Super God Gene - ตอนที่ 3102 ตัวอักษรสายฟ้าสีทอง
ตอนที่ 3102 ตัวอักษรสายฟ้าสีทอง
ในตอนที่หานเชิ่นกลับไปถึงโรงแรม มิสเตอร์หยางก็รีบเข้ามาหาเขาและพูดอย่างตื่นเต้นว่า
“นายท่านได้แล้ว… ขายได้แล้ว พวกเราขายยืนเรซได้แล้ว นอกจากไข่ยืนของแมลงแปดเสียงกลายพันธุ์ ไข่ยืนอื่นๆถูกซื้อไปจนเกือบหมด…”
หานเชิ่นเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น เขาได้สร้างความประทับใจต่อผู้คนที่เข้าร่ว มงานวันเกิดของเฟิงเฟยเฟยและทุกคนที่เข้าร่วมงานก็ล้วนแต่เป็นคนที่มีชื่อเสียงและร่ํารวย พวก เขาคงจะมาดูร้านของหานเชิ่นเพราะความอยากรู้อยากเห็น มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่พวกเขาจะซื้อไข่ยืนติดมือกลับไปบ้าง
“เอาไข่ยืนแมลงแปดเสียงกลายพันธุ์ออกจากร้าน หลังจากที่ไข่ยืนทั้งหมดถูกขายแล้วพวกเราจะปิดร้านและรอจนกระทั่งข้าหาไข่ยืนได้อีก”
หานเชิ่นยังไม่มีแผนที่จะออกไปหาไข่ยืนเพิ่มอีก เขาไม่ได้คิดจะร่ํารวยจากการขายไข่ยืนเขา , แค่เปิดร้ายขายของเพื่อให้มีเงินพอกินพออยู่เท่านั้น
“นายท่าน ถึงแม้นายท่านจะทรงพลังมากๆ แต่ถ้านายท่านขุดหาไข่ยนด้วยตัวเองเพียงคนเดียว มันก็จะเสียเวลาของนายท่านมากจนเกินไป และมันก็เป็นอะไรที่ไม่ยั่งยืนซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการเติบโตของร้าน” มิสเตอร์หยางพูด
หานเชิ่นมองไปที่มิสเตอร์หยางและถาม “เจ้าหมายความว่ายังไง?”
มิสเตอร์หยางแสดงความคิดเห็น “พวกเราควรจะหาทรัพยากรจากช่องทางอื่นและขายพวกมันออนไลน์ ถึงแม้แบบนี้พวกกเราจะได้กําไรน้อยลง แต่พวกเราจะทํากิจการได้ยาวนานกว่า”
“ถ้าอย่างนั้นข้าจะให้เจ้าเป็นคนจัดการ” หานเชิ่นมอบเงินและอํานาจในการใช้จ่ายให้กับมิสเตอร์หยาง
มิสเตอร์หยางรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ทําอะไรสักอย่างเพื่อตอบแทนหานเชิ่นก่อนหน้านี้เขาไม่มีโลหิตชีพจรเทพสปิริตหรือประสบความสําเร็จในเรื่องไหนๆแต่ตอนนี้เขาได้รับโลหิตชีพจรเทพสปิริตมาแถมมันยังเป็นโลหิตชีพจรเทพสปิริตที่สมบูรณ์แบบอีกด้วย ทั้งร่างกายของมิสเตอร์หยางรู้สึกกระปรี้กระเปร่าราวกับว่าเขากลายเป็นคนหนุ่มที่เปี่ยมไปด้วยพลังงานและความกระตือรือร้น
“อีกอย่างหนึ่ง เจ้าก็เอาโฮลี่เหวินไวท์เดียร์ไปใช้ด้วย”
หานเชิ่นพูด หลังจากนั้นเขาก็มอบโอลี่เหวินไวท์เดียร์ให้กับมิสเตอร์หยางแบบนั้นมิสเตอร์หยางจะได้ปลอดภัยมากขึ้นในช่วงที่เขาไม่อยู่
“นายท่านไม่ต้องกังวล ข้าจะทํางานอย่างหนักเพื่อร้านของนายท่าน”
มิสเตอร์หยางตื่นเต้นอย่างมาก เขาไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีโอกาสได้ใช้ยื่นเรซระดับเทพเจ้า
“ยังไงก็ปลอดภัยไว้ก่อน อย่าได้ทําอะไรเกินตัว” หานเชิ่นโบกมือและกลับไปที่ห้องของเขา
เขานอนลงบนเตียงและเอาซุนหินออกมา หานเซิ่นถอนหายใจและพูด
“ในตอนที่หอคอยแห่งโชคชะตาถูกทําลาย ซุนที่พี่เซียงหยินมอบให้กับเราได้หายสาบสูญไป ขอโทษจริงๆ”
หานเชิ่นเอาซุนหินมาใกล้ปากและเปาเพลงที่เซียงหยินเคยสอนให้กับเขาในขณะเดียวกันก็ มีควันออกมาจากรูของซุนและก่อตัวเป็นเมฆเหนือหัวของเขา
มันมีเสียงที่ฟังดูเหมือนกับเสียงของผู้หญิงพึมพําดังขึ้นมาหานเชิ่นเคยได้ยินมันหลา ยต่อหลายครั้งแต่เขาไม่รู้ว่ามันหมายถึงอะไร ตอนนี้เขากําลังรู้สึกคิดถึงเซียงหยิน ดังนั้นเขาไม่มีเวลาที่จะมาวิเคราะห์เสียงเหล่านั้น เขาหลับตาลงและเปาซุนต่อไป
พลังเสียงทั่วๆไปนั้นมักจะสั่นสะเทือนแต่เสียงของซุนนั้นจะทําให้หัวใจของผู้คนรู้สึกสงบสุขมันเป็นเสียงที่ผ่อนคลายจนทําให้ผู้คนที่ได้ยินรู้สึกใจเย็นลง
หานเชิ่นเอามือลูบซุนหินหลังจากที่เปาจนจบเพลง ในตอนที่เขาลืมตาขึ้นมาและเห็นก้อนเมฆ ที่อยู่บนหัวของเขาเขาก็รู้สึกตกใจ
เมื่อก่อนนั้นในตอนที่หานเซิ่นเปาซุน เขาจะได้ยินเสียงพ์พิ่มจากภายในก้อนเมฆแต่ครั้งนี้ไม่เพียงแต่เขาจะได้ยินเสียงพึมพําเท่านั้น เขายังเห็นสายฟ้าสีทองอยู่ภายในก้อนเมฆ สิ่งที่แปลกที่สุดก็คือสายฟ้าสีทองนั้นดูเหมือนกําลังก่อตัวเป็นสัญลักษณ์หรือตัวอักษรบางอย่างที่หานเชิ่นไม่เคยเห็นมาก่อน เขาจึงไม่รู้ว่าพวกมันคืออะไร แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างในตอนที่เขาเห็นตัวอักษรสายฟ้าเหล่านั้นเขารู้สึกแปลกๆ มันเหมือนกับว่าเขาเข้าใจพวกมัน
หานเซิ่นรู้สึกตื่นตัวขึ้นมาในทันที เขาจ้องมองไปที่สายฟ้าสีทองในก้อนเมฆและพยายามจะจดจําพวกมัน ขณะที่เขาทําแบบนั้นเขาก็รู้สึกแปลกใจมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่วินาทีต่อมาสายฟ้าก็เริ่มมัวลงไป เสียงพึมพําหยุดลงและก้อนเมฆที่ก่อตัวขึ้นก็สลายตัวไป
หานเซิ่นรีบเอาชุนหินขึ้นมาเปาอีกครั้ง และก้อนเมฆก็ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากนั้นก็มี เสียงพึมพําดังขึ้นมาแต่ทว่ามันไม่มีตัวอักษรสายฟ้าสีทองปรากฏมาให้เห็นอีก
“ทําไมมันถึงเป็นแบบนี้?” หานเซิ่นลองเปาอีกหลายครั้ง แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาก็เหมือนเดิมทุกครั้งไม่ว่าเขาจะเปาซุนอีกสักกี่หนและไม่ว่าเขาจะเปาจนจบเพลงหรือไม่ มันก็ยังคงไม่มีสายฟ้าสีทองปรากฏขึ้นมา
หานเชิ่นคิด “นี่มันอะไรกัน มันเป็นซุนอันเดียวกันและเราก็เปาเพลงเดียวกันแต่ทําไมผลลัพธ์ ที่ออกมาถึงไม่เหมือนกันล่ะ?” หานเชิ่นพยายามคิดถึงความแตกต่างในตอนที่เขาเปาซุนก่อนหน้า นี้กับตอนนี้
“ในตอนที่เราเปาซุนก่อนหน้านี้ เราไม่ได้คิดอะไรมากเราแค่คิดเกี่ยวกับอดีตที่ได้พบกับพี่เซียงหยิน แต่ตอนนี้เรากําลังคิดเกี่ยวกับเรื่องอื่นอยู่ถ้ามันจะมีความแตกต่างอยู่ล่ะก็ มันก็คงจะเป็นเรื่องนั้น” หานเชิ่นพยายามที่จะทําให้ตัวเองกลับไปมีอารมณ์ที่จะเปาซุนอีกครั้ง
แต่น่าเสียดายที่อารมณ์แบบนั้นไม่ใช่สิ่งที่จะควบคุมได้ ถึงแม้คนๆนั้นจะมีพลังที่สามารถทําลายท้องฟ้าและผืนดินได้ก็ตามอารมณ์ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันนั้นไม่ใช่สิ่งที่ใครคนไหนจะควบคุม
หานเชิ่นไม่สามารถควบคุมอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองให้เหมือนกับตอนนั้นได้ สุดท้ายเขา ก็ต้องยอมแพ้
“ถ้าตัวอักษรสายฟ้าสีทองที่อยู่ภายในก้อนเมฆนั้นเป็นความจริงล่ะก็มันก็เป็นอะไรที่น่า ตกใจเกินไป” หานเชิ่นคิดว่ามันไม่น่าเชื่อ
ถึงแม้เขาจะอ่านตัวอักษรสายฟ้าสีทองไม่ได้ทั้งหมดแต่แค่ตัวอักษณที่เขาอ่านก็เพียงพอที่จะทําให้เขาตกตะลึงตัวอักษรเหล่านั้นบอกถึงวิธีการสร้างพระเจ้า
วิธีการสร้างพระเจ้านั้นไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับวิธีการเลี้ยงยืนเรชระดับเทพเจ้ามันเป็นวิธีการที่จะสร้างเทพสปิริตที่แท้จริง
แต่น่าเสียดายที่หานเชิ่นได้เห็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของมันเท่านั้นเขาจึงทําได้เพียงแค่คาดเดา
“เราจะอ่านพวกมันทั้งหมดได้ยังไง?” หานเชิ่นต้องการจะรู้วิธีการสร้างเทพสปิริตและเขาก็สงสัยว่าสิ่งที่ถูกเขียนเอาไว้ภายในก้อนเมฆนั้นเป็นความจริงหรือไม่
“ซุนสังเวยแด่พระเจ้า” บิ๊กสกายเดม่อนปรากฏตัวต่อหน้าหานเชิ่นเธอมองไปที่ซุนในมือของ หานเชิ่นด้วยสีหน้าตื่นเต้น
หานเซิ่นมองไปที่บิ๊กสกายเดม่อนและถาม “เจ้ารู้ว่าสิ่งนี่คืออะไรอย่างนั้นหรอ?”
บิ๊กสกายเดม่อนตอบโดยที่ไม่ละสายตาไปจากขุน “มันคือขุนสังเวยแด่พระเจ้า”
“ข้ารู้ว่านี่คือซุน” หานเชิ่นพูดพร้อมกับขมวดคิ้ว “ข้าต้องการจะถามเจ้าว่ามันเอาไว้ใช้ทํา อะไร?”
บิ๊กสกายเดม่อนมองมาที่หานเชิ่นและยิ้ม “อย่างที่ชื่อของมันบ่งบอกมันเป็นสิ่งสําหรับพิธีการสังเวยแด่พระเจ้ามันจะใช้ทําอะไรได้อีกล่ะ?”
หานเชิ่นมองไปที่บิ๊กสกายเดม่อนโดยที่ไม่พูดอะไรดูจากปฏิกิริยาที่บิ๊กสกายเดม่อนมีต่อซุนนี้ มันต้องไม่ใช่สิ่งที่เรียบง่ายอย่างที่เธอพูด
บิ๊กสกายเดม่อนนอนลงข้างๆหานเซิ่น เธอใช้นิ้วเอียงขากรรไกรของหานเชิ่นและพูดด้วยเสียงยั่วยวนว่า “อย่ามองข้าแบบนั้น ถ้าเจ้าอยากรู้เกี่ยวกับสิ่งนี้อย่างละเอียดข้าก็บอกกับเจ้าได้แต่เจ้าจําเป็นต้องนอนร่วมกับข้า”
“ข้ายังมีอย่างอื่นต้องไปทํา เจ้าเล่นกับตัวเองไป”
หานเชิ่นลุกขึ้นจากเตียง เขาไม่จําเป็นต้องให้บิ๊กสกายเดม่อนบอกกับเขาเขาสามารถ เข้าใจตัวอักษรสายฟ้าสีทองภายในก้อนเมฆด้วยตัวเองหลังจากนั้นเขาก็จะสามารถรู้ถึงวิธีใช้ นหินนี้
แต่น่าเสียดายที่หานเชิ่นไม่เก่งเรื่องดนตรี ที่เขาทําให้สายฟ้าสีทองปรากฏขึ้นมาได้ก็เพราะ อารมณ์ความรู้สึกที่เขามีต่อพี่เซียงหยินเขาไม่สามารถที่จะเรียกมันออกมาได้ดั่งใจเขาไม่สามารถทําให้สายฟ้าสีทองปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง
หานเชิ่นคิด ถึงเราจะทําไม่ได้ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะทําไม่ได้ ถ้าเพิ่งหยินหยินคือพี่เซียงหยินที่กลับชาติมาเกิดจริงๆล่ะก็เธอต้องมีพรสวรรค์ในด้านดนตรี บางทีเธออาจจะช่วยเราไขปริศนาของซุนประหลาดนี้ได้
หานเซิ่นมีแผนที่จะขอให้เพิ่งหยินหยินช่วย