Super God Gene - ตอนที่ 3095 ซือหมิงเดม่อนเรซ
ตอนที่ 3095 ซือหมิงเดม่อนเรซ
หานเซิ่นเมินเฉยต่อบิ๊กสกายเดม่อน ถึงแม้ข้อเสนอของเธอจะเป็นอะไรที่ยั่วยวนใจ แต่ถ้าเธอต้องการให้เขาฆ่าคน เขาก็ไม่มีทางทําตาม
เด็กผู้หญิงคนนั้นดูเหมือนจะรู้สึกได้ถึงสายตาของหานเซิ่น เธอหันมามองที่เขา ในตอนนั้นทั้งสองสบสายตากัน
เด็กผู้หญิงคนนั้นดูตกใจ มันมีความสับสนอยู่ภายในดวงตาที่งดงามของเธอในวินาทีต่อมาเด็กผู้หญิงคนนั้นวิ่งออกมาจากฝูงชน เธอวิ่งเข้ามาหาหานเซิ่น
สายตาของทุกคนยังคงจับจ้องไปที่เฟิงเฟยเฟย ด้วยเหตุนั้นจึงไม่มีใครที่สังเกตเห็นถึงพฤติกรรมของเด็กผู้หญิงคนนั้น เธอวิ่งเข้ามาหาหานเซิ่นและสังเกตเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า เธอถามด้วยความสับสนว่า “ พี่ชาย เราเคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่า?”
ดวงตาของหานเซิ่นเบลอขึ้นมา เขาแน่ใจว่าเด็กผู้หญิงคนนี้คือเซียงหยินที่กลับชาติมาเกิด
เซียงหยินเป็นหนึ่งในแปดขุนพลของจอมมาร หานเซิ่นมองดูเธอวิวัฒนาการไปสู่ก็อตแซงชัวรี่เขต 4 และเธอบอกว่าจะรอเขาอยู่ที่นั่น แต่ในตอนที่เขาเลื่อนไปสู่ก็อตแซงชัวรี่เขต 4 เขากลับไม่ได้พบเธอ เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าจะมาได้มาเจอเธอที่นี้แทน
หานเซิ่นมองไปที่เด็กผู้หญิงและตอบกลับไปว่า “ไม่ ชื่อของข้าคือหานเซิ่น แล้วชื่อของเจ้าล่ะ?”
“ชื่อของข้าคือเฟิงหยินหยินเฟิงหยินหยิน เฟิงเฟยเฟยเป็นน้าของข้าพี่ชายจะเรียกข้าว่าเซียวหยินก็ได้” เฟิงหยินหยินไม่รู้ว่าทําไม แต่ในตอนที่เธอเห็นหานเซิ่น เธอก็รู้สึกว่าเขาเป็นคนที่ใจดีและต้องการจะเข้ามาหาเขา
“เจ้าเรียกข้าว่าซานมู่ละกัน” หานเซิ่นพูด
“ซานมู่ พี่มากับข้า ข้าจะพาพี่ไปดูของดีบางอย่าง”
เสียงของเพิ่งหยินหยินฟังดูคุ้นเคยสําหรับหานเซิ่น เขาไม่ได้ขัดขืนและปล่อยให้เฟิงหยินหยินดึงมือของเขาไป
บอลด์กายรู้สึกแปลกใจกับเรื่องนี้ เขาไม่คาดคิดว่าหลานสาวของเฟิงเฟยเฟยจะสนิทสนมกับหานเซิ่นแบบนั้น เขาเองก็ลุกขึ้นและตามไปเช่นกัน
ความสนใจของทุกคนยังคงอยู่ที่เฟิงเฟยเฟย ดังนั้นมันจึงไม่มีใครสังเกตว่าพวกเขาออกไปจากงานปาร์ตี้ เฟิงหยินหยินพาหานเซิ่นและบอลด์กายเดินผ่านโถงทางเดินไปเรื่อยๆจนกระทั่งพวกเขามาถึงสวนแห่งหนึ่ง
มันมีต้นไม้แก่อยู่ภายในสวน บนต้นไม้นั้นเต็มไปด้วยดอกผลที่ดูเหมือนกับระฆัง แต่มันไม่มีใบไม้อยู่บนต้น ในตอนที่มีลมพัดมา ต้นไม้จะส่งเสียงเหมือนกับท่วงทํานอนของริงโทน มันไม่ได้ดังมาก และมันจะทําให้ผู้คนรู้สึกมีความสุขที่ได้ยินมัน
บอลด์กายดูตกใจ เขาชี้ไปที่ต้นไม้แก่และถาม “นั่นคือต้นโอลด์เบลล์ก็อตที่เป็นยีนเรชธาตุเสียงระดับท็อปในตํานานอย่างนั้นหรอ?”
เฟิงหยินหยินพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ใช่แล้ว นี่คือต้นโอลด์เบลล์ก็อต แต่มันเป็นร่างเต็มวัยแล้ว ดังนั้นมันจึงนํามาใช้ไม่ได้ พวกเราเคลื่อนย้ายมันมาที่นี่เพื่อจะอาบเสียงของมันทุกวัน ซึ่งมันจะช่วยพัฒนาการใช้พลังเสียงของพวกเรา”
หลังจากนั้นเฟิงหยินหยินก็ดึงหานเช่นไปนั่งบนหญ้าใต้ต้นไม้ เธอหลับตาลงและพูดพร้อมกับทําท่าบ่งบอกว่านี่เป็นความลับระหว่างพวกเขา
“น้าของข้ารักต้นไม้นี้มากๆ นางจะไม่ปล่อยให้ใครเข้าใกล้มัน แต่นางรักข้ามากกว่าสิ่งอื่นใด มีเพียงแค่ข้าเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้มาที่นี้ได้ ดังนั้นได้โปรดอย่าไปบอกใครว่าข้าพาพวกพี่มาที่นี่”
“แน่นอนอยู่แล้ว” บอลด์กายพูดพร้อมกับทุบอกของเขา
“พี่ชานมู่ พี่อาศัยอยู่ที่ไหน? ข้าจะไปหาพี่ได้ยังไง?” เฟิงหยินหยินถามหานเซิ่น
“ข้าเพิ่งมาอยู่ในเมืองหลวงได้ไม่นาน ข้ายังหาที่พักเป็นหลักเป็นแหล่งไม่ได้ นี่คือเบอร์โทรศัพท์ของข้า ถ้าเจ้าต้องการพบข้า เจ้าก็แค่โทรมาหาข้า” หานเซิ่นมอบเบอร์โทรของเขาให้กับเฟิงหยินหยิน
“ถ้าอย่างนั้นพี่ซานก็มาอยู่ที่บ้านของข้าสิ” เฟิงหยินหยินพูดอย่างดีใจ
ถ้าเป็นคนอื่นพูดแบบนี้ หานเซิ่นก็จะตอบปฏิเสธอย่างไม่ลังเล แต่นี่คือเฟิงหยินหยินที่น่าจะเป็นเซียงหยินที่กลับมาเกิดใหม่ มันจึงเป็นเรื่องยากที่เขาจะตอบปฏิเสธ ความจริงแล้วเขาหวังจะได้พูดคุยและทําความสนิทสนมกับเฟิงหยินหยิน
บอลด์กายมองหานเซิ่นอย่างแปลกๆและคิดกับตัวเอง “เจ้านี้เป็นโรคใคร่เด็กอย่างนั้นหรอ?”
…..
ผู้หญิงชุดม่วงคนหนึ่งแอบเดินออกมาจากงานปาร์ตี้ เธอไปที่มุมมืดของปราสาทที่ไม่มีใครอยู่
“สิ่งที่พวกเจ้าต้องการอยู่ในนี้” ผู้หญิงชุดม่วงพูด เธอดูเหมือนกับหัวขโมยที่นําของมาส่งต่อให้กับคนอีกคน
“ทําไมถึงได้ใช้เวลานานนัก?” คนที่ซ่อนตัวอยู่ในมุมมืดยื่นมือออกมารับของ
ผู้หญิงชุดม่วงพูด “เฟิงเฟยเฟยเป็นคนระวังตัว ถ้าไม่ใช่เพราะว่านางกําลังยุ่งกับงานวันเกิด ข้าก็คงจะไม่ได้มันมา ของตอบแทนของข้าล่ะ?”
คนที่อยู่ในมุมมืดมอบกล่องใบหนึ่งให้กับผู้หญิงชุดม่วงก่อนที่จะจากไป
ผู้หญิงชุดม่วงตรวจเช็คของในกล่องก่อนที่จะรีบปิดมัน เธอพูดกับตัวเอง
“ ด้วยไข่นกร้อยสปิริตร้อยเสียงนภาระดับเทพเจ้านี้ ข้าซิตูย่าก็จะเหนือกว่าเฟิงเฟยเฟย ด้วยความตายของเฟิงเฟยเฟย มันก็จะมีที่ว่างสําหรับนักร้องคนใหม่”
คนที่อยู่ในมุมมืดออกมาจากปราสาทและกลับไปที่คฤหาสน์ของตระกูลกงซู คนๆนั้นก็คือค รับใช้แก่ของกงซูจื่อ
“นายท่าน ข้าได้เส้นผมของเฟิงเฟยเฟยมาแล้ว” คนรับใช้แก่เอาขวดแก้วที่บรรจุเส้นผมอยู่ภายในออกมาและวางมันลงตรงหน้าของกงซูจื่ออย่างระมัดระวัง
“ทําได้ดีมาก” กงซูจื่อหยิบขวดขึ้นมาด้วยสายตาอาฆาต
เครื่องหมายโลหิตชีพจรเทพสปิริตเรืองแสงบนหน้าผากของกงซูจื่อ มีเงาสีดําปรากฏขึ้นตรงหน้าของเขา มันคือรูปปั้นทองแดงที่มีความสูงพอๆกับมนุษย์คนหนึ่ง
มันมีผมและแขนขา แต่มันไม่มีใบหน้า มันดูย้อนยุคและแปลกประหลาด
“ด้วยเส้นผมนี่ ข้าจะใช้พลังของซือหมิงเดม่อนเรซ นางชอบจัดงานวันเกิดนักไม่ใช่หรอ? ข้าจะให้นางนั่นได้ตายต่อหน้าทุกคน”
กงซูจื่อพูดแบบกัดฟันและวางเส้นผมบนใบหน้าที่ว่างเปล่าของรูปปั้นทองแดง
ทันใดนั้นรูปปั้นทองแดงก็เรืองแสงสีเขียวประหลาดออกมา มันดูดเส้นผมเข้าไป และในขณะเดียวกันรูปปั้นก็เกิดความเปลี่ยนแปลง มันเริ่มที่จะแสดงใบหน้าออกมา
ถ้ามองดูดีๆ มันจะสังเกตเห็นว่าใบหน้านั้นดูเหมือนกับใบหน้าของเฟิงเฟยเฟย
มันไม่ใช่แค่ใบหน้าเท่านั้น แม้แต่ร่างกายของรูปปั้นทองแดงก็เริ่มเปลี่ยนแปลง ไม่นานหลังจากนั้นมันก็กลายเป็นเฟิงเฟยเฟย
“ ดี ดูเหมือนว่าซิตูย่าไม่ได้หลอกพวกเรา นางได้เส้นผมของเฟิงเฟยเฟยมาจริงๆ”
กงซูจื่อดูตื่นเต้นอย่างมาก เขาจ้องมองไปที่ซือหมิงเดม่อนเรซ “ลูกจินรออีกหน่อยนะ ผู้หญิงที่ลูกชอบกําลังจะไปหาลูกในเร็วๆนี้”
ในตอนที่กงซูจื่อพูด ดวงตาของรูปปั้นก็เปลี่ยนเป็นสีแดง มันดูแปลกประหลาดและน่ากลัวเหมือนกับปีศาจ
เฟิงเฟยเฟยสังเกตเห็นว่าเฟิงหยินหยินได้หายตัวไป ดังนั้นเธอจึงเดินออกไปตามหา วันนี้เป็นวันเกิดของเธอ แต่วันถัดไปเป็นวันเกิดของเฟิงหยินหยิน ดังนั้นหลังจากที่ผ่านเที่ยงคืน มันก็ถึงวันเกิดของเฟิงหยินหยิน ด้วยเหตุนั้นเธอจะใช้เวลากับเฟิงหยินหยินในทุกๆวันเกิด และหลังจากผ่านเที่ยงคืนเธอก็จะมอบของขวัญให้กับเฟิงหยินหยิน
มันเกือบจะถึงเที่ยงคืนแล้ว แต่เฟิงหยินหยินได้หายตัวไป เฟิงเฟยเฟยส่งคนออกไปตามหา แต่ไม่มีใครหาเธอได้พบ ดังนั้นเฟิงเฟยเฟยจึงออกมาตามหาด้วยตัวเอง
เฟิงเฟยเฟยพบว่าเฟิงหยินหยินกําลังอยู่ที่สวนด้านหลัง แต่นอกจากเฟิงหยินหยินแล้ว มันยังมีคนอื่นอยู่อีกสองคน หนึ่งในสองคนนั้นคือหานเซิ่นที่เธอไม่ค่อยชอบหน้า