Super God Gene - ตอนที่ 3076 ขุนนางมากมายอยู่ใต้เท้าขององค์
ตอนที่ 3076 ขุนนางมากมายอยู่ใต้เท้าขององค์
เสียงที่ดังมาจากก้อนเมฆนั้นเป็นบางสิ่งที่หานเซิ่นเคยได้ยินมาก่อน พวกมันเป็นเสียงเดียวกันกับที่ดังออกมาจากประตูทองของโกลเด้นโกรวเลอร์
ไม่มีใครรู้ว่าในประตูทองนั่นไปมีอะไรอยู่ ใครก็ตามที่ถูกดึงเข้าไปข้างในมักจะต้องตาย มันไม่เคยมีใครกลับออกมาหลังจากที่ถูกดึงเข้าไปในประตูทอง
ในตอนที่หานเซิ่นยืนอยู่ต่อหน้าประตูทอง เขาจะได้ยินเสียงประหลาดมันฟังดูเหมือนกับเสียงสวดมนต์ แต่เนื่องจากหานเซิ่นไม่เคยเข้าไปในประตูมันจึงเป็นบางสิ่งที่ไม่ชัดเจน
ตอนนี้เมื่อหานเซิ่นพยายามนึกถึงมัน เสียงจากประตูทองก็ฟังดูเหมือนกับเสียงที่ออกมา จากก้อนเมฆนี้หานเซิ่นแค่ยังไม่เข้าใจความหมายของเสียง
ผู้หญิงส่วนใหญ่นั้นรักการช้อปปิ้ง แม้แต่สามนักร้องที่โด่งดังที่สุดเองก็เช่นกัน ซึ่งนั่นรวมถึงเฟิงเฟยเฟย ขณะนี้เธอกําลังอยู่ระหว่างการค้นหาสินค้าภายในชุมชนเสมือน แต่เธอแตกต่างไป จากผู้หญิงทั่วๆไป เธอไม่ได้ต้องการจะซื้อเครื่องสําอาง เธอกําลังพยายามค้นหาแมลงแปดเสียง
เธอไม่ได้รับแมลงแปดเสียงจากการไปที่หุบเขาไนท์คราย และเธอก็ขี้เกียจจะกลับไปที่นั่นอีกครั้ง ดังนั้นเธอจึงคิดจะซื้อแมลงแปดเสียงจากอินเตอร์เน็ตแทน เธอต้องการจะสร้างยาที่ช่วยบํารุงคอของเธอ
เธอทําการค้นหาแมลงแปดเสียงโดยจัดเรียงจากราคาสูงสุดไปต่ำสุด เฟิงเฟยเฟยไม่สนใจว่า มันจะราคาเท่าไหร่ เธอต้องการแค่ของที่ดีที่สุดเท่านั้น
ในตอนที่รายชื่อสินค้นเสมือนแต่ละชิ้นปรากฏขึ้นมาตรงหน้า สินค้าชิ้นแรกสุดก็ทําให้ เธอต้องตกใจ
“ไข่ยีนแมลงแปดเสียงกลายพันธุ์? ของจริงหรอเนี่ย?”
เฟิงเฟยเฟยรีบคลิกดูสิ้นค้า และรูปโฮโลแกรมของไข่ยีนแมลงแปดเสียงกลายพันธุ์ก็ปรากฏขึ้นมา
“มันเป็นไข่ยีนแมลงแปดเสียงกลายพันธุ์จริงๆด้วย!” เฟิงเฟยเฟยรู้สึกดีใจอย่างมาก ภายในชุมชนเสมือนสินค้าที่ถูกนํามาวางขายนั้นจะต้องผ่านการสแกนเพื่อพิสูจน์ว่าสินค้านั้นๆเป็นของจริง
แต่ในตอนที่เฟิงเฟยเฟยเห็นราคาของมัน เธอก็ต้องขมวดคิ้ว ราคาที่ถูกตั้งเอาไว้นั้นเป็นราคาสูงสุด ซึ่งก็คือ 9,999,999 ฉิน
ไข่ยีนแมลงแปดเสียงกลายพันธุ์นั้นเป็นอะไรที่หายากมากๆ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นแค่ยืนเรซ ระดับเอิร์ลอยู่ดีด้วยเหตุนั้นไม่ว่าจะดูยังไง ราคาที่ตั้งเอาไว้ก็สูงเกินไป เห็นได้ชัดว่าเจ้าของร้านไม่ได้มีเจตนาที่จะขายมัน
“คุณเจ้าของร้าน คุณจะขายไข่ยีนกลายพันธุ์แมลงแปดเสียงกลายพันธุ์นี้ยังไง?” เฟิงเฟยเฟย ติดต่อไปหาคนที่รับผิดชอบร้าน
“เรียนคุณลูกค้า ร้านค้าของเราขายสินค้าตามราคาที่ถูกตั้งเอาไว้ ตราบใดที่สินค้ายังไม่หมด คุณลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้าได้ทุกเมื่อ ทางเราจะทําการส่งสินค้าภายใน 24 ชั่วโมง ถ้าสินค้าไม่ไปถึงมือคุณลูกค้าภายในเวลานั้น ทางเรายินดีจะจ่ายเงินคืนให้เป็นสองเท่า”
คนรับหน้าที่ติดต่อกับลูกค้านั้นไม่ใช่มิสเตอร์หยาง แต่เป็นเพียงชื่อ เธอตั้งใจทํางานอย่างมาก ถึงแม้เธอจะได้รับคําบ่นจากคนที่ติดต่อเข้ามา เธอก็ไม่เคยรู้สึกโกรธแต่อย่างใด
เจียงซื่อและโยวโยวเคยเป็นทาสมาก่อน ตอนนี้เมื่อพวกเธอได้มาติดตามหานเซิ่น เขาก็ไม่ได้ปฏิบัติกับพวกเธอเหมือนกับทาส เจียงซื่อรู้สึกซาบซึ้งอย่างมากในเรื่องนั้น เธอจึงพยายามทํางานที่หานเซิ่นบอกให้ทําอย่างเต็มที่
“ข้าต้องการจะซื้อมันจริงๆ ดังนั้นบอกว่าพวกคุณจะขายมันในราคาเท่าไหร่” เฟิงเฟยเฟยพูด
“เรียนคุณลูกค้า ทางเราจะไม่ขายมันในราคาที่ต่ํากว่านี้” เจียงซื่อพูด
“นั่นคือราคาที่ต่ําที่สุดแล้ว ถ้าคุณลูกค้าไม่ถูกใจราคา คุณลูกค้าลองดูสินค้าอื่นในภายร้าน นอกจากไข่ยีนแมลงแปดเสียงกลายพันธุ์แล้ว ในร้านของเรายังมีไข่ยีนแมลงแปดเสียงระดับไวเคานต์วางขาย พวกมันมีคุณภาพดีและราคาไม่แพง
คําพูดเหล่านี้เป็นสิ่งที่มิสเตอร์หยางสอนให้กับเจียงซื่อ และเธอก็พูดพวกมันออกมาได้อย่างคล่องแคล่ว
เฟิงเฟยเฟยมองไปรอบๆ และเห็นว่าร้านค้าขายไข่ยีนของแมลงแปดเสียงธรรมดาด้วยเช่นกัน แต่ด้วยฐานะของเธอ ไข่ยีนของแมลงแปดเสียงธรรมดาจึงไม่ถูกใจเธอ
“ถ้าคุณเกิดต้องการจะขายมันขึ้นมา คุณช่วยติดต่อมาหาฉันได้ไหม?” เฟิงเฟยเฟยพูดก่อนที่จะจากไป
เฟิงเฟยเฟยรู้สึกหดหูเล็กน้อย เธอไม่ได้ต้องการจะซื้อไข่ยีนแมลงแปดเสียงกลายพันธุ์มาใช้เอง แต่เธอต้องการจะมอบมันเป็นของขวัญให้กับหลานสาวของเธอ
ถึงแม้เฟิงเฟยเฟยจะมียีนเรซธาตุเสียงที่ดีกว่าอยู่ แต่ระดับของพวกมันสูงเกินไป หลานสาวของเธอยังเด็ก เธอยังไม่สามารถรวมร่างกับยืนเรซที่มีระดับสูงได้
ส่วนแมลงแปดเสียงกลายพันธุ์นั้นระดับไม่สูงมากนัก ยิ่งไปกว่านั้นมันยังเป็นแค่ไข่ยีน ถ้ามันฟักตัวออกมา มันจะเป็นแค่ยืนเรซวัยเยาว์ ดังนั้นมันจึงเหมาะสมกับเด็ก และในตอนที่แมลงแปดเสียงกลายพันธุ์เติบโตขึ้นมาจนกลายเป็นร่างสุดยอด มันจะช่วยพัฒนาเสียงของคนๆนั้นอย่างมาก มันดียิ่งกว่ายืนเรชระดับมาร์ควิสหรือดยุกซะอีก
“น่าเสียดายที่เจ้าของร้านไม่มีเจตนาที่จะขายมัน” เฟิงเฟยเฟยมองไปที่ชื่อของร้านและ สังเกตเห็นว่าร้านๆนั้นมีชื่อว่า “ร้านค้า
ภายในคฤหาสน์ของตระกูลกงซู คนงานคนหนึ่งเข้าไปในห้องกงซูจินและโค้งคํานับก่อนที่จะพูดว่า
“นายน้อย ข้อมูลที่นายน้อยให้ข้าไปตรวจสอบอยู่นี่แล้ว”
หลังจากนั้นคนงานก็เอาไฟล์ข้อมูลที่ออกมาวางลงตรงหน้ากงซูจิน
“ดีมาก” กงซูจินมองดูข้อมูลและพูดขึ้นว่า
“เจ้าคนบ้านนอกนั้นมาจากเมืองแอนเชี่ยนท์ก็อตอย่างนั้นหรอ? เขาไม่มีภูมิหลัง แต่ถึงอย่างนั้นเขากลับกล้าดูถูกข้าอย่างนั้นหรอ? ข้าคงจะต้องสั่งสอนบทเรียนให้กับเขา ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่เข้าใจว่าการที่ขุนนางมากมายอยู่ใต้เท้าขององค์ชายคนหนึ่งนั้นมันหมายความว่ายังไง?”
“นายน้อย คนอย่างเขาไม่คู่ควรให้นายน้อยต้องลงมือเอง นายน้อยแค่ส่งใครสักคนไปก็เพียงพอแล้ว” คนงานโค้งคํานับและพูดแนะนํา
“เจ้าพูดถูก” กงซูจินพูด “ข้าจะให้เจ้าจัดการเรื่องนี้ จําเอาไว้ว่าเจ้าต้องนําร่างของแมลงแปด เสียงกลายพันธุ์กลับมาในสภาพสมบูรณ์ มันจะถึงวันเกิดของคุณเฟยเฟยในอีกไม่กี่วัน ข้าจ มอบมันเป็นของขวัญให้กับนาง”
“ นายน้อยไม่ต้องกังวล ข้าจะทําเรื่องทั้งหมดนี้อย่างลับๆ” โหลวจิ๋วพูดด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยจิตสังหาร
“นายท่าน ไข่ยีนของแมลงแปดเสียงห้าใบถูกขายไปเรียบร้อยแล้ว แต่ละใบขายได้ในราคาสามหมื่นห้าพันฉิน และมีผู้คนเป็นจํานวนมากที่พยายามจะถามราคาของไข่ยีนแมลงแปดเสียงกลายพันธุ์” มิสเตอร์หยางรายงานผลลัพธ์ด้วยความดีใจ
ร้านของพวกเขาเพิ่งจะเปิดทําการได้เพียงแค่วันเดียว แต่พวกเขาก็ขายไข่ยีนได้เงินเป็นจํานวนมากแล้ว มันจึงเป็นเรื่องปกติที่จะรู้สึกดีใจ
“ทําได้ดีมาก” หานเซิ่นพยักหน้า เงินที่ได้จากการขายไข่ยีนถือว่าไม่ใช่จํานวนน้อยๆสําหรับมิสเตอร์หยาง แต่มันไม่ได้มีความหมายอะไรสําหรับหานเซิ่น จริงๆแล้วเขาไม่ได้สนใจอะไรมัน
“อีกเรื่องหนึ่ง นี่นายท่านได้ยินเกี่ยวกับเรื่องประหลาดที่เกิดขึ้นกับเมืองกําแพงหยกไหม?” มิสเตอร์หยางถาม
หานเซิ่นมองไปที่มิสเตอร์หยางและถาม “เรื่องประหลาดอะไร?”
มิสเตอร์หยางพูด “ในวันที่เจ็ดของเดือนก่อน มันเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขึ้นภายในเมืองกําแพงหยก วิหารอัลฟาของราชวงศ์ฉินนั้นถูกทําลายไป คนที่เห็นเหตุการณ์บอกว่ามันมีลําแสงสีทองพุ่งจากวิหารขึ้นไปสู่อวกาศ
ที่มิสเตอร์หยางนําเรื่องนี้มาบอกกับหานเซิ่น ก็เพราะว่าในวันที่เจ็ดของเดือนก่อนเป็นวันที่เขากับมิสเตอร์เหมิงขุดไข่ยืนของหานเซิ่นขึ้นมา เขาจึงคิดว่ามันมีความเกี่ยวข้องกันระหว่างเหตุการณ์ทั้งสอง
“มันมีเรื่องแบบนั้นด้วยอย่างนั้นหรอ? ว่าแต่การที่แผ่นดินไหวและทําให้สิ่งก่อสร้างพังทลายมันเป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรือยังไง?” หานเซิ่นถาม
“แผ่นดินไหวถือเป็นเรื่องปกติสําหรับเมืองอื่น แต่เมืองกําแพงหยกนั้นเป็นสถานีอวกาศที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยมือคนแบบนั้นมันจะเกิดแผ่นดินไหวได้ยังไง?” มิสเตอร์หยางพูด
หลังจากที่คิดอยู่ชั่วครู่ หานเซิ่นถามขึ้นว่า “วิหารอัลฟ่าของราชวงศ์ฉินนั่นอยู่ที่ไหนกัน?”
“คนปกติไปที่นั่นไม่ได้” มิสเตอร์หยางรีบตอบ
“มันมียอดฝีมือหลายคนที่คอยเฝ้าที่นั้นเอาไว้ โดยปกติแล้วมีเพียงแค่สมาชิกของราชวงศ์ที่จะไปที่นั่นเพื่อทําการสักการะบูชาในงานพิธีต่างๆ”