Super God Gene - ตอนที่ 3094 พลังเสียงฟีนิกซ์
ตอนที่ 3094 พลังเสียงฟีนิกซ์
ถึงแม้เฟิงเฟยเฟยจะไม่ได้โกรธด้วยเรื่องเพียงแค่นี้ แต่เธอก็ยังต้องการจะทดสอบจิตใจของหานเซิ่น เธอใส่พลังลึกลับเข้าไปในการร้องเพลงของเธอ ซึ่งมันเป็นพลังเสียงของฟีนิกซ์
ความบาดหมางระหว่างหานเซิ่นและกงซูจินเป็นบางสิ่งไม่มีใครรู้มากไปกว่าเฟิงเฟยเฟย ตอนนี้เมื่อกงซูจินถูกฆ่าตายไป ถึงแม้มันจะเป็นเพียงแค่ข่าวลือ ในหัวใจของเฟิงเฟยเฟยก็สงสัยว่าหานเซิ่นคงจะเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ แต่เธอไม่อยากเชื่อข้อสันนิษฐานนี้ของตัวเอง ดังนั้นเมื่อหานเซิ่นอยู่ที่นี่ เธอจึงตัดสินใจที่จะใช้เสียงของเธอเพื่อทดสอบจิตใจของเขา เธออยากรู้ว่าหานเซิ่นจะมีความสามารถพอที่จะฆ่าคนอย่างกงซูจินจริงหรือเปล่า
เฟิงเฟยเฟยเก่งเรื่องการใช้พลังเสียง เธอสามารถควบคุมมันได้เป็นอย่างดี มันไม่ใช่เรื่องน่าแปลกอะไรที่เธอเป็นหนึ่งในสามนักร้องระดับท็อปของอาณาจักรฉิน
เธอใส่พลังเสียงฟีนิกซ์เข้าไปในเสียงของเธอ ขณะที่เธอทําแบบนั้นคนอื่นๆต่างคิดว่าเสียงของเธอเริ่มจะฟังดูไพเราะยิ่งกว่าเดิม แต่ทางด้านของหานเซ็นนั้นรู้สึกราวกับว่ามีพลังเสียงที่น่ากลัวบางอย่างกําลังพยายามคุกคามเขา มันเหมือนกับว่ามีเสียงฟ้าร้องที่สั่นสะเทือนทั้งท้องฟ้าและผืนดินดังขึ้นในหูของเขา
หานเซิ่นขมวดคิ้ว เขามองไปรอบๆและสังเกตว่าคนอื่นๆยังคงเพลิดเพลินกับเสียงเพลงเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาจึงรู้ว่าเฟิงเฟยเฟยคงจะต้องใช้พลังเสียงบางอย่างกับเขาเพียงแค่คนเดียว
แต่หานเซิ่นไม่ได้ทําการเคลื่อนไหวใดๆ ถึงเสียงนั่นอาจจะเป็นอะไรที่น่ากลัวและยากจะทนได้สําหรับคนอื่น แต่หานเซิ่นสามารถเมินเฉยต่อมันเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งหมดที่เขาต้องทำก็คือทําสมาธิและเสียงนั้นจะเงียบเหมือนกับยุง เขาไม่จําเป็นต้องใช้ยีนเรซเพื่อต่อสู้กับมัน
ในตอนที่เฟิงเฟยเฟยเห็นว่าหานเซิ่นไม่มีปฏิกิริยาใดๆ และเห็นว่าเขากําลังยิ้มพร้อมกับกระพริบตาให้กับเธอราวกับว่าเขากําลังท้าทายเธอ เธอก็รู้สึกตกใจ มันกระตุ้นความอยากเอาชนะในหัวใจของเธอ
เธอเพิ่มพลังเสียงฟีนิกซ์ขึ้นอีก มันเป็นเหมือนกับเสียงร้องของฟีนิกซ์ที่สั่นสะเทือนท้องฟ้าจนเกิดเป็นวังวนที่พยายามจะดูดหานเซิ่นเข้าไปข้างใน
คนอื่นๆนั้นไม่ด้ยินมัน แม้แต่บอลด์กายที่นั่งอยู่ข้างๆหานเซิ่นก็ไม่รู้สึกอะไร เขายังคงดื่มดําไปกับเสียงร้องของเฟิงเฟยเฟย
หานเซิ่นยังคงดูเหมือนกับว่าเขาไม่รู้สึกถึงอะไรทั้งนั้น ถึงแม้เขาจะได้ยินเสียง แต่เสียงนั้นไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรต่อเขาแม้แต่นิดเดียว
เฟิงเฟยเฟยสังเกตเห็นว่าหานเซิ่นยังคงยิ้มให้กับเธอ ด้วยเหตุผลบางอย่างเธอรู้สึกว่ารอยยิ้มนั้นเป็นอะไรที่น่าเจ็บปวดเป็นพิเศษ มันทําให้เธอเพิ่มพลังเสียงฟินิกซ์ขึ้นอีก
แต่ไม่ว่าเฟิงเฟยเฟยจะเพิ่มพลังเสียงฟีนิกซ์ขึ้นมากสักแค่ไหน หานเซิ่นก็ยังคงเมินเฉยต่อมันราวกับว่าเขาไม่ได้ยินอะไร มันทําให้เฟิงเฟยเฟยเชื่อว่าพลังเสียงฟีนิกซ์ของเธออาจจะมีปัญหาบางอย่าง
เพลงนั้นใกล้จะจบลงแล้ว แต่เธอก็ยังคงไม่สามารถทําอะไรหานเซิ่นได้ มันกระตุ้นความอยากที่จะเอาชนะของเฟิงเฟยเฟยให้สูงขึ้นไปอีก
ในตอนที่เธอร้องประโยคสุดท้าย เฟิงเฟยเฟยใช้วิชาประสานยืนฟีนิกซ์ครายทูเกท เตอร์ของเธอ พลังเสียงของฟีนิกซ์ครายทูเกทเตอร์นั้นสามารถทําลายแม้แต่ทองคําขาวได้ ถึงแม้เฟิงเฟยเฟยจะพยายามอย่างเต็มที่ แต่เธอก็ไม่สามารถซ่อนพลังเสียงของเธอจากคนอื่นๆได้อีกต่อไป แม้แต่เสียงร้องของเธอก็เริ่มจะฟังดูแปลกๆ
ในตอนนี้ยอดฝีมือหลายคนเริ่มสังเกตเห็นว่าเสียงร้องของเฟิงเฟยเฟยนั้นฟังดูผิดปกติ พวกเขาก็ขมวดคิ้วและหันไปมองหานเซิ่นที่อยู่ในจุดศูนย์กลางของการโจมตี
หานเซิ่นยังคงทําเหมือนกับว่าเขาไม่ได้ยินคลื่นเสียงที่น่ากลัว เขาปล่อยให้คลื่นเสียงซัดเข้ามาสู่ตัวเขา ขณะที่เขานั่งอยู่เฉยๆและยิ้มให้กับเฟิงเฟยเฟย
ตอนนี้บอลด์กายที่นั่งอยู่ข้างๆเขาต้องเอามือปิดหูของตัวเอง ดูเหมือนกับว่าบอลด์กายกําลังตกอยู่ในความเจ็บปวด เขานั่งอยู่ใกล้กับหานเซิ่นมากเกินไป ด้วยเหตุนั้นเขาจึงถูกลูกหลงไปด้วย
โชคดีที่เฟิงเฟยเฟยเป็นหนึ่งในสามนักร้องระดับท็อปของอาณาจักรฉิน ด้วยเหตุนั้นถึงพลังฟีนิกซ์ครายทูเกทเตอร์จะน่ากลัวมากๆ แต่เธอก็ยังสามารถควบคุมมันได้เป็นอย่างดี พลังนั้นจึงไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับบอลด์กายอะไรมากนัก
แต่ตอนนี้ความสนใจของทุกคนหันมาอยู่ที่โต๊ะของหานเซิ่น มันทําให้หานเช่นเขาและบอลด์กายกลายเป็นจุดสนใจอย่างกะทันหัน
ทุกคนมองไปที่บอลต์กายที่กําลังปิดหูของตัวเองด้วยสีหน้าเจ็บปวดและรู้สึกตัวว่าปัญหาของ หตุการณ์นี้ ดูเหมือนจะเป็นคนที่อยู่ข้างๆเขา คนๆนั้นยังคงนั่งยิ้มอย่างใจเย็นเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เฟิงเฟยเฟยที่เป็นนักร้องระดับท็อปของอาณาจักรฉันกําลังใช้ฟีนิกซ์ครายทูเกทเตอร์เพื่อจัดการกับใครบางคนที่เข้าร่วมงานวันเกิดของเธอ มันทําให้ทุกคนรู้สึกสนใจขึ้นมาว่าคนๆนั้นคือใครกัน
มิสเตอร์ก็อตวันมองไปที่หานเซิ่นด้วยสีหน้าที่ดูเหมือนกับว่าเขากําลังคิดอะไรบางอย่าง หลังจากนั้นเขาก็ยิ้มออกมา
เฟิงเฟยเฟยรู้สึกตัวว่าครั้งนี้เธอทําเกินไป แต่เธอยังคงเห็นรอยยิ้มที่น่ารําคาญบนใบหน้าของหานเซิ่น มันทําให้เธอรู้สึกแย่
“ถ้ารู้แบบนี้ เราก็คงจะใช้พลังฟีนิกซ์ครายทูเกทเตอร์อย่างเต็มที่ในประโยคสุดท้ายของเพลง” เฟิงเฟยเฟยคิด พลังฟีนิกซ์ครายทูเกทเตอร์นั้นเป็นอะไรที่รุนแรงมากๆ ถ้าเธอใช้พลังของมันอย่างเต็มกําลัง ทั้งสถานที่จัดงานจะต้องได้รับผลกระทบไปด้วย ที่สุดแล้วนั่นไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการ
“สุขสันต์วันเกิด น้า”
หลังจากที่เฟิงเฟยเฟยร้องเพลงจบ มีเด็กผู้หญิงน่ารักคนหนึ่งเดินขึ้นมาบนเวที ขณะที่ถือเค้กวันเกิดในมือ เธอเดินมาตรงหน้าของเฟิงเฟยเฟย
ในตอนที่หานเซิ่นเห็นเด็กผู้หญิงคนนั้น เขาก็ตกใจอย่างมาก ตาดําของเขาหดเล็กลงและดวงตาของเขาก็มีน้ำตาไหลออกมา
เด็กผู้หญิงคนนั้นอายุประมาทห้าถึงหกขวบ แต่เธอดูเหมือนกับเซียงหยินไม่มีผิด มันเหมือนกับว่าเธอคือเซียงหยินเวอร์ชั่นเด็ก
“เป็นไปไม่ได้! นี่หมายความว่าเซียงหยินตายและมาเกิดใหม่ที่นี่อย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นมองไปที่เด็กผู้หญิงคนนั้นและรู้สึกว่าสายตาของเขาเริ่มจะเบลอๆ เมื่อนึกถึงตอนที่เขาได้พบกับเซียงหยิน เขาจําได้ว่าเธอนั้นดีกับเขาแค่ไหน
ถึงแม้หานเซิ่นจะไม่สามารถยืนยันได้ว่าเด็กผู้หญิงคนนี้ใช่เซียงหยินที่กลับมาเกิดใหม่หรือเปล่า แต่มันผ่านมานานหลายปีแล้วที่เขาไม่ได้ข่าวเกี่ยวกับเธอ ด้วยเหตุนั้นความเป็นไปได้ที่เธอจะตายไปแล้ว จึงเป็นไปได้สูง
แถมเด็กผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนกับเซียงหยินไม่มีผิด หานเซิ่นจึงคิดแบบนั้น
“ขอบคุณเซียวหยิน” เฟิงเฟยเฟยเลิกมองหานเซิ่นและย่อตัวลงไปยิ้มให้กับเด็กผู้หญิงคนนั้น
“ ชื่อของนางคือเซียวหยิน?” หานเซิ่นแปลกใจ
ถึงแม้หัวใจของหานเซิ่นจะแข็งแกร่งดังเหล็กกล้า แต่ในบางครั้งเขาก็รู้สึกโศกเศร้า ความรู้สึกที่เซียงหยินนํามาสู่เขานั้นเป็นบางสิ่งที่เขาไม่เคยรู้สึกจากคนอื่นๆ
ขณะที่สายตาของทุกคนจับต้องไปทางเฟิงเฟยเฟยที่กําลังเป่าเทียนที่อยู่บนเค้ก สายตาของหานเซิ่นนั้นจับจ้องไปที่เด็กผู้หญิงคนนั้น
“นางคือพี่เซียงหยินจริงๆอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นรู้สึกแย่อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
หานเซิ่นมีแผนที่จะกลับก่อนงานเลิก แต่ตอนนี้เขาเลิกคิดที่จะทําแบบนั้นแล้ว เขาอยากหาโอกาสไปพูดคุยกับเด็กผู้หญิงที่ถูกเรียกว่าเซียวหยินคนนั้น เขาอยากรู้ว่าเธอนั้นใช่เซียงหยินหรือไม่
แต่เด็กผู้หญิงคนนั้นอยู่กับเฟิงเฟยเฟยตลอด และรอบๆเฟิงเฟยเฟยก็ห้อมล้อมไปด้วยเหล่าขุนนาง หานเซิ่นและบอลด์กายไม่สามารถเข้าไปร่วมวงกับพวกเขาได้
หานเซิ่นไม่อยากจะรออีกต่อไป ในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา มันมีเรื่องไม่กี่เรื่องที่ทําให้หัวใจของเขาเต้นเร็วแบบนี้ ตอนนี้หัวใจของเขากําลังเต้นรัว
“ที่รักของข้า เจ้าต้องการนางใช่ไหม? ถ้าอย่างนั้นก็ไปเอาตัวนางมา ถ้าเจ้ามีความช่วยเหลือจากข้า เจ้าก็ไม่มีอะไรต้องกลัว” เงาของบิ๊กสกายเดม่อนปรากฏข้างๆหานเซิ่น มันเหมือนกับว่า เธอกําลังกอดและกระซิบเข้ามาในหูของเขา