Super God Gene - ตอนที่ 3037
ภูเขาแอนเชี่ยนท์บิ๊กก็อตเป็นภูเขาที่เก่าแก่ ถึงแม้ชื่อของมันจะฟังดูคล้ายกับเมืองแอนเชี่ยนท์ก็อต แต่มันไม่ได้เป็นที่ตั้งของเมือง ความจริงแล้วเมืองแอนเชี่ยนท์ก็อตแค่ตั้งอยู่ใกล้ๆกับภูเขาเท่านั้น
หานเซิ่นสวมใส่ชุดสีดำและตามมิสเตอร์หยางไปที่เมืองแอนเชี่ยนท์ก็อต เขามองทุกสิ่งทุกอย่างภายในเมืองด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ทุกอย่างในเมืองแอนเชี่ยนท์ก็อตนั้นเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับหานเซิ่น มันเป็นเมืองที่ทันสมัยมากๆ ความจริงแล้วแทนที่จะเรียกว่าเมือง มันเหมือนกับปราการสมัยใหม่มากกว่า
ภายในเมืองมีทั้งรถและยานอวกาศ จำนวนของพวกมันไม่ใช่น้อยๆเลย
มันมีบางสิ่งที่หานเซิ่นไม่เข้าใจ สำหรับเมืองที่ทันสมัยแบบนี้ มันกลับยังอยู่ในยุคของจักรวรรดิ เมืองแอนเชี่ยนท์ก็อตอยู่ใต้อาณานิคมของอาณาจักรฉิน
หน่วยที่เล็กที่สุดในอาณาจักรฉินคือเมือง มันไม่มีการแบ่งจังหวัดหรือประเทศ ทุกเมืองจะขึ้นตรงต่ออาณาจักรฉิน และแต่ละดวงดาวจะมีเมืองแค่เมืองเดียวเท่านั้น สิ่งที่แปลกก็คือนอกจากเทคโนโลยีที่ทันสมัยแล้ว ทุกคนจะมีสัตว์เลี้ยงชนิดต่างๆอยู่ข้างกายพวกเขา
จากสิ่งที่มิสเตอร์หยางบอก สัตว์เลี้ยงของแต่ละคนถูกเรียกว่ายีนเรซ พวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่ออกมาจากไข่ยีน หานเซิ่นเองก็ออกมาจากไข่ยีนเช่นกัน และไข่ยีนที่เขาฝักออกมาก็ดูเหมือนจะเป็นระดับสูง
หานเซิ่นมองไปรอบๆ เขาเห็นยีนเรซชนิดต่างๆมากมาย มันมีทั้งเสือ สิงโต ช้างและสิ่งมีชีวิตอื่นๆอีกมากมาย บางคนมีตั๊กแตนสีเขียวยักษ์เป็นยีนเรซของพวกเขา
หานเซิ่นไม่สามารถใช้ออร่าศาสตร์ตงเสวียนเพื่อสแกนเหล่ายีนเรซและเรียนรู้เกี่ยวกับพวกมันได้ การมองจากรูปลักษณ์ภายนอกของพวกมันนั้นไม่สามารถบอกอะไรเขาได้มากนัก
“ข้างหน้านี้คือวิหารพระเจ้าของเมืองแอนเชี่ยนท์ก็อต” มิสเตอร์หยางชี้ไปข้างหน้าและยิ้มขณะที่พูด
หานเซิ่นมองไปในทิศทางที่มิสเตอร์หยางชี้ออกไป เขาหลี่ตาและสังเกตเห็นว่าวิหารพระเจ้านั่นตั้งอยู่ที่ใจกลางของเมืองแอนเชี่ยนท์ก็อต มันถูกสร้างขึ้นมาจากหินสีม่วงและดูเก่าแก่มากๆ รูปทรงของวิหารนั้นดูแปลกประหลาด เมื่อมองดูจากระยะไหล มันดูเหมือนกับดอกไม้สีม่วงขนาดยักษ์ บนประตูของวิหารสลักเอาไว้ว่า “วิหารอีวิลโลหิตก็อต”
ชื่อและรูปร่างของวิหารนั้นเป็นบางสิ่งที่หานเซิ่นคุ้นเคยอย่างมาก มันทำให้หานเซิ่นคิดไปว่า ‘นอกจากเรื่องที่มันไม่มีธงพระเจ้าแล้ว วิหารนี่เหมือนกับวิหารพระเจ้าของอีวิลโลตัสก็อตไม่มีผิด’
หานเซิ่นต้องการจะเดินเข้าไปข้างในเพื่อดูว่ามีรูปปั้นของอีวิลโลตัสก็อตอยู่ไหม แต่มิสเตอร์หยางดึงเขากลับด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล
“เจ้าจะทำแบบนี้ไม่ได้ วิหารพระเจ้าเป็นรากฐานของเมือง พวกมันเป็นสถานที่สำคัญที่สุดของเมือง เจ้าเมืองจึงให้ยามเฝ้ามันอยู่ตลอดเวลา คนธรรมดาจะเข้าไปไม่ได้ มันจะเปิดให้เข้าเฉพาะวันเปิดโลหิตชีพจร มีเพียงแค่ผู้คนที่มีอายุที่เหมาะสมเท่านั้น ถึงจะได้เข้าไปรับการอวยพรภายในวิหารพระเจ้าเพื่อเปิดโลหิตชีพจรของพวกเขา”
“ถ้าอย่างนั้นอีกนานแค่ไหนกันกว่าจะถึงวันเปิดโลหิตชีพจร?” หานเซิ่นไม่รีบร้อน
ถึงหานเซิ่นจะยังมีพลังอยู่ แต่จักรวาลปฏิเสธพลังของเขา เขาไม่สามารถใช้พลังอย่างเต็มที่ในการต่อสู้ได้ จากที่มิสเตอร์หยางบอกกับเขา จักรวาลของโลกใบนี้ก็ถูกเรียกว่าจักรวาลจีโนเช่นกัน ภายในจักรวาลประกอบไปด้วยเจ็ดอาณาจักรด้วยกัน
อาณาจักรฉินเป็นหนึ่งในนั้น และผู้ก่อตั้งอาณาจักรฉินคือคนที่มีชื่อว่าฉินซิว นั่นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อนานมาแล้ว ดังนั้นราชาของอาณาจักรฉินในตอนนี้เป็นทายาทของฉินซิว
ถ้าฉินซิวคนนั้นเป็นคนเดียวกับที่หานเซิ่นรู้จัก และในยุคสมัยของฉินซิว เขาไม่สามารถปกครองทั้งจักรวาลได้ นั่นก็หมายความว่าอาณาจักรอื่นทั้งหกจะต้องไม่ด้อยไปกว่าอาณาจักรฉิน และราชาของแต่ละอาณาจักรก็คงจะไม่ได้อ่อนแอไปกว่าฉินซิว
หานเซิ่นเป็นคนจากอีกโลกหนึ่ง เขาจึงถูกปฏิเสธโดยกฎของโลกใบนี้ ในโลกนี้ก็คงจะมีจีโนฮอลล์อยู่เช่นกัน บางทีจีโนฮอลล์ของโลกนี้คงจะพยายามกำจัดเขาเหมือนอย่างที่จีโนฮอลล์ของโลกที่หานเซิ่นจากมาพยายามกำจัดฉินซิว
หานเซิ่นมีแผนที่จะทำความเข้าใจเกี่ยวกับจักรวาลจีโนที่เขาอยู่ในตอนนี้ซะก่อน หลังจากนั้นเขาถึงจะตัดสินใจว่าต้องทำอะไรต่อ เขายังไม่ต้องการจะทำตัวเป็นจุดเด่นและดึงดูดความสนใจของจีโนฮอลล์
ตำนานของฉินซิวและหว่านเอ๋อเป็นสิ่งที่หานเซิ่นได้ยินมาจากมิสเตอร์หยาง เขาจึงได้รู้ว่าฉินซิวเป็นผู้ก่อตั้งอาณาจักรฉิน
‘ถ้านี่คือโลกปฏิสสาร มันเกี่ยวข้องอะไรกับอีกจักรวาลจีโน? ทำไมชุดเกราะคริสตัลสีดำถึงได้ต้องการพาเรามาที่นี่? ทำไมที่นี่ถึงมีวิหารพระเจ้าเหมือนกัน?’
ในตอนนี้หานเซิ่นต้องการจะเข้าไปในวิหารอีวิลโลตัสก็อตโดยเร็วที่สุด และดูว่าอีวิลโลตัสก็อตที่มิสเตอร์หยางพูดถึงจะใช้อีวิลโลตัสก็อตที่เขารู้จักไหม
“เจ้าต้องรออีกสองวันกว่าจะถึงวันเปิดโลหิตชีพจร เมื่อถึงเวลานั้นเจ้าจะมาดูพิธีกรรมพร้อมกับคนอื่นๆได้”
มิสเตอร์หยางพูด เขาลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนที่จะพูดต่อไปว่า “บ้านของข้าอยู่ในเมืองแอนเชี่ยนท์ก็อต ถ้าเจ้าไม่รังเกียจ ทำไมเจ้าไม่มาค้างคืนที่บ้านของข้าสักสองวัน?”
“เอาสิ” หานเซิ่นพยักหน้า เขาไม่ใช่คนที่ไม่มีเหตุผล เขาไม่ใช่หัวขโมยหรือโจร ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ เขาก็ไม่อยากจะใช้กำลัง การรอคอยสองวันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร มันไม่มีความจำเป็นที่เขาต้องตีฝ่ายามเพื่อเข้าไปในวิหารพระเจ้า
เมื่อหานเซิ่นไปถึงบ้านของอีกฝ่าย มิสเตอร์หยางก็เชิญหานเซิ่นมานั่งลงในห้องนั่งเล่น ก่อนที่เขาจะนำน้ำชามาให้และพูด
“เจ้ารออยู่ที่นี่สักครู่ ข้าจะไปเตรียมสถานที่ให้เจ้าได้พักผ่อน”
หานเซิ่นมองไปที่มิสเตอร์หยางและพูดอย่างไร้ความรู้สึก
“มิสเตอร์หยาง เจ้ารู้สินะว่าอะไรที่ควรพูดและไม่ควรพูด”
มิสเตอร์หยางรู้สึกหนาวขึ้นมาและตอบอย่างจริงจัง “เจ้าไม่ต้องกังวล ข้าเข้าใจดี เจ้าเป็นแค่คนที่มาจากนอกเมือง”
หลังจากที่มิสเตอร์หยางออกไปแล้ว หานเซิ่นก็นั่งดื่มชาอยู่ในห้องนั่งเล่น นอกจากเรื่องที่พลังถูกจำกัดโดยโลกใบนี้แล้ว อย่างอื่นทุกอย่างนั้นก็ไม่ได้แตกต่างไปจากจักรวาลจีโนที่หานเซิ่นจากมา แม้แต่น้ำชาก็รสชาติเหมือนกัน
หานเซิ่นเอนตัวพิงกับประตูของห้องนั่งเล่น เขายกชาขึ้นดื่มขณะที่มองไปที่ภาพวาดบนกำแพง
มันเป็นภาพวาดของยีนเรซ หานเซิ่นประหลาดใจกับความจริงที่ว่าหนึ่งในภาพวาดของยีนเรซนั้นดูคุ้นเคยอย่างมาก มันดูเหมือนกับเอมตี้ดราก้อนคิง
ขณะที่หานเซิ่นมองไปที่ภาพวาด จู่ๆก็มีเสียงของผู้หญิงดังขึ้นมาจากด้านนอกประตู “เจ้าคือมิสเตอร์หยางใช่ไหม?”
หานเซิ่นหันไปมองและเห็นผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ด้านนอกประตู เธอสวมใส่ชุดสีเขียวและดูงดงามมากๆ เธอดูอายุประมาทยี่สิบปี
“เจ้ามาด้วยเรื่องอะไร?” หานเซิ่นถามด้วยความสงสัย ถ้านี่เป็นบ้านของมิสเตอร์หยาง และผู้หญิงชุดเขียวมาหาเขาถึงบ้าน แบบนั้นทำไมเธอถึงไม่รู้ว่าอีกฝ่ายหน้าตาเป็นยังไง
“ข้าไม่ได้คาดคิดว่ามิสเตอร์หยางจะยังหนุ่มขนาดนี้ ชื่อของข้าคือพีชฟูล มิสเตอร์ชิวแนะนำให้ข้ามาที่นี่ ข้าต้องการให้มิสเตอร์หยางช่วยข้าคำนวนหาตำแหน่งของชีพจรพระเจ้า” ผู้หญิงชุดเขียวอธิบายว่าทำไมเธอถึงมาที่นี่อย่างไม่พูดอ้อมค้อม
ก่อนหน้านี้หานเซิ่นได้ยินจากมิสเตอร์หยางว่ามิสเตอร์เป็นแค่ชื่ออาชีพ มันไม่ใช่ชื่อของเขา มิสเตอร์หยางคงจะต้องถูกจ้างโดยมิสเตอร์เหมิงเพื่อหาตำแหน่งของชีพจรพระเจ้า
ไข่ยีนทั้งหมดจะกำเนิดขึ้นมาภายในชีพจรพระเจ้า ชีพจรพระเจ้านั้นเป็นสิ่งที่หาได้ยาก ไข่ยีนจึงหายากตามไปด้วย มิสเตอร์เป็นมืออาชีพที่เชี่ยวชาญในการหาพวกมัน