านั้น และสิ่งมีชีวิตภายในก็อตแอเรียก็ไม่สามารถเปิดประตูเพื่อออกไปจากก็อตแอเรียได้
ถ้าโกสต์คาร์ออกไปจากก็อตแอเรียร่วมกับหานเซิ่นไม่ได้ มันก็ไม่มีประโยชน์สำหรับหานเซิ่นที่จะเก็บมันเอาไว้
หานเซิ่นคาดไม่ถึงว่าโกสต์คาร์นั้นจะตามเขาออกไปจากก็อตแอเรียได้จริงๆ หานเซิ่นคิดว่ามันอาจจะเป็นเพราะว่าโกสต์คาร์ดูดซับพลังของวิชามีดใต้นภาของเขาเข้าไป มันเป็นอะไรที่ไม่น่าเชื่อ
“โอ้มายก็อด! นี่นายไปเอานกที่น่ากลัวแบบนี้มาจากที่ไหนกัน?”
เมื่อได้เห็นโกสต์คาร์ หวังอวี่ฮังก็รู้สึกตกใจ โกสต์คาร์จ้องมองไปที่เขาพร้อมกับขนนกที่ตั้งตรง มันดูน่ากลัวมากๆ มันดูเหมือนกับภูเขาของมีด
“มันเป็นสัตว์เลี้ยงที่ฉันเพิ่งจะได้มา มันดูดีใช่ไหมล่ะ?” หานเซิ่นพูดด้วยรอยยิ้ม
“สัตว์เลี้ยง? ระดับไหนกัน?” หวังอวี่ฮังจ้องไปที่โกสต์คาร์
“ทรูก็อต” หานเซิ่นพูดด้วยรอยยิ้ม
“นายและตระกูลหานของนายเอาโชคของทั้งโลกไปไว้เป็นของตัวเองหมด นายแค่ออกไปเพียงไม่นาน นายก็กลับมาพร้อมกับสัตว์เลี้ยงซีโน่เจเนอิคขั้นทรูก็อตแล้ว” หวังอวี่ฮังดูอิจฉาอย่างมาก
“ให้ฉันลองขี่มันหน่อยได้ไหม ฉันอยากรู้ว่าการขี่สิ่งมีชีวิตขั้นทรูก็อตจะรู้สึกยังไง?”
หวังอวี่ฮังเข้าไปใกล้โกสต์คาร์ ซึ่งทำให้โกสต์คาร์โกรธ ขนนกที่เหมือนกับมีดของมันเรืองแสงขึ้นมา มีดแสงสีขาวที่เหมือนกับกาแล็กซี่ถูกปลดปล่อยออกมาปกคลุมทั้งฟ้าและผืนดินของทั้งสเปชการ์เด้น
หวังอวี่ฮังหวาดกลัวและถอยออกไป เขาโบกมือและพูด “ไม่ ไม่ ไม่ ฉันแค่ล้อเล่นเท่านั้น ฉันไม่กล้าอาจเอื้อมที่จะขี่นาย”
“อย่าได้ทำร้ายคนอื่นโดยที่ไม่ได้รับคำสั่ง” หานเซิ่นพูดกับโกสต์คาร์ หลังจากนั้นสายธารของมีดแสงก็กลับไปสู่ร่างกายของโกสต์คาร์ แต่มันยังคงมองไปที่หวังอวี่ฮังด้วยสายตาที่เกรี้ยวโกรธ
“ลุง นี่น่ะเป็นซีโน่เจเนอิค มันไม่ใช่วิญญาณอสูรสัตว์ขี่ ลุงจะขึ้นไปขี่มันไม่ได้” หานเซิ่นพูดพร้อมกับหัวเราะ
เป่าเอ๋อและหลิงเอ๋อจับมือกันขณะที่พวกเธอวิ่งเข้ามาหา พวกเธอมองไปที่โกสต์คาร์ด้วยความอยากรู้อยากเห็น แม็กแคกหกหูและโฮลี่เบบี้ตามหลังพวกเธอมาราวกับเป็นทาสรับใช้
เป่าเอ๋อจูงมือหลิงเอ๋อมาอยู่ข้างๆหานเซิ่น เธอมองไปที่โกสต์คาร์และพูด
“พ่อ นี่มันนกชนิดไหนกัน ทำไมมันถึงได้ดูน่าเกลียดแบบนี้?”
หานเซิ่นมองไปที่โกสต์คาร์และพูด “พ่อเองก็ไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไร”
ถึงแม้ชื่อของมันคือโกสต์คาร์ แต่มันเป็นซีโน่เจเนอิคธาตุหินที่รวมเข้ากับพลังวิชามีดใต้นภาของหานเซิ่น มันไม่ใช่โกสต์คาร์ตัวจริง ด้วยเหตุนั้นการจะเรียกมันว่าโกสต์คาร์ก็ดูจะไม่เหมาะสมเท่าไหร่
“เรียกมันว่าเก้าน้อยละกัน หนูจะไปเก็บผลไม้กับน้องหลิงเอ๋อ บอกเก้าน้อยว่าให้พาพวกเราไปที่นั่นที”
หลังจากที่พูดแบบนั้น เป่าเอ๋อก็จูงมือของหลิงเอ๋อและขึ้นไปบนหลังของโกสต์คาร์ร่วมกับเธอ
หานเซิ่นรู้สึกแปลกใจ โกสต์คาร์นั้นเป็นซีโน่เจเนอิคขั้นทรูก็อต ถ้ามันโกรธขึ้นมา มันก็อาจจะทำร้ายเป่าเอ๋อและหลิงเอ๋อ
หานเซิ่นต้องการจะหยุดพวกเธอ แต่นกเก้าหัวที่ถูกตั้งชื่อว่าเก้าน้อยนั้นลดตัวลง และปล่อยให้เป่าเอ๋อและหลิงเอ๋อปีนขึ้นไปนั่งบนตัวมัน
แม็กแคกหกหูและโฮลี่เบบี้ต้องการจะตามขึ้นไป แต่ก่อนที่พวกมันจะได้เข้าไปใกล้ โกสต์คาร์ก็ใช้ขนนกที่เหมือนกับมีดเพื่อขู่พวกมันให้ถอยออกไป
“เก้าน้อย พวกเราไปกันเถอะ” เป่าเอ๋อพูดขณะที่ลูบหัวของมัน
“พาฉันและน้องหลิงเอ๋อไปเก็บผลไม้”
โกสต์คาร์บินขึ้นไปสู่ท้องฟ้า ดูเหมือนมันจะกังวลว่าเป่าเอ๋อและหลิงเอ๋อจะนั่งไม่สบาย ดังนั้นมันจึงบินไปอย่างช้าๆเพื่อที่ร่างกายของมันจะไม่เสียสมดุล
“นั่นเป็นไปได้ยังไง?” หานเซิ่นอึ้งไป เขาเป็นคนที่พาโกสต์คาร์มา แต่เป่าเอ๋อกลับสามารถออกคำสั่งกับมันได้
“มันคงจะเป็นเพราะว่าเก้าน้อยรู้ว่าเป่าเอ๋อและหลิงเอ๋อเป็นลูกสาวของเรา พวกเธอมีสายเลือดของเราอยู่ ด้วยเหตุนั้นมันจึงยอมเชื่อฟัง… เรานั้นเก่งกาจที่สุด…” หานเซิ่นพยายามปลอมตัวเอง
หลังจากที่คิดแบบนั้นหานเซิ่นก็รู้สึกเบาใจขึ้นมา ในตอนแรกถึงแม้โกสต์คาร์จะสวามิภักดิ์ต่อเขา ตัวตนของมันก็ยังเป็นอะไรที่แปลกมากๆ หานเซิ่นไม่สามารถเชื่อใจมันอย่างเต็มที่ ดังนั้นเขาจะไม่ทิ้งให้มันอยู่ในสเปชการ์เด้นตามลำพัง
ในตอนแรกหานเซิ่นมีแผนที่จะพามันออกไปจากสเปชการ์เด้น แต่ถ้าเป่าเอ๋อสามารถควบคุมมันได้ เขาก็ไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น
หานเซิ่นคิด ‘แผ่นหินนั่นดูดซับพลังของวิชามีดใต้นภาเข้าไปและเปลี่ยนเป็นซีโน่เจเนอิคขั้นทรูก็อตระดับท็อปโกสต์คาร์ ด้วยการที่มีโกสต์คาร์อยู่เฝ้าสเปชการ์เด้น ถึงแม้จะมีคนอย่างโจรสลักศักดิ์สิทธิ์แอบเข้ามาในสเปชการ์เด้น เขาก็ทำอะไรไม่ได้’
ถึงแม้มันจะเป็นเรื่องดีที่เขาได้เก้าน้อยมา แต่หานเซิ่นก็ยังรู้สึกรำคาญที่เขาไม่ได้ยีนซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้ามาเลยสักยีน
“จะว่าไป ชิ้นส่วนขั้นทรูก็อตที่ได้มาจากเบิร์นนิ่งแลมป์ก็เป็นยีนซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าเหมือนกันหนิ? เราจะกินมันได้ไหมนะ?”
หานเซิ่นต้องการจะทำแบบนั้น แต่สุดท้ายเขาก็ล้มเลิกความคิดนั้นไป การจะได้รับชิ้นส่วนขั้นทรูก็อตมานั้นเป็นอะไรที่ยากยิ่งกว่าการฆ่าซีโน่เจเนอิคขั้นบัตเตอร์ฟลายมาก